คลังค้นคว้า
บทที่ 120: เอเฟซัส 1


บทที่ 120

เอเฟซัส 1

คำนำ

เปาโลเขียนจดหมายถึงวิสุทธิชนในเอเฟซัสเกี่ยวกับการแต่งตั้งล่วงหน้าของพวกเขาเพื่อรับพระกิตติคุณ เขาเขียนเกี่ยวกับสมัยการประทานสุดท้าย หรือสมัยการประทานที่เรามีชีวิตอยู่เวลานี้ เปาโลสอนว่าเราจะรู้จักพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ผ่านการเปิดเผย

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

เอเฟซัส 1:1–8

เปาโลสอนวิสุทธิชนว่าพวกเขาได้รับแต่งตั้งล่วงหน้าเพื่อรับพระกิตติคุณ

เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงเวลาที่พวกเขายอมรับความรับผิดชอบสำคัญและได้รับคำสัญญาว่าเมื่อทำงานนี้ให้เกิดสัมฤทธิผลพวกเขาจะได้รับรางวัล

  • เมื่องานนั้นเริ่มท้าทายมากขึ้น ท่านได้รับการค้ำจุนอย่างไรจากความรู้ที่ว่าท่านยอมรับงานมอบหมายนี้และมีผู้ที่วางใจว่าท่านจะทำให้เกิดสัมฤทธิผล

  • ท่านได้รับพรหรือรางวัลอย่างไรจากการทำให้ความรับผิดชอบนั้นเกิดสัมฤทธิผล

อธิบายว่าในจดหมายของเขาดังที่บันทึกใน เอเฟซัส 1–6 อัครสาวกเปาโลพูดกับวิสุทธิชนที่อยู่ในเมืองเอเฟซัสและอาณาบริเวณโดยรอบ เป้าหมายของเขาคือเพื่อเสริมสร้างคนที่เป็นสมาชิกของศาสนจักรแล้วและช่วยให้ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่เติบโตในความรู้ทางวิญญาณและยังคงซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพวกเขา

เชื้อเชิญนักเรียนหลายๆ คนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก เอเฟซัส 1:3–8 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาความจริงที่เปาโลสอนวิสุทธิชนเพื่อช่วยให้พวกเขายังคงชื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพวกเขา

  • เปาโลสอนความจริงอะไรแก่วิสุทธิชนเพื่อช่วยให้พวกเขายังคงชื่อสัตย์ (ขณะที่นักเรียนตอบ ท่านอาจต้องการเชื้อเชิญให้พวกเขาอธิบายว่าการเข้าใจความจริงที่พวกเขากล่าวถึงจะช่วยให้วิสุทธิชนยังคงซื่อสัตย์ได้อย่างไร)

  • ท่านคิดว่าการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกบางคน “ตั้งแต่ก่อนทรงสร้างโลก” ใน ข้อ 4 หมายความว่าอย่างไร

อธิบายว่าวลีนี้ที่สอดคล้องกับ กำหนดไว้ล่วงหน้า และวลี “ให้เป็นบุตรของพระองค์โดยทางพระเยซูคริสต์” ใน ข้อ 5 หมายถึงคนที่ได้รับเลือกหรือแต่งตั้งล่วงหน้าในการดำรงอยู่ก่อนเกิดเพื่อรับพระกิตติคุณ เขียนความจริงต่อไปนี้บนกระดาน บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการแต่งตั้งล่วงหน้าให้รับพรของพระกิตติคุณ การได้รับพรเหล่านี้มีเงื่อนไขอยู่ที่ความชื่อสัตย์ของเราในชีวิตนี้

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจความจริงดังกล่าว เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงข้อความต่อไปนี้

“ในโลกวิญญาณก่อนเกิด พระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งตั้งวิญญาณบางดวงให้ปฏิบัติพันธกิจที่กำหนดไว้เป็นพิเศษระหว่างชีวิตมรรตัยของพวกเขา นี่เรียกว่าการแต่งตั้งล่วงหน้า

“การแต่งตั้งล่วงหน้ามิได้รับประกันว่าบุคคลเหล่านี้จะได้รับการเรียกหรือความรับผิดชอบตามที่กำหนด โอกาสเช่นนั้นเกิดขึ้นในชีวิตนี้เนื่องจากการใช้สิทธิ์เสรีอย่างชอบธรรม เฉกเช่นการแต่งตั้งล่วงหน้าเกิดขึ้นเนื่องจากความชอบธรรมในการดำรงอยู่ก่อนเกิด …

“หลักคำสอนเรื่องการแต่งตั้งล่วงหน้าประยุกต์ใช้ได้กับสมาชิกทุกคนของศาสนจักร ไม่เฉพาะพระผู้ช่วยให้รอดและศาสดาพยากรณ์เท่านั้น ก่อนสร้างโลก สตรีที่ซื่อสัตย์ได้รับความรับผิดชอบบางอย่างและชายที่ซื่อสัตย์ได้รับแต่งตั้งล่วงหน้าให้ทำหน้าที่บางอย่างของฐานะปุโรหิต แม้ท่านจะจำเวลานั้นไม่ได้ แต่ท่านรับปากแล้วว่าจะทำงานสำคัญในการรับใช้พระบิดาของท่าน ขณะที่ท่านพิสูจน์ความมีค่าควรของตนเอง ท่านมีโอกาสทำงานมอบหมายที่ท่านได้รับในคราวนั้น” (แน่วแน่ต่อศรัทธา: ศัพทานุกรมพระกิตติคุณ [2004], 30–31)

  • การเข้าใจว่าเราได้รับการแต่งตั้งล่วงหน้าเพื่อรับพระกิตติคุณและพรทั้งหลายของพระกิตติคุณช่วยเรายังคงชื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของเราอย่างไร

เอเฟซัส 1:9–12

เปาโลพูดถึงสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา

ภาพ
ภาพลายเส้น แม่น้ำไหลไปที่ทะเลสาบ

วาด ภาพ ง่ายๆ ของแม่น้ำหลายๆ สายไหลไปสู่ผืนน้ำขนาดใหญ่ ขอให้นักเรียนจินตนาการว่าแม่น้ำแต่ละสายแทนแต่ละสมัยการประทานพระกิตติคุณ

  • สมัยการประทานพระกิตติคุณคืออะไร

ท่านอาจต้องการทบทวนความหมายของ สมัยการประทาน พระกิตติคุณโดยเชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงข้อความต่อไปนี้จากคู่มือพระคัมภีร์

“สมัยการประทานพระกิตติคุณคือช่วงระยะเวลาหนึ่งซึ่งพระเจ้าทรงมีผู้รับใช้ที่มีสิทธิอำนาจอย่างน้อยหนึ่งคนบนแผ่นดินโลก ที่ถือกุญแจทั้งหลายของฐานะปุโรหิตอันศักดิ์สิทธิ์และมีภาระหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์ในการเผยแพร่พระกิตติคุณให้แก่ผู้อยู่อาศัยของแผ่นดินโลก เมื่อสมัยการประทานเกิดขึ้น พระกิตติคุณจะเปิดเผยอีกครั้งเพื่อผู้คนของสมัยการประทานนั้นจะไม่ต้องพึ่งพาสมัยการประทานที่ผ่าน ๆ มาในความรู้เกี่ยวกับแผนแห่งความรอด มีสมัยการประทานพระกิตติคุณหลายสมัยนับตั้งแต่กาลเริ่มต้น พระคัมภีร์ไบเบิลพูดถึงสมัยการประทานอย่างน้อยหนึ่งสมัยตรงกับอาดัม อีกหนึ่งสมัยตรงกับเอโนค อีกหนึ่งสมัยตรงกับโนอาห์ และเรื่อยไปจนถึงอับราฮัม โมเสส และพระเยซูกับอัครสาวกของพระองค์ในความเรืองโรจน์แห่งเวลา” (ดู คู่มือพระคัมภีร์, “สมัยการประทาน”)

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง เอเฟซัส 1:9–10 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าเปาโลหมายถึงสมัยการประทานใด อธิบายว่าวลี “ความล้ำลึกแห่งพระประสงค์ของพระองค์” ใน ข้อ 9 หมายถึงแผนและจุดประสงค์ของพระผู้เป็นจ้า

ชี้ให้เห็นว่าสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลาเป็นสมัยการประทานที่เรากำลังมีชีวิตอยู่เวลานี้

  • สมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลาเป็นเหมือนผืนน้ำที่แม่น้ำไหลมารวมกันอย่างไร

  • เปาโลพยากรณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา (อธิบายว่าเมื่อเปาโลเขียนว่า “ทุกสิ่ง” ทั้งที่อยู่ในสวรรค์และในแผ่นดินโลก รวบรวม ‘ให้อยู่ในพระคริสต์’ [ข้อ 10] เขาหมายถึงการฟื้นฟูและการนำกลับคืนของกุญแจ พลังอำนาจ และคำสัญญาทั้งหมดที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยแก่บุตรธิดาของพระองค์นับตั้งแต่โลกเริ่มต้น พร้อมกับความรู้อื่นที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน [ดู ค.พ. 128:18] เขียนหลักคำสอนต่อไปนี้บนกระดาน ในสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา ทุกสิ่งจากสมัยการประทานก่อนจะได้รับการฟื้นฟู)

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์บี. เอช. โรเบิร์ตส์แห่งสาวกเจ็ดสิบ

ภาพ
เอ็ลเดอร์บี. เอช. โรเบิร์ตส์

“นี่เป็นสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา และเราเห็นการไหลไปสู่สมัยการประทานนี้ดังสายน้ำไหลเชี่ยวสู่มหาสมุทร สมัยการประทานก่อนหน้าทั้งหมด ทำให้เราได้ติดต่อกับสมัยการประทานเหล่านั้น ทำให้สมัยการประทานเหล่านั้นติดต่อกับเรา และเราเห็นว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงมีจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียวมาตลอดนับจากกาลเริ่มต้น และนั่นคือความรอดของบุตรธิดาของพระองค์ และบัดนี้ยุคสุดท้ายมาถึงแล้ว สมัยการประทานสุดท้าย เมื่อความจริง ความสว่าง และความชอบธรรมต้องท่วมแผ่นดินโลก” (ใน Conference Report, Oct. 1904, 73)

เชื้อเชิญให้นักเรียนมาที่กระดานและเขียนกำกับภาพวาดของแม่น้ำต่างๆ ด้วย ความจริง พระคัมภีร์ พันธสัญญา และพลังอำนาจจากสมัยการประทานก่อนหน้าที่ได้รับการฟื้นฟูหรือนำออกมาในสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา (สิ่งที่เขียนกำกับอาจรวมถึงอำนาจการผนึก ศาสนพิธีแห่งความรอด พระคัมภีร์มอรมอน และอื่นๆ นักเรียนสามารถวาดภาพแม่น้ำเพิ่มตามต้องการ)

  • การดำเนินชีวิตในสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลาเป็นพรแก่ท่านอย่างไร

  • ตามคำกล่าวของเอ็ลเดอร์โรเบิร์ตส์ ต้องเกิดอะไรขึ้นระหว่างสมัยการประทานนี้ (ความจริง ความสว่าง ความชอบธรรมต้องท่วมแผ่นดินโลก)

  • แหล่งช่วยใดในสมัยการประทานของเราที่เราจะทำให้ความจริงและความสว่างแห่งพระกิตติคุณไหลบ่าท่วมแผ่นดินโลก

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

ภาพ
เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

“พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า สิ่งที่บรรลุผลไปแล้วในสมัยการประทานนี้ในการสื่อสารข่าวสารพระกิตติคุณผ่านทางช่องทางสื่อสังคมเป็นการเริ่มต้นที่ดี—แต่เป็นการไหลเอื่อยๆ เพียงเล็กน้อย ข้าพเจ้าขอเชื้อเชิญให้ท่านช่วยเปลี่ยนการไหลเอื่อยๆ นี้เป็นน้ำท่วม … ข้าพเจ้าแนะนำให้ท่านโหมกระหน่ำแผ่นดินโลกด้วยข่าวสารที่อัดแน่นด้วยความชอบธรรมและความจริง—ข่าวสารที่แท้จริง จรรโลงใจ และควรค่าแก่การสรรเสริญ—ดังสายน้ำไหลบ่าท่วมแผ่นดินโลก” (“To Sweep the Earth as with a Flood” [คำปราศรัย เนื่องในสัปดาห์การศึกษาที่มหาวิทยาลัยบริคัม ยังก์เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2014], LDS.org)

เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขากำลังทำเพื่อช่วยโหมกระหน่ำแผ่นดินโลกด้วยข่าวสารที่อัดแน่นด้วยความชอบธรรมและความจริง

สรุป เอเฟซัส 1:11–12 โดยอธิบายว่าเปาโลสอนว่าผ่านทางพระเยซูคริสต์ วิสุทธิชนได้รับ “การทรงเลือก” (ข้อ 11) ในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

เอเฟซัส 1:13–23

เปาโลสอนเกี่ยวกับพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง เอเฟซัส 1:13–14 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาพรที่วิสุทธิชนได้รับเพราะความชื่อสัตย์ของพวกเขารวมทั้งการวางใจและความเชื่อของพวกเขาในพระเยซูคริสต์

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 13วิสุทธิชนได้รับพรอะไร (พวกเขา “ได้รับการประทับตราด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่ทรงสัญญาไว้”)

อธิบายว่าการ “ได้รับการประทับตราด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่ทรงสัญญาไว้” หมายความว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ “เป็นพยานต่อพระบิดาว่าได้ปฏิบัติศาสนพิธีแห่งความรอดอย่างถูกต้องและได้รักษาพันธสัญญาที่เกี่ยวข้องกัน” (คู่มือพระคัมภีร์, “พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา,” scriptures.lds.org) พระวิญญาณเป็น “มัดจำในการรับมรดกของเรา” (ข้อ 14) นี่หมายความว่าการประทับอยู่ของ พระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเราเป็นหมายสำคัญ การเตือน และการบ่งชี้จากพระผู้เป็นเจ้าว่าหากเราซื่อสัตย์ต่อไปเราจะได้รับชีวิตนิรันดร์

สรุป เอเฟซัส1:15–16 โดยอธิบายว่าเปาโลบอกวิสุทธิชนว่าเขาขอบพระทัยพระผู้เป็นเจ้าอยู่เสมอสำหรับความซื่อสัตย์ของพวกเขา

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง เอเฟซัส 1:17–18 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าเปาโลสวดอ้อนวอนว่าพระผู้เป็นเจ้าจะประทานอะไรแก่วิสุทธิชน

  • เปาโลสวดอ้อนวอนว่าพระผู้เป็นเจ้าจะประทานอะไรแก่วิสุทธิชน

  • ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้สอนอะไรเราเกี่ยวกับวิธีที่เราจะรู้จักพระบิดาบนสวรรค์ (โดยใช้คำพูดของพวกเขาเอง นักเรียนควรระบุความจริงต่อไปนี้ เราจะรู้จักพระบิดาบนสวรรค์ผ่านทางวิญญาณแห่งการเปิดเผย)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจวิญญาณแห่งการเปิดเผย เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์ ขอให้นักเรียนฟังว่าวิญญาณแห่งการเปิดเผยคืออะไร

ภาพ
เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

“การเปิดเผยเป็นการสื่อสารจากพระผู้เป็นเจ้ามายังบุตรธิดาของพระองค์บนแผ่นดินโลกและเป็นพรสำคัญประการหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับของประทานและความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธสอนว่า “พระวิญญาณบริสุทธิ์คือผู้เปิดเผย” (คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 142)

“วิญญาณแห่งการเปิดเผยมีให้ทุกคนที่รับศาสนพิธีแห่งความรอดของบัพติศมาโดยลงไปในน้ำทั้งตัวเพื่อการปลดบาปและการวางมือเพื่อของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยอำนาจฐานะปุโรหิตที่ถูกต้อง—พร้อมกับผู้ที่กระทำด้วยศรัทธาเพื่อให้คำสั่งฐานะปุโรหิตเกิดสัมฤทธิผลในการ ‘รับพระวิญญาณบริสุทธิ์’” (“วิญญาณแห่งการเปิดเผย,” เลียโฮนา, พ.ค. 2011, 109–110)

  • วิญญาณแห่งการเปิดเผยคืออะไร

  • การเปิดเผยผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยให้เรารู้จักพระบิดาบนสวรรค์ได้อย่างไร

ท่านอาจต้องการเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันว่าการเปิดเผยผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยให้พวกเขารู้จักพระบิดาบนสวรรค์ดีขึ้นอย่างไร ท่านอาจแบ่งปันประสบการณ์ของท่านเอง กระตุ้นให้นักเรียนพยายามมีค่าควรต่อความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อพวกเขาจะรู้จักพระบิดาบนสวรรค์ดีขึ้นต่อไป

สรุป เอเฟซัส 1:19–23 โดยอธิบายว่าเปาโลสอนต่อเกี่ยวกับมรดกที่สัญญาไว้ของวิสุทธิชนและตำแหน่งของพระเยซูคริสต์ในฐานะประมุขของศาสนจักรของพระองค์

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

เอเฟซัส 1:13 “พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา”

พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญาเป็นอีกชื่อหนึ่งของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ชื่อนี้ใช้ในความหมายถึงการผนึกและยืนยันอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ดู คพ. 76:53; 132:7)

“พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา … ทรงยืนยันการกระทำที่ชอบธรรม ศาสนพิธี และพันธสัญญาของมนุษย์ดังเป็นที่ยอมรับต่อพระผู้เป็นเจ้า พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญาเป็นพยานต่อพระบิดาว่าได้ปฏิบัติศาสนพิธีแห่งความรอดอย่างถูกต้องและได้รักษาพันธสัญญาที่เกี่ยวข้องกัน

“คนที่ได้รับการผนึกโดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญาได้รับทั้งหมดที่พระบิดามี [ดู เอเฟซัส 1:13–14; คพ. 76:51–60] พันธสัญญาและการปฏิบัติทั้งหมดต้องได้รับการผนึกโดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญาเพื่อให้เกิดผลหลังจากชีวิตนี้ [ดู คพ. 132:7, 18–19, 26]” (คู่มือพระคัมภีร์, “พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา,” scriptures.lds.org)

เมื่อเปาโลเขียนว่าวิสุทธิชน “ได้รับการประทับตราด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่ทรงสัญญาไว้” (เอเฟซัส 1:13) เขาหมายถึงคำสัญญาถึงชีวิตนิรันดร์ที่ประทานแก่วิสุทธิชนที่ซื่อสัตย์ในความเป็นมรรตัย เมื่อคนได้รับการผนึกโดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา พระวิญญาณบริสุทธิ์ยืนยันว่าพวกเขาเป็นทายาทแห่งซีเลสเชียลแม้ว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ บางครั้งหลักคำสอนนี้หมายถึงมีการยืนยันการเรียกและการเลือกของคนๆ หนึ่ง (ดู 2 เปโตร 1:4–19; คพ. 131:5–6; คพ. 132:6–7; บรูซ อาร์. แมคคองกี, Doctrinal New Testament Commentary, 3 vols. [1965–73], 2:493–95; History of the Church, 3:379–80)

เมื่อกล่าวถึงพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา ประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธกล่าวว่า

พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญาคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้ที่วางและประทับตราอนุญาตทุกศาสนพิธีไม่ว่าจะเป็น บัพติศมา การยืนยัน การแต่งตั้ง การแต่งงาน คำสัญญาคือพรที่ได้รับผ่านความซื่อสัตย์

“หากบุคคลหนึ่งฝ่าฝืนพันธสัญญา ไม่ว่าจะเป็นพันธสัญญาบัพติศมา การแต่งตั้ง การแต่งงาน หรือพันธสัญญาอื่น พระวิญญาณจะถอนตราประทับอนุญาต และจะไม่ได้รับพร

“ศาสนพิธีทุกอย่างได้รับการผนึกด้วยคำสัญญาโดยมีรางวัลซึ่งขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ถอนตราประทับอนุญาตเพราะไม่มีการรักษาพันธสัญญา [ดู คพ. 76:52–53; 132:7]” (Doctrines of Salvation, comp. Bruce R. McConkie, 3 vols. [1954–56], 1:45)

เอเฟซัส 1:13–14 “มัดจำในการรับมรดกของเรา”

วลี “มัดจำในการรับมรดกของเรา” ใน เอเฟซัส 1:14 บ่งชี้ว่าเมื่อวิสุทธิชนที่ซื่อสัตย์ได้รับการผนึกโดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา พวกเขาจะได้รับการยืนยันส่วนตัวว่าพวกเขาจะได้รับอาณาจักรซีเลสเชียลเป็นมรดก คำว่า มัดจำ ในที่นี้หมายถึง “หมายสำคัญของสิ่งที่จะเกิดขึ้น” (Merriam-Webster’s Collegiate Dictionary, 11th ed. [2003], “earnest”) “ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นของประทานล้ำค่าที่สุดอย่างหนึ่งจากพระบิดาบนสวรรค์ของเรา … ของประทานดังกล่าวคือการลิ้มรสปีตินิรันดร์และคำสัญญาแห่งชีวิตนิรันดร์ล่วงหน้า” (สั่งสอนกิตติคุณของเรา: แนวทางการรับใช้งานเผยแผ่ [2004], 65)