เซมินารี
หน่วย 3: วัน 4, 1 นีไฟ 12–14


หน่วย 3: วัน 4

1 นีไฟ 12–14

คำนำ

เรื่องราวเกี่ยวกับนิมิตของนีไฟซึ่งเริ่มต้นใน 1 นีไฟ 11 ดำเนินต่อไป ใน 1 นีไฟ 12–14 ในนิมิตนีไฟเห็นโศกนาฏกรรมอันน่ากลัว รวมถึงความพินาศในท้ายที่สุดของลูกหลาน เขาเห็นคนชั่วเอาความจริงที่แจ้งชัดและมีค่าออกไปจากพระคัมภีร์ไบเบิล เป็นเหตุให้คนจำนวนมากสะดุดทางวิญญาณ อย่างไรก็ดี นิมิตของนี-ไฟมีเหตุผลให้เขามีความหวังอย่างมากในอนาคตเช่นกัน เขาเห็นโคลัมบัสและการตั้งอาณานิคมของอเมริกา เขาเห็นว่าพระเจ้าจะทรงเตรียมทางเพื่อการฟื้นฟูพระกิตติคุณ รวมถึงการฟื้นฟูความจริงที่แจ้งชัดและมีค่ามากมายที่หายไปด้วย นีไฟเป็นพยานว่าในวันเวลาสุดท้ายพระเจ้าจะทรงช่วยและคุ้มครองคนที่ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรมอย่างไร ขณะที่ท่านศึกษา 1 นีไฟ 12–14 ให้ ไตร่ตรองความสำคัญในชีวิตท่านของความจริงอันแจ้งชัดและมีค่าตามที่สอนไว้ ในพระคัมภีร์มอร-มอนและพระคัมภีร์ยุคสุดท้ายเล่มอื่น ขณะพยายามดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรมและให้เกียรติพันธสัญญาของท่านกับพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะสามารถมีชัยเหนือความชั่วร้ายได้ด้วย

1 นีไฟ 12

นีไฟเห็นอนาคตของประชาชาติชาวนีไฟและชาวเลมัน

ใน 1 นีไฟ 12 นีไฟบรรยายสิ่งที่เขาเห็นสำหรับอนาคตของลูกหลานและผลกระทบที่พวกเขาได้รับจากอิทธิพลต่างๆ โดยมีหมอกแห่งความมืดกับอาคารใหญ่และกว้างเป็นสัญลักษณ์ เขาใช้คำว่า พงศ์พันธุ์ เพื่อหมายถึงผู้สืบตระกูล

นีไฟเห็นว่าผู้สืบตระกูลบางคนของเขาจะยอมรับพรทั้งหมดของการชดใช้ อย่างไรก็ดี เขาเห็นเช่นกันว่าผู้สืบตระกูลของเขาจะถูกชาวเลมันทำลายในท้ายที่สุด อ่าน 1 นีไฟ 12:19 และขีดเส้นใต้เหตุผลที่ชาวนีไฟถูกทำลาย ตรึกตรองว่าท่านจะป้องกันความจองหองและหลีกเลี่ยงการล่อลวงของมารได้อย่างไร

1 นีไฟ 13:1–9

นีไฟเห็นศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชัง

วงกลมกีฬาต่อไปนี้ที่ท่านเล่นหรือดู และเพิ่มกีฬาอื่นที่ท่านเล่นหรือดูลงไปในรายการ

  • ฟุตบอล

  • คริกเก็ต

  • บาสเกตบอล

  • เบสบอล

  • ปิงปอง

  • เทนนิส

  • รักบี้

  • ฮ็อกกี้น้ำแข็ง

  • วอลเลย์บอล

  • อเมริกันฟุตบอล

ในกีฬาอาชีพ ทีมต่างๆ มักจะศึกษาการแข่งขันในอดีตและกลยุทธ์ของคู่แข่งก่อนพวกเขาลงแข่ง การเข้าใจจุดประสงค์ วิธี และกลยุทธ์ของคู่แข่งสามารถช่วยเราเตรียมป้องกันตัว

ใน 1 นีไฟ 13 นีไฟบรรยายสิ่งที่เขาเห็นเกี่ยวกับคนที่จะต่อต้านศาสนจักรของพระผู้เป็นเจ้าในยุคสุดท้าย อ่าน 1 นีไฟ 13:1–6 ระบุสิ่งที่นีไฟเห็นว่าจะก่อตั้งในบรรดาคนต่างชาติและสิ่งที่เทพพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ภาพ
เอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกี

“ศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชัง” ที่นีไฟเห็นไม่ ได้หมายถึงกลุ่มคน นิกาย หรือศาสนจักรใดโดยเฉพาะ เอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกีแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองนิยามว่าเป็น “องค์กรทั้งหมดไม่ว่าจะชื่ออะไรหรือมีลักษณะอย่างไร … ซึ่งมุ่งหมายจะพามนุษย์ ไปบนวิถีที่นำพวกเขาออกห่างจากพระผู้เป็นเจ้าและกฎของพระองค์ ด้วยเหตุนี้จึงออกห่างจากความรอดในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า” (Mormon Doctrine, 2nd ed. [1966], 137–38) ท่านอาจต้องเขียนคำนิยามของเอ็ลเดอร์แมคคองกีไว้ข้างๆ 1 นีไฟ 13:4–6

อ่าน 1 นีไฟ 13:8–9 ระบุความปรารถนาและแรงจูงใจของศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชัง

  1. ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน: ท่านคิดว่าเหตุใดจึงสำคัญที่ต้องรู้ว่าซาตานจัดกำลังเพื่อนำเราออกห่างจากพระผู้เป็นเจ้าและกฎของพระองค์

ขณะที่ท่านศึกษา 1 นีไฟ 13 เพิ่มเติม ท่านจะเห็นวิธีหนึ่งที่ศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชังพยายามสกัดกั้นคนที่แสวงหาพระผู้ช่วยให้รอด

1 นีไฟ 13:10–42

นีไฟเห็นคนต่างชาติในอนาคตกับพระคัมภีร์ไบเบิล พระคัมภีร์มอรมอน และพระคัมภีร์ยุคสุดท้ายเล่มอื่น

เพื่อต่อสู้กับผลกระทบของศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชัง พระเจ้าจึงทรงเตรียมทางเพื่อการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระองค์ ใน 1 นีไฟ 13 นีไฟเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ล่วงหน้า เช่น โคลัมบัสและคนแปลกถิ่นมาที่แผ่นดินแห่งคำสัญญาเพราะ “พระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า … กระทำ [สถิตหรือทำงาน] กับ [พวกเขา]” (ดู 1 นีไฟ 13:12–13) เขาเห็นสงครามแห่งอิสรภาพของอเมริกาล่วงหน้าด้วย—เมื่อ “คนต่างชาติซึ่งออกไปจากการเป็นเชลย” ต่อสู้กับ “คนต่างชาติจากมาตุภูมิของพวกเขา [ผู้] มารวมกัน … สู้รบกับพวกเขา” แต่พวกเขา “ได้รับการปลดปล่อยโดยอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าให้พ้นจากมือของประชาชาติอื่นทั้งปวง” (ดู 1 นีไฟ 13:16–19)

ภาพ
พระคัมภีร์

อ่าน 1 นีไฟ 13:20–23 ระบุชื่อหนังสือที่นีไฟเห็นผู้บุกเบิกอาณานิคมคนต่างชาติสมัยแรกในแผ่นดินแห่งคำสัญญาจะมีอยู่ในบรรดาพวกเขา

เขียน “พระคัมภีร์ไบเบิล” ในพระคัมภีร์ของท่านข้างๆ 1 นีไฟ 13:20 นีไฟอธิบายว่าพระคัมภีร์ไบเบิลจะ “มีคุณค่ายิ่ง” ต่อเรา (1 นีไฟ 13:23) และเมื่อเขียนไว้แต่แรก พระคัมภีร์เล่มนี้ “มีความสมบูรณ์ของพระกิตติคุณของพระเจ้า” (1 นีไฟ 13:24) ใช้ 1 นีไฟ 13:26–27, 29 เพื่อเติมคำในช่องว่างของสรุปใจความสำคัญต่อไปนี้

ศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชังนำเอา “ … หลายตอนซึ่ง และ … ที่สุดไป ; และ … หลายข้อ ของพระเจ้าพวกเขาเอาไป” จากพระคัมภีร์ไบเบิลด้วย (1 นีไฟ 13:26) พวกเขานำเอาสิ่งเหล่านี้ไปเพื่อ “ ทางที่ถูกต้องของพระเจ้า, เพื่อพวกเขาจะ ทำให้ลูกหลานมนุษย์ตา … และ ใจ …” (1 นีไฟ 13:27) เพราะสิ่งเหล่านี้ขาดหายไป “ผู้คนมากมายยิ่งจึง ” (1 นีไฟ 13:29).

อ่านทวนใจความสรุปข้างต้นหลังจากท่านเติมคำในช่องว่างแล้ว

จุดประสงค์ประการหนึ่งของศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชังคือ “บิดเบือนทางที่ถูกต้องของพระเจ้า” (1 นีไฟ 13:27) โดยนำเอาความจริงที่แจ้งชัดและมีค่ามากมายไป “บิดเบือน” คือ ทำให้เบี่ยงเบนหรือออกห่างจากสิ่งที่ถูกต้อง ตรึกตรองผลลบของการเบี่ยงเบนหรือออกห่างจาก “ทางที่ถูกต้องของพระเจ้า”

ใช้พระคัมภีร์ของท่านตอบคำถามต่อไปนี้

  • ตามที่กล่าวไว้ ใน 1 นีไฟ 13:34 พระเจ้าจะทรงนำอะไรออกมาเนื่องด้วยพระเมตตาของพระองค์ (อาจจะช่วยได้ถ้ารู้ว่าชื่อ “พระเมษโปดก” หมายถึงพระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์)

  • ใน 1 นีไฟ 13:35–36 พระผู้ช่วยให้รอดตรัสว่าสิ่งใดจะถูกซ่อนไว้เพื่อออกมาสู่คนต่างชาติ

  • ใน 1 นีไฟ 13:36 เทพกล่าวว่าสิ่งที่เขียนอยู่ในบันทึกที่ซ่อนไว้คืออะไร—พระคัมภีร์มอรมอน

  • นอกจากพระคัมภีร์มอรมอนแล้ว “หนังสือเล่มอื่น” ใน 1 นีไฟ 13:39 หมายถึงอะไร

อ่าน 1 นีไฟ 13:40–41 และขีดเส้นใต้สิ่งที่พระคัมภีร์มอรมอนและ “หนังสือเล่มอื่น” เหล่านี้จะทำให้เป็นที่รู้แก่คนทั้งปวง สำคัญที่เราพึงสังเกตว่าเราต้องมาหาพระผู้ช่วยให้รอด “ตามคำพยากรณ์ซึ่งจะบังเกิดโดยพระโอษฐ์ของพระเมษโปดก” (1 นีไฟ 13:41)—พระคัมภีร์

เราเรียนรู้ผ่านนิมิตส่วนนี้ของนีไฟว่า พระคัมภีร์มอร-มอนและพระคัมภีร์ยุคสุดท้ายฟื้นฟูความจริงที่แจ้งชัดและมีค่าเพื่อช่วยให้เรารู้ว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าและทรงช่วยให้เรารู้ว่าจะมาหาพระองค์อย่างไร

  1. เขียนคำตอบของคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน

    1. ความจริงอันแจ้งชัดและมีค่าในพระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์ยุคสุดท้ายเล่มอื่นมีอิทธิพลอย่างไรต่อประจักษ์พยานของท่านในพระเยซูคริสต์

    2. ความจริงเหล่านั้นช่วยให้ท่านเข้าใจและดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระองค์อย่างไร

ใช้เวลาสักครู่ประเมินว่าการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านกำลังช่วยให้ท่านใกล้ชิดพระผู้ช่วยให้รอดมากเพียงใด

1 นีไฟ 14:1–17

นีไฟเห็นการสู้รบระหว่างศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชังกับศาสนจักรของพระเมษโปดกของพระผู้เป็นเจ้า

ใน 1 นีไฟ 14 เราอ่านเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชังกับศาสนจักรของพระเมษโปดกของพระผู้เป็นเจ้า อ่าน 1 นีไฟ 14:10–13 และระบุว่าฝ่ายใดจะมีผู้คนมากกว่ากัน สังเกตใน 1 นีไฟ 14:12 ว่าเหตุใดจำนวนคนที่สนับสนุนศาสนจักรของพระเมษโปดกจึงน้อยและเหตุใดศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชังจึงสามารถรวบรวมคนได้มาก

ท่านจะรู้สึกอย่างไรหากท่านมีจำนวนน้อยกว่าและกำลังต่อสู้ในสงคราม อ่าน 1 นีไฟ 14:14 ขีดเส้นใต้ข้อความซึ่งระบุความช่วยเหลือที่ “วิสุทธิชนของศาสนจักรของพระเมษโปดก” และ “ผู้คนแห่งพันธสัญญาของพระเจ้า” จะได้รับขณะต่อสู้กับความชั่วร้าย

หลักธรรมพระกิตติคุณสำคัญที่สอนใน 1 นีไฟ 14:1–17 คือ เมื่อเราดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรมและรักษาพันธสัญญาของเรา พระเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าจะช่วยให้เรามีชัยเหนือความชั่วร้าย

  1. เขียนย่อหน้าสั้นๆ ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่าความเป็นหนึ่งของ “ผู้คนแห่งพันธสัญญาของพระเจ้า” และ “มีอาวุธคือความชอบธรรม” (ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม) ได้ช่วยท่านเอาชนะการล่อลวงที่อาจจะนำท่านออกห่างจากพระผู้เป็นเจ้าและกฎของพระองค์อย่างไร

นีไฟเห็นว่าในวันเวลาสุดท้ายคนที่สนับสนุนศาสนจักรอันเรืองอำนาจและน่าชิงชังจะพบ “ความพินาศสิ้นของพวกเขา” (1 นีไฟ 14:3) ท่านสามารถมีความเชื่อมั่นได้ว่าอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าจะมีชัยในวันเวลาสุดท้าย

  1. เขียนต่อท้ายงานมอบหมายของวันนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่า

    ฉันได้ศึกษา 1 นีไฟ 12–14 และศึกษาเสร็จวันที่ (วันเดือนปี)

    คำถาม ความคิด และข้อคิดเพิ่มเติมที่ฉันอยากแบ่งปันกับครู: