พระคัมภีร์
หลักคำสอนและพันธสัญญา 42


ภาค ๔๒

การเปิดเผยที่ประทานผ่านโจเซฟ สมิธ ศาสดาพยากรณ์, ที่เคิร์ทแลนด์, รัฐโอไฮโอ, วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๘๓๑ (History of the Church, 1:148–154). สิ่งนี้ได้รับต่อหน้าเอ็ลเดอร์สิบสองคน และในสัมฤทธิผลแห่งสัญญาของพระเจ้าซึ่งทรงให้ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะประทาน “กฎ” ให้ในโอไฮโอ (ดู ภาค ๓๘:๓๒). ท่านศาสดาพยากรณ์ระบุว่าการเปิดเผยนี้ “ประกอบด้วยกฎของศาสนจักร” (History of the Church, 1:148).

๑–๑๐, เอ็ลเดอร์ได้รับเรียกให้สั่งสอนพระกิตติคุณ, ให้บัพติศมาผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใส, และเสริมสร้างศาสนจักร; ๑๑–๑๒, พวกเขาต้องได้รับเรียกและได้รับแต่งตั้งและต้องสอนหลักธรรมของพระกิตติคุณที่อยู่ในพระคัมภีร์; ๑๓–๑๗, พวกเขาต้องสอนและพยากรณ์โดยอำนาจของพระวิญญาณ; ๑๘–๒๙, วิสุทธิชนได้รับบัญชาไม่ให้ฆ่า, ลักขโมย, กล่าวเท็จ, มีตัณหาราคะ, ประพฤติล่วงประเวณี, พูดให้ร้ายผู้อื่น; ๓๐–๓๙, มีการนำเสนอกฎที่ครอบคลุมเรื่องการอุทิศถวายทรัพย์สิน; ๔๐–๔๒, พระเจ้าทรงกล่าวโทษความทะนงตนและความเกียจคร้าน; ๔๓–๕๒, คนป่วยต้องได้รับการรักษาหายโดยการปฏิบัติต่อพวกเขาและโดยศรัทธา; ๕๓–๖๐, พระคัมภีร์ปกครองศาสนจักรและต้องประกาศต่อโลก; ๖๑–๖๙, พระเจ้าจะทรงเปิดเผยสถานที่ของเยรูซาเล็มใหม่และความลี้ลับแห่งอาณาจักร; ๗๐–๗๓, ทรัพย์สินที่อุทิศถวายไว้จะต้องใช้เพื่อเกื้อหนุนเจ้าหน้าที่ของศาสนจักร; ๗๔–๙๓, มีการนำเสนอกฎที่ครอบคลุมเรื่องการผิดประเวณี, การล่วงประเวณี, การฆ่า, การลักขโมย, และการสารภาพบาป.

จงสดับฟัง, โอ้ เจ้าเอ็ลเดอร์แห่งศาสนจักรของเรา, ผู้มาร่วมชุมนุมกันในนามของเรา, แม้พระเยซูคริสต์พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์, พระผู้ช่วยให้รอดของโลก; ตราบเท่าที่เจ้าเชื่อในนามของเรา และรักษาบัญญัติของเรา.

เรากล่าวแก่เจ้าอีกครั้ง, จงสดับตรับฟังและเชื่อฟังกฎซึ่งเราจะให้แก่เจ้า.

เพราะตามจริงแล้วเรากล่าว, เนื่องจากเจ้าร่วมชุมนุมกันตามบัญญัติซึ่งด้วยบัญญัตินั้นเราบัญชาเจ้า, และเห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับเรื่องเดียวนี้, และทูลถามพระบิดาในนามของเราฉันใด, แม้ฉันนั้นเจ้าจะได้รับ.

ดูเถิด, ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, เราให้บัญญัติข้อแรกนี้แก่เจ้า, ว่าเจ้าจะออกไปในนามของเรา, เจ้าทุกคน, เว้นแต่ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ สมิธ, จูเนียร์, และซิดนีย์ ริกดัน.

และเราให้บัญญัติข้อหนึ่งแก่พวกเขาว่าพวกเขาจะออกไปชั่วระยะเวลาไม่นาน, และจะให้โดยอำนาจของพระวิญญาณว่าพวกเขาจะกลับมาเมื่อไร.

และเจ้าจงออกไปในอำนาจแห่งพระวิญญาณของเรา, โดยสั่งสอนกิตติคุณของเรา, เป็นคู่ ๆ, ในนามของเรา, โดยเปล่งเสียงเจ้าราวกับด้วยเสียงแตร, ประกาศคำของเราเหมือนกับเทพของพระผู้เป็นเจ้า.

และเจ้าจงออกไปให้บัพติศมาด้วยน้ำ, โดยกล่าวว่า : เจ้าจงกลับใจ, เจ้าจงกลับใจ, เพราะอาณาจักรแห่งสวรรค์อยู่แค่เอื้อม.

และจากสถานที่นี้เจ้าจะออกไปในภูมิภาคต่าง ๆ ทางตะวันตก; และตราบเท่าที่เจ้าจะพบคนเหล่านั้นที่ยอมรับเจ้า เจ้าจะเสริมสร้างศาสนจักรของเราในทุกภูมิภาค—

จนกว่าเวลาจะมาถึงเมื่อจะเปิดเผยแก่เจ้าจากเบื้องบน, เมื่อจะมีการเตรียมนครแห่งเยรูซาเล็มใหม่, เพื่อเราจะรวมเจ้าเป็นหนึ่งเดียว, เพื่อเจ้าจะเป็นผู้คนของเราและเราจะเป็นพระผู้เป็นเจ้าของเจ้า.

๑๐ และอนึ่ง, เรากล่าวแก่เจ้า, ว่าผู้รับใช้ของเรา เอดเวิรด์ พาร์ทริจ พึงยืนอยู่ในหน้าที่ซึ่งหน้าที่นั้นเรากำหนดให้เขา. และเหตุการณ์จะบังเกิดขึ้น, คือหากเขาล่วงละเมิดก็จะกำหนดผู้อื่นแทนเขา. แม้เป็นดังนั้น. เอเมน.

๑๑ อนึ่ง เรากล่าวแก่เจ้า, ว่าจะไม่ให้แก่ใครเลยที่จะออกไปสั่งสอนกิตติคุณของเรา, หรือเสริมสร้างศาสนจักรของเรา, เว้นแต่เขาจะได้รับแต่งตั้งโดยคนใดคนหนึ่งที่มีสิทธิอำนาจ, และเป็นที่รู้แก่ศาสนจักรว่าเขามีสิทธิอำนาจและได้รับแต่งตั้งตามระเบียบโดยผู้นำของศาสนจักร.

๑๒ และอนึ่ง, เอ็ลเดอร์, ปุโรหิตและผู้สอนของศาสนจักรนี้พึงสอนหลักธรรมแห่งกิตติคุณของเรา, ซึ่งมีอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิลและพระคัมภีร์มอรมอน, ซึ่งในนั้นคือความสมบูรณ์แห่งกิตติคุณ.

๑๓ และพวกเขาพึงยึดถือพันธสัญญาและหลักการของศาสนจักรเพื่อปฏิบัติ, และสิ่งเหล่านี้จะเป็นคำสอนของพวกเขา, ดังที่พวกเขาจะได้รับการชี้แนะจากพระวิญญาณ.

๑๔ และจะประทานพระวิญญาณแก่เจ้าโดยคำสวดอ้อนวอนจากศรัทธา; และหากเจ้าไม่ได้รับพระวิญญาณเจ้าจะไม่สอน.

๑๕ และทั้งหมดนี้เจ้าจะถือปฏิบัติ ดังที่เราบัญชาไว้เกี่ยวกับการสอนของเจ้า, จนกว่าจะให้ความสมบูรณ์แห่งพระคัมภีร์ของเรา.

๑๖ และขณะที่เจ้าจะเปล่งเสียงเจ้าโดยพระผู้ปลอบโยน, เจ้าจะพูดและพยากรณ์ดังที่เราเห็นว่าดี;

๑๗ เพราะ, ดูเถิด, พระผู้ปลอบโยนทรงรู้สิ่งทั้งปวง, และรับสั่งคำพยานถึงพระบิดาและถึงพระบุตร.

๑๘ และบัดนี้, ดูเถิด, เราพูดกับศาสนจักร. เจ้าจะไม่ฆ่า; และคนที่ฆ่าจะไม่ได้รับการให้อภัยทั้งในโลกนี้, และในโลกที่จะมาถึง.

๑๙ และอนึ่ง, เรากล่าว, เจ้าจะไม่ฆ่า; แต่คนที่ฆ่าพึงตาย.

๒๐ เจ้าจะไม่ลักขโมย; และคนที่ลักขโมยและไม่ยอมกลับใจพึงถูกขับออกไป.

๒๑ เจ้าจะไม่กล่าวเท็จ; คนที่กล่าวเท็จและไม่ยอมกลับใจพึงถูกขับออกไป.

๒๒ เจ้าจงรักภรรยาของเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า, และจงแนบสนิทกับนางและหาใช่ใครอื่นไม่.

๒๓ และคนที่มองดูหญิงด้วยตัณหาราคะในนางจะปฎิเสธความเชื่อ, และจะไม่มีพระวิญญาณ; และหากเขาไม่กลับใจ เขาพึงถูกขับออกไป.

๒๔ เจ้าจะไม่ประพฤติล่วงประเวณี; และคนที่ประพฤติล่วงประเวณี, และไม่กลับใจ, พึงถูกขับออกไป.

๒๕ แต่คนที่ประพฤติล่วงประเวณีและกลับใจด้วยสุดใจของเขา, และละทิ้งมัน, และไม่ทำมันอีก, เจ้าจงให้อภัย;

๒๖ แต่หากเขาทำมันอีก, เขาจะไม่ได้รับการให้อภัย, แต่พึงถูกขับออกไป.

๒๗ เจ้าจะไม่พูดให้ร้ายเพื่อนบ้านเจ้า, ทั้งไม่ทำร้ายเขาแต่อย่างใด.

๒๘ เจ้ารู้กฎของเราเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ให้ไว้ในพระคัมภีร์ของเรา; คนที่ทำบาปและไม่กลับใจพึงถูกขับออกไป.

๒๙ หากเจ้ารักเราเจ้าจงรับใช้เราและรักษาบัญญัติทั้งหมดของเรา.

๓๐ และดูเถิด, เจ้าจงนึกถึงคนจน, และอุทิศทรัพย์สินของเจ้าเพื่อเป็นการค้ำจุนพวกเขาในสิ่งซึ่งเจ้ามีเพื่อแบ่งให้พวกเขา, ด้วยพันธสัญญาและตราสารซึ่งจะฝ่าฝืนไม่ได้.

๓๑ และตราบเท่าที่เจ้าแบ่งทรัพย์สมบัติของเจ้าให้คนจน, เจ้าจะทำสิ่งนี้แก่เรา; และจงมอบสิ่งเหล่านั้นไว้ให้อธิการของศาสนจักรของเราและที่ปรึกษาของเขา, เอ็ลเดอร์สองคน, หรือมหาปุโรหิต, ดังที่เขาจะกำหนดหรือกำหนดไว้และวางมือมอบหน้าที่เพื่อจุดประสงค์นั้น.

๓๒ และเหตุการณ์จะบังเกิดขึ้น, คือหลังจากมอบสิ่งเหล่านั้นไว้ให้อธิการของศาสนจักรของเรา, และหลังจากที่เขาได้รับประจักษ์พยานเหล่านี้เกี่ยวกับการอุทิศถวายทรัพย์สินของศาสนจักรของเรา, ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเอาไปจากศาสนจักรไม่ได้, ตามบัญญัติของเรา, เราจะทำให้ทุกคนรู้จักรับผิดชอบต่อเรา, ผู้พิทักษ์ทรัพย์สินของเขาเอง, หรือสิ่งที่เขาได้รับโดยการอุทิศถวาย, เท่าที่จะเพียงพอสำหรับตัวเขาและครอบครัว.

๓๓ และอนึ่ง, หากจะมีทรัพย์สินอยู่ในมือศาสนจักร, หรือบุคคลใดในนั้น, เกินกว่าความจำเป็นเพื่อการค้ำจุนพวกเขาหลังจากการอุทิศถวายครั้งแรกนี้, ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือที่จะอุทิศถวายไว้แก่อธิการ, สิ่งนี้ก็จะเก็บไว้ช่วยคนที่ไม่มี, เป็นครั้งคราว, เพื่อทุกคนที่มีความจำเป็นจะมีใช้เพียงพอและได้รับตามความต้องการของเขา.

๓๔ ฉะนั้น, จะเก็บส่วนที่เหลือไว้ในคลังของเรา, เพื่อสงเคราะห์คนจนและคนขัดสน, ดังที่จะกำหนดโดยสภาสูงของศาสนจักร, และอธิการและสภาของเขา;

๓๕ และเพื่อจุดประสงค์ของการซื้อที่ดินเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของศาสนจักร, และการสร้างบ้านแห่งการนมัสการ, และการเสริมสร้างเยรูซาเล็มใหม่ซึ่งจะเปิดเผยต่อไปในภายหลัง—

๓๖ เพื่อผู้คนแห่งพันธสัญญาของเราจะมารวมไว้เป็นหนึ่งเดียวในวันนั้นเมื่อเราจะมายังวิหารของเรา. และสิ่งนี้เราทำเพื่อความรอดของผู้คนของเรา.

๓๗ และเหตุการณ์จะบังเกิดขึ้น, คือคนที่ทำบาปและไม่กลับใจพึงถูกขับออกจากศาสนจักร, และจะไม่ได้รับสิ่งซึ่งเขาอุทิศถวายแก่คนจนหรือคนขัดสนของศาสนจักรของเราอีก, หรืออีกนัยหนึ่ง, แก่เรา—

๓๘ เพราะตราบเท่าที่เจ้าทำสิ่งนั้นต่อคนต่ำต้อยที่สุดของคนเหล่านี้, เจ้าก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา.

๓๙ เพราะเหตุการณ์จะบังเกิดขึ้น, เรื่องที่เราพูดโดยปากศาสดาพยากรณ์ทั้งหลายของเราจะเกิดสัมฤทธิผล; เพราะเราจะอุทิศถวายความมั่งคั่งของคนเหล่านั้นที่น้อมรับกิตติคุณของเราในบรรดาคนต่างชาติให้แก่คนจนในบรรดาผู้คนของเราซึ่งเป็นของเชื้อสายแห่งอิสราเอล.

๔๐ และอนึ่ง, เจ้าจะไม่จองหองในใจเจ้า; จงให้อาภรณ์ทั้งหมดของเจ้าเรียบง่าย, และความงามของมันเป็นความงามของงานจากมือเจ้าเอง;

๔๑ และให้สิ่งทั้งปวงกระทำในความสะอาดต่อเรา.

๔๒ เจ้าจะไม่เกียจคร้าน; เพราะคนที่เกียจคร้านจะไม่กินอาหารทั้งไม่สวมอาภรณ์ของคนทำงาน.

๔๓ และผู้ใดก็ตามในบรรดาพวกเจ้าที่เจ็บป่วย, และไม่มีศรัทธาที่จะรับการรักษาให้หาย, แต่เชื่อ, ก็จะได้รับการบำรุงเลี้ยงด้วยความนุ่มนวลทุกอย่าง, ด้วยสมุนไพรและอาหารอ่อน, และการนั้นมิใช่โดยมือของศัตรู.

๔๔ และเอ็ลเดอร์ของศาสนจักร, สองคนหรือมากกว่านั้น, พึงได้รับเรียก, และพึงสวดอ้อนวอนเพื่อพวกเขาและวางมือบนพวกเขาในนามของเรา; และหากพวกเขาตาย พวกเขาจะตายเพื่อเรา, และหากพวกเขาอยู่ พวกเขาจะอยู่เพื่อเรา.

๔๕ เจ้าจงอยู่ด้วยกันด้วยความรัก, ถึงขนาดที่เจ้าจะร่ำไห้เพราะการสูญเสียพวกเขาที่ตาย, และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนเหล่านั้นที่ไม่มีความหวังในการฟื้นคืนชีวิตอันรุ่งโรจน์.

๔๖ และเหตุการณ์จะบังเกิดขึ้นคือคนเหล่านั้นที่ตายในเราจะไม่ลิ้มรสแห่งความตาย, เพราะมันจะหวานสำหรับพวกเขา;

๔๗ และคนเหล่านั้นที่มิได้ตายในเรา, วิบัติแก่พวกเขา, เพราะความตายของพวกเขาขม.

๔๘ และอนึ่ง, เหตุการณ์จะบังเกิดขึ้นคือคนที่มีศรัทธาในเราที่จะรับการรักษาให้หาย, และไม่ถูกกำหนดให้ตาย, จะได้รับการรักษาให้หาย.

๔๙ คนที่มีศรัทธาจะเห็นก็จะเห็น.

๕๐ คนที่มีศรัทธาจะได้ยินก็จะได้ยิน.

๕๑ คนง่อยที่มีศรัทธาจะกระโดดก็จะกระโดด.

๕๒ และคนที่ไม่มีศรัทธาจะทำสิ่งเหล่านี้, แต่เชื่อในเรา, มีพลังเพื่อมาเป็นบุตรของเรา; และตราบเท่าที่พวกเขาหาฝ่าฝืนกฎของเราไม่ เจ้าจงแบ่งเบาความเจ็บป่วยของพวกเขา.

๕๓ เจ้าจงยืนหยัดในสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ของเจ้า.

๕๔ เจ้าจะไม่ถือเอาอาภรณ์ของพี่น้องเจ้า; เจ้าจะจ่ายค่าตอบแทนสิ่งที่เจ้าจะได้รับจากพี่น้องเจ้า.

๕๕ และหากเจ้าได้รับมากกว่าสิ่งที่จะค้ำจุนเจ้า, เจ้าจงให้มันอยู่ในคลังของเรา, เพื่อทุกสิ่งจะบังเกิดตามสิ่งที่เรากล่าวไว้.

๕๖ เจ้าจงขอ, และจะให้พระคัมภีร์ของเรา ดังที่เรากำหนดไว้, และสิ่งเหล่านั้นจะได้รับการปกปักรักษาอยู่ในความปลอดภัย;

๕๗ และเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าจะนิ่งไว้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น, และไม่นำมาสอนจนกว่าเจ้าจะได้รับสิ่งเหล่านั้นอย่างสมบูรณ์.

๕๘ และเราให้บัญญัติข้อหนึ่งแก่เจ้าว่าเมื่อนั้นเจ้าจะสอนสิ่งเหล่านั้นแก่มนุษย์ทั้งปวง; เพราะสิ่งเหล่านั้นจะนำมาสอนแก่ประชาชาติ, ตระกูล, ภาษาและคนทั้งปวง.

๕๙ เจ้าจงยอมรับสิ่งทั้งหลายที่เจ้าได้รับ, ซึ่งมอบแก่เจ้าในพระคัมภีร์ของเราไว้เป็นกฎ, เพื่อเป็นกฎของเราในการปกครองศาสนจักรของเรา;

๖๐ และคนที่ทำตามสิ่งเหล่านี้จะรอด, และคนที่หาทำสิ่งดังกล่าวไม่จะอัปมงคลหากเขาทำเช่นนั้นต่อไป.

๖๑ หากเจ้าจะถาม, เจ้าจะได้รับการเปิดเผยมาเติมการเปิดเผย, ความรู้มาเติมความรู้, เพื่อเจ้าจะรู้ความลี้ลับและสิ่งที่ส่งเสริมความสงบสุข—สิ่งนั้นที่นำมาซึ่งปีติ, สิ่งนั้นที่นำมาซึ่งนิรันดรแห่งชีวิต.

๖๒ เจ้าจงขอ, และจะเปิดเผยแก่เจ้าในเวลาอันเหมาะสมของเราเอง ว่าเยรูซาเล็มใหม่จะสร้าง ณ ที่ใด.

๖๓ และดูเถิด, เหตุการณ์จะบังเกิดขึ้นคือเราจะส่งผู้รับใช้ของเราออกไปทิศตะวันออกและทิศตะวันตก, ทิศเหนือและทิศใต้.

๖๔ และแม้ในขณะนี้, ให้คนที่ไปทิศตะวันออกสอนคนเหล่านั้นที่จะเปลี่ยนใจเลื่อมใสให้หลบหนีไปทิศตะวันตก, และนี่เป็นผลสืบเนื่องมาจากสิ่งซึ่งจะมาบนแผ่นดินโลก, และจากการมั่วสุมลับ.

๖๕ ดูเถิด, เจ้าจงยึดถือสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้, และรางวัลของเจ้าจะยิ่งใหญ่สักเพียงใด; เพราะจะให้แก่เจ้าที่จะรู้ความลี้ลับของอาณาจักร, แต่ไม่ให้แก่โลกที่จะรู้สิ่งเหล่านั้น.

๖๖ เจ้าจงยึดถือกฎซึ่งเจ้าได้รับและจงซื่อสัตย์.

๖๗ และต่อไปในภายภาคหน้าเจ้าจะได้รับพันธสัญญาศาสนจักร, ซึ่งจะเพียงพอที่จะสถาปนาเจ้า, ทั้งที่นี่และในเยรูซาเล็มใหม่.

๖๘ ฉะนั้น, คนที่ขาดปัญญา, ก็ให้เขาขอจากเรา, และเราจะให้เขาด้วยใจกรุณาและหาตำหนิเขาไม่.

๖๙ จงรื่นเริงใจและชื่นชมยินดีเถิด, เพราะเจ้าได้รับอาณาจักร, หรืออีกนัยหนึ่ง, กุญแจของศาสนจักรแล้ว. แม้เป็นดังนั้น. เอเมน.

๗๐ ปุโรหิตและผู้สอนพึงมีสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ของพวกเขา, แม้ดังสมาชิก.

๗๑ และเอ็ลเดอร์หรือมหาปุโรหิตผู้กำหนดไว้ให้ช่วยอธิการในฐานะที่ปรึกษาในสิ่งทั้งปวง, ต้องให้ครอบครัวพวกเขาได้รับการค้ำจุนจากทรัพย์สินซึ่งอุทิศถวายแก่อธิการ, เพื่อประโยชน์ของคนจน, และเพื่อจุดประสงค์อื่น, ดังกล่าวมาก่อนแล้ว;

๗๒ มิฉะนั้น พวกเขาก็ต้องได้รับสิ่งทดแทนที่เที่ยงธรรมสำหรับการรับใช้ทั้งหมดของพวกเขา, ไม่ว่าสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์หรืออื่น ๆ, ดังเช่นที่ปรึกษาและอธิการจะเห็นสมควรที่สุดหรือตัดสินใจเลือก.

๗๓ และอธิการ, พึงได้รับการค้ำจุน, ด้วย, หรือไม่ก็รับสิ่งทดแทนที่เที่ยงธรรมสำหรับการรับใช้ทั้งหมดของเขาในศาสนจักร.

๗๔ ดูเถิด, ตามจริงแล้ว เรากล่าวแก่เจ้า, ว่าบุคคลใดก็ตามในบรรดาพวกเจ้า, ที่เลิกกับคู่ครองของพวกเขาเพราะเหตุที่ผิดประเวณี, หรืออีกนัยหนึ่ง, หากพวกเขาจะเป็นพยานต่อเจ้าด้วยความนอบน้อมที่สุดแห่งใจว่าสถานการณ์เป็นเช่นนั้น, เจ้าอย่าขับพวกเขาออกไปจากบรรดาพวกเจ้า;

๗๕ แต่หากเจ้าจะพบว่าบุคคลใดทิ้งคู่ครองของพวกเขาเพื่อเห็นแก่การล่วงประเวณี, และพวกเขาเองเป็นผู้กระทำความผิด, และคู่ครองของพวกเขามีชีวิตอยู่, พวกเขาจะถูกขับออกไปจากบรรดาพวกเจ้า.

๗๖ และอนึ่ง, เรากล่าวแก่เจ้า, ว่าเจ้าจงเฝ้าระวังและระมัดระวัง, ด้วยการสอบถามละเอียดถี่ถ้วน, เพื่อเจ้าจะไม่รับคนเช่นนั้นในบรรดาพวกเจ้าหากคนเหล่านั้นแต่งงานแล้ว;

๗๗ และหากพวกเขายังไม่แต่งงาน, พวกเขาพึงกลับใจจากบาปทั้งหมดของพวกเขาหาไม่แล้วเจ้าจะไม่รับพวกเขา.

๗๘ และอนึ่ง, ทุกคนที่เป็นของศาสนจักรนี้ของพระคริสต์, พึงยึดถือรักษาบัญญัติและพันธสัญญาทั้งปวงของศาสนจักร.

๗๙ และเหตุการณ์จะบังเกิดขึ้น, คือหากบุคคลใดในบรรดาพวกเจ้าจะฆ่า พวกเขาจะถูกส่งไปและถูกดำเนินการตามกฎของแผ่นดิน; เพราะจำไว้ว่าเขาจะไม่ได้รับการให้อภัย; และจะพิสูจน์เรื่องนี้ตามกฎของแผ่นดิน.

๘๐ และหากชายหรือหญิงใดจะประพฤติล่วงประเวณี, เขาหรือเธอพึงถูกสอบสวนต่อหน้าเอ็ลเดอร์สองคนของศาสนจักร, หรือมากกว่านั้น, และคำทุกคำจะตราไว้กล่าวหาเขาหรือเธอ โดยพยานสองคนของศาสนจักรและมิใช่ของศัตรู; แต่หากมีพยานมากกว่าสองคนจะดีกว่า.

๘๑ แต่เขาหรือเธอจะถูกกล่าวโทษโดยปากของพยานสองคน; และเอ็ลเดอร์พึงเสนอเรื่องต่อหน้าศาสนจักร, และศาสนจักรพึงยกมือของพวกเขาสนับสนุนข้อกล่าวหาเขาหรือเธอ, เพื่อเขาเหล่านั้นจะถูกดำเนินการตามกฎของพระผู้เป็นเจ้า.

๘๒ และหากเป็นไปได้, ก็จำเป็นที่อธิการจะอยู่ ณ ที่นั้นด้วย.

๘๓ และเจ้าพึงกระทำดังนี้ในทุกเรื่องซึ่งจะมาอยู่ต่อหน้าเจ้า.

๘๔ และหากชายหรือหญิงจะปล้น, เขาหรือเธอจะถูกส่งไปยังกฎของแผ่นดิน.

๘๕ และหากเขาหรือเธอจะลักขโมย, เขาหรือเธอจะถูกส่งไปยังกฎของแผ่นดิน.

๘๖ และหากเขาหรือเธอจะกล่าวเท็จ, เขาหรือเธอจะถูกส่งไปยังกฎของแผ่นดิน.

๘๗ และหากเขาหรือเธอทำความชั่วช้าสามานย์ใด ๆ, เขาหรือเธอจะถูกส่งไปยังกฎ, แม้กฎของพระผู้เป็นเจ้า.

๘๘ และหากพี่น้องชายหญิงของเจ้าทำผิดต่อเจ้า, เจ้าจงพาเขาหรือเธอไป เฉพาะเขาหรือเธอกับเจ้าตามลำพัง; และหากเขาหรือเธอสารภาพเจ้าจงคืนดีกัน.

๘๙ และหากเขาหรือเธอหาสารภาพไม่ เจ้าจงส่งเขาหรือเธอไปยังศาสนจักร, ไม่ส่งไปให้สมาชิก, แต่ส่งไปให้เอ็ลเดอร์. และพึงให้ดำเนินไปในการประชุม, และมิใช่กระทำสิ่งนี้ต่อหน้าโลก.

๙๐ และหากพี่น้องชายหญิงของเจ้าทำผิดต่อผู้คนจำนวนมาก, เขาหรือเธอพึงถูกตีสอนต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก.

๙๑ และหากคนใดทำผิดอย่างเปิดเผย, เขาหรือเธอพึงถูกติเตียนอย่างเปิดเผย, เพื่อเขาหรือเธอจะได้อับอาย. และหากเขาหรือเธอหาสารภาพไม่, เขาหรือเธอจะถูกส่งไปยังกฎของพระผู้เป็นเจ้า.

๙๒ หากใครจะทำผิดในที่ลับตา, เขาหรือเธอพึงถูกติเตียนในที่ลับตา, เพื่อเขาหรือเธอจะมีโอกาสสารภาพในที่ลับตาต่อเขาหรือเธอผู้ที่เขาหรือเธอทำผิด, และต่อพระผู้เป็นเจ้า, เพื่อศาสนจักรจะไม่กล่าววาจาให้เป็นที่อัปยศต่อเขาหรือเธอ.

๙๓ และเจ้าพึงดำเนินการดังนั้นในสิ่งทั้งปวง.