บทที่ ๙
พระเจ้าจะทรงรวมชาวยิวไว้ในผืนแผ่นดินแห่งคำสัญญาทั้งหมดของพวกเขา—การชดใช้ไถ่มนุษย์จากการตก—ร่างกายของคนตายจะออกมาจากหลุมฝังศพ, และวิญญาณของพวกเขาจากนรกและจากเมืองบรมสุขเกษม—พระองค์จะทรงพิพากษาพวกเขา—การชดใช้ช่วยมนุษย์ให้รอดจากความตาย, นรก, มาร, และความทรมานอันหาได้สิ้นสุดไม่—คนชอบธรรมจะได้รับการช่วยให้รอดในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า—การลงโทษความผิดบาปถูกกำหนดไว้—พระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลทรงเป็นองค์ทวารบาล. ประมาณ ๕๕๙–๕๔๕ ปีก่อนคริสตกาล.
๑ และบัดนี้, พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าอ่านเรื่องเหล่านี้เพื่อท่านจะรู้เกี่ยวกับพันธสัญญากของพระเจ้าที่พระองค์ทรงทำไว้กับเชื้อสายแห่งอิสราเอลทั้งหมด—
๒ ที่พระองค์รับสั่งไว้กับชาวยิว, โดยปากของศาสดาพยากรณ์ผู้บริสุทธิ์ของพระองค์, แม้นับจากกาลเริ่มต้นลงมา, จากรุ่นสู่รุ่น, จนเวลานั้นมาถึงเมื่อพระองค์จะทรงนำพวกเขากลับคืนสู่ศาสนจักรกและคอกที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า; เมื่อพระองค์จะทรงรวมขพวกเขากลับบ้านไปสู่ผืนแผ่นดินคแห่งมรดกของพวกเขา, และจะทรงสถาปนาขึ้นในผืนแผ่นดินแห่งคำสัญญาทั้งหมดของพวกเขา.
๓ ดูเถิด, พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าพูดเรื่องเหล่านี้กับท่านเพื่อท่านจะชื่นชมยินดี, และเงยหน้ากของท่านตลอดกาล, เพราะพรซึ่งพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าจะประสาทให้ลูกหลานท่าน.
๔ เพราะข้าพเจ้ารู้ว่า, หลายคนในพวกท่าน, ค้นหามามาก, เพื่อให้รู้เกี่ยวกับสิ่งที่จะมาถึง; ดังนั้นข้าพเจ้ารู้ว่า ท่านรู้ว่าเนื้อหนังของเราต้องเสื่อมสภาพและตายไป; กระนั้นก็ตาม, ในร่างกายกของเราเราจะเห็นพระผู้เป็นเจ้า.
๕ แท้จริงแล้ว, ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านรู้ว่าพระองค์จะทรงแสดงองค์ในพระวรกายต่อคนเหล่านั้นที่เยรูซาเล็ม, ที่ซึ่งเราจากมา; เพราะสมควรที่เรื่องนี้จะเป็นไปในบรรดาพวกเขา; เพราะพระผู้สร้างกผู้ยิ่งใหญ่ทรงเห็นความจำเป็นที่พระองค์จะทรงยอมองค์มาขึ้นอยู่กับมนุษย์ในเนื้อหนัง, และสิ้นพระชนม์เพื่อมนุษย์ทั้งปวงข, เพื่อมนุษย์ทั้งปวงจะได้มาขึ้นอยู่กับพระองค์.
๖ เพราะเนื่องจากความตายมีแก่มนุษย์ทั้งปวง, เพื่อให้แผนกซึ่งเต็มไปด้วยพระเมตตาของพระผู้สร้างผู้ยิ่งใหญ่เกิดสัมฤทธิผล, จึงจำเป็นต้องมีพลังแห่งการฟื้นคืนชีวิตข, และการฟื้นคืนชีวิตจำเป็นต้องมาสู่มนุษย์โดยเหตุของการตกค; และการตกมาโดยเหตุของการล่วงละเมิด; และเพราะมนุษย์กลายเป็นคนตกพวกเขาจึงถูกตัดขาดงจากที่ประทับของพระเจ้า.
๗ ดังนั้น, จำเป็นต้องมีการชดใช้กอันไม่มีขอบเขตข—เว้นแต่จะเป็นการชดใช้อันไม่มีขอบเขตความเน่าเปื่อยนี้จะสวมใส่ความไม่เน่าเปื่อยไม่ได้. ด้วยเหตุนี้, การพิพากษาแรกคซึ่งมาสู่มนุษย์จำเป็นต้องคงอยู่ต่อไปเป็นเวลาอันหาได้สิ้นสุดไม่ง. และหากเป็นดังนั้น, เนื้อหนังนี้คงต้องนอนลงเพื่อเน่าเปื่อยและสลายสู่แผ่นดินแม่ของมัน, เพื่อจะไม่ลุกขึ้นอีกต่อไป.
๘ โอ้พระปรีชาญาณกของพระผู้เป็นเจ้า, พระเมตตาขและพระคุณคของพระองค์ ! เพราะดูเถิด, หากเนื้อหนังงจะไม่ลุกขึ้นอีกต่อไปวิญญาณของเราย่อมต้องมาขึ้นอยู่กับเทพผู้นั้นซึ่งตกจจากเบื้องหน้าที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้านิรันดร์, และกลายเป็นมารฉ, เพื่อจะไม่ลุกขึ้นอีกต่อไป.
๙ และวิญญาณของเราต้องกลายเป็นเหมือนกับเขา, และเรากลายเป็นเหล่ามาร, เหล่าเทพกของมาร, ซึ่งจะถูกกันขไว้จากที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้าของเรา, และจะคงอยู่กับบิดาแห่งความเท็จค, ในความเศร้าหมอง, เหมือนกับตัวเขา; แท้จริงแล้ว, สำหรับสัตภาวะนั้นผู้หลอกลวงงบิดามารดาแรกของเรา, ผู้แปลงกายจเกือบเหมือนเทพแห่งความสว่างฉ, และยั่วยุให้ลูกหลานมนุษย์ทำการมั่วสุมลับชแห่งฆาตกรรมและงานลับแห่งความมืดทั้งปวง.
๑๐ โอ้พระคุณความดีของพระผู้เป็นเจ้าของเราไร้ขอบเขตเพียงใด, ผู้ทรงเตรียมทางเพื่อการหนีของเราจากเงื้อมมือของอสูรร้ายผู้นี้; แท้จริงแล้ว, อสูรนั้น, ความตายกและนรกข, ซึ่งข้าพเจ้าเรียกว่าความตายของร่างกาย, และความตายของวิญญาณด้วย.
๑๑ และเพราะทางแห่งการปลดปล่อยกของพระผู้เป็นเจ้าของเรา, พระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล, ความตายขนี้, ซึ่งข้าพเจ้าพูดไว้, ซึ่งเป็นฝ่ายโลก, จะปล่อยคนตายของมันขึ้นมา; ซึ่งความตายนั้นคือหลุมศพ.
๑๒ และความตายกนี้ซึ่งข้าพเจ้าพูดไว้, ซึ่งเป็นความตายทางวิญญาณ, จะปล่อยคนตายของมันขึ้นมา; ซึ่งความตายทางวิญญาณคือนรกข; ดังนั้น, ความตายและนรกต้องปล่อยคนตายของมันขึ้นมา, และนรกต้องปล่อยวิญญาณที่ถูกคุมขังของมันขึ้นมา, และหลุมศพต้องปล่อยร่างกายที่ถูกคุมขังของมันขึ้นมา, และพระผู้เป็นเจ้าจะทรงนำร่างกายกับวิญญาณมนุษย์คกลับคืนงให้กันและกัน; และสิ่งนี้เป็นไปโดยพลังแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล.
๑๓ โอ้แผนกของพระผู้เป็นเจ้าของเราสำคัญยิ่งเพียงใด ! เพราะอีกทางหนึ่ง, เมืองบรมสุขเกษมขของพระผู้เป็นเจ้าต้องปล่อยวิญญาณของคนชอบธรรมขึ้นมา, และหลุมศพปล่อยร่างกายของคนชอบธรรมขึ้นมา; และพระองค์ทรงนำวิญญาณและร่างกายกลับคืนคให้ตัวของมันอีก, และมนุษย์ทั้งปวงกลับไม่เน่าเปื่อย, และเป็นอมตะง, และพวกเขาเป็นจิตวิญญาณที่มีชีวิต, โดยมีความรู้จอันสมบูรณ์ฉเหมือนกับเราในเนื้อหนัง, เว้นแต่ว่าความรู้ของเราจะสมบูรณ์.
๑๔ ดังนั้น, เราจะมีความรู้กอันสมบูรณ์เกี่ยวกับความผิดขทั้งหมดของเรา, และความไม่สะอาดของเรา, และความเปลือยเปล่าคของเรา; และคนชอบธรรมจะมีความรู้อันสมบูรณ์เกี่ยวกับความเกษมศานต์ของพวกเขา, และความชอบธรรมงของพวกเขา, โดยที่ห่อหุ้มจไว้ด้วยความพิศุทธิ์ฉ, แท้จริงแล้ว, แม้ด้วยเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรมช.
๑๕ และเหตุการณ์จะบังเกิดขึ้นคือเมื่อคนทั้งปวงจะผ่านจากความตายครั้งแรกนี้สู่ชีวิต, ถึงขนาดที่พวกเขากลายเป็นอมตะ, พวกเขาย่อมต้องปรากฏตัวต่อหน้าบัลลังก์พิพากษากของพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล; และแล้วการพิพากษาขย่อมมาถึง, และจากนั้นพวกเขาต้องถูกพิพากษาตามการพิพากษาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า.
๑๖ และโดยแน่แท้, ดังที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่, เพราะพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้ารับสั่งมันไว้, และมันเป็นพระวจนะกนิรันดร์ของพระองค์, ซึ่งจะสูญสิ้นขไปไม่ได้, คือพวกเขาที่ชอบธรรมจะยังชอบธรรมอยู่, และพวกเขาที่สกปรกคจะยังสกปรกงอยู่; ดังนั้น, พวกเขาที่สกปรกคือมารจและเทพของเขา; และพวกเขาจะออกไปสู่ไฟอันเป็นนิจฉ, ซึ่งเตรียมไว้สำหรับพวกเขา; และความทรมานของพวกเขาเป็นดังทะเลเพลิงชและกำมะถัน, ซึ่งเปลวเพลิงนั้นลุกโชนตลอดกาลและตลอดไปและไม่มีที่สุด.
๑๗ โอ้ความยิ่งใหญ่และความยุติธรรมกของพระผู้เป็นเจ้าของเรา ! เพราะพระองค์ทรงดำเนินตามพระวจนะของพระองค์ทั้งหมด, และพระวจนะของพระองค์ออกไปจากพระโอษฐ์ของพระองค์แล้ว, และพระองค์ต้องทรงปฏิบัติตามกฎของพระองค์.
๑๘ แต่, ดูเถิด, คนชอบธรรม, วิสุทธิชนกของพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล, พวกเขาที่เชื่อแล้วในพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล, พวกเขาที่อดทนต่อกางเขนขทั้งหลายของโลกมาแล้ว, และเกลียดชังความน่าอับอายของมัน, พวกเขาจะสืบทอดคอาณาจักรงของพระผู้เป็นเจ้าเป็นมรดก, ซึ่งเตรียมไว้สำหรับพวกเขานับแต่การวางรากฐานของโลกจ, และปีติของพวกเขาจะเปี่ยมอยู่ตลอดกาลฉ.
๑๙ โอ้ความไร้ขอบเขตแห่งพระเมตตาของพระผู้เป็นเจ้าแห่งเรา, พระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ! เพราะพระองค์ทรงปลดปล่อยกวิสุทธิชนของพระองค์จากมารอสูรร้ายขผู้นั้น, และความตาย, และนรกค, และทะเลเพลิงและกำมะถันแห่งนั้น, ซึ่งเป็นความทรมานอันหาได้สิ้นสุดไม่
๒๐ โอ้ความบริสุทธิ์กของพระผู้เป็นเจ้าแห่งเราไร้ขอบเขตเพียงใด ! เพราะพระองค์ทรงรู้ทุกเรื่องข, และหาได้มีเรื่องใดที่พระองค์มิทรงรู้.
๒๑ และพระองค์เสด็จมาในโลกเพื่อพระองค์จะทรงช่วยมนุษย์ทั้งปวงให้รอดกหากพวกเขาจะสดับฟังสุรเสียงของพระองค์; เพราะดูเถิด, พระองค์ทรงทนรับความเจ็บปวดของมนุษย์ทั้งปวง, แท้จริงแล้ว, ความเจ็บปวดขของชาวโลกที่มีชีวิตทุกคน, ทั้งชาย, หญิง, และเด็ก, ที่เป็นของครอบครัวอาดัมค.
๒๒ และพระองค์ทรงทนรับสิ่งนี้เพื่อการฟื้นคืนชีวิตจะมีแก่มนุษย์ทั้งปวง, เพื่อคนทั้งปวงจะได้ยืนอยู่เบื้องพระพักตร์พระองค์ในวันพิพากษาและวันอันสำคัญยิ่ง.
๒๓ และพระองค์ทรงบัญชาคนทั้งปวงว่าพวกเขาต้องกลับใจก, และรับบัพติศมาขในพระนามของพระองค์, โดยมีศรัทธาอันสมบูรณ์ในพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล, มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่สามารถรับการช่วยให้รอดในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า.
๒๔ และหากพวกเขาจะไม่กลับใจและเชื่อในพระนามกของพระองค์, และรับบัพติศมาในพระนามของพระองค์, และอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ขแล้ว, พวกเขาต้องอัปมงคลค; เพราะพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้า, พระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล, รับสั่งไว้.
๒๕ ดังนั้น, พระองค์ประทานกฎกให้; และที่ใดไม่มีกฎให้ไว้ขย่อมไม่มีโทษ; และที่ใดไม่มีโทษย่อมไม่มีการกล่าวโทษ; และที่ใดไม่มีการกล่าวโทษพระเมตตาของพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลย่อมมีสิทธิ์กับพวกเขา, เนื่องจากการชดใช้; เพราะพวกเขาได้รับการปลดปล่อยโดยเดชานุภาพของพระองค์.
๒๖ เพราะการชดใช้กสนองข้อเรียกร้องแห่งความยุติธรรมขของพระองค์ที่ทรงมีต่อคนทั้งหลายทั้งปวงผู้ไม่มีคกฎให้ไว้งแก่พวกเขา, จนพวกเขาได้รับการปลดปล่อยให้พ้นจากอสูรร้ายผู้นั้น, ความตายและนรก, และมาร, และทะเลเพลิงและกำมะถัน, ซึ่งเป็นความทรมานอันหาได้สิ้นสุดไม่; และพระเจ้าจะทรงนำพวกเขากลับคืนมายังพระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานลมหายใจจให้พวกเขา, ซึ่งทรงเป็นพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล.
๒๗ แต่วิบัติแก่เขาที่มีกฎกให้ไว้, แท้จริงแล้ว, ที่มีพระบัญญัติทั้งหมดของพระผู้เป็นเจ้า, เหมือนกันกับเรา, และที่ล่วงละเมิดพระบัญญัติเหล่านั้น, และที่ใช้วันแห่งการทดลองของเขาไปโดยสูญเปล่า, เพราะสภาพของเขาน่าพรั่นพรึง !
๒๘ โอ้แผนกการอันแยบยลของมารร้ายนั้น ! โอ้ความถือดีข, และความอ่อนแอ, และความโง่ของมนุษย์ ! เมื่อพวกเขาเป็นผู้คงแก่เรียนคพวกเขาคิดว่าตนฉลาดง, และพวกเขาไม่สดับฟังคำแนะนำจของพระผู้เป็นเจ้า, เพราะพวกเขาเมินคำแนะนำเหล่านั้น, โดยคิดว่าพวกเขารู้ด้วยตนเอง, ดังนั้น, ปัญญาของพวกเขาคือความโง่และมันหาเป็นประโยชน์แก่พวกเขาไม่. และพวกเขาจะพินาศ.
๒๙ แต่การเป็นผู้คงแก่เรียนย่อมดีหากพวกเขาสดับฟังกคำแนะนำขของพระผู้เป็นเจ้า.
๓๐ แต่วิบัติแก่คนร่ำรวยก, ซึ่งร่ำรวยด้วยสิ่งต่าง ๆ ของโลก. เพราะด้วยเหตุที่พวกเขาร่ำรวยพวกเขาจึงเกลียดชังคนจนข, และพวกเขาข่มเหงคนอ่อนโยน, และใจพวกเขาอยู่กับทรัพย์สมบัติของพวกเขา; ดังนั้น, ทรัพย์สมบัติของพวกเขาจึงเป็นเทพเจ้าของพวกเขา. และดูเถิด, ทรัพย์สมบัติของพวกเขาจะถูกทำลายพร้อมกับพวกเขาด้วย.
๓๑ และวิบัติแก่คนหูหนวกที่ไม่ยอมฟังก; เพราะพวกเขาจะพินาศ.
๓๒ และวิบัติแก่คนมืดบอดที่ไม่ยอมดู; เพราะพวกเขาจะพินาศด้วย.
๓๓ วิบัติแก่คนมีใจที่มิได้เข้าสุหนัต, เพราะความรู้เรื่องความชั่วช้าสามานย์ของพวกเขาจะลงทัณฑ์พวกเขาในวันสุดท้าย.
๓๔ วิบัติแก่คนกล่าวคำเท็จก, เพราะเขาจะถูกโยนลงนรกข.
๓๕ วิบัติแก่ฆาตกรซึ่งฆ่ากด้วยเจตนา, เพราะเขาจะตายข.
๓๖ วิบัติแก่คนที่กระทำการผิดประเวณีก, เพราะพวกเขาจะถูกโยนลงนรก.
๓๗ แท้จริงแล้ว, วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่นมัสการรูปเคารพก, เพราะจอมมารแห่งเหล่ามารทั้งปวงเบิกบานในพวกเขา.
๓๘ และ, ท้ายที่สุด, วิบัติแก่คนทั้งปวงที่ตายในบาปของตน; เพราะพวกเขาจะกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้าก, และเห็นพระพักตร์พระองค์, และคงอยู่ในบาปของตน.
๓๙ โอ้, พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, จงจำความน่าพรั่นพรึงในการล่วงละเมิดต่อพระผู้เป็นเจ้าผู้บริสุทธิ์, และความน่าพรั่นพรึงของการยอมแพ้ต่อการชักจูงของคนเล่ห์เหลี่ยมจัดกผู้นั้น. จงจำไว้ว่า, การมีจิตฝักใฝ่ในเนื้อหนังขคือความตายค, และการมีจิตฝักใฝ่ฝ่ายวิญญาณคือนิรันดรงแห่งชีวิตจ.
๔๐ โอ้, พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, จงเงี่ยหูฟังคำข้าพเจ้า. จงจำความยิ่งใหญ่ของพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล. อย่ากล่าวว่าข้าพเจ้าพูดเรื่องยุ่งยากใส่ท่าน; เพราะหากท่านกล่าวเช่นนั้น, ท่านจะสบประมาทความจริงก; เพราะข้าพเจ้าพูดคำของพระผู้รังสรรค์ของท่าน. ข้าพเจ้ารู้ว่าคำแห่งความจริงเป็นเรื่องยุ่งยากขสำหรับความไม่สะอาดทั้งปวง; แต่คนชอบธรรมหากลัวคำแห่งความจริงไม่, เพราะพวกเขารักความจริงและไม่หวั่นไหว.
๔๑ โอ้เมื่อเป็นดังนี้, พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, จงมาหาพระเจ้าก, พระผู้บริสุทธิ์. จงจำไว้ว่าวิถีของพระองค์ชอบธรรม. ดูเถิด, ทางขสำหรับมนุษย์แคบค, แต่วางอยู่ในวิถีทางตรงต่อหน้าเขา, และองค์ทวารบาลงคือพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล; และพระองค์ไม่ทรงจ้างผู้รับใช้ที่นั่น; และไม่มีทางอื่นใดนอกจากทางประตูนั้น; เพราะพระองค์ทรงถูกหลอกลวงไม่ได้, เพราะพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าคือพระนามของพระองค์.
๔๒ และผู้ใดเคาะ, ผู้นั้นพระองค์จะทรงเปิดให้เขา; และผู้มีปัญญาก, และผู้คงแก่เรียน, และคนร่ำรวย, ซึ่งผยองขเพราะความรู้ของตน, และปัญญาของตน, และความมั่งคั่งของตน—แท้จริงแล้ว, พวกเขาคือผู้ที่พระองค์ทรงเกลียดชัง; และเว้นแต่พวกเขาจะทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป, และพิจารณาตนเป็นคนโง่คต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า, และลงมาสู่ห้วงลึกแห่งความถ่อมตนง, พระองค์จะไม่ทรงเปิดให้พวกเขา.
๔๓ แต่เรื่องของผู้มีปัญญาและวิญญูชนจะถูกปิดบังกจากพวกเขาตลอดกาล—แท้จริงแล้ว, ความสุขนั้นซึ่งเตรียมไว้ให้วิสุทธิชน.
๔๔ โอ้, พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, จงจำคำข้าพเจ้า. ดูเถิด, ข้าพเจ้าถอดอาภรณ์ของข้าพเจ้า, และข้าพเจ้าสะบัดมันต่อหน้าท่าน; ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนพระผู้เป็นเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้าให้พระองค์ทรงมองดูข้าพเจ้าด้วยพระเนตรอันถ้วนถี่ก; ดังนั้น, ท่านจะรู้ในวันสุดท้าย, เมื่อคนทั้งปวงจะถูกพิพากษาเพราะงานของพวกเขา, ว่าพระผู้เป็นเจ้าแห่งอิสราเอลได้ทรงประจักษ์ว่าข้าพเจ้าสะบัดความชั่วช้าสามานย์ของท่านจากจิตวิญญาณข้าพเจ้าขแล้ว, และว่าข้าพเจ้ายืนอยู่ด้วยความเจิดจ้าต่อพระพักตร์พระองค์, และปราศจากโลหิตของท่านค.
๔๕ โอ้, พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, จงหันหลังให้บาปของท่าน; จงสะบัดโซ่กของเขาที่อยากมัดท่านให้แน่น; จงมาเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นศิลาขแห่งความรอดของท่าน.
๔๖ จงเตรียมจิตวิญญาณท่านไว้สำหรับวันอันรุ่งโรจน์นั้นเมื่อพระองค์จะทรงมอบความยุติธรรมกให้แก่คนชอบธรรม, แม้วันแห่งการพิพากษาข, เพื่อท่านจะไม่ระย่อด้วยความกลัวอันน่าพรั่นพรึง; เพื่อท่านจะไม่จดจำความผิดคอันน่าพรั่นพรึงของท่านในความสมบูรณ์, และถูกบีบคั้นให้ร้องว่า : บริสุทธิ์, การพิพากษาของพระองค์บริสุทธิ์, ข้าแต่พระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพง—แต่ข้าพระองค์รู้ความผิดของข้าพระองค์; ข้าพระองค์ล่วงละเมิดกฎของพระองค์, และการล่วงละเมิดของข้าพระองค์เป็นของข้าพระองค์; และมารได้รับข้าพระองค์แล้ว, จนข้าพระองค์เป็นเหยื่อของความเศร้าหมองอันน่าพรั่นพรึงของเขา.
๔๗ แต่ดูเถิด, พี่น้องของข้าพเจ้า, สมควรหรือที่ข้าพเจ้าจะปลุกให้ท่านตื่นขึ้นสู่ความเป็นจริงอันน่าพรั่นพรึงของเรื่องเหล่านี้ ? ข้าพเจ้าจะทรมานจิตวิญญาณท่านหรือหากจิตใจท่านพิศุทธิ์ ? ข้าพเจ้าจะตรงไปตรงมากับท่านตามความตรงไปตรงมาของความจริงหรือหากท่านพ้นจากบาปแล้ว ?
๔๘ ดูเถิด, หากท่านบริสุทธิ์ข้าพเจ้าจะพูดกับท่านถึงความบริสุทธิ์; แต่เนื่องจากท่านไม่บริสุทธิ์, และท่านนับถือข้าพเจ้าเป็นผู้สอน, จึงจำเป็นที่ข้าพเจ้าต้องสอนกท่านเรื่องผลของบาปข.
๔๙ ดูเถิด, จิตวิญญาณข้าพเจ้าชิงชังบาป, และใจข้าพเจ้าเบิกบานในความชอบธรรม; และข้าพเจ้าจะสรรเสริญกพระนามอันบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า.
๕๐ มาเถิด, พี่น้องข้าพเจ้า, ทุกคนที่กระหาย, ท่านจงมาสู่ผืนน้ำก; และเขาผู้นั้นที่ไม่มีเงินตรา, จงมาซื้อและกินเถิด; แท้จริงแล้ว, จงมาซื้อเหล้าองุ่นและนมโดยไม่เสียเงินตราขและไม่คิดราคา.
๕๑ ดังนั้น, อย่าใช้เงินตราเพื่อสิ่งที่ไม่มีค่า, หรือใช้แรงงานกของท่านเพื่อสิ่งที่ทำความพอใจให้ไม่ได้. จงสดับฟังข้าพเจ้าอย่างขยันหมั่นเพียร, และจำคำที่ข้าพเจ้าพูดไว้; และจงมาเฝ้าพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล, และดื่มด่ำขสิ่งที่ไม่เสื่อมถอย, ทั้งเน่าเปื่อยไม่ได้, และจงให้จิตวิญญาณท่านเบิกบานในความอิ่มเอม.
๕๒ ดูเถิด, พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, จงจำพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าของท่าน; จงสวดอ้อนวอนพระองค์ตลอดเวลากลางวัน, และน้อมขอบพระทัยกแด่พระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์เวลากลางคืน. จงให้ใจท่านเบิกบานเถิด.
๕๓ และดูเถิดพันธสัญญากของพระเจ้าสำคัญยิ่งเพียงใด, และพระจริยวัตรอันอ่อนน้อมของพระองค์ต่อลูกหลานมนุษย์ไร้ขอบเขตเพียงใด; และเพราะความยิ่งใหญ่ของพระองค์, และพระคุณและพระเมตตาขของพระองค์, พระองค์ทรงสัญญากับเราว่าพงศ์พันธุ์ของเราจะไม่ถูกทำลายสิ้น, ตามเนื้อหนัง, แต่พระองค์จะทรงปกปักรักษาพวกเขา; และในคนรุ่นต่อ ๆ ไปพวกเขาจะกลายเป็นอังกูรคอันชอบธรรมของเชื้อสายแห่งอิสราเอล.
๕๔ และบัดนี้, พี่น้องข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าอยากพูดกับท่านอีก; แต่ในวันพรุ่งข้าพเจ้าจะประกาศแก่ท่านถึงถ้อยคำที่ยังเหลืออยู่ของข้าพเจ้า. เอเมน.