หน่วย 10: วัน 2

เจคอบ 7

คำนำ

เจคอบพึ่งพาประจักษ์พยานของตนและพระเจ้าเพื่อเอาชนะแนวคิดผิดๆ และการโต้เถียงของเชเร็มผู้ต่อต้านพระคริสต์ ผู้ต่อต้านพระคริสต์คือคนที่ต่อต้านพระคริสต์อย่างแข็งขันหรือรุนแรงและพยายามทำลายศรัทธาที่ผู้อื่นมีต่อพระองค์ ศาสนจักรที่แท้จริงของพระองค์ พระกิตติคุณ หรือแผนแห่งความรอดของพระองค์

เจคอบและเชเร็ม

เพื่อขัดขวางความพยายามของเชเร็ม เจคอบดึงพลังมาจากประสบการณ์ในอดีตที่ได้เพิ่มพูนศรัทธาของเขาในพระเยซูคริสต์ เขาพึ่งพาการนำทางของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ความรู้ของเขาในพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ ตลอดจนประจักษ์พยานของเขาในพระเยซูคริสต์ด้วย เมื่อเชเร็มเรียกร้องเครื่องหมายเพื่อพิสูจน์ว่าคำพูดของเจคอบเป็นความจริง เขาถูกพระผู้เป็นเจ้าลงทัณฑ์ เจคอบสรุปบันทึกของเขาโดยบรรยายว่าชาวนีไฟวางใจในพระเจ้าอย่างไรเมื่อพวกเขาเสริมกำลังตนเองต่อต้านชาวเลมัน ก่อนเจคอบสิ้นชีวิต เขาฝากฝังแผ่นจารึกเล็กไว้กับอีนัสบุตรชาย

เจคอบ 7:1–14

เจคอบวางใจพระเจ้าขณะเผชิญหน้ากับเชเร็มผู้ต่อต้านพระคริสต์

เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า “การทดสอบอันหนักหน่วงอย่างหนึ่งของมนุษย์เกิดขึ้นเมื่อความเชื่อของเราถูกตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์ ในชั่วขณะนั้น เราอาจต้องการตอบโต้อย่างก้าวร้าว … แต่นี่คือโอกาสสำคัญของการใคร่ครวญ สวดอ้อนวอน และดำเนินตามแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอด จำไว้ว่า องค์พระเยซูเองก็ถูกโลกดูหมิ่นและปฏิเสธ … เมื่อเราโต้ตอบผู้กล่าวร้ายเราดังเช่นพระผู้ช่วยให้รอดทรงทำ เราไม่เพียงเป็นเหมือนพระคริสต์เท่านั้น แต่เราจะเชื้อเชิญคนอื่นๆ ให้รู้สึกถึงความรักของพระองค์และติดตามพระองค์เช่นกัน” (“ความกล้าหาญแบบชาวคริสต์: คุณค่าแห่งความเป็นสานุศิษย์,” เลียโฮ-นา, พ.ย. 2008, หน้า 89)

นึกถึงเวลาที่ความเชื่อของท่านถูกตั้งคำถามหรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ ขณะที่ท่านศึกษา เจคอบ 7 ท่านจะเรียนรู้ว่าเจคอบประสบกับการวิพากษ์วิจารณ์ศรัทธาของเขาจากชายชื่อเชเร็มอย่างไรและเขาตอบสนองการท้าทายนี้สำเร็จอย่างไร

อ่าน เจคอบ 7:1–5 มองหาคำและวลีที่บ่งบอก (1) สิ่งที่เชเร็มพยายามทำ และ (2) วิธีที่เขาพยายามทำให้เป้าหมายของตนบรรลุผลสำเร็จ ท่านอาจต้องการทำเครื่องหมายในพระคัมภีร์ของท่าน

ตามที่กล่าวไว้ ใน เจคอบ 7:3 เชเร็มมีผลกระทบอะไรต่อผู้คน

1. สังเกตใน เจคอบ 7:4 ว่าเชเร็ม “มีการศึกษา” และ “ใช้พลังแห่งวาทศิลป์ได้มาก” เขียนในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่าเหตุใดบางครั้งจึงยากจะปกป้องศรัทธาของท่านจากคนที่เป็นเหมือนเชเร็ม

จำไว้ว่าทุกคนที่ตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์ศรัทธาของเราใช่ว่าจะมีเจตนาเดียวกับเชเร็ม แม้คนบางคนจะจงใจพยายามทำลายศรัทธาเหมือนเชเร็ม แต่หลายคนอาจตั้งคำถามเกี่ยวกับศรัทธาของเราเพราะพวกเขาอยากรู้หรือบางทีพวกเขาอาจจะได้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับความเชื่อของเรา

ขณะที่ท่านอ่าน เจคอบ 7:5–14 ให้ ไตร่ตรองว่าท่านจะตอบสนองอย่างไรต่อคนที่เป็นเหมือนเชเร็ม ขณะศึกษาการตอบสนองของเจคอบ ท่านจะเห็นว่า เมื่อเราวางใจพระเจ้าเราสามารถเอาชนะการท้าทายศรัทธาของเราได้ ท่านอาจต้องการเขียนหลักธรรมนี้ไว้ตรงช่องว่างริมหน้าพระคัมภีร์ของท่านใกล้กับข้อเหล่านี้ มองหาวิธีที่เจคอบแสดงให้เห็นหลักธรรมดังกล่าวขณะเผชิญหน้ากับเชเร็ม

ในแผนภูมิด้านล่าง ให้อ่านข้อความจาก เจคอบ 7:5–14 ในคอลัมน์แรกและจับคู่ข้ออ้างอิงนั้นกับข้อความในคอลัมน์ที่สองซึ่งบรรยายได้ดีที่สุดว่าเจคอบวางใจพระเจ้าอย่างไรในข้อนั้น เขียนตัวอักษรของข้อความไว้บนบรรทัดติดกับพระคัมภีร์อ้างอิง

สิ่งที่เจคอบทำเพื่อวางใจพระเจ้า
เจคอบ 7:5 เจคอบ 7:8 เจคอบ 7:10–11 เจคอบ 7:12 เจคอบ 7:13–14	เขาเป็นพยานถึงพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ เขาปล่อยผลไว้ในพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้า เขาพึ่งการนำทางและพลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขานึกถึงประสบการณ์ในอดีตที่เคยเสริมสร้างศรัทธาของเขา เขาแบ่งปันประจักษ์พยานที่ได้รับผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์

ท่านสามารถตรวจคำตอบของกิจกรรมจับคู่นี้โดยดูคำตอบที่ถูกต้องท้ายบทนี้

ท่านสามารถเสริมสร้างประจักษ์พยานของท่านได้อย่างไรทั้งนี้เพื่อจะไม่หวั่นไหวเมื่อสิ่งที่ท่านเชื่อถูกตั้งคำถามหรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ สังเกตใน เจคอบ 7:5 ว่าเจคอบแสดงให้เห็นความจริงต่อไปนี้: ไม่มี ใครทำเราหวั่นไหวในศรัทธาได้ถ้าประจักษ์พยานของเราตั้งอยู่บนการเปิดเผยและประสบการณ์แท้จริงทางวิญญาณ ไตร่ตรองพลังแห่งประจักษ์พยานของท่านในพระเยซูคริสต์และสิ่งที่ท่านทำได้เพื่อเสริมสร้างประจักษ์พยานนั้น

วิธีที่เจคอบตอบสนองเชเร็มเป็นแบบอย่างให้เราดำเนินตามเมื่อเราตอบสนองบุคคลที่ตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์ศรัทธาของเรา

2. ตอบคำถามสามข้อด้านล่างลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านเพื่อช่วยท่านตรึกตรองสิ่งที่เจคอบทำเพื่อวางใจพระเจ้าและการกระทำเดียวกันนี้ได้ช่วยหรือจะช่วยท่านได้อย่างไรเมื่อคนอื่นๆ ท้าทายศรัทธาของท่าน

   1. สังเกตใน เจคอบ 7:5 ว่าเนื่องด้วยประสบการณ์ทางวิญญาณก่อนหน้านี้ของเจคอบ ศรัทธาของเขาจึงไม่หวั่นไหว มีประสบการณ์อะไรบ้างเสริมสร้างศรัทธาของท่าน การจดจำหรือบันทึกประสบการณ์เหล่านี้สามารถช่วยท่านได้อย่างไรเมื่อมีคนตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์ศรัทธาของท่าน

   2. ใน เจคอบ 7:8 เจคอบกล่าวว่า “พระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าทรงเทพระวิญญาณของพระองค์เข้ามาในจิตวิญญาณข้าพเจ้า” ท่านจำเป็นต้องทำอะไรจึงจะสามารถมีพระวิญญาณเทเข้ามาในจิตวิญญาณท่านได้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงช่วยท่านอย่างไรขณะท่านรับมือกับคำถามหรือคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับศรัทธาของท่าน

   3. นิสัยประจำวันของการศึกษาพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้ายจะช่วยท่านได้อย่างไรในสภาวการณ์ที่คนอื่นตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์ศรัทธาของท่าน (ดู เจคอบ 7:10–11)

   4. ท่านได้แบ่งปันประจักษ์พยานกับคนที่ตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์ศรัทธาของท่านเมื่อใด (ดูเจคอบ 7:12) อะไรคือผลที่เกิดขึ้น

   5. แทนที่จะพยายามพิสูจน์ความจริงของประจักษ์พยานของเขาเมื่อเชเร็มแสวงหาเครื่องหมาย เจคอบกลับปล่อยผลลัพธ์ไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า (ดู เจคอบ 7:14) สิ่งนั้นสามารถช่วยให้ท่านรู้ได้อย่างไรว่าท่านไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความจริงของประจักษ์พยานของท่านกับคนที่ท้าทายศรัทธาของท่าน

เจคอบ 7:15–23

เชเร็มถูกลงทัณฑ์ สารภาพ และสิ้นชีวิต อันเป็นเหตุให้ฝูงชนชาวนีไฟหันมาหาพระเจ้า

เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์สอนว่า

เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์

“เมื่อเราไม่ตอบโต้—เมื่อเราหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้และสกัดกั้นความรู้สึกโกรธ—เรา … ยืนหยัดกับพระผู้ช่วยให้รอด … เราแสดงความรักของพระองค์ออกไป ซึ่งเป็นพลังเพียงอย่างเดียวที่จะสยบปฏิปักษ์และตอบโต้ผู้กล่าวร้ายเราโดยไม่กล่าวร้ายพวกเขาเป็นการตอบแทน นั่นไม่ใช่ความอ่อนแอ นั่นคือความกล้าหาญแบบชาวคริสต์

“ตลอดหลายปีเราเรียนรู้ว่าการท้าทายศรัทธาของเราไม่ ใช่เรื่องใหม่ และก็ไม่น่าจะสูญสิ้นไป ในเร็วๆ นี้ แต่สานุศิษย์ที่แท้จริงของพระคริสต์มองเห็นโอกาสท่ามกลางการต่อต้าน …

“… นับเป็นเรื่องดีที่พระเจ้าทรงรู้ใจผู้ที่กล่าวร้ายเราและวิธีที่เราจะโต้ตอบคนเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อสานุศิษย์ที่แท้จริงแสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณ พวกท่านได้รับการดลใจที่พอเหมาะพอดีกับทุกสิ่งที่ท่านเผชิญ และในทุกสิ่งที่เผชิญ สานุศิษย์ที่แท้จริงโต้ตอบในวิธีที่อัญเชิญพระวิญญาณของพระเจ้า” (“ความกล้าหาญแบบชาวคริสต์: คุณค่าแห่งความเป็นสานุศิษย์,” หน้า–90)

ท่านคิดว่า “มองเห็นโอกาสท่ามกลางการต่อต้าน” หมายความว่าอย่างไร

ผลดีเกิดขึ้นได้เมื่อเราตอบสนองคนที่ท้าทายศรัทธาของเราในวิธีที่อัญเชิญพระวิญญาณของพระเจ้า อ่านเจ-คอบ 7:15–23 และมองหาผลดีอันเกิดจากการที่เจคอบเผชิญหน้ากับเชเร็ม

ท่านเห็นหลักฐานอะไรบ้างใน เจคอบ 7:21–22 ที่ยืนยันว่าเจคอบปรารถนาให้ประสบการณ์ของเขากับเชเร็มช่วยผู้อื่น

ตามที่กล่าวไว้ ใน เจคอบ 7:23 การที่เจคอบเผชิญหน้ากับเชเร็มสุดท้ายแล้วมีผลต่อฝูงชนอย่างไร

3. หลักธรรมข้อหนึ่งซึ่งเราเรียนรู้จากการที่เจคอบเผชิญหน้ากับเชเร็มคือเมื่อเราตอบคำถามหรือตอบโต้การวิพากษ์วิจารณ์ศรัทธาของเราในวิธีที่อัญเชิญพระวิญญาณ เราสามารถช่วยให้ผู้อื่นหันมาหาพระเจ้าได้ เขียนคำตอบของคำถามต่อไปนี้เกี่ยวกับหลักธรรมดังกล่าวลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน

   1. การรู้หลักธรรมนี้ทำให้ท่านช่วยคนอื่นๆ หันมาหาพระเจ้าได้อย่างไร

   2. ท่านจะพยายามประยุกต์ใช้หลักธรรมนี้อย่างไร

เจคอบ 7: 24–27

เจคอบพูดถึงชาวนีไฟรับมือกับชาวเลมันและสรุปบันทึกของเขา

อ่าน เจคอบ 7:24–27 ใช้ปากกาเน้นข้อความข้อหนึ่งใน เจคอบ 7:25 ที่เสริมข่าวสารของเจคอบเกี่ยวกับความสำคัญของการวางใจพระเจ้าขณะที่เราเผชิญการท้าทาย

4. ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน: สิ่งหนึ่งที่ท่านจะทำเพื่อเตรียมรับเวลาที่มีคนท้าทายศรัทธาของท่านคืออะไร

ถ้าท่านมีข้อกังวลเกี่ยวกับวิธีรับมือกับคำถามหรือคำวิพากษ์วิจารณ์ศรัทธาของท่าน ให้ศึกษาคู่มือ แน่ว- แน่ต่อศรัทธา: ศัพทานุกรมพระกิตติคุณ, คำปราศรัยการประชุมใหญ่ของเอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์เรื่อง “ความกล้าหาญแบบชาวคริสต์: คุณค่าแห่งความเป็นสานุศิษย์” (เลียโฮนา, พ.ย. 2008, หน้า 89–93) และแหล่งข้อมูลอื่นใน LDS.org และ youth.lds.org

5. เขียนต่อท้ายงานมอบหมายของวันนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่า

   ฉันได้ศึกษาเจคอบ 7 และศึกษาเสร็จวันที่ (วันเดือนปี)

   คำถาม ความคิด และข้อคิดเพิ่มเติมที่ฉันอยากแบ่งปันกับครู:

คำตอบสำหรับกิจกรรมจับคู่ตอนเริ่มบทเรียนนี้คือ: 1) ง, 2) ค, 3) ก, 4) จ, 5) ข