เซมินารี
หน่วย 1: วัน 4 ภาพรวมของพระคัมภีร์มอรมอน


หน่วย 1: วัน 4

ภาพรวมของพระคัมภีร์มอรมอน

คำนำ

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธบรรยายเหตุการณ์แวดล้อมในการมาปรากฏของพระคัมภีร์มอรมอน โดยศึกษาเรื่องนี้ประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับการเรียกโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์และบทบาทอันศักดิ์สิทธิ์ของพระคัมภีร์ในการฟื้นฟูความสมบูรณ์แห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์จะลึกซึ้ง บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านคุ้นเคยมากขึ้นกับวิธีเขียนพระคัมภีร์มอรมอนในสมัยโบราณ ศาสดาพยากรณ์มอรมอนและโมโรไนเป็นพยานถึงการนำทางของพระเจ้าขณะพวกท่านเขียนและรวบรวมงานเขียนของศาสดาพยากรณ์อีกหลายท่านบนแผ่นจารึกทองคำ ขณะที่ท่านศึกษา ให้มองหาหลักฐานยืนยันพระหัตถ์ของพระเจ้าในการนำพระคัมภีร์มอรมอนออกมาและบทบาทที่พระคัมภีร์มอรมอนจะมีได้ ในการนำทางชีวิตท่าน

“ประจักษ์พยานของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ”

ท่านจะตอบคำถามนี้ว่าอย่างไร “ศาสนจักรของคุณได้พระคัมภีร์มอรมอนมาอย่างไร”

“ประจักษ์พยานของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ” อยู่ในเนื้อหาคำนำตอนต้นของพระคัมภีร์มอรมอน มีข้อความตัดตอนมาจากโจเซฟ สมิธ—ประวัติ ซึ่งอยู่ในพระคัมภีร์ไข่มุกอันล้ำค่า ประจักษ์พยานดังกล่าวบรรยายการออกมาของพระคัมภีร์มอรมอนด้วยคำพูดของท่านศาสดาพยากรณ์ ขอให้ท่านอ่านเรื่องราวทั้งหมดจากโจเซฟ สมิธ—ประวัติในระหว่างการศึกษาพระคัมภีร์ประจำวันของท่าน

เพราะ “ประจักษ์พยานของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ” ไม่มีเลขข้อ บทนี้จึงอ้างอิงโจเซฟ สมิธ—ประวัติเพื่อให้ท่านหางานมอบหมายการอ่านได้ง่ายขึ้น ขณะศึกษาประจักษ์พยานของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ ให้หาหลักฐานยืนยันว่า พระคัมภีร์มอรมอนออกมาโดยเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า

อ่านโจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:29–35, 42–43 ขีดเส้นใต้รายละเอียดเกี่ยวกับการมาเยือนโจเซฟ สมิธของ โมโร-ไน ที่ท่านอยากรวมไว้ด้วยถ้าท่านกำลังอธิบายเหตุการณ์เหล่านี้ให้คนอื่นฟัง ในโจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:34 โม-โรไนกล่าวว่าสิ่งที่อยู่ในแผ่นจารึกทองคำคืออะไร

  1. ตอบคำถามต่อไปนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน สิ่งหนึ่งใน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:29–35, 42–43 ที่ท่านต้องการเน้นถ้าท่านกำลังเล่าเรื่องนี้กับคนอื่นคืออะไร เหตุใดสิ่งนั้นจึงสำคัญต่อท่าน

  2. อ่าน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:51–54 บันทึกความคิดของท่านเกี่ยวกับคำถามต่อไปนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน โจเซฟ สมิธเรียนรู้อะไรระหว่างการสนทนากับเทพโมโรไนในแต่ละปี ท่านคิดว่าเหตุใดจึงสำคัญที่โจเซฟต้องมีช่วงรับการสอนสี่ปีก่อนได้รับและแปลแผ่นจารึก

หลังจากเตรียมและรับการสอนช่วงหนึ่งแล้ว โจเซฟ สมิธจึงได้แผ่นจารึกในปี 1827 พร้อมความรับผิดชอบในการแปลโดยของประทานและเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า อ่าน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:59–60 และระบุภาระผูกพันที่เขาได้รับเกี่ยวกับแผ่นจารึกทองคำ

“คำอธิบายโดยสังเขปเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน”

ภาพ
มอรมอนย่อแผ่นจารึก

เพื่อเข้าใจว่าพระคัมภีร์มอรมอนจัดเรียงอย่างไร ให้อ่าน “คำอธิบายโดยสังเขปเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน” ซึ่งอยู่ต่อจาก “ประจักษ์พยานของศาสดาพยากรณ์โจ-เซฟ สมิธ” เปรียบเทียบสิ่งที่ท่านอ่านกับภาพประกอบที่พบท้ายบทนี้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแผ่นจารึกแต่ละชุดประกอบกันเป็นบันทึกพระคัมภีร์มอรมอนอย่างไร

หลายคนทำหน้าที่เป็นผู้จัดเก็บบันทึกในช่วงประวัติศาสตร์ของชาวนีไฟกับชาวเลมัน โดยเริ่มจากลี-ไฮและจบลงในอีก 1,000 ปีต่อมาด้วยมอรมอนศาสดาพยากรณ์และนักประวัติศาสตร์กับโมโรไนบุตรชายของเขา มอรมอนได้รับบัญชาจากพระเจ้าให้ย่องานเขียนของศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณเหล่านี้และประวัติศาสตร์ 1,000 ปีของผู้คนของเขา การย่อของเขาบันทึกไว้บนแผ่นจารึกของมอรมอน เป็นที่รู้จักในนามแผ่นจารึกทองคำเช่นกัน หลังจากมรณกรรมของมอรมอน โมโรไนบุตรชายเขาจบบันทึกและซ่อนแผ่นจารึกไว้จนกระทั่งมอบให้ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

ฮีลามัน 3:13–15 เป็นหนึ่งในข้อความหลายตอนที่มอร-มอนพูดถึงการย่อบันทึกชาวนีไฟ ขณะที่ท่านอ่าน ให้สังเกตว่ามีเขียนไว้มากเกินกว่ามอรมอนและโมโรไนจะสามารถรวมไว้บนแผ่นจารึกทองคำได้

อ่าน ถ้อยคำของมอรมอน 1:9 และ มอรมอน 8:34–35. เน้นคำหรือข้อความที่บอกว่าพระเจ้าทรงช่วยและนำทางมอรมอนและโมโรไนอย่างไรขณะพวกท่านรวบรวมบันทึกพระคัมภีร์มอรมอน

  1. ตอบคำถามต่อไปนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ถ้าท่านเป็นมอรมอนหรือโมโรไนและมีความรับผิดชอบในการย่องานเขียนหลายชุดของศาสดาพยากรณ์ให้เป็นบันทึกเดียว ท่านจะตัดสินใจอย่างไรว่าจะรวมอะไรไว้ในการย่อความของท่าน

จากข้อเหล่านี้ท่านสามารถอ่านได้ว่า ผู้เขียนพระคัมภีร์มอรมอนเห็นวันเวลาของเราและเขียนสิ่งซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเรา ท่านอาจต้องการจดสิ่งนี้ไว้ ในพระคัมภีร์ของท่านข้างๆ มอรมอน 8:35

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันเป็นพยานว่าพระคัมภีร์มอรมอน “เขียนไว้เพื่อสมัยของเรา” ท่านอธิบายว่าการทราบเรื่องนี้สามารถช่วยเราได้อย่างไรขณะที่เราศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน

“ชาวนีไฟ ไม่เคยมีหนังสือนี้ ชาวเลมันในสมัยโบราณก็เช่นกัน หนังสือนี้มี ไว้สำหรับเรา มอรมอนเขียนเมื่อใกล้สิ้นสุดอารยธรรมชาวนีไฟ ภายใต้การดลใจของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเห็นสิ่งทั้งปวงตั้งแต่ต้น ท่านย่อบันทึกหลายศตวรรษ เลือกเรื่อง คำพูด และเหตุการณ์ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเรามากที่สุด …

“หากพวกท่านเห็นวันเวลาของเราและเลือกสิ่งซึ่งจะมีค่าต่อเรามากที่สุด เราจะไม่ศึกษาพระคัมภีร์มอร-มอนหรอกหรือ เราควรถามตัวเราเองบ่อยๆ ว่า ‘เหตุใดพระเจ้าทรงดลใจมอรมอน (หรือโมโรไนหรือแอลมา) ให้รวมสิ่งนั้นไว้ ในบันทึกของท่าน ฉันได้รับบทเรียนอะไรบ้างจากสิ่งนั้นที่จะช่วยฉันดำเนินชีวิตในยุคสมัยนี้’ ” (“The Book of Mormon—Keystone of Our Religion,” Ensign, Nov. 1986, 6)

การถามคำถามแบบนี้ขณะที่ท่านศึกษาจะช่วยให้ท่านค้นพบหลักธรรมและหลักคำสอนที่พระเจ้าทรงทราบว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อท่านในชีวิตท่าน

ตรึกตรองชีวิตท่านตอนนี้ ใคร่ครวญคำถามที่ท่านมีหรือสถานการณ์ที่ท่านกำลังประสบซึ่งท่านอยากได้รับการนำทางบางอย่างจากพระผู้เป็นเจ้า เขียนหนึ่งหรือสองอย่างในบันทึกส่วนตัวของท่าน (ไม่ ใช่ สมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ที่ท่านจะให้ครูดู) ในระหว่างการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนแต่ละวันให้มองหาหลักธรรมที่ให้การนำทางและคำแนะนำเกี่ยวกับสถานการณ์เหล่านี้

ภาพ
ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

เกี่ยวกับการศึกษาพระคัมภีร์ประจำวัน ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์กล่าวว่า “ท่านอาจจะคิดว่าท่านยุ่งเกินไป วันละสิบหรือสิบห้านาทีกับพระคัมภีร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพระคัมภีร์มอรมอน สามารถให้ความเข้าใจอันน่าอัศจรรย์แก่ท่านได้เกี่ยวกับความจริงนิรันดร์อันสำคัญยิ่งซึ่งสงวนไว้โดยเดชานุภาพของพระผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์เพื่อเป็นพรแก่บุตรธิดาของพระองค์ ขณะอ่าน … ท่านจะใกล้ชิดพระองค์ผู้ทรงเป็นพระผู้ลิขิตความรอดของเรามากขึ้น” (“Rise to the Stature of the Divine within You,” Ensign, Nov. 1989, 97)

  1. ไตร่ตรองว่าท่านจะตั้งเป้าหมายอะไรเพื่อช่วยให้ท่านได้ประโยชน์มากที่สุดจากการอ่านพระคัมภีร์มอรมอนปีนี้ บันทึกเป้าหมายของท่านในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ ท่านอาจต้องการกำหนดเวลาประจำไว้ประเมินความก้าวหน้าของท่าน

  2. เขียนต่อท้ายงานมอบหมายของวันนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่า

    ฉันได้ศึกษาบทเรียนเรื่อง “ภาพรวมของพระคัมภีร์มอรมอน” และศึกษาเสร็จวันที่ (วันเดือนปี)

    คำถาม ความคิด และข้อคิดเพิ่มเติมที่ฉันอยากแบ่งปันกับครู