2010–2019
การเปิดเผยสำหรับศาสนจักร การเปิดเผยสำหรับชีวิตเรา
เมษายน 2018


การเปิดเผยสำหรับศาสนจักร การเปิดเผยสำหรับชีวิตเรา

ในวันข้างหน้า เราจะรอดทางวิญญาณไม่ได้หากปราศจากอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่มีให้ตลอดเวลา ทั้งนำทาง ชี้ทาง และปลอบโยน

นับเป็นสิทธิพิเศษที่ได้เฉลิมฉลองอีสเตอร์กับท่านในวันอาทิตย์นี้ของการประชุมใหญ่สามัญ! ไม่มีสิ่งใดเหมาะกับการรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่สุดที่เคยเกิดขึ้นบนโลกนี้มากไปกว่าการนมัสการพระสัตภาวะองค์สำคัญที่สุดที่เคยดำเนินพระชนม์ชีพบนโลกนี้ ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เรานมัสการพระองค์ผู้ทรงเริ่มการชดใช้อันไม่มีขอบเขตในสวนเกทเสมนี พระองค์เต็มพระทัยทนทุกข์เพราะบาปและความอ่อนแอของเราแต่ละคน ซึ่งทำให้พระองค์ “เลือดออกจากทุกขุมขน”1 พระองค์ถูกตรึงบนกางเขนแห่งคัลวารี2 และในวันที่สามทรงฟื้นคืนพระชนม์เป็นองค์แรกในบรรดาบุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์ ข้าพเจ้ารักพระองค์และเป็นพยานว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่! พระองค์ทรงนำและนำทางศาสนจักรของพระองค์

หากปราศจากการชดใช้อันไม่มีขอบเขตของพระผู้ไถ่ เราคงไม่มีหวังจะได้กลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ของเรา หากปราศจากการฟื้นคืนพระชนม์ ความตายคงเป็นจุดจบ การชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดทำให้ชีวิตนิรันดร์เกิดขึ้นได้และความเป็นอมตะเกิดขึ้นกับทุกคน

เพราะพระพันธกิจอันล้ำเลิศและสันติสุขที่พระองค์ทรงมอบให้ผู้ติดตามพระองค์ข้าพเจ้ากับเวนดี้ภรรยาจึงรู้สึกถึงการปลอบโยนในวันที่ 2 มกราคม ปี 2018 เมื่อเสียงโทรศัพท์ปลุกเรา บอกเราว่าประธานโธมัส เอส. มอนสันก้าวผ่านม่านไปแล้ว

ภาพ
ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันและประธานประธานโธมัส เอส. มอนสัน

เราคิดถึงประธานมอนสันมาก! เรายกย่องชีวิตและมรดกของท่าน ยักษ์ใหญ่ทางวิญญาณได้ฝากรอยประทับไม่รู้เลือนไว้บนทุกคนที่รู้จักท่านและบนศาสนจักรที่ท่านรัก

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม ปี 2018 ในห้องชั้นบนของพระวิหารซอลท์เลค เราจัดตั้งฝ่ายประธานสูงสุดชุดใหม่ในรูปแบบที่เรียบง่ายทว่าศักดิ์สิทธิ์ตามที่พระเจ้าทรงกำหนด จากนั้น ที่การชุมนุมศักดิ์สิทธิ์เมื่อเช้าวานนี้ สมาชิกของศาสนจักรทั่วโลกยกมือรับรองการปฏิบัติก่อนหน้านี้ของอัครสาวก ข้าพเจ้าน้อมสำนึกคุณต่อการสนับสนุนของท่าน

ข้าพเจ้าสำนึกคุณต่อผู้ที่อยู่ในตำแหน่งก่อนข้าพเจ้าเช่นกัน นับเป็นสิทธิพิเศษที่ได้รับใช้ในโควรัมอัครสาวกสิบสองนาน 34 ปี และรู้จักประธานศาสนจักร 10 ท่านจาก 16 ท่านก่อนข้าพเจ้าเป็นการส่วนตัว ข้าพเจ้าเรียนรู้มากมายจากท่านเหล่านั้น

ข้าพเจ้าเป็นหนี้บรรพบุรุษของข้าพเจ้ามากเช่นกัน คุณทวดทั้งแปดคนของข้าพเจ้าเป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสศาสนจักรในยุโรป ผู้กล้าทั้งแปดท่านนี้เสียสละทุกอย่างเพื่อมาไซอัน แต่ในยุคต่อๆ มา ใช่ว่าทุกคนจะยังคงมุ่งมั่นเหมือนเดิม ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงไม่ได้เติบใหญ่ในบ้านที่มีพระกิตติคุณเป็นศูนย์กลาง

ภาพ
บิดามารดาของประธานเนลสัน
ภาพ
ครอบครัวประธานเนลสันสมัยท่านยังหนุ่ม

ข้าพเจ้าเคารพบิดามารดา พวกท่านสำคัญต่อข้าพเจ้ามากและสอนบทเรียนสำคัญมากมาย ข้าพเจ้าไม่สามารถขอบคุณพวกท่านได้มากพอสำหรับชีวิตครอบครัวแสนสุขที่พวกท่านสร้างให้ข้าพเจ้าและพี่น้อง แต่ข้าพเจ้ารู้ตั้งแต่เด็กว่าข้าพเจ้าขาดบางอย่าง วันหนึ่งข้าพเจ้ากระโดดขึ้นรถรางไปร้านหนังสือแอลดีเอสเพื่อหาหนังสือเกี่ยวกับศาสนจักร ข้าพเจ้าชอบเรียนพระกิตติคุณ

เมื่อข้าพเจ้าเข้าใจเรื่องพระคำแห่งปัญญา ข้าพเจ้าต้องการให้บิดามารดาดำเนินชีวิตตามกฎนั้น ด้วยเหตุนี้ วันหนึ่งเมื่อยังเด็กมาก ข้าพเจ้าลงไปห้องใต้ดินและขว้างขวดเหล้าทุกขวดลงบนพื้นคอนกรีต! ข้าพเจ้าคิดว่าคุณพ่อจะลงโทษ แต่ท่านไม่พูดสักคำ

พอโตขึ้นและเริ่มเข้าใจความงดงามในแผนของพระบิดาบนสวรรค์ ข้าพเจ้าพูดกับตนเองบ่อยๆ ว่า “ฉันไม่ต้องการของขวัญคริสต์มาสอีกแล้ว! ฉันต้องการแค่ได้ผนึกกับพ่อแม่’” เหตุการณ์ที่รอคอยมานานนั้นไม่เกิดขึ้นจนคุณพ่อคุณแม่เลยวัย 80 จึงได้เกิดขึ้น ข้าพเจ้าไม่สามารถบรรยายปีติที่รู้สึกในวันนั้นได้3 และทุกวันข้าพเจ้ารู้สึกได้ถึงปีติของการผนึกของพวกท่านและที่ข้าพเจ้าได้ผนึกกับพวกท่าน

ภาพ
รัสเซลล์และแดนท์เซล เนลสัน

ในปี 1945 ขณะอยู่ในโรงเรียนแพทย์ ข้าพเจ้าแต่งงานกับแดนท์เซล ไวท์ในพระวิหารซอลท์เลค เธอกับข้าพเจ้าได้รับพรด้วยบุตรสาวที่ยอดเยี่ยมเก้าคนและบุตรชายที่ล้ำค่าหนึ่งคน ปัจจุบันครอบครัวใหญ่ของเราเป็นปีติใหญ่หลวงที่สุดอย่างหนึ่งของชีวิตข้าพเจ้า

ภาพ
ประธานและซิสเตอร์เนลสันกับลูกสาว
ภาพ
ประธานเนลสันกับลูกชาย

ในปี 2005 หลังจากแต่งงานราว 60 ปี แดนท์เซลที่รักของข้าพเจ้าสิ้นชีวิตอย่างไม่คาดคิด ข้าพเจ้าโศกเศร้าจนไม่มีแก่จิตแก่ใจทำงานอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ข่าวสารของอีสเตอร์และคำสัญญาเรื่องการฟื้นคืนชีวิตประคองข้าพเจ้าไว้

ภาพ
เวนดี้กับรัสเซลล์ เนลสัน

จากนั้นพระเจ้าทรงนำเวนดี้ วัตสันมาอยู่ข้างกายข้าพเจ้า เรารับการผนึกในพระวิหารซอลท์เลคเมื่อวันที่ 6 เมษายน ปี 2006 ข้าพเจ้ารักเธอมาก! เธอเป็นสตรีที่พิเศษมาก—เป็นพรใหญ่หลวงต่อข้าพเจ้า ต่อครอบครัวเรา และต่อทั้งศาสนจักร

พรแต่ละอย่างนี้เกิดขึ้นเพราะการแสวงหาและเอาใจใส่การกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ประธานลอเรนโซ สโนว์กล่าวว่า “นี่คือสิทธิพิเศษอันสำคัญยิ่งของวิสุทธิชนยุคสุดท้าย … คือเรามีสิทธิ์รับการแสดงให้ประจักษ์ของพระวิญญาณทุกวันในชีวิตเรา”4

สิ่งหนึ่งที่พระวิญญาณประทับรอยซ้ำๆ ในความคิดข้าพเจ้าตั้งแต่การเรียกเป็นประธานศาสนจักรคนใหม่คือพระเจ้าเต็มพระทัยเปิดเผยพระดำริและพระประสงค์ของพระองค์ สิทธิพิเศษของการได้รับการเปิดเผยเป็นของประทานสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่บุตรธิดาของพระองค์

โดยผ่านการแสดงให้ประจักษ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าจะทรงช่วยเหลือเราในกิจการอันชอบธรรมทั้งปวง ข้าพเจ้าจำได้ในห้องผ่าตัด ข้าพเจ้าเคยเฝ้ามองผู้ป่วย—ไม่ทราบจะทำการผ่าตัดที่ไม่เคยทำมาก่อนอย่างไร—และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงแสดงแผนภาพให้เห็นเทคนิคนั้นในสมองข้าพเจ้า5

เพื่อให้เวนดีย์รับคำขอแต่งงาน ข้าพเจ้าบอกเธอว่า “ผมรู้เรื่องการเปิดเผยและรู้วิธีรับการเปิดเผย” น่าชมเชยตรงที่ — และเท่าที่ข้าพเจ้าทราบ—เธอแสวงหาและได้รับการเปิดเผยของเธอเองเกี่ยวกับเราเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้เธอกล้ารับคำขอ

ในฐานะสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสอง ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอการเปิดเผยทุกวันและน้อมขอบพระทัยพระเจ้าทุกครั้งที่พระองค์ตรัสกับใจและความคิดข้าพเจ้า

ลองนึกภาพปาฏิหาริย์ของการเปิดเผย! ไม่ว่าการเรียกของเราเป็นอะไร เราสามารถสวดอ้อนวอนพระบิดาบนสวรรค์ รับการนำทางและการชี้นำ รับการเตือนเกี่ยวกับอันตรายและสิ่งรบกวนเราสามารถบรรลุผลสำเร็จในสิ่งที่เราไม่สามารถทำด้วยตนเอง ถ้าเราจะรับพระวิญญาณบริสุทธิ์จริงๆ ฝึกแยกแยะ และเข้าใจการกระตุ้นเตือนของพระองค์ เราจะได้รับการนำทางทั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็ก

เมื่อข้าพเจ้าประสบงานยากของการเลือกที่ปรึกษาสองคน ข้าพเจ้าสงสัยว่าจะเลือกเพียงสองคนจากสิบสองคนที่ข้าพเจ้ารักและเคารพได้อย่างไร

เพราะข้าพเจ้าทราบว่าการดลใจที่ดีขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ดี ข้าพเจ้าจึงพูดคุยกับอัครสาวกทีละคนร่วมกับการสวดอ้อนวอน6 จากนั้นจึงปลีกตัวเข้าไปในห้องส่วนตัวในพระวิหารและแสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้า ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระเจ้าทรงแนะนำให้เลือกประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์และประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์เป็นที่ปรึกษาของข้าพเจ้าในฝ่ายประธานสูงสุด

ในทำนองเดียวกัน ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระเจ้าทรงดลใจให้เรียกเอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กองและเอ็ลเดอร์อูลิส์เสส ซวาเรสเป็นอัครสาวก ข้าพเจ้าและเราขอต้อนรับท่านทั้งสองสู่ภราดรภาพพิเศษที่สุดของการรับใช้

เมื่อเราประชุมสภาของฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสอง ห้องประชุมของเรากลายเป็นห้องของการเปิดเผย พระวิญญาณสถิตที่นั่นอย่างชัดแจ้ง ขณะแก้ไขปัญหาซับซ้อน ขั้นตอนที่น่าตื่นเต้นเผยออกมาขณะอัครสาวกแต่ละท่านแสดงความคิดและความเห็นอย่างเสรี แม้เราจะมีมุมมองต่างกันตอนแรก แต่เรารู้สึกรักกันเสมอ เอกภาพของเราช่วยให้เรามองเห็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อศาสนจักรของพระองค์

ในการประชุมของเรา เราไม่ใช้เสียงส่วนใหญ่! เราฟังกันและพูดคุยกันร่วมกับการสวดอ้อนวอนจนเราเป็นหนึ่งเดียวกัน จากนั้นเมื่อเราเห็นพ้องต้องกันแล้ว อิทธิพลที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวของพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมาก! เราประสบสิ่งที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธรู้เมื่อท่านสอนว่า “โดยเอกภาพของความรู้สึกเราจะมีพลังร่วมกันกับพระผู้เป็นเจ้า”2 สมาชิกในฝ่ายประธานสูงสุดหรือโควรัมอัครสาวกสิบสองจะไม่ใช้เพียงดุลพินิจที่ดีที่สุดของตนตัดสินใจให้ศาสนจักรของพระเจ้า!

พี่น้องทั้งหลาย เราจะเป็นบุรุษและสตรี—ผู้รับใช้เหมือนพระคริสต์—ดังที่พระเจ้าทรงต้องการให้เราเป็นได้อย่างไร เราจะพบคำตอบของคำถามที่ทำให้เราฉงนได้อย่างไร ถ้าประสบการณ์อันล้ำเลิศของโจเซฟสมิธในป่าศักดิ์สิทธิ์สอนเราบางอย่าง แสดงว่าสวรรค์เปิดและพระผู้เป็นเจ้าตรัสกับบุตรธิดาของพระองค์

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธวางรูปแบบให้เราทำตามในการแก้ไขปัญหาของเรา เพราะคำสัญญาของยากอบที่ว่าถ้าเราขาดปัญญา ให้เราทูลขอพระผู้เป็นเจ้า8 เด็กหนุ่มโจเซฟจึงนำคำถามไปทูลพระบิดาบนสวรรค์โดยตรง โจเซฟแสวงหาการเปิดเผยส่วนตัว และการแสวงหานั้นเปิดสมัยการประทานสุดท้ายนี้

ในทำนองเดียวกัน การแสวงหาของท่านจะเปิดอะไรให้ท่าน ท่านขาดปัญญาเรื่องใด ท่านรู้สึกว่าท่านต้องรู้หรือเข้าใจอะไรโดยด่วน จงทำตามแบบอย่างของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ หาที่เงียบๆ ที่ท่านจะไปเป็นประจำได้ นอบน้อมถ่อมตนต่อพระผู้เป็นเจ้า ระบายความในใจต่อพระบิดาบนสวรรค์ของท่าน หันไปขอคำตอบและการปลอบโยนจากพระองค์

สวดอ้อนวอนในพระนามของพระเยซูคริสต์เกี่ยวกับข้อกังวล ความกลัว ความอ่อนแอของท่าน—ใช่ ความปรารถนาของใจท่าน จากนั้นจงฟัง! เขียนความคิดที่เข้ามาในจิตใจท่าน บันทึกความรู้สึกและทำตามที่ท่านได้รับการกระตุ้นเตือนให้ทำ เมื่อท่านทำกระบวนการนี้ซ้ำวันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า ท่านจะ “เติบโตไปสู่หลักธรรมแห่งการเปิดเผย”9

พระผู้เป็นเจ้าทรง ต้องการตรัสกับท่านจริงหรือ จริง! “ดังมนุษย์จะยื่นแขนอันบอบบางของเขาออกไปหยุดแม่น้ำมิสซูรีในวิถีทางของมัน … ไม่ได้ฉันใด, ก็จะขัดขวางพระผู้ทรงฤทธานุภาพมิให้เทความรู้จากสวรรค์ลงมาบนศีรษะของวิสุทธิชนยุคสุดท้ายไม่ได้ฉันนั้น”10

ท่านไม่ต้องสงสัยว่าอะไรจริง11 ท่านไม่ต้องสงสัยว่าท่านจะวางใจใครได้อย่างปลอดภัย โดยผ่านการเปิดเผยส่วนตัว ท่านสามารถรับพยานของท่านเองว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า โจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ และนี่คือศาสนจักรของพระเจ้า ไม่ว่าคนอื่นจะพูดหรือทำอะไร ไม่มีใครสามารถช่วงชิงพยานที่เกิดขึ้นในใจและในความคิดท่านได้เกี่ยวกับความจริงนั้น

ข้าพเจ้าขอให้ท่านเพิ่มพูนความสามารถทางวิญญาณปัจจุบันในการรับการเปิดเผยส่วนตัว เพราะพระเจ้าทรงสัญญาว่า “หากเจ้าจะ [แสวงหา], เจ้าจะได้รับการเปิดเผยมาเติมการเปิดเผย, ความรู้มาเติมความรู้, เพื่อเจ้าจะรู้ความลี้ลับและสิ่งที่ส่งเสริมความสงบสุข—สิ่งนั้นที่นำมาซึ่งปีติ, สิ่งนั้นที่นำมาซึ่งนิรันดรแห่งชีวิต”12

มีอีกมากที่พระบิดาในสวรรค์ทรงต้องการให้ท่านรู้ ดังที่เอ็ลเดอร์นีล เอ. แม็กซ์เวลล์สอน “เห็นชัดว่าพระบิดาและพระบุตรกำลังเผยความลับของจักรวาลให้คนที่มีตามองเห็นและมีหูได้ยิน !”13

ไม่มีสิ่งใดเปิดฟ้าสวรรค์เหมือนการผนวกกันของความบริสุทธิ์ที่เพิ่มขึ้น การเชื่อฟังอย่างเคร่งครัด การแสวงหาอย่างจริงจัง การดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์ในพระคัมภีร์มอรมอนทุกวัน14 และเวลาที่ทุ่มเทให้งานพระวิหารและประวัติครอบครัวเป็นประจำ

แน่นอนว่าอาจมีบางครั้งที่ท่านรู้สึกประหนึ่งสวรรค์ปิด แต่ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าเมื่อท่านเชื่อฟังต่อไป โดยแสคงความสำนึกคุณต่อพรทุกประการที่พระเจ้าประทานแก่ท่าน และเมื่อท่านให้เกียรติตารางเวลาของพระเจ้าอย่างอดทน ท่านจะได้รับความรู้และความเข้าใจที่ท่านแสวงหา พรทุกประการที่พระเจ้ามีให้ท่านจะตามมา—แม้กระทั่งปาฏิหาริย์ การเปิดเผยส่วนตัวจะให้พรนั้นแก่ท่าน

ข้าพเจ้ามองอนาคตในแง่ดี อนาคตเต็มไปด้วยโอกาสให้เราแต่ละคนก้าวหน้า เอื้อประโยชน์ และนำพระกิตติคุณไปทุกมุมโลก แต่ข้าพเจ้าไม่ไร้เดียงสาเกี่ยวกับวันข้างหน้าเช่นกัน เราอยู่ในโลกที่ซับซ้อนและขัดแย้งกันมากขึ้น สภาพพร้อมใช้สื่อสังคมตลอดเวลาและวัฏจักรข่าว 24 ชั่วโมงกระหน่ำเราด้วยข่าวสารที่ไร้เมตตา ถ้าเราปรารถนาจะกรองเสียงและปรัชญามากมายของมนุษย์ที่โจมตีความจริง เราต้องฝึกรับการเปิดเผย

พระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา พระเยซูคริสต์ จะทรงทำงานยิ่งใหญ่ที่สุดบางอย่างระหว่างเวลานี้และเมื่อพระองค์เสด็จมาอีกครั้ง เราจะเห็นข้อบ่งชี้อันน่าอัศจรรย์ว่าพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ ทรงควบคุมดูแลศาสนจักรนี้ในฤทธานุภาพและรัศมีภาพ แต่ในวันข้างหน้า เราจะรอดทางวิญญาณไม่ได้หากปราศจากอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่มีให้ตลอดเวลา ทั้งนำทาง ชี้ทาง และปลอบโยน

พี่น้องที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านเพิ่มสมรรถภาพทางวิญญาณเพื่อรับการเปิดเผย ขอให้วันอาทิตย์อีสเตอร์นี้เป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตท่าน จงเลือกทำงานทางวิญญาณที่ต้องใช้ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์และได้ยินสุรเสียงของพระวิญญาณบ่อยขึ้นและชัดขึ้น

ข้าพเจ้าชักชวนท่านในวันสะบาโตอีสเตอร์นี้พร้อมกับโมโรไนให้ “มาหาพระคริสต์, และยึดมั่นในของประทานที่ดีไว้ทุกอย่าง”15 โดยเริ่มกับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งสามารถเปลี่ยนและจะเปลี่ยนชีวิตท่าน

เราเป็นผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ ความจริงสำคัญที่สุดที่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นพยานต่อเราเสมอคือพระเยซู คือ พระคริสต์ พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงพระชนม์! พระองค์ทรงเป็นพระผู้วิงวอนพระบิดาแทนเรา พระผู้ทรงเป็นแบบอย่าง และพระผู้ไถ่ของเราในวันอาทิตย์อีสเตอร์นี้ เรารำลึกถึงการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ การฟื้นคืนพระชนม์ และความเป็นพระเจ้าของพระองค์

นี่คือศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ ข้าพเจ้าเป็นพยานดังนี้ พร้อมกับแสดงความรักต่อท่าน ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน