คลังค้นคว้า
บทที่ 138: ฮีบรู 11


บทที่ 138

ฮีบรู 11

คำนำ

เปาโลสอนสมาชิกของศาสนจักรเกี่ยวกับศรัทธา เขาอ้างถึงแบบอย่างของชายและหญิงผู้ชอบธรรมจากพันธสัญญาเดิมที่ใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์จึงทำปาฏิหาริย์ อดทนต่อความยากลำบาก และได้รับพรยิ่งใหญ่

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

ฮีบรู 11:1–6

เปาโลสอนสมาชิกศาสนจักรเกี่ยวกับศรัทธา

อ่านเรื่องราวต่อไปนี้ของเยาวหญิงคนหนึ่งจากฟิลิปปินส์ เชื้อเชิญให้นักเรียนฟังว่าเยาวชนหญิงคนนี้ใช้ศรัทธาอย่างไร

เยาวชนหญิงคนหนึ่งจากฟิลิปปินส์อธิบายว่าครั้งหนึ่งในช่วงฤดูร้อนพ่อของเธอต้องไปทำงานต่างเมือง เมื่อเขาได้รับค่าจ้างเขาจะส่งเงินกลับบ้านมาให้ครอบครัวของเขา ในวันเสาร์วันหนึ่ง ครอบครัวใช้เงินจนหมดยกเว้นธนบัตร 20 เปโซสองใบ เมื่อเยาวชนหญิงคนนี้มองดูรายการสิ่งของที่ครอบครัวเธอต้องการ เธอรู้ว่าพวกเขาจะไม่มีเงินพอซื้อของทั้งหมดและจ่ายค่ารถโดยสารให้ครอบครัวไปโบสถ์ในวันรุ่งขึ้น เธอถามแม่ว่าเธอควรทำอะไร แม่เธอบอกเธอว่าให้ซื้อของเหล่านั้นและพระผู้เป็นเจ้าจะทรงจัดเตรียมทางสำหรับค่ารถ

เยาวชนหญิงสวดอ้อนวอนให้เธอซื้อของที่มีอยู่ในรายการและยังคงมีเงินพอจ่ายค่ารถโดยสารไปโบสถ์ในวันรุ่งขึ้น ก่อนอื่นเธอต้องซื้อถ่านเพื่อให้ครอบครัวมีเชื้อเพลิงทำอาหาร เธอตกใจที่พบว่าถ่านขึ้นราคาจากถุงละ 5 เปโซเป็น 10 เปโซ โดยที่รู้ว่าครอบครัวของเธอจำเป็นต้องซื้อเชื้อเพลิงเพื่อทำอาหาร เธอจึงซื้อถ่านสองถุงเป็นเงินทั้งสิ้น 20 เปโซ เยาวชนหญิงคนนี้สวดอ้อนวอนอย่างจริงจังมากขึ้นขอให้ครอบครัวเธอยังสามารถไปโบสถ์ได้ ขณะที่เธอสวดอ้อนวอน มีบางสิ่งกระซิบบอกเธอว่า “ซื้อสิ่งจำเป็นต่อไป ทุกอย่างจะเรียบร้อย” เธอจึงเดินต่อไปพร้อมกับเงิน 20 เปโซ (ดัดแปลงจากวีดิทัศน์: “ศรัทธาที่เรียบง่ายและบริสุทธิ์” LDS.org)

  • เยาวชนหญิงคนนี้ใช้ศรัทธาในทางใดบ้าง

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านออกเสียง ฮีบรู 11:1 และงานแปลของโจเซฟ สมิธ, ฮีบรู 11:1 (ใน คู่มือพระคัมภีร์) ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่เปาโลสอนไว้เกี่ยวกับศรัทธา

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 1 ศรัทธาคืออะไร (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่ให้แน่ใจว่าพวกเขาระบุความจริงต่อไปนี้ ศรัทธาคือความเชื่อมั่นในสิ่งที่หวัง เป็นพยานหลักฐานถึงสิ่งที่มองไม่เห็น)

อธิบายว่าเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองใช้ ฮีบรู 11:1 เช่นเดียวกับแหล่งช่วยอื่นๆ (แอลมา 32:21; Lectures on Faith) เพื่ออธิบายองค์ประกอบพื้นฐานสามส่วนของศรัทธาในพระเยซูคริสต์ เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์เบดนาร์

ภาพ
เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

“คำสอนเหล่านี้เน้นองค์ประกอบพื้นฐานสามส่วนของศรัทธา (1) ศรัทธาที่เป็น ความเชื่อมั่น ในสิ่งที่หวังซึ่งเป็นจริง (2) ศรัทธาที่เป็น พยานหลักฐาน ถึงสิ่งที่มองไม่เห็น และ (3) ศรัทธาที่เป็นหลักธรรมของ การกระทำ ในสัตภาวะผู้รู้แจ้งทั้งปวง ข้าพเจ้าอธิบายถึงองค์ประกอบทั้งสามส่วนนี้ของศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอดว่าเป็นการหันหน้าไปสู่อนาคต มองย้อนไปในอดีต และเริ่มต้นกระทำในปัจจุบันไปพร้อมๆ กัน” (Seek Learning by Faith, Sept. 2007, 62)

เขียนบนกระดานดังนี้ ความเชื่อมั่น—หันหน้าไปสู่อนาคต; พยานหลักฐาน—มองย้อนไปในอดีต; การกระทำ—เริ่มต้นกระทำในปัจจุบัน อธิบายว่าเอ็ลเดอร์เบดนาร์สอนว่าองค์ประกอบทั้งสามของศรัทธาซึ่งได้แก่—ความเชื่อมั่น พยานหลักฐาน และการกระทำ—ทำงานด้วยกันเมื่อเราหันหน้าไปสู่อนาคต มองย้อนไปในอดีต และกระทำในปัจจุบัน

  • การใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์แตกต่างจากการเพียงแต่เชื่อในพระองค์อย่างไร

  • เรื่องราวของเยาวชนหญิงชาวฟิลิปปินส์แสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบสามส่วนของศรัทธาที่เอ็ลเดอร์เบดนาร์อธิบายอย่างไร

  • จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราใช้ศรัทธาในพระคริสต์

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ฮีบรู 11:2–5 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาแบบอย่างที่เปาโลใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้คนใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์

  • เกิดอะไรขึ้นเนื่องจากผู้คนเหล่านี้ใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน ฮีบรู 11:6 ในใจ โดยมองหาสิ่งที่เปาโลสอนเกี่ยวกับศรัทธา

  • เปาโลสอนอะไรเกี่ยวกับศรัทธา

  • ตามที่เปาโลสอน เราต้องทำอะไรเพื่อให้พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่ให้แน่ใจว่าเป็นที่ชัดเจนว่า เพื่อให้พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยเราต้องใช้ศรัทธาของเราโดยการมาหาพระองค์ เชื่อในพระองค์ และเชื่อว่าพระองค์ประทานบำเหน็จแก่คนเหล่านั้นผู้แสวงหาพระองค์อย่างพากเพียร ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนทำเครื่องหมายความจริงนี้ใน ข้อ 6)

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านบทสรุปจากเรื่องราวของเยาวชนหญิงชาวฟิลิปปินส์ ขอให้ชั้นเรียนฟังดูว่าเกิดอะไรขึ้นเนื่องจากเยาวชนหญิงคนนี้ใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์

เมื่อเยาวชนหญิงคนนี้จ่ายเงินค่าของชิ้นอื่นเธอล้วงกระเป๋าของเธอและสัมผัสกระดาษก้อนใหญ่ เมื่อเธอคลี่ดูเธอเห็นว่ามีธนบัตร 20 เปโซห้าใบซึ่งพับอยู่ในธนบัตร 20 เปโซที่เหลืออยู่ของเธอ ในตอนนั้นเธอรู้ว่าเธอมีเงินพอจะซื้อของที่ครอบครัวต้องการและจ่ายค่ารถโดยสารไปโบสถ์ให้ครอบครัวเธอได้ เยาวชนหญิงคนนี้อธิบายว่าในระหว่างประสบการณ์นี้เธอรู้สึกถึงความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าและความรักที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีต่อเธอ เมื่อเธอกลับถึงบ้านเธอขอบพระทัยพระบิดาบนสวรรค์สำหรับปาฏิหาริย์นั้น (ดัดแปลงจาก “ศรัทธาอันบริสุทธิ์และเรียบง่าย,” LDS.org)

  • เกิดอะไรขึ้นเนื่องจากเยาวชนหญิงคนนี้ใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์

  • ประสบการณ์นี้อาจช่วยเยาวชนหญิงคนนี้ใช้ศรัทธาในอนาคตอย่างไร (เนื่องจากเธอจำได้ถึงพยานหลักฐานว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเธอระหว่างประสบการณ์นี้ เธอสามารถมั่นใจว่าพระผู้เป็นเจ้าจะช่วยเธออีกในอนาคต เนื่องจากพยานหลักฐานและความมั่นใจที่เธอได้รับ เธออาจมีศรัทธาที่จะกระทำในปัจจุบัน ถ้าเธอยังคงทำต่อไป กระบวนการของการกระทำด้วยศรัทธานี้จะทำให้ศรัทธาของเธอเข้มแข็งขึ้น)

ขอให้นักเรียนนึกถึงเวลาที่พวกเขาใช้ศรัทธา เชื้อเชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขา

  • ประสบการณ์นั้นทำให้ท่านมีพยานหลักฐานว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยท่านในอนาคตอย่างไร

ฮีบรู 11:7–40

เปาโลกล่าวถึงแบบอย่างของคนชอบธรรมจากพันธสัญญาเดิมผู้ที่ใช้ศรัทธา

  • มีสถานการณ์อะไรบ้างที่ท่านเผชิญในเวลานี้หรือจะเผชิญในอนาคตที่ทำให้ท่านต้องใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์

เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาความจริงขณะพวกเขาศึกษา ฮีบรู 11:7–40 ซึ่งจะช่วยให้พวกเขารู้ถึงพรที่พวกเขาจะได้รับเมื่อใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์

เขียนคำว่าโดยความเชื่อ และ ความเชื่อ บนกระดาน อธิบายว่าเปาโลกล่าวถึงแบบอย่างของคนชอบธรรมในพันธสัญญาเดิมที่ใช้ศรัทธาเพื่อทำให้ผู้ฟังมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับพรโดยการใช้ศรัทธาเช่นกัน เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน ฮีบรู 11อย่างรวดเร็วโดยมองหาวลี “โดยความเชื่อ” และ “ความเชื่อ” ท่านอาจแนะนำให้นักเรียน ทำเครื่องหมาย วลีเหล่านี้

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ฮีบรู 11:7 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าโนอาห์ใช้ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร (ท่านอาจต้องการอธิบายว่าวลี “จึงยำเกรง” หมายความว่าโนอาห์ทำด้วยความหวังและความมั่นใจตามการนำทางของพระผู้เป็นเจ้า )

  • โนอาห์ใช้ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร

  • องค์ประกอบใดของศรัทธาที่เอ็ลเดอร์เบดนาร์อธิบาย (ความเชื่อมั่น พยานหลักฐาน และการกระทำ) ซึ่งแสดงให้เห็นในเรื่องราวของโนอาห์

  • องค์ประกอบเหล่านี้แสดงให้ประจักษ์ในทางใดบ้าง

เขียนข้ออ้างอิงพระคัมภีร์ต่อไปนี้บนกระดาน ฮีบรู 11:8–10, 11–12, 17–19, 20–22, 23–28, 29–31 แบ่งชั้นเรียนออกเป็นหกกลุ่ม และมอบหมายข้ออ้างอิงพระคัมภีร์ให้กลุ่มละหนึ่งข้อ (หากท่านมีชั้นเรียนเล็ก มอบหมายข้ออ้างอิงให้นักเรียนคนละข้อ หรือแบ่งนักเรียนออกเป็นคู่และมอบหมายมากกว่าหนึ่งข้อให้นักเรียนแต่ละคู่) ขอให้แต่ละกลุ่มอ่านข้ออ้างอิงที่ได้รับมอบหมายด้วยกัน โดยมองหาคำตอบของ คำถาม ต่อไปนี้ (ท่านอาจต้องการเขียนคำถามเหล่านี้บนกระดาน)

ใครใช้ศรัทธา

องค์ประกอบสามส่วนของศรัทธา (ความเชื่อมั่น พยานหลักฐาน และการกระทำ) เป็นแบบอย่างในทางใดบ้าง

ปัจจุบันเราเผชิญสถานการณ์ใดบ้างที่เรียกร้องศรัทธาคล้ายกัน

หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งจากแต่ละกลุ่มรายงานคำตอบของพวกเขากับชั้นเรียน

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ฮีบรู 11:13–16 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากแบบอย่างของอับราฮัม ซาราห์ และคนอื่นๆ เกี่ยวกับการใช้ศรัทธา อธิบายว่าคำว่า “บ้านเมืองที่ประเสริฐกว่า” (ข้อ 16) หมายถึงชีวิตนิรันดร์

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 13 เกิดอะไรขึ้นกับอับราฮัมและซาราห์ ภรรยาของเขาตลอดจนคนอื่นๆ ที่ซื่อสัตย์

  • เหตุใดพวกเขายังคงซื่อสัตย์แม้ว่าพวกเขาไม่ได้รับสัญญาทั้งหมดของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตนี้ (ท่านอาจต้องการอธิบายว่าการเห็นพรที่สัญญาไว้ “แต่ไกล” หมายความว่ามีความหวังและความมั่นใจที่จะได้รับพรหลังจากพวกเขาสิ้นชีวิต)

  • แบบอย่างของพวกเขาจะช่วยเราคงความซื่อสัตย์ได้อย่างไร

เขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดาน เมื่อเราใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ เราจะ … เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนประโยคนี้ลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขา

เชื้อเชิญนักเรียนหลายๆ คนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก ฮีบรู 11:32–40 เชื้อเชิญให้นักเรียนหลายๆ คนผลัดกันอ่านออกเสียงจากฮีบรู 11:32–40 และอธิบายว่างานแปลของโจเซฟ สมิธข้อ 35 เปลี่ยน “เป็นขึ้นมาสู่ชีวิตที่ดีกว่า” เป็น “การฟื้นคืนชีวิตครั้งแรก” อธิบายว่างานแปลของโจเซฟ สมิธข้อ 40 เปลี่ยนให้อ่านได้ว่า “เพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ประเสริฐยิ่งกว่านั้นไว้สำหรับเราผ่านการทนทุกข์ของพวกเขา เพราะปราศจากการทนทุกข์พวกเขาจะดีพร้อมไม่ได้” ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าพวกเขาจะเติมประโยคที่พวกเขาเขียนไว้ให้ครบถ้วนได้อย่างไร ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนทำเครื่องหมายคำหรือวลีในพระคัมภีร์ที่น่าสนใจสำหรับพวกเขา

ขอให้นักเรียนเติมวลีนี้ตามข้อความใน ข้อ 32–40 หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว เชื้อเชิญนักเรียนหลายๆ คนที่เต็มใจรายงานสิ่งที่พวกเขาเขียน สรุปคำตอบของนักเรียนโดยเขียนหลักธรรมต่อไปนี้บนกระดาน เมื่อเราใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ เราสามารถอดทนต่อความทุกข์ทรมาน ทำปาฏิหาริย์ รับคำสัญญาจากสวรรค์ เสริมสร้างประจักษ์พยานของเราเกี่ยวกับพระองค์ และรุดหน้าไปสู่ความดีพร้อม

  • เราสามารถใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ในทางใดได้บ้าง

  • ท่านเคยเห็นพรอะไรมาสู่ชีวิตของบางคนเนื่องจากคนนั้นใช้ศรัทธา

เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงสถานการณ์ที่เรียกร้องให้พวกเขาหรือจะเรียกร้องให้พวกเขาต้องใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์อีกครั้ง

เชื้อเชิญให้พวกเขาตั้งเป้าหมายเพื่อใช้ศรัทธาในพระเจ้าในสถานการณ์เหล่านั้น เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนเป้าหมายเติมประโยคต่อไปนี้ให้ครบถ้วน “โดยศรัทธาฉันจะ …”

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

ฮีบรู 11:1 “ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น”

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายองค์ประกอบพื้นฐานสามส่วนของศรัทธาดังนี้

“อัครสาวกเปาโลนิยาม ศรัทธา ว่าเป็น ‘ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น’ (ฮีบรู 11:1) แอลมาประกาศว่าศรัทธาไม่ใช่การมีความรู้อันสมบูรณ์ของสิ่งต่าง ๆ แต่หากเรามีศรัทธาเรา ‘ย่อมหวังในสิ่งที่ไม่เห็น, [แต่] ซึ่งจริง’ (แอลมา 32:21) นอกจากนั้น เราเรียนรู้ใน Lectures on Faith ว่าศรัทธาเป็น ‘หลักธรรมแรกในศาสนาที่มีการเปิดเผย และเป็นพื้นฐานของความชอบธรรมทั้งปวง’ และศรัทธายังเป็น ‘หลักธรรมแห่งการกระทำของสัตภาวะรู้แจ้งทั้งปวง’ [Lectures on Faith (1985), 1]

“คำสอนเหล่านี้เน้นองค์ประกอบพื้นฐานสามส่วนของศรัทธา (1) ศรัทธาที่เป็น ความเชื่อมั่น ในสิ่งที่หวังซึ่งเป็นจริง (2) ศรัทธาที่เป็น พยานหลักฐาน ถึงสิ่งที่มองไม่เห็น และ (3) ศรัทธาที่เป็นหลักธรรมของ การกระทำ ในสัตภาวะผู้รู้แจ้งทั้งปวง ข้าพเจ้าอธิบายองค์ประกอบทั้งสามส่วนนี้ของศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอดเป็นการหันไปสู่อนาคต มองกลับไปในอดีต และเริ่มการกระทำในปัจจุบันพร้อมกัน

“ศรัทธาเป็นความเชื่อมั่นในสิ่งที่หวังไว้เพื่อมองไปที่อนาคต …

“ศรัทธาในพระคริสต์เกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ได้และส่งผลให้เกิดความหวังในพระคริสต์เพื่อการไถ่และความสูงส่งของเรา ความเชื่อมั่นและความหวังทำให้เราสามารถเดินไปตรงปลายแสงสว่างและก้าวเข้าไปในความมืด—โดยคาดหวังและวางใจแสงสว่างนั้นเพื่อจะรุดหน้าไปและส่องทางแก่เรา [ดู บอยด์ เค. แพคเกอร์, The Candle of the Lord, Jan. 1983, 54] ความเชื่อมั่นและความหวังรวมกันก่อให้เกิดการกระทำในปัจจุบัน

“ศรัทธาอันพยานหลักฐานในสิ่งที่มองไม่เห็นทำให้มองไปในอดีตและยืนยันกับเราให้วางใจพระผู้เป็นเจ้าและให้มั่นใจในความเป็นจริงของสิ่งที่มองไม่เห็น เราก้าวเข้าไปในความมืดด้วยความเชื่อมั่นและความหวัง เราได้รับพยานหลักฐานและการยืนยันเมื่อแสงสว่างนั้นทำให้เรารุดไปและให้ความสว่างอย่างที่เราต้องการจริงๆ พยานที่เราได้รับหลังจากการทดลองศรัทธาของเรา (ดู อีเธอร์ 12:6) เป็นพยานหลักฐานที่ขยายและเสริมสร้างความเชื่อมั่นของเรา

“ความเชื่อมั่น การกระทำ และพยานหลักฐานส่งผลต่อกันในกระบวนการที่ต่อเนื่อง” (Seek Learning by Faith, Sept. 2007, 61–63)

ฮีบรู 11:4 “อาเบลจึงนำเครื่องบูชาที่ดีกว่าของคาอินมาถวายแด่พระเจ้า”

“ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธอธิบายสาเหตุที่เครื่องบูชาของอาเบลเป็นที่ยอมรับต่อพระผู้เป็นเจ้าแต่เครื่องบูชาของคาอินไม่เป็นที่ยอมรับ ‘โดยมีศรัทธาในการชดใช้นี้หรือแผนแห่งการไถ่ อาเบลถวายเครื่องบูชาที่พระผู้เป็นเจ้าทรงยอมรับ คือลูกสัตว์ตัวแรกของฝูง “คาอินถวายผลจากผืนดิน แต่ไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะเขามิได้ถวายด้วยศรัทธา เขาไม่มีศรัทธา หรือเขาจะใช้ศรัทธาขัดกับแผนของสวรรค์ไม่ได้ แผนดังกล่าวต้องเป็นการหลั่งโลหิตของพระองค์เดียวผู้ถือกำเนิดเพื่อชดใช้ให้มนุษย์ เพราะนี่คือแผนแห่งการไถ่และหากไม่มีการหลั่งโลหิตย่อมไม่มีการอภัยโทษ ขณะที่การเสียสละตั้งไว้เพื่อเป็นรูปแบบให้ตระหนักถึงการเสียสละครั้งใหญ่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงเตรียมไว้ การถวายบูชาในทางตรงกันข้ามจึงไม่ต้องใช้ศรัทธา เพราะจะซื้อการไถ่ในวิธีนั้นไม่ได้ ทั้งมิได้ตั้งพลังแห่งการชดใช้ตามระเบียบนั้น ด้วยเหตุนี้คาอินจึงไม่มีศรัทธา’ (คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 48)” (คู่มือนักเรียน พันธสัญญาใหม่ [คู่มือของระบบการศึกษาศาสนจักร, 2014], 486)