เซมินารี
บทที่ 2: คำนำพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา


บทที่ 2

คำนำพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา

คำนำ

พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาประกอบด้วย “การเปิดเผยจากพระผู้เป็นเจ้าและข้อประกาศที่ได้รับการดลใจซึ่งให้ไว้เพื่อการสถาปนาและการดูแลอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลกในวันเวลาสุดท้าย” (คำนำของพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา) โดยศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาร่วมกับการสวดอ้อนวอน นักเรียนสามารถเสริมสร้างประจักษ์พยานของตนในพระเยซูคริสต์และได้รับการเปิดเผยส่วนตัว

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาประกอบด้วยการเปิดเผยที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและผู้ดำรงตำแหน่งต่อจากท่านได้รับ

เริ่มบทเรียนโดยถามนักเรียนดังนี้

  • ท่านคิดว่าคนทั้งโลกจะได้ประโยชน์จากการอ่านหนังสืออะไรบ้าง เพราะเหตุใด (ท่านอาจจะให้ดูหนังสือสองสามเล่มที่ท่านจะแนะนำให้อ่าน)

หลังจากนักเรียนตอบแล้ว ให้เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของโจเซฟ สมิธ ขอให้ชั้นเรียนฟังสิ่งที่ท่านศาสดาพยากรณ์สอนเกี่ยวกับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา

ภาพ
ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

“[พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาเป็น] รากฐานของศาสนจักรในวันเวลาสุดท้ายนี้และเป็นประโยชน์ต่อโลก โดยแสดงให้เห็นว่ากุญแจไขความลึกล้ำแห่งอาณาจักรของพระผู้ช่วยให้รอดของเราได้มอบไว้แก่มนุษย์อีกครั้ง” (คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 208)

อธิบายว่าพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาเป็นประโยชน์ต่อโลกมากถึงขนาดประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธประกาศว่า “มีค่าต่อเรามากกว่าความร่ำรวยของแผ่นดินโลก” (Doctrines of Salvation, comp. Bruce R. McConkie, 3 vols. [1954–56], 3:199) ระหว่างบทเรียนวันนี้ให้กระตุ้นนักเรียนมองหาด้านต่างๆ ที่การศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตพวกเขา

เชื้อเชิญให้นักเรียนเปิดหน้าปกในของพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา อธิบายว่าเพื่อให้พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาเกิดประโยชน์ เราต้องเข้าใจก่อนว่าหลักคำสอนและพันธสัญญาคืออะไร ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงหน้าปกในและประโยคแรกของคำนำ

  • ท่านจะนิยามคำ หลักคำสอนว่าอย่างไร พันธสัญญา คืออะไร การเปิดเผยคืออะไร (ท่านอาจต้องอธิบายว่า หลักคำสอน คือความจริงนิรันดร์ขั้นพื้นฐานของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ พันธสัญญา คือข้อตกลงอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างพระผู้เป็นเจ้ากับบุตรธิดาของพระองค์ และ การเปิดเผย คือการสื่อสารจากพระผู้เป็นเจ้ากับบุตรธิดาของพระองค์ ท่านอาจต้องการเขียนนิยามต่อไปนี้ไว้บนกระดานและแนะนำให้นักเรียนลอกลงหน้าปกในของพระคัมภีร์ของพวกเขา

ขอให้นักเรียนเปิดคำนำย่อหน้าที่แปดของพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา (เริ่มต้นด้วย “ในการเปิดเผย …”) อธิบายว่าย่อหน้านี้ยกตัวอย่างหลักคำสอนบางประการที่พบในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านประโยคแรกในใจและระบุหลักคำสอนหนึ่งข้อหรือมากกว่านั้นที่พวกเขาสนใจจะเรียนรู้เพิ่มเติม

  • ท่านสนใจจะเรียนรู้หลักคำสอนใดเพิ่มเติมมากที่สุด ท่านคิดว่าท่านจะได้ประโยชน์จากความรู้ที่เพิ่มขึ้นและการเข้าใจความจริงเหล่านั้นอย่างไร

อธิบายว่าถึงแม้ความรู้เรื่องหลักคำสอนเหล่านี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่คุณค่าใหญ่หลวงที่สุดของพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาอยู่ในความจริงที่สำคัญที่สุดในนั้น เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงประโยคสุดท้ายของย่อหน้าที่แปด เชื้อเชิญให้ชั้นเรียนดูตามและมองหาความจริงที่ทำให้พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญามีค่ามาก

  • อะไรทำให้พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา “ล้ำค่า” เหตุใดประจักษ์พยานถึงพระผู้ช่วยให้รอดจึงมีค่ามาก

  • การศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาของท่านจะเพิ่มพูนประจักษ์พยานของท่านในพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร

เขียนหลักธรรมต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: เราสามารถเสริมสร้างประจักษ์พยานของเราในพระเยซูคริสต์ได้โดยศึกษาการเปิดเผยในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา

เชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาว่าชีวิตพวกเขาได้ประโยชน์อย่างไรจากประจักษ์พยานที่เข้มแข็งขึ้นในพระผู้ช่วยให้รอด ท่านอาจแบ่งปันว่าการศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาได้เสริมสร้างประจักษ์พยานของท่านในพระเยซูคริสต์อย่างไร

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าการศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาสามารถเสริมสร้างประจักษ์พยานของพวกเขาในพระเยซูคริสต์ ให้เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงประโยคที่สองในคำนำย่อหน้าแรก ขอให้ชั้นเรียนดูตามและระบุว่าพวกเขาจะได้ยินสุรเสียงของใครผ่านพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา หลังจากนักเรียนตอบแล้ว ให้เขียนหลักธรรมต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: เมื่อเราศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา เราจะได้ยินสุรเสียงของพระผู้ช่วยให้รอด

ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:34–36 เชื้อเชิญให้ชั้นเรียนดูตาม โดยหาดูว่าเราสามารถได้ยินสุรเสียงของพระเจ้าอย่างไรขณะที่เราศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา

  • เราสามารถเป็นพยานถึงอะไรถ้าเราศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา

ท่านอาจต้องการอธิบายว่าในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา คำบางคำ อาทิ “พระเจ้า” หรือ “พระผู้เป็นเจ้า” โดยทั่วไปจะหมายถึงพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงเป็นผู้ตรัสตลอดพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา

ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำนำย่อหน้าที่สาม ขอให้ชั้นเรียนดูตามและมองหาคำที่พูดถึงสุรเสียงของพระผู้ช่วยให้รอด (ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนทำเครื่องหมายสิ่งที่พวกเขาพบ)

  • คำอะไรใช้พูดถึงพระสุรเสียงของพระผู้ช่วยให้รอด

  • ชีวิตท่านได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการสามารถได้ยินและรับรู้สุรเสียงของพระเจ้า (อธิบายว่าในสัปดาห์ต่อๆ ไป นักเรียนจะเรียนรู้อีกหลายวิธีที่จะได้ยินและรับรู้สุรเสียงของพระเจ้าเมื่อพระองค์ตรัสกับพวกเขา)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้นว่าการศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตพวกเขาได้อย่างไร ท่านอาจให้ดูภาพผู้คนที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา: บราเดอร์โจเซฟ (หนังสือภาพพระกิตติคุณ [2009], หน้า. 87; ดู LDS.org ด้วย), เอ็มมา สมิธ (หน้า 88), ยอห์นผู้ถวายบัพติศมาประสาทฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน (หน้า 93), การฟื้นฟูฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค (หน้า 94), เอลียาห์ปรากฏในพระวิหารเคิร์ทแลนด์ (หน้า 95) อธิบายว่าเมื่อพวกเขาศึกษาการเปิดเผยในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา พวกเขาจะเรียนรู้เรื่องสำคัญๆ เกี่ยวกับคนเหล่านี้ ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านสองประโยคแรกของคำนำย่อหน้าที่หก (เริ่มต้นด้วย “การเปิดเผยอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ …”) ขอให้ชั้นเรียนดูตามและระบุสภาวการณ์ซึ่งได้รับการเปิดเผยในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา

ภาพ
ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ
ภาพ
เอ็มมา สมิธ
ภาพ
ยอห์นผู้ถวายบัพติศมาประสาทฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน
ภาพ
การฟื้นฟูฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค
ภาพ
เอลียาห์ปรากฏในพระวิหารเคิร์ทแลนด์
  • วลีใดในย่อหน้านี้พูดถึงสภาวการณ์ซึ่งได้รับการเปิดเผยเหล่านี้ (“ในคำตอบของการสวดอ้อนวอน” “ในเวลาจำเป็น” และ “สถานการณ์ชีวิตจริง”)

ให้ดูกระดาษที่เขียนคำว่า ท่าน ไว้บนนั้น ชี้ให้เห็นว่าเฉกเช่นแต่ละบุคคลจากประวัติศาสนจักร เราประสบสถานการณ์ซึ่งเราจำเป็นต้องได้รับการนำทางจากเบื้องบนเช่นกัน เชื้อเชิญให้นักเรียนพูดถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปีการศึกษาซึ่งพวกเขาจะได้ประโยชน์จากการนำทางของพระเจ้า เชิญนักเรียนคนหนึ่งเขียนคำตอบของพวกเขาไว้บนกระดาน

อธิบายว่าการเปิดเผยแต่ละครั้งที่นักเรียนจะศึกษาปีนี้เป็นพยานเพิ่มเติมว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์จริง พระองค์ตรัสกับบุตรธิดาของพระองค์ และพระองค์ทรงนำทางศาสนจักรของพระองค์

  • พยานเพิ่มเติมเหล่านี้จะช่วยท่านเมื่อท่านอยู่ในสภาวการณ์ท้าทายต่างๆ ได้อย่างไร

  • จากที่ท่านอ่านในคำนำย่อหน้าที่หก เราต้องทำอะไรจึงจะได้รับการนำทางจากเบื้องบนในยามจำเป็น

ช่วยนักเรียนระบุหลักธรรมจากย่อหน้าที่หกโดยเขียนข้อความที่ไม่ครบถ้วนต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: ถ้าเรา เมื่อนั้นพระเจ้าจะ

เชื้อเชิญให้นักเรียนสรุปสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้โดยเติมข้อความนี้ให้ครบถ้วน นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่คำตอบของพวกเขาควรสะท้อนหลักธรรมต่อไปนี้ ถ้าเราสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือในยามจำเป็น เมื่อนั้นพระเจ้าจะประทานการนำทางแก่เรา)

ขอให้นักเรียนเปิดไปที่คำนำย่อหน้าที่สี่และห้า สรุปย่อหน้าเหล่านี้โดยอธิบายว่าทั้งสองย่อหน้าให้ภาพรวมของเหตุการณ์สำคัญๆ ในการฟื้นฟูศาสนจักรของพระเยซูคริสต์บนแผ่นดินโลก รวมถึงนิมิตแรกและปรากฏการณ์อื่นๆ จากสวรรค์ การแปลพระคัมภีร์มอรมอน การฟื้นฟูสิทธิอำนาจและกุญแจฐานะปุโรหิต และการจัดตั้งศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย บอกนักเรียนว่าพวกเขาจะเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ในช่วงหลักสูตรการศึกษาของพวกเขา อธิบายว่าประสบการณ์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เกิดขึ้นขณะศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและคนอื่นๆ แสวงหาความช่วยเหลือและการนำทางจากพระเจ้า

  • ท่านเผชิญสถานการณ์ซึ่งท่านต้องการความช่วยเหลือหรือการนำทางจากพระเจ้าและท่านได้รับเมื่อใด

เชื้อเชิญให้นักเรียนเปิดไปที่ “ประจักษ์พยานของอัครสาวกสิบสองที่มีต่อความจริงของหนังสือหลักคำสอนและพันธสัญญา” ซึ่งอยู่ในคำนำ ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงสองย่อหน้าแรก (เริ่มต้นด้วยวลี “ดังนั้น, เราทั้งหลาย, จึงรู้สึกเต็มใจ …”) ขอให้ชั้นเรียนดูตามและระบุวลีที่พวกเขาประทับใจ

  • วลีใดจากประจักษ์พยานของอัครสาวกสิบสองเกี่ยวกับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาสะดุดใจท่าน เพราะเหตุใด

หลังจากนักเรียนตอบแล้ว ให้เตือนพวกเขาว่าช่วงต้นบทเรียนท่านกระตุ้นให้พวกเขามองหาด้านต่างๆ ที่พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตพวกเขา เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขาว่าพวกเขาหวังว่าพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตพวกเขาอย่างไรและพวกเขาจะทำอะไรเพื่อช่วยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น

เมื่อนักเรียนเขียนเสร็จแล้ว ท้าทายให้พวกเขาศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาร่วมกับการสวดอ้อนวอนทุกวันตลอดปีการศึกษานี้อันจะเป็นวิธีช่วยให้พวกเขาได้ยินสุรเสียงของพระผู้ช่วยให้รอดและได้รับการนำทางจากพระองค์ ท่านอาจต้องการสรุปโดยแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านว่าการศึกษาพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาได้ช่วยให้ท่านประสบพรเหล่านี้ในชีวิตท่านอย่างไร

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

อะไรคือความสัมพันธ์ระหว่างพระคัมภีร์มอรมอนกับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันสอนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพระคัมภีร์มอรมอนกับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาดังนี้

ภาพ
ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน

“พระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญารวมกันเป็นการเปิดเผยจากพระผู้เป็นเจ้าของอิสราเอลเพื่อรวมและเตรียมผู้คนของพระองค์ให้พร้อมรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเจ้า …

“พระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาเป็นพยานถึงกัน ท่านจะเชื่อเล่มหนึ่งและไม่เชื่ออีกเล่มหนึ่งไม่ได้ …

“พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาเป็นห่วงเชื่อมระหว่างพระคัมภีร์มอรมอนกับงานต่อเนื่องของการฟื้นฟูผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและผู้สืบตำแหน่งต่อจากท่าน …

“พระคัมภีร์มอรมอนนำมนุษย์มาสู่พระคริสต์ พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญานำมนุษย์มาสู่อาณาจักรของพระคริสต์ แม้ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ‘ศาสนจักรที่แท้จริงและดำรงอยู่แห่งเดียวตลอดทั้งพื้นพิภพ’ [คพ. 1:30] ข้าพเจ้าทราบเช่นนั้น

“พระคัมภีร์มอรมอนเป็น ‘ศิลาหลัก’ ของศาสนาเรา พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาเป็นศิลายอดที่มีการเปิดเผยต่อเนื่องของยุคสุดท้าย พระเจ้าทรงประทับตราเห็นชอบทั้งศิลาหลักและศิลายอด” (“The Book of Mormon and the Doctrine and Covenants,”Ensign, May 1987, 83)

จากการเปิดเผยเป็นสิ่งพิมพ์: พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาฉบับต่างๆ

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธพบกับเอ็ลเดอร์ทั้งหลายในเมืองไฮรัม รัฐโอไฮโอ กลุ่มนี้ตัดสินใจรวบรวมและจัดพิมพ์การเปิดเผยบางเรื่องที่ท่านศาสดาพยากรณ์ได้รับ พวกเขาคัดเลือกการเปิดเผย 65 เรื่องและใช้ชื่อฉบับรวมเล่มนี้ว่าหนังสือพระบัญญัติ ราวฤดูร้อน ค.ศ. 1833 ศาสนจักรจัดพิมพ์การเปิดเผยส่วนใหญ่ที่รวบรวมไว้ แต่กลุ่มคนร้ายทำลายเกือบหมด ด้วยเหตุนี้ปัจจุบันจึงเหลือไม่กี่เล่ม ศาสนจักรอนุมติและจัดพิมพ์อีกครั้งในปี ค.ศ. 1835 ฉบับนี้มี Lectures on Faith (ดูคำนำของพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา) และการเปิดเผย 103 เรื่อง ด้วยเหตุนี้ฉบับพิมพ์ครั้งนี้จึงเป็นฉบับแรกที่ใช้ชื่อว่า หลักคำสอน (คำบรรยาย) และพันธสัญญา (การเปิดเผย) (ดู History of the Church, 2:243–251)

ฉบับพิมพ์อีกสองสามครั้ง (แต่ละครั้งเพิ่มการเปิดเผยใหม่หรือปรับปรุงองค์ประกอบเล็กน้อย) พิมพ์ออกมาเป็นช่วงๆ จนถึง ค.ศ. 1981 เมื่อศาสนจักรจัดพิมพ์พระคัมภีร์รวมสามเล่มฉบับใหม่เป็นภาษาอังกฤษพร้อมเชิงอรรถที่ละเอียดขึ้น พระคัมภีร์อ้างอิง และดัชนีใหม่ เวลานั้น นิมิตปี ค.ศ. 1836 ของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธเกี่ยวกับอาณาจักรซีเลสเชียลและนิมิตปี ค.ศ. 1918 ของประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธเกี่ยวกับการไถ่คนตาย ซึ่งศาสนจักรถือเป็นพระคัมภีร์ในปี 1976 และเดิมทีเพิ่มเข้าไปในพระคัมภีร์ไข่มุกอันล้ำค่า ศาสนจักรได้เพิ่มนิมิตทั้งสองนี้เข้าไปในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาเป็นภาค 137 และ 138 ฉบับพิมพ์ปี 1981 มี 138 ภาคและข้อประกาศอย่างเป็นทางการสองฉบับ ฉบับหนึ่งเป็นถ้อยแถลงที่ออกในปี 1890 โดยประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์ และอีกฉบับเป็นข้อประกาศเกี่ยวกับฐานะปุโรหิตที่ออกในปี 1978 โดยประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ วันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2013 ฝ่ายประธานสูงสุดประกาศพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษฉบับพิมพ์ใหม่ ฉบับพิมพ์ครั้งนี้ส่วนใหญ่จะปรับแก้สิ่งช่วยศึกษาหรือหัวบทของพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาหรือแก้ไขตัวสะกดเล็กน้อยในเนื้อความ (ดูข้อมูลที่มีรายละเอียดมากกว่านี้มพ์แต่ละครั้งได้จาก เกี่ยวกับฉบับพิRevelations Correspondence Chart in “Corresponding Section Numbers in Editions of the Doctrine and Covenants,” JosephSmithPapers.org/reference/library)