คลังค้นคว้า
บทที่ 46: ลูกา 5


บทที่ 46

ลูกา 5

คำนำ

หลังจากจับปลาได้มากมายอย่างน่าอัศจรรย์จากความช่วยเหลือของพระผู้ช่วยให้รอด ปโตร ยากอบ และยอห์นทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อติดตามพระผู้ช่วยให้รอดและเป็นผู้จับคน พระเยซูคริสต์ทรงรักษาคนโรคเรื้อนและคนง่อย พระองค์ทรงเรียกมัทธิวให้เป็นสานุศิษย์คนหนึ่งและสอนว่าพระองค์เสด็จมาเพื่อเรียกคนบาปให้กลับใจ พระเยซูสอนอุปมาเรื่องน้ำองุ่นใหม่ในถุงหนังเก่า

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

ลูกา 5:1–11

พระเยซูทรงเรียกเปโตร ยากอบ และยอห์นให้เป็นผู้จับคน

เขียนคำถามต่อไปนี้บนกระดาน มีใครเคยขอให้ท่านทำบางอย่างโดยไม่ทราบเหตุผลในการทำสิ่งนั้นหรือไม่ ขอให้นักเรียนไตร่ตรองคำถาม และเชื้อเชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขา

  • เหตุใดจึงเป็นการยากที่จะทำตามคำสั่งโดยไม่เข้าใจเหตุผลที่ทำเช่นนั้น

  • พระบัญญัติหรือคำแนะนำจากผู้นำศาสนจักรข้อใดที่เยาวชนบางคนอาจเห็นว่าเชื่อฟังได้ยากหากพวกเขาไม่เข้าใจชัดเจนถึงเหตุผลที่ทำเช่นนั้น (ท่านอาจเขียนรายการคำตอบของนักเรียนไว้บนกระดาน)

เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาหลักธรรมใน ลูกา 5:1–11 ที่จะช่วยพวกเขาเมื่อพวกเขาไม่เข้าใจชัดเจนถึงสาเหตุที่ขอให้พวกเขาทำตามคำแนะนำหรือพระบัญญัติของพระเจ้า

เชื้อเชิญให้นักเรียนสองสามคนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก ลูกา 5:1–5 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่พระผู้ช่วยให้รอดขอให้ซีโมน (เปโตร) ทำหลังจากพระองค์ทรงเสร็จสิ้นการสั่งสอน ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ (หากจำเป็น ชี้ให้เห็นว่าเชิงอรรถ ข้อ 4 อธิบายว่า หย่อนอวน หมายถึงการจับหรือลากอวนปลา)

  • ซีโมนบอกอะไรพระผู้ช่วยให้รอดเกี่ยวกับความพยายามที่ผ่านมาของพวกเขาในการจับปลา

  • ประสบการณ์จับปลาของซีโมนเองอาจทำให้เขาคิดอย่างไรเมื่อพระผู้ช่วยให้รอดตรัสบอกให้เขาหย่อนอวนลงอีกครั้ง

  • ซีโมนพูดว่าอะไรที่แสดงว่าเขาวางใจพระเจ้า

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ลูกา 5:6–9 ขอให้ชั้นเรียนมองหาว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อซีโมนทำสิ่งที่พระเจ้าทรงขอ

  • เกิดอะไรขึ้นเมื่อซีโมนทำสิ่งที่พระเจ้าทรงขอ

  • เราสามารถเรียนรู้ หลักธรรม อะไรจากความเต็มใจของซีโมนในการทำสิ่งที่พระเจ้าทรงขอแม้เมื่อเขาไม่เข้าใจว่าทำไม (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่ให้แน่ใจว่าพวกเขาระบุหลักธรรมต่อไปนี้ ถ้าเราทำสิ่งที่พระเจ้าทรงขอแม้เมื่อเราไม่เข้าใจเหตุผล พระองค์จะประทานพรมากกว่าที่เราคาดหวัง โดยใช้คำพูดของนักเรียน ให้เขียนหลักธรรมนี้บนกระดาน)

  • การดำเนินชีวิตตามหลักธรรมนี้เรียกร้องให้เราวางใจพระเยซูคริสต์ในด้านใดบ้าง

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักธรรมนี้ เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ท่านอาจแจกสำเนาของคำกล่าวให้กับนักเรียน

ภาพ
เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์

“ชีวิตนี้เป็นประสบการณ์ในการวางใจอย่างเต็มที่—วางใจในพระเยซูคริสต์ วางในใจคำสอนของพระองค์ วางใจในความสามารถของเราดังที่ได้รับการนำจากพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ให้เชื่อฟังคำสอนเพื่อความสุขในเวลานี้และเพื่อการดำรงอยู่นิรันดร์ที่มีความสุขสูงสุดและมีจุดประสงค์ การวางใจหมายความว่าเต็มใจเชื่อโดยไม่จำเป็นต้องรู้ผลในบั้นปลายนับจากเริ่มต้น (ดู สุภาษิต 3:5–7) เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีบังเกิดขึ้น ความไว้วางใจในพระเจ้าของท่านจะต้องมีพลังและทนนานกว่าความเชื่อมั่นในความรู้สึกและประสบการณ์ของตัวท่านเอง” (“Trust in the Lord,” Ensign, พ.ย. 1995, 17)

  • เราจะพัฒนาความวางใจในพระผู้ช่วยให้รอดลักษณะนี้ได้อย่างไร

  • ท่านหรือครอบครัวของท่านเคยได้รับพรที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ท่านคาดหวังอย่างไรจากการทำตามการนำทางของพระเจ้าแม้เมื่อท่านไม่เข้าใจชัดเจนถึงเหตุผล (คำตอบอาจรวมถึงประสบการณ์ที่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจสาเหตุที่พระเจ้าทรงให้การนำทางเช่นนั้นในท้ายที่สุด)

ในกระดาษที่นักเรียนนำกลับบ้านได้ ให้นักเรียนเขียนคำแนะนำหรือพระบัญญัติจากพระเจ้าที่พวกเขาจะทำตามอย่างซื่อสัตย์มากขึ้นแม้พวกเขาไม่ได้เข้าใจชัดเจนถึงเหตุผลที่ทำเช่นนั้น (หากมีเวลา ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน [จุลสาร 2011] เพื่อหาแนวคิด)

สรุป ลูกา 5:10–11 โดยอธิบายว่าเปโตร ยากอบ และยอห์นละทิ้งเรือหาปลาและอวนของพวกเขาไว้เพื่อติดตามพระเยซู

ลูกา 5:12–26

พระเยซูทรงรักษาคนโรคเรื้อนและคนง่อย

ให้นักเรียนดูสิ่งของต่อไปนี้ (หรือวาดภาพบนกระดาน) กระบอกฉีดยา ผ้าพันแผล สบู่ และถุงน้ำแข็ง

  • สิ่งเหล่านี้จะช่วยรักษาผู้ป่วยหรือมีบาดแผลได้อย่างไร

  • นอกจากความเจ็บป่วยและการบาดเจ็บทางกายแล้ว บางคนอาจต้องได้รับการรักษาให้หายจากสิ่งใด (เขียนคำตอบของนักเรียนไว้บนกระดาน คำตอบอาจรวมถึงบาป การเสพติด ความสิ้นหวัง และความขมขื่น)

เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาหลักธรรมขณะพวกเขาศึกษา ลูกา 5:12–25 ที่สอนเราว่าเราสามารถทำอะไรได้เพื่อช่วยตัวเราเองและคนอื่นให้รับการรักษาที่จำเป็น

วาด แผนภูมิ ต่อไปนี้บนกระดานและเชื้อเชิญให้นักเรียนลอกลงไปในสมุดบันทึกการศึกษาหรือแผ่นกระดาษ

สิ่งที่คล้ายคลึง

สิ่งที่แตกต่าง

เขียนพระคัมภีร์อ้างอิงต่อไปนี้บนกระดาน: ลูกา 5:12–15 และ ลูกา 5:17–25 อธิบายว่าข้อเหล่านี้เล่าถึงพระผู้ช่วยให้รอดทรงรักษาชายสองคน ชายคนหนึ่งเป็นโรคเรื้อนและอีกคนเป็นง่อย หมายความว่าเขาเป็นอัมพาต แบ่งนักเรียนออกเป็นคู่ๆ ขอให้พวกเขาอ่านแต่ละเรื่องกับคู่ของพวกเขาและสนทนาคำถามต่อไปนี้

  • การรักษาสองอย่างคล้ายกันอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร

  • ศรัทธามีบทบาทอะไรในแต่ละเรื่อง

ขอให้นักเรียนบันทึกสิ่งที่พวกเขาพบในแผนภูมิของพวกเขา หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว เชื้อเชิญให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนทำเครื่องหมายวลี “พระองค์ทอดพระเนตรเห็นความเชื่อของพวกเขา” ใน ข้อ 20 ให้แน่ใจว่านักเรียนเข้าใจว่าศรัทธาของคนที่นำชายเป็นง่อยมาหาพระผู้ช่วยให้รอดทำให้ชายคนนี้ได้รับการรักษา

  • เราสามารถเรียนรู้หลักธรรมอะไรได้บ้างจากเรื่องราวเหล่านี้เกี่ยวกับวิธีที่เราจะได้รับการรักษาและสิ่งที่เราทำได้เพื่อช่วยให้ผู้อื่นได้รับการรักษา (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่ให้แน่ใจว่าพวกเขาระบุหลักธรรมต่อไปนี้ เมื่อเราใช้ศรัทธาและมาหาพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์จะทรงรักษาเรา เราสามารถช่วยผู้อื่นมาหาพระผู้ช่วยให้รอดเพื่อพวกเขาจะได้รับการรักษา เขียนหลักธรรมนี้ไว้บนกระดาน)

  • เราสามารถได้รับการรักษาจากพระผู้ช่วยให้รอดในทางใดบ้าง (ช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าพระผู้ช่วยให้รอดอาจขจัดความทุพพลภาพจากเราได้ หรือพระองค์อาจประทานความกล้าหาญ ศรัทธา การปลอบประโลม และสันติสุขที่เราต้องการเพื่อเราจะอดทนและเอาชนะความทุพพลภาพของเรา)

ขอให้นักเรียนพิจารณาความทุพพลภาพที่เขียนอยู่บนกระดานที่คนอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาให้หาย

  • ท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยนำคนมาหาพระผู้ช่วยให้รอดเพื่อรับอำนาจการเยียวยาของพระองค์

  • ท่านหรือคนที่ท่านรู้จักได้รับการรักษาให้หายผ่านการใช้ศรัทธาในพระคริสต์เมื่อใด (เตือนนักเรียนว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องเล่าประสบการณ์ที่เป็นเรื่องส่วนตัวเกินไป)

  • ท่านเคยเห็นคนที่นำคนอื่นมาหาพระเจ้าเพื่อรับอำนาจการเยียวยาของพระผู้ช่วยให้รอดเมื่อใด

ขอให้นักเรียนพิจารณาสิ่งที่พวกเขาทำได้เพื่อใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์มากขึ้นเพื่อรับการรักษา การให้อภัย หรือการปลอบโยน หรือสิ่งที่พวกเขาทำได้เพื่อนำเพื่อนคนหนึ่งหรือคนอื่นมาหาพระผู้ช่วยให้รอด กระตุ้นให้พวกเขาทำตามการกระตุ้นเตือนทางวิญญาณที่พวกเขาอาจได้รับ

ลูกา 5:27–35

พวกธรรมาจารย์และฟาริสีสงสัยว่าเหตุใดพระเยซูจึงเสวยกับพวกคนเก็บภาษีและคนบาป

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ลูกา 5:27–28 ขอให้ชั้นเรียนมองหาพระดำรัสเชิญที่พระผู้ช่วยให้รอดประทานแก่คนเลวี ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ

  • ท่านประทับใจอะไรเกี่ยวกับวิธีที่คนเลวีตอบพระดำรัสเชิญของพระผู้ช่วยให้รอด

เตือนนักเรียนว่าคนเลวีเป็นชื่อเรียกมัทธิวด้วย (ดู มัทธิว 9:9) เขาเป็นคนเก็บภาษี หมายถึงเขาเก็บภาษีจากเพื่อนชาวยิวให้รัฐบาลโรมัน โดยปรกติชาวยิวเกลียดคนเก็บภาษีและมองว่าพวกเขาเป็นคนที่สังคมไม่ยอมรับ เป็นคนบาป และเป็นแม้แต่คนทรยศต่อประชาชาติอิสราเอล สรุป ลูกา 5:29–35 โดยอธิบายว่าขณะที่พระเยซูกำลังเสวยกับคนเลวีและคนอื่นๆ พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีตำหนิพระองค์ที่ทรงเสวยกับคนบาป พระเยซูทรงสอนว่าพระองค์เสด็จมาเพื่อเรียกคนบาปให้กลับใจ

ลูกา 5:36–39

พระเยซูตรัสอุปมาเรื่องน้ำองุ่นใหม่ในถุงหนังเก่า

อธิบายว่าพระผู้ช่วยให้รอดใช้อุปมาสอนพวกธรรมาจารย์และฟาริสี เชื้อเชิญนักเรียนสองสามคนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก ลูกา 5:36–39 ขอให้ชั้นเรียนดูตามและมองหาสิ่งของที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงใช้ในอุปมาของพระองค์

  • พระผู้ช่วยให้รอดทรงใช้สิ่งใดเพื่อสอนอุปมาของพระองค์

ให้นักเรียนดูผ้าผืนใหม่ผืนหนึ่งและผ้าผืนเก่าที่มีรอยขาด อธิบายว่า “เสื้อใหม่” ใน ข้อ 36 หมายถึงผ้าที่ยังไม่หด เราไม่สามารถปะเสื้อเก่าด้วยผ้าใหม่เนื่องจากเมื่อผ้าผืนใหม่หด จะทำให้เป็นรอยขาดมากกว่าเดิม ในทำนองเดียวกัน พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ไม่เพียงเป็นสิ่งที่จะมาปะความเชื่อและการปฏิบัติเดิมๆ แต่เป็นการฟื้นฟูอันสมบูรณ์ของความจริง

เชื้อเชิญนักเรียนอ่านเชิงอรรถ ข้อ 37  ในพระคัมภีร์ไบเบิล KJV ฉบับแอลดีเอสค้นพบว่า ถุง หมายถึง “กระเป๋าหนังหรือถุงหนังใส่น้ำองุ่น” หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ให้นักเรียนดูแผ่นหนังใหม่และเก่า

  • อะไรคือความแตกต่างระหว่างแผ่นหนังใหม่และเก่า (หนังใหม่นิ่มและยืดหยุ่น หนังเก่าแข็งและเปราะ)

อธิบายว่าในขณะที่น้ำองุ่นหมักในถุงหนัง เกิดแก๊ซข้างในและทำให้ถุงหนังพอง เมื่อถุงน้ำองุ่นพองแบบนี้แล้ว หากพยายามจะหมักน้ำองุ่นใหม่อีกครั้งจะเสี่ยงต่อการทำให้ถุงหนังแตก

ในอุปมานี้ น้ำองุ่นใหม่เปรียบเหมือนคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดและความสมบูรณ์ของพระกิตติคุณอันเป็นนิจ น้ำองุ่นเก่าหมายถึงการถือปฏิบัติ ประเพณี และความเชื่อของพวกฟาริสีภายใต้กฎของโมเสส

  • “ถุงหนังเก่า” หมายถึงพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีในทางใด (ถุงหนังเก่าไม่ยืดหยุ่นพอจะใส่น้ำองุ่นใหม่ฉันใด พวกธรรมาจารย์และฟาริสีเป็นพวกใจแข็งกระด้างและไม่เต็มใจจะเปลี่ยนเพื่อรับพระผู้ช่วยให้รอดและคำสอนของพระองค์ฉันนั้น)

  • “ถุงหนังใหม่” หมายถึงใตร (คนที่อ่อนน้อมถ่อมตนและเต็มใจเปลี่ยนแปลงเพื่อรับพระผู้ช่วยให้รอดและคำสอนของพระองค์)

  • เราเรียนรู้อะไรจากอุปมาเรื่องนี้เกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องทำเพื่อรับพระผู้ช่วยให้รอดและพระกิตติคุณของพระองค์ (นักเรียนควรระบุหลักธรรมทำนองนี้ เพื่อรับพระผู้ช่วยให้รอดและพระกิตติคุณของพระองค์ เราต้องอ่อนน้อมถ่อมตนและเต็มใจที่จะเปลี่ยน เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนหลักธรรมนี้ตรงช่องว่างริมหน้าพระคัมภีร์ของพวกเขาใกล้กับ ลูกา 5:36–39)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักธรรมนี้ เชื้อเชิญให้พวกเขาทบทวน ลูกา 5 มองหาตัวอย่างของคนเหล่านั้นว่ามีใจแข็งกระด้างและไม่ยอมลดเจตคติของพวกเขาต่อพระผู้ช่วยให้รอดและคำสอนของพระองค์อย่างไรเช่นเดียวกับตัวอย่างที่ว่าคนอ่อนน้อมถ่อมตน เต็มใจเปลี่ยนและเติบโตโดยทำตามพระผู้ช่วยให้รอดอย่างไร เชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันสิ่งที่พบ

สรุปบทเรียนโดยแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านถึงหลักธรรมที่สอนใน ลูกา 5

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

ลูกา 5:23 “การพูดว่า บาปต่างๆ ของท่านได้รับการยกโทษแล้ว กับการพูดว่า จงลุกขึ้นเดินไปเถิด แบบไหนจะง่ายกว่ากัน”

ประธานฮาโรลด์ บี. ลี สอนสิ่งต่อไปนี้เกี่ยวกับปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ที่สุดในทุกวันนี้

“ปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ข้าพเจ้าเห็นวันนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นการรักษาร่างกายที่เจ็บป่วย แต่ปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ข้าพเจ้าเห็นเป็นการรักษาจิตวิญญาณที่เจ็บป่วย ผู้ป่วยในจิตวิญญาณและวิญญาณ หดหู่และว้าวุ่นใจ จนเกือบจะเสียสติ เราเอื้อมออกไปหาคนเช่นนั้น เนื่องจากพวกเขามีค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า และเราไม่อยากไห้ใครรู้สึกว่าเขาถูกลืม” (“Stand Ye in Holy Places” Ensign, ก.ค. 1973, 123)

ลูกา 5:21–24 “ใครจะอภัยบาปได้นอกจากพระเจ้าเท่านั้น?”

โดยให้ความเห็นเกี่ยวกับความสงสัยของพวกธรรมาจารย์และฟาริสีเกี่ยวกับสิทธิอำนาจในการอภัยบาปของพระผู้ช่วยให้รอด เอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกีแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนดังนี้

“เหตุการณ์นี้ในชีวิตของพระเจ้าเป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดและหักล้างไม่ได้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ และนี่เป็นสิ่งที่ทราบกันในบรรดาผู้คนที่พระองค์ทรงปฏิบัติศาสนกิจ พระองค์ทรงแสดงประจักษ์พยานบ่อยครั้งว่าพระบิดาบนสวรรค์เป็นพระบิดาของพระองค์และได้สนับสนุนพยานส่วนตัวนั้นด้วยการปฏิบัติศาสนกิจของการสั่งสอนและการรักษาที่สอดคล้องกัน ปัจจุบันเป็นจุดประสงค์ของพระองค์ที่จะประกาศว่าพระองค์ทรงทำสิ่งที่ไม่มีผู้ใดยกเว้นพระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำได้และเพื่อพิสูจน์ว่าพระองค์ทรงทำสิ่งนั้นโดยการแสดงให้ประจักษ์อย่างมากขึ้นถึงพลังอำนาจของพระบิดา

“ทั้งพระเยซูและ ‘อาจารย์สอนธรรมบัญญัติ’ ผู้ซึ่งอยู่ที่นั่นรู้ว่าไม่มีผู้ใดยกเว้นพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะให้อภัยบาปได้ ดังนั้น ในฐานะพยานที่ได้รับการแต่งตั้งและสมจริงว่าพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ในพระองค์… พระเยซูทรงทำสิ่งที่ไม่มีผู้แอบอ้างคนใดทำได้—พระองค์พิสูจน์พลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าของพระองค์โดยการรักษาและอภัยบาป” (Doctrinal New Testament Commentary, 3 vols. [1965–73], 1:177–78)

ลูกา 5:20 “เมื่อ [พระเยซู] ทอดพระเนตรเห็นความเชื่อของพวกเขา”

โดยกล่าวถึงเรื่องราวของชายที่เป็นโรคเรื้อนและประโยคที่ว่า “เมื่อ [พระเยซู] ทอดพระเนตรเห็นความเชื่อ ของพวกเขา ” (ลูกา 5:20; เน้นตัวเอน) เอ็ลเดอร์ชี ฮอง (แซม) วอง แห่งสาวกเจ็ดสิบสอนว่า

“การรวมศรัทธาของเราจะมีผลต่อความผาสุกของผู้อื่น

คนเหล่านั้นคือใครเมื่อพระเยซูทรงอ้างถึง อาจจะรวมถึงสี่คนนั้นที่พาคนง่อยมา ตัวคนง่อยเอง คนที่สวดอ้อนวอนให้เขา คนที่กำลังนั่งฟังคำสอนของพระเยซูและเอาใจช่วยอย่างเงียบๆ เพื่อรอปาฏิหาริย์ที่จะเกิดขึ้นอีกไม่นาน อาจจะรวมถึงภรรยา บิดามารดา บุตรธิดา ผู้สอนศาสนา ประธานโควรัม ประธานสมาคมสงเคราะห์ อธิการ และมิตรสหายที่อยู่แดนไกล เราทุกคนสามารถช่วยกันได้ เราทุกคนช่วยได้ เราควรจะร่วมแรงร่วมใจกันในการเสาะหาเพื่อให้ความช่วย เหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ” (“ให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นเอกภาพ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 16)