คำสอนของประธานศาสนจักร
ประวัติโดยสังเขป


ประวัติโดยสังเขป

ลำดับวันเดือนปีต่อไปนี้จะสรุปเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ เกี่ยวข้องกับคำสอนของศาสดาโจเซฟ สมิธในหนังสือเล่มนี้

ค.ศ. 1805 23 ธันวาคม

เกิดที่เมืองชารอน วินด์เซอร์เคาน์ตี้ รัฐเวอร์มอนท์ เป็นบุตรคนที่ห้าในจำนวนสิบเอ็ดคนของโจเซฟ สมิธ ซีเนียร์และลูซี แป็ค สมิธ

ค.ศ. 1813, (อายุ 7 ขวบ)

ติดเชื้อไข้ไทฟอยด์ เกิดภาวะแทรกซ้อนจนต้อง ผ่าดัดขาซ้าย เวลานั้นครอบครัวสมิธอยู่ในเวสด์เลบานอน รัฐนิวแฮมพ์เชียร์ สถานที่แห่งหนึ่งใน หลายๆ แห่งที่ครอบครัวย้ายไปอยู่ระหว่าง ค.ศ. 1808 ถึง ค.ศ. 1816 เพื่อแสวงหาโอกาสที่ดืกว่า

ค.ศ. 1816 (อายุ 10 ขวบ)

ท่านกับครอบครัวย้ายไปหมู่บ้านพอลไมรา รัฐนิวยอร์ก

ประมาณ ค.ศ. 1818–1819 (อายุราว 12 หรือ 13 ปี)

ท่านกับครอบครัวย้ายจากหมู่บ้านพอลไบราไปอยู่ บ้านไบ้ซุงในพอลไมราทาวน์ชิพ รัฐนิวยอร์ก

ต้นฤดูใบไบ้ผลิ ค.ศ. 1820 (อายุ 14 ปี)

สวดอ้อนวอนในป่าใกล้บ้านเพื่อใบ้รู้ว่าศาสนาจักร ใดถูกต้องและท่านควรเข้าร่วม พระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์เสด็จมาเยือนท่าน พระผู้ช่วยใบ้รอดทรงบอกท่านว่าไม่มีศาสนาจักรใดถูกต้องและ ท่านไม่ควรเข้าร่วมกับศาสนาจักรใด

ค.ศ. 1823, 21–22 กันยายน (อายุ 17 ปี)

ไต้รับการเยือนจากโมโรไนผู้บอกท่านถึงงานของ พระเจ้าบนแผ่นดินโลกในวันเวลาสุดบ้ายและพระคัมภีร์มอรมอน ท่านเห็นแผ่นจารึกทองคำซึ่งฝังไอ้ ที่เนินเขาใกล้บ้าน แต่ท่านถูกบ้ามไม่ใบ้นำออกมาใน เวลานั้น

ค.ศ. 1825 (อายุ 19 ปี)

ท่านกับครอบครัวย้ายจากบ้านไม้ซุงไปอยู่บ้านไม้สร้าง ใหม่ที่ฟาร์มของพวกท่านในแมนเชสเตอร์ทาวน์ชิพ รัฐนิวยอร์ก

ค.ศ. 1827, 18 มกราคม (อายุ 21 ปี)

แต่งงานกับเอ็มมา เฮล จากเมืองฮาร์โมนี รัฐเพนน์ซิลเวเนีย พวกท่านแต่งงานกันในเมืองเซาธ์เบนบริดจ์ รัฐนิวยอร์ก

ค.ศ. 1827, 22 กันยายน

ได้รับแผ่นจารึกจากโมโรไนหลังจากพบกับโมโรไน ทุกวันที่ 22 กันยายนของปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1823

ค.ศ. 1827, ธันวาคม (อายุ 22 ปี)

ย้ายไปอยู่เมืองฮาร์โมนี รัฐเพนน์ซิลเวเนีย เพื่อหนี จากกลุ่มคนร้ายในพอลไบราและแมนเชสเตอร์ผู้พยายามขโมยแผ่นจารึก ไม่นานหลังจากนั้นก็เริ่ม แปลพระคัมภีร์มอรมอน

ค.ศ. 1828, กุมภาพันธ์ (อายุ 22 ปี)

มาร์ติน แฮร์ริสนำแบบอักษรบางส่วนของพระคัมภีร์ มอรมอนไปใบ้นักวิชาการที่มีชื่อเสียงดู รวมถึงชาร์ลส์ แอนธันและซามูเอล แอล. มิทชิลลในนิวยอร์กซิตี้

ค.ศ. 1828, มิถุนายน–กรกฎาคม

ด้นฉบับงานแปลพระคัมภีร์มอรมอน 116 หน์าถูก ขโมยไปจากมาร์ติน แฮร์ริส (ดู ค.พ. 3;10)

ค.ศ. 1829, 5 เมษายน (อายุ 23 ปี)

ออลิเวอร์ คาวเดอรึมาถึงเมืองฮาร์โมนีเพื่อนำหบ้าที่ ผู้จดให้แก่พระคัมภีร์มอรมอน เริ่มงานแปลเมื่อวันที่ 7 เมษายน

ค.ศ. 1829,15 พฤษภาคม

ได้รับฐานะปุโรหิตแห่งแอรันจากยอบ้นผู้ถวายนัพติศมาพร้อมออลิเวอร์ คาวเดอรึ โจเซฟและออลิเวอร์ให้บัพติศมาแก่กันในแบ่น้ำซัสเควฮันนา จาก นั้นจึงวางมือแต่งตั้งฐานะปุโรหิตแห่งแอรันใบ้กัน

ค.ศ. 1829, พฤษภาคม–มิถุนายน

ได้รับฐานะปุโรหิตแห่งเมืลคิเซเด็คจากอัครสาวก สมัยโบราณคือ เปโดร ยากอบ และยอบ้น โดยได้ รับพร้อมกับออลิเวอร์ คาวเดอรึ ใกล้แน้ำซัสเศวฮ้นนาระหว่างเมืองฮาร์โมนี รัฐเพนน์ซิลเวเนียกับ เมืองโคลส์วิลล์ รัฐนิวยอร์ก

ค.ศ. 1829, มิถุนายน

การแปลพระคัมภีร์มอรมอนสำเร็จลุล่วงที่ฟาร์มมิเตอร์ วิตเมอร์ ซีเนียร์ในเฟเยทท์ทาวน์ชิพ รัฐนิวยอร์ก พยานสามคนเห็นแผ่นจารึกและเทพโมโรไน ในเมืองเฟเยทน์ พยานแปดคนเห็นและจับแผ่นจารึก ในพอลไมราทาวน์ชิพ

ค.ศ. 1830, 26 มีนาคม (อายุ 24 ปี)

พระคัมภีร์มอรมอนที่พิมพ์ชุดแรกวางจำหน่ายที่ร้าน หนังสือของ อี. มี. แกรนดินในเมืองพอลไมรา

ค.ศ. 1830, 6 เมษายน

จัดตั้งศาสนาจักรอย่างเป็นทางการที่บ้านของมิเตอร์ วิตเมอร์ ซีเมียร์ ในเมืองเฟเยทน์ (ดู ค.พ. 20:1) ครั้งแรกชื่อที่เป็นทางการของศาสนาจักรคือศาสนา จักรของพระคริสต์ วันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1834 เปลี่ยนชื่อเป็นศาสนาจักรของสิทธิชนยุคสุดบ้าย วัน ที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1838 เปลี่ยนชื่อโดยการเมิด เผยเป็นศาสนาจักร ของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชน ยุคสุดท้าย (ดู ค.พ. 115:4)

ค.ศ. 1830, มิถุนายน

เริ่มการแปลพระคัมภีร์ไบเนิลด้วยการดลใจตามพระบัญชาของพระเจ้าในเมืองฮาร์โมมี ปัจจุบันเรียกว่า งานแปลพระคัมภีร์ไบเบิลของโจเซฟ สมิธ (Joseph Smith Translation of the Bible)

ค.ศ. 1830, 9 มิถุนายน

จัดการประชุมใหญ่ครั้งแรกของศาสนาจักรในเมือง เฟเยทน์

ค.ศ. 1830, คันยายน

ย้ายจากเมืองฮาร์โมมี เพนน์ซิลเวเมียไปยังเฟเยทน์ นิวยอร์ก ในช่วงเดือนธันวาคม 1827 โจเซฟ และ เอ็มมาอยู่ที่ฮาร์โมมี แต่โจเซฟเดินทางไปแมนเชสเตอร์ เฟเยทท้ และพอลไมรา เป็นบางครั้งบางคราว เกี่ยวคับเรื่องการแปลพระคัมภีร์มอรมอน ตลอดจน ดำเนินเรื่องการพิมพ์พระคัมภีร์มอรมอน จัดตั้ง ศาสนาจักร ควบคุมการประชุมใหญ่ครั้งแรกของ ศาสนาจักร และร่วมกิจการต่างๆ ของศาสนาจักร

ค.ศ. 1830, กันยายน

ได้รับการเปีดเผยว่าผู้สอนศาสนาต้อง “ไปยังชาวเสมัน” เพื่อสั่งสอนพระกิตติคุณ (ค.พ. 28:8; ดู 30: 5–6; 32:1–3 ด้วย) ในเดือนตุลาคม เอ็ลเดอร์สี่คน ออกเดินทางไปทำงานเผยแผ่เพื่อสอนชาวอเมริกัน พื้นเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของรัฐมิสซูรี

ค.ศ. 1830, ธันวาคม (อายุ 25 ปี)

ได้รับการเปีดเผยว่าสิทธิชนด้องไปรวมกันที่รัฐโอไฮโอ (ดู ค.พ. 37)

ค.ศ. 1831, ด้นเดือนคุมภาพันธ์

มาถึงเมืองเกิร์ทแลนด์ รัฐโอไฮโอ หลังจากเดินทางไกลกว่า 250 ไมล์ จากนิวยอร์ก

ค.ศ. 1831, 20 กรกฎาคม

ได้รับการเปีดเผยในเมืองอินดิเพนเดนซ์ แจ็คสัน เคาน์ตี้ รัฐมิสซูรีโดยกำหนดให้อินดิเพนเดนซ์เป็น “ศูนย์กลาง” ของไซอัน (ดู ค.พ. 57:1–3)

ค.ศ. 1831, 2 สิงหาคม

เป็นประธานในที่ประชุมเมื่อซิดนีย์ ริกดันอุทิศแจ็คลับ เคาน์ตี้ รัฐนิสซูรีเป็นแผ่นดินไซอัน

ค.ศ. 1831, 3 สิงหาคม

อุทิศสถานที่ก่อสร้างพระวิหารในเมืองอินดิเพนเดนซ์

ค.ศ. 1832, 25 มกราคม (อายุ 26 ปี)

ได้รับการสนับสนุนเป็นประธานของฐานะปุโรหิตสูง ในเมืองแอมเฮิร์สด์ รัฐโอไฮโอ

ค.ศ. 1832, 8 มีนาคม

จัดตั้งฝ่ายประธานสูงสูดในเมืองเกิร์ทแลนด์ โดยมี ซิดนีย์ ริกดันและเจสซี กอซเป็นที่ปรึกษา วันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1833 เฟรเดริก จี. วิลเลียมส์ดำรง ตำแหน่งแทนบราเดอร์กอซ

ค.ศ. 1832, 27–28 ธันวาคม (อายุ 27 ปี)

ได้รับพระบัญชาให้สร้างพระวิหารในเมืองเคิร์ทแลนด์ (ดู ค.พ. 88:119–120)

ค.ศ. 1833, มกราคม

เริ่มโรงเรียนศาสดา

ค.ศ. 1833, 2 กรกฎาคม

เสร็จงานขั้นแรกของการแปลพระคัมภีร์ไบเบิลด้วย การดลใจ หนังสือโมเสสและโจเซฟ สมิธ–นัทธิว มาจากการแปลครั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ในพระคัมภีร์ไข่มุก อันลํ้าค่า

ค.ศ. 1833, 20 กรกฎาคม

กลุ่มคนร้ายทำลายเครื่องพิมพ์ในเมืองอินดิเพนเดนซ์ รัฐมิสซูรีซึ่งกำลังพิมพ์หนังสือพระนัญญ้ติและทำลาย หน้าหนังสือที่พิมพ์แล้วอีกเป็นจำนวนมาก ในเดือน กันยายน ค.ศ. 1835 จัดพิมพ์การเปีดเผยจากหนังสือพระนัญญ้ติและการเปีดเผยอื่นๆ ไว้ในพระคัมภีร์ คำสอนและพันธสัญญาฉบับแรกในเมืองเคิร์ทแลนด์

ค.ศ. 1833, 23 กรกฎาคม

วางศิลามุมเอกของพระวิหารเคิร์ทแลนด์

ค.ศ. 1833, 18 ธันวาคม

โจเซฟ สมิธ ซีเนียร์ได์รับการวางมือแต่งตั้งเป็นผู้ ประสาทพรของศาสนาจักร

ค.ศ. 1834, พฤษภาคม–กรกฎาคม (อายุ 28 ปี)

นำค่ายไซอันออกจากเมืองเศิร์ทแลนด์ รัฐโอไฮไฮไป เคลย์เคาน์ตี้ รัฐมิสซูรีเพื่อช่วยเหลือสิทธิชนที่ถูกไล่ ออกจากน้านของพวกเขาในแจ็คสันเคาน์ตี้ รัฐมิสซูรี กลับเศิร์ทแลนด์หลังจากไต้รับการเปีดเผยว่าสิทธิชนต้อง “คอยชั่วระยะสั้นเพื่อรับการไก่ไซอัน” (ค.พ. 105:9)

ค.ศ. 1835, 14 กุมภาพันธ์ (อายุ 29 ปี)

จัดตั้งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

ค.ศ. 1835, 28 กุมภาพันธ์

จัดตั้งโควรัมสาวกเจ็ดสิบ

ค.ศ. 1835, กรกฎาคม

ไต้รับกระดาษปาปีรุสภาษาอียิปต์ซึ่งมืงานเขียนของ เอบราแฮมอยู่ในนั้น

ค.ศ. 1836, 27 มีนาคม (อายุ 30 ปี)

อุทิศพระวิหารเศิร์ทแลนด์ (ดู ค.พ. 109)

ค.ศ. 1836, 3 เมษายน

พระเยซูคริสต์ทรงปรากฎต่อโจเซฟ สมิธและออลีเวอร์ คาวเดอรีในพระวิหารเคิร์ทแลนด์และทรงยอม รับพระวิหาร โมเสส อิไลอัส และเอลียาห์ (อิไลจะ) มาปรากฎต้วยและมอบกุญแจฐานะปุโรหิตให้โจเซฟ อับออลีเวอร์ (ดู ค.พ. 110)

ค.ศ. 1837, มิถุนายน (อายุ 31 ปี)

ส่งเอ็ลเดอร์จากเมืองเคิร์ทแลนด์และแคนาดาตอน บนไปรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาในหมู่เกาะอังกฤษ คณะ เผยแผ่แห่งแรกนอกอเมริกาเหนือ

ค.ศ. 1838, 12 มกราคม (อายุ 32 ปี)

ออกจากเมืองเคิร์ทแลนด์ไปเมืองฟาร์เวสด์ คาลด์เวลล์เคาน์ตี้ รัฐมิสซูรีเพื่อหนีความรุนแรงของกลุ่ม คนร้าย

ค.ศ. 1838, 14 มีนาคม

มาถึงเมืองฟาร์เวสด์และจัดตั้งศูนย้ใหญ่ของศาสนาจักรที่นั่น

ค.ศ. 1838, 27 เมษายน

เริ่มประวัติของท่าน จัดพิมพ์เป็นชุดๆ เรียกว่า “ประวัติของโจเซฟ สมิธ” ในวารสารศาสนาจักร โดยเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1842 ต่อมาจัดพิมพ์ใหม่เปีน History of the Church

ค.ศ. 1838, 27 ตุลาคม

ลิลเมิร์น ดับเมิลยู. บ็อกส์ผู้ว่าการรัฐมิสซู่รีออก “คำสั่งให้กำจัด” คำสั่งนี้และการข่มเหงที่รุนแรง ทำให้สิทธิชนต้องออกจากรัฐมิสซูรีไปยังรัฐอิลลินอยส์ในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไน้ผลิของปี ค.ศ. 1838–1839

ค.ศ. 1838, 1 ธันวาคม

ถูกขังพร้อมผู้นำท่านอื่นๆ ของศาสนาจักรในคุกที่ ลิเบอร์ตี้ รัฐมิสซู่รี

ค.ศ. 1839, 20 มีนาคม (อายุ 33 ปี)

เขียนสาส์นจากคุกลิเบอร์ตี้ถึงสิทธิชนให้หาที่หลบภัยในอิลลินอยส์ ต่อมาไต้รวมส่วนต่างๆ ของสาส์น ฉบับนั้นไวัในพระคัมภีร์คำสอนและพันธสัญญาภาค 121 122 และ 123

ค.ศ. 1839, กลางเดือนเมษายน

แห้จะถูกย้ายจากกัลลาดินไปรับการไต่สวนที่โคลัมเมีย รัฐมิสซูรีแต่ผู้คุ้มก้นก็ยอมให้ท่านหลบหนี

ค.ศ. 1839, 22 เมษายน

สมทบก้บครอบครัวอีกครั้งในเมืองควินซี รัฐอิลลินอยส์

ค.ศ. 1839, 10 พฤษภาคม

ท่านก้บครอบครัวย้ายเช้าไปอยู่ในข้านไน้ซุงหลังเล็กๆ ที่เมืองคอมเมิร์ซ รัฐอิลลินอยส์ ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นเมืองนอวู

ค.ศ. 1839, 29 พฤศจิกายน

เข้าพบมาร์ติน แวนบูเร็น ประธานาธิบดีของสหรัฐ ในวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อขอชดเชยความไม่เป็นธรรม ในมิสซู่รี ขณะอยู่ที่นั่น ท่านยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือจากสภาคองเกรสของสหรัฐด้วย

ค.ศ. 1840, 15 สิงหาคม (อายุ 34 ปี)

ประกาศคำสอนเรื่องบัพติศมาแทนคนตายต่อสาธารณชน ณ พิธีฟังศพในนอวู มีการประกอบพิธีบัพติศมาแทนคนตายครั้งแรกในแม่นํ้ามิสซิสซิปปีและ ลำธารในท้องที่

ค.ศ. 1840, กันยายน

ในการปราศรัยต่อศาสนาจักร ฝ่ายประธานสูงสุด ประกาศว่าถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มสร้างพระวิหารในนอวู

ค.ศ. 1841, 4 กุมภาพันธ์ (อายุ 35 ปี)

ได้รับเลือกตั้งเป็นพลโทของกองทหารนอวูที่เพิ่งจัด ตั้ง อันเป็นหน่วยหนึ่งของทหารบ้านรัฐอิลลินอยส์

ค.ศ. 1841, 6 เมษายน

วางศิลามุมเอกของพระวิหารนอวู

ค.ศ. 1841, 21 พฤศจิกายน

บัพติศมาแทนคนตายครั้งแรกในพระวิหารนอวูประกอบพิธีในอ่างไน้ที่สร้างและอุทิศก่อนพระวิหารส่วน ที่เหลือจะเสร็จสมบูรณ์

ค.ศ. 1842, กุมภาพันธ์–ตุลาคม (อายุ 36 ปี)

เป็นบรรณาธิการ Times and Seasons หนังสือ พิมพ์ศาสนาจักรในนอวู

ค.ศ. 1842, 1 มีนาคม

จัดพิมพ์จดหมายเวนท์เวิร์ธใน Times and Seasons ในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม และเริ่มจัดพิมพ์ หนังสือเอมราแฮมใน Times and Seasons ด้วย

ค.ศ. 1842, 17 มีนาคม

จัดตั้งสมาคมสตรีสงเคราะห์แห่งนอวู โดยมีเอ็มมา สมิธเป็นประธาน

ค.ศ. 1842, 4 พฤษภาคม

ประกอบพิธีการเอ็นดาวเน้นท์ครั้งแรกในห้องชั้นบน ของร้านอิฐสืแดงของท่าน

ค.ศ. 1842, 19 พฤษภาคม

ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีของนอวู

ค.ศ. 1843, 12 กรกฎาคม (อายุ 37 ปี)

บันทึกการเปีดเผยเกี่ยวกับพันธสัญญาใหม่และเป็น นิจ รวมถึงความเป็นนิรันดร์ของพันธสัญญาการ แต่งงาน (ดู ค.พ. 132)

ค.ศ. 1844, 29 มกราคม (อายุ 38 ปี)

ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของ สหรัฐอเมริกา

ค.ศ. 1844, มีนาคม

ในการประชุมกับอัครสาวกสิบสองและคนอื่นๆ ท่าน มอบหน้าที่ให้อัครสาวกสิบสองปกครองศาสนาจักร หากท่านเสียชีวิต โดยอธิบายว่าท่านได้มอบพิธีการ สิทธิอำนาจ และกุญแจทั้งหมดที่จำเป็นให้พวกเขา แล้ว

ค.ศ. 1844, 27 มิถุนายน

เสียชีวิตเปีนมรณสักขีพร้อมไฮรัมพี่ชายที่คุกในเมือง คาร์เทจ รัฐอิลลินอยส์

ค.ศ. 1844, 29 มิถุนายน

ศพของท่านฝังไว้พร้อมกับไฮรัมในเมืองนอวู รัฐอิลลินอยส์