เซมินารี
หน่วย 29: วัน 1, มอรมอน 8:12–41


หน่วย 29: วัน 1

มอรมอน 8:12–41

คำนำ

หลังจากเขียนเกี่ยวกับความพินาศของผู้คนและความตายของบิดาแล้ว โมโรไนได้พยากรณ์เรื่องการออกมาของพระคัมภีร์มอรมอนและเตือนคนที่จะประณามพระคัมภีร์เล่มนี้ โมโรไนเห็นว่าบันทึกชาวนีไฟจะออกมาในวัน แห่งความชั่วร้ายใหญ่หลวง เมื่อคนเป็นอันมากจะรักทรัพย์สมบัติทางโลกมากกว่าพระผู้เป็นเจ้า เขาเป็นพยานว่าพระคัมภีร์มอรมอนจะ “มีค่าใหญ่หลวง” (มอรมอน 8:14) ท่ามกลางสภาพอันตรายทางวิญญาณของวันเวลาสุดท้าย

มอรมอน 8:12–32

โมโรไนพยากรณ์เรื่องการออกมาของพระคัมภีร์มอรมอน

เขียนสิ่งที่ท่านเชื่อว่าเป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่สุดบางชิ้นที่ท่านเคยได้รับ

ใช้เวลาสักครู่ตรึกตรองว่าเหตุใดของขวัญเหล่านี้จึงเป็นพรต่อท่าน

อ่านคำกล่าวต่อไปนี้จากประธานเอสรา แทฟท์ เบ็น-สัน “ข้าพเจ้าประสงค์จะพูดเกี่ยวกับของขวัญที่มีความหมายมากที่สุดชิ้นหนึ่งซึ่งให้แก่ชาวโลกในยุคปัจจุบัน ของขวัญที่ข้าพเจ้านึกถึงสำคัญกว่าสิ่งประดิษฐ์ ใดๆ อันเกิดจากการปฏิวัติเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม ของขวัญชิ้นนี้มีคุณค่าต่อมนุษยชาติยิ่งกว่าความก้าวหน้าอันน่าพิศวงมากมายที่เราเห็นในการแพทย์ปัจจุบัน มีค่าต่อมนุษยชาติยิ่งกว่าพัฒนาการของการบินหรือการเดินทางในอวกาศ ข้าพเจ้าพูดถึงของขวัญ .”

ท่านคิดว่าของขวัญที่ประธานเบ็นสันพูดถึงน่าจะหมายถึงอะไร

โมโรไนสอนเกี่ยวกับของขวัญชิ้นนี้ ใน มอรมอน 8 อ่าน มอรมอน 8:12–14 เพื่อดูว่าของขวัญดังกล่าวคืออะไร วลี “บันทึกนี้” หมายถึงพระคัมภีร์มอรมอน พระคัมภีร์มอรมอนคือของขวัญที่ประธานแบ็นสันพูดถึง (ดู “The Book of Mormon—Keystone of our Religion,” Ensign, Nov. 1986, 4) เขียน พระคัมภีร์มอรมอน ในช่องว่างท้ายคำกล่าวของประธานเบ็นสัน

ภาพ
แผ่นจารึกทองคำ

ดู มอรมอน 8:12–14 อีกครั้งเพื่อระบุสิ่งที่ โมโรไนสอนเกี่ยวกับคุณค่าของพระคัมภีร์มอรมอน เขาสอนอะไรเกี่ยวกับคุณค่าด้านการเงินของแผ่นจารึก โมโรไนอธิบายว่าแม้พระเจ้าจะไม่ทรงยอมให้ ใช้แผ่นจารึกเพื่อผลประโยชน์ด้านการเงิน แต่สิ่งที่เขียนไว้บนแผ่นจารึกมีค่าใหญ่หลวง

วิธีการที่พระคัมภีร์มอรมอนออกมาสามารถช่วยให้เราเข้าใจความสำคัญของหนังสือเล่มนี้ อ่าน มอรมอน 8:15–16 ระบุสิ่งที่ โมโรไนสอนว่าพระคัมภีร์มอรมอนจะออกมาอย่างไร

  1. ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน

    1. ท่านคิดว่าคนบางคนผู้มี “ดวงตาเห็นแก่รัศมีภาพ [ของพระผู้เป็นเจ้า]” เท่านั้นจึงจะนำพระคัมภีร์มอรมอนออกมาได้หมายความว่าอย่างไร (มอรมอน 8:15)

    2. ถ้อยคำที่ว่าพระคัมภีร์มอรมอนจะถูกนำออกมา “โดยเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า” มีความหมายต่อท่านอย่างไร (มอร-มอน 8:16) ท่านรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนเมื่อท่านอ่านถ้อยคำของโมโรไนใน มอรมอน 8:16

โมโรไนเตือนคนเหล่านั้นผู้จะประณามหรือต่อต้านพระคัมภีร์มอรมอน มองหาคำเตือนของเขาขณะที่ท่านอ่าน มอรมอน 8:17–22 เหตุใดจึงสำคัญที่ท่านต้องรู้ว่า “จุดประสงค์อันเป็นนิรันดร์ของพระเจ้าจะดำเนินต่อไป, จนสัญญาของพระองค์จะเกิดสัมฤทธิผลทั้งหมด” (มอรมอน 8:22)

โมโรไนอธิบายว่าพระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับ “วิสุทธิ-ชนเหล่านั้นผู้จากไปแล้วก่อนข้าพเจ้า” (มอรมอน 8:23)—รวมทั้งศาสดาพยากรณ์ เช่น นีไฟ เจคอบ อีนัส และแอลมา พระเจ้าทรงทำพันธสัญญาว่าพระองค์จะทรงนำถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์เหล่านี้ออกมาในยุคสุดท้าย ขณะที่ท่านศึกษา มอรมอน 8:23–25 ให้ระบุว่าศาสดาพยากรณ์เหล่านี้สวดอ้อนวอนให้ ใคร

ศาสดาพยากรณ์เหล่านี้สวดอ้อนวอนให้ “พี่น้องของพวกเขา” (มอรมอน 8:24) หมายถึงชาวเลมันและผู้สืบตระกูลของคนเหล่านั้น อีกทั้งสวดอ้อนวอนให้คนที่จะ “นำสิ่งเหล่านี้ออกมา” ในยุคสุดท้ายด้วย (มอร-มอน 8:25; ดู มอรมอน 8:16 ด้วย) ซึ่งหมายถึงศาสดาพยากรณ์ โจเซฟ สมิธ ผู้ ได้รับเลือกให้นำพระคัมภีร์มอรมอนออกมาสู่ โลกในยุคสุดท้ายนี้ (ดู คพ. 3:5–10) ศาสดาพยากรณ์หลายท่านในสมัยโบราณรู้จักโจเซฟ สมิธและสวดอ้อนวอนเพื่อความสำเร็จของท่านในการแปลและจัดพิมพ์พระคัมภีร์มอรมอน อันจะทำให้บรรลุจุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า (ดู มอรมอน 8:22, 24–25; คพ. 10:46)

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์ ประธานโควรัมอัครสาวกสิบสอง พูดถึงบทบาทที่ โจเซฟ สมิธมี ในการนำพระคัมภีร์มอรมอนออกมา ดังนี้

ภาพ
ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์

“การคิดเอาเองว่า [ โจเซฟ สมิธ] จัดทำ [พระคัมภีร์มอรมอน] โดยปราศจากความช่วยเหลือและปราศจากการดลใจนับว่าไร้สาระอย่างยิ่ง

“ความจริงคือท่านเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า—ไม่มีอะไรมากกว่านั้นและไม่มีอะไรน้อยกว่านั้น!

“พระคัมภีร์ ไม่ ได้มาจากโจเซฟ สมิธมากเท่ากับมาโดยผ่านท่าน ท่านเป็นช่องทางให้พระเจ้าประทานการเปิดเผย อีกประการหนึ่งคือท่านเป็นคนธรรมดาสามัญ เช่นเดียวกับศาสดาพยากรณ์ ในสมัยโบราณและศาสดาพยากรณ์ในสมัยของเรา …

“ศาสดาพยากรณ์ โจเซฟ สมิธเป็นเด็กชาวไร่ด้อยการศึกษา เมื่ออ่านต้นร่างเดิมของจดหมายบางฉบับที่ท่านเขียนตอนแรกจะเห็นว่าท่านไม่เชี่ยวชาญการสะกดคำ ไวยากรณ์ และสำนวนภาษา

“การเปิดเผยที่ผ่านมาทางท่านในรูปแบบของความสละสลวยด้านภาษานับว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง” (“We Believe All That God Has Revealed,” Ensign, May 1974, 94)

สมมติว่าท่านเป็นโมโรไน มีชีวิตเมื่อประมาณ 1,600 ปีก่อนและได้รับอนุญาตให้เห็นยุคสมัยของเราโดยผ่านเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า อ่าน มอรมอน 8:35 และพิจารณาสิ่งที่ท่านคิดว่าเป็นสภาพทางวิญญาณในยุคสมัยของเรา จากนั้นให้อ่าน มอรมอน 8:26–32 ซึ่งมีคำพยากรณ์ของโมโรไนเกี่ยวกับเวลาที่พระคัมภีร์มอรมอนจะออกมา นั่นคือ—ยุคสมัยของเรา

  1. ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านให้เขียนคำบรรยายของโมโรไนเกี่ยวกับยุคสมัยของเรามาสองอย่างหรือมากกว่านั้น เขียนด้วยว่าเหตุใดท่านจึงพบว่าคำบรรยายเหล่านี้น่าสนใจและประยุกต์ใช้ได้กับยุคสมัยของเรา

เกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันสอนว่า

ภาพ
ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน

“เราต้องทำให้พระคัมภีร์มอรมอนเป็นจุดศูนย์รวมของการศึกษา [เพราะ] เขียนไว้สำหรับช่วงเวลาของเรา ชาวนีไฟ ไม่เคยมีหนังสือเล่มนี้ ชาวเลมันในสมัยโบราณก็ ไม่เคยมี แต่มีไว้เพื่อเรา …

“ผู้เขียนหลักแต่ละท่านของพระคัมภีร์มอรมอนเป็นพยานว่าท่านเขียนเพื่อนอนุชนรุ่นหลัง … …

“หากท่านเหล่านั้นเห็นวันเวลาของเราและเลือกสิ่งเหล่านั้นซึ่งจะมีค่าใหญ่หลวงที่สุดต่อเรา เราไม่ควรศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนหรอกหรือ เราควรถามตนเองอยู่เสมอว่า ‘เหตุใดพระเจ้าทรงดลใจมอรมอน (หรือโม-โรไนหรือแอลมา) ให้รวมเรื่องนั้นไว้ ในบันทึกของท่าน ฉันสามารถเรียนรู้บทเรียนอะไรจากเรื่องนั้นเพื่อช่วยฉันดำเนินชีวิตในยุคสมัยนี้’ ” (“The Book of Mormon—Keystone of Our Religion,” 6)

  1. เพื่อไตร่ตรองคุณค่าของพระคัมภีร์มอรมอนต่อตัวท่าน ให้ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน

    1. ตรึกตรองว่าคำพยากรณ์ของโมโรไนเกี่ยวกับสภาพในยุคสมัยของเราถูกต้องเพียงใด (ดู มอรมอน 8:26–32) คำพยากรณ์เหล่านี้สอนอะไรท่านเกี่ยวกับคุณค่าของพระคัมภีร์มอรมอนต่อยุคสมัยของเรา

    2. ท่านคิดว่าเหตุใดพระคัมภีร์มอรมอนจึงเป็น “ของขวัญที่มีความหมายมากที่สุดชิ้นหนึ่งซึ่งให้แก่ชาวโลกในยุคปัจจุบัน” ดังที่ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันสอน (“The Book of Mormon—Keystone of our Religion,” 4)

    3. ถ้าเพื่อนคนหนึ่งถามท่านว่าทำไมพระคัมภีร์มอรมอนจึงสำคัญต่อท่าน ท่านจะตอบว่าอย่างไร

มอรมอน 8:33–41

โมโรไนเห็นวันเวลาสุดท้ายและประณามความชั่วร้ายทางวิญญาณในสมัยของเรา

นึกถึงเวลาที่ท่านสังเกตเห็นคนตกทุกข์ ได้ยาก—ต้องการความช่วยเหลือทางโลก อารมณ์ สังคม หรือวิญญาณ พิจารณาสิ่งที่ท่านทำหรือน่าจะทำได้เพื่อช่วยบุคคลนั้น ไตร่ตรองสาเหตุที่ท่านเลือกช่วยหรือไม่ช่วยบุคคลนั้น ท่านคิดว่าเหตุใดบางครั้งคนเราจึงไม่ช่วยคนตกทุกข์ ได้ยาก

อ่าน มอรมอน 8:36–41 มองหาเหตุผลที่ โมโรไนให้ ไว้ว่าทำไมบางคนในวันเวลาสุดท้ายจึงไม่ช่วยคนตกทุกข์ ได้ยาก ท่านอาจจะทำเครื่องหมายเหตุผลเหล่านี้ในพระคัมภีร์ของท่าน อาจจะเป็นประโยชน์ถ้าเข้าใจว่าคำว่า ตกแต่ง หมายถึง “ทำให้สวยงาม” หรือ “ประดับ”

มีตัวอย่างอะไรบ้างที่แสดงว่าเยาวชนสมัยนี้ อาจจะรักสิ่งที่เงินซื้อได้และเสาะแสวงหาวัตถุทางโลกมากกว่าจะเป็นสานุศิษย์ที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์ ศึกษา มอรมอน 8:38, 41 ระบุผลที่ผู้คนจะประสบเพราะความจองหอง ความชั่วร้าย และการไม่เหลียวแลคนยากจนและคนขัดสน

  1. เขียนหลักธรรมหนึ่งข้อลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านเพื่อสรุปสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้จาก มอรมอน 8:36–41

ตัวอย่างหนึ่งของหลักธรรมที่สอนในข้อเหล่านี้คือ พระผู้เป็นเจ้าจะทรงถือว่าเราต้องรับผิดชอบวิธีที่เราปฏิบัติต่อคนยากจนและคนตกทุกข์ ได้ยาก

  1. ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ความต้องการอะไรบ้างที่พบเห็นมากที่สุด—ทางโลก สังคม อารมณ์ และวิญญาณ—ในหมู่เยาวชนในโรงเรียนหรือชุมชนของท่าน จากนั้นให้นึกถึงบางสิ่งที่ท่านทำได้ในสัปดาห์ถัดไปเพื่อดูแลคนตกทุกข์ได้ยาก เขียนเป้าหมายนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน

  1. เขียนต่อท้ายงานมอบหมายของวันนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่า

    ฉันได้ศึกษา มอรมอน 8:12–41 และศึกษาเสร็จวันที่ (วันเดือนปี)

    คำถาม ความคิด และข้อคิดเพิ่มเติมที่ฉันอยากแบ่งปันกับครู: