คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 32: ความมั่งคั่งทางโลกและ อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า


บทที่ 32

ความมั่งคั่งทางโลกและ อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

ประธานบริคัม ยัง เป็นนักปฎิบัติที่ไม่สุรุ่ยสุร่ายและทำงานหนักเพื่อจัดหาความสะดวก สบายทางวัตถุให้กับครอบครัวและคนอื่นๆ ท่านสร้างบ้าน ธุรกิจ และฟาร์ม แต่ท่านไม่ ให้ใจของท่านหมกมุ่นกับเรื่องทางโลก ท่านเตือนว่า “บ่อยครั้งที่เรามักจะให้ความรัก ความเอาใจใส่มากเกินไม่กับสิ่งที่เน่าเปื่อยและไม่สลักสำคัญอะไร” (DNW, 16 July 1856, 2) “ข้าพเจ้าทราบว่าเรื่องทางโลกนับแต่การเริ่มต้นจนถึงที่สุด…ทำให้เกิดความแตกต่าง เพียงเล็กน้อยหรือไม่บีเลยในเรื่องความสุขของคนเรา” (DNW, 11 Jan. 1860, 1) ประธานยังสอนว่าควรอุทิศความมั่งคั่งทางโลกเพื่อเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

คำสอนของบริคัม ยัง

เราควรหมกม่นกับเรื่องของพระผู้เป็นเจ้ามากกว่าเรื่องทางโลก

เมื่อข้าพเจ้ามองดูผู้อาศัยของแผ่นดินโลกและเห็นความอ่อนแอ ข้าพเจ้าจะกล่าวว่านั่นคือ ความโง่เขลาที่สุดในใจของกษัตริย์ ผู้ปกครอง คนที่ยิ่งใหญ่ และผู้ที่น่าจะเป็นคนฉลาด คน ดีและมีเกียรติ เมื่อข้าพเจ้าเห็นพวกเขาเกลือกกลั้วในความตาช้าเพื่อให้ได้มาซึ่งความรารวย ความอยาก ความกระหาย ความปรารถนา และการแข่งขันเพื่อให้ได้ทรัพย์สิ่งของในชีวิตนี้ ข้าพเจ้าคิดว่า ไอ้คนโง่เขลาที่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งของในชีวิตนี้!…ชายหรือหญิงที่ให้ความมั่งคั่ง ของโลกนี้และสิ่งของในชีวิตนี้มีความสำคัญกว่าเรื่องของพระผู้เป็นเจ้าและปัญญาแห่งนิรันดร ไม่มีตาที่จะมองเห็น ไม่มีหูที่จะได้ยิน และไม่มีใจที่จะเข้าใจ (DBY, 306–7)

ข้าพเจ้ามองดูโลกของมนุษยชาติและเห็นพากเขากอบโกย ช่างชิง แข่งข้น ทุกคนแสวงหา เพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งให้กับตัวเอง และบรรลุถึงจุดมุ่งหมายของตัวเองโดยไม่สนใจชุมชนที่ พากเขาอาศัยอยู่ เดินคอแข็งไม่สนใจเพื่อนบ้าน–ทุกคนกำลังแสวงหา วางแผน คิดค้นและ กระสับกระส่ายในยามนอน หากนอนหลับก็จะฝันว่า “ฉันจะเอาเปรียบเพื่อนบ้านได้อย่าง ไร? ฉันจะแย่งชิงความมั่งคั่งมาจากเขาได้อย่างไร เพื่อฉันจะได้เต้านี้นไปสู่การมีชื่อเสียง? “นี่คือแนวความคิดที่ผิดอย่างลิ้นเชิง…ผู้ที่แสวงหาเกียรติและรัศมีภาพโดยทำให้เพื่อนมนุษย์ ต้องหมดคุณค่าในการอยู่ร่วมลังคมกับผู้มีกัญญา (DBY, 307)

การเป็นเจ้าของความมั่งคั่งเพียงอย่างเดียวทำให้เกิดความสุขไม่ได้ มันอาจจะให้ความ สะดวกสบาย ในยามที่เราเปลี่ยนมันเป็นสิ่งจำเป็นและความฟุ่มเฟือยในชีวิต เมื่อความมั่งคั่งเกิดจากการคดโกง หรือเป็นไปในลักษณะที่ไม่ยุติธรรมและไร้เกียรติ ความกลัวการตรวจ สอบและการลงโทษก็จะช่วงชีงความสุขจากผู้ครอบครองความสุขของมนุษย์ทุกคน แม้ ความมั่งคั่งจะได้มาอย่างมีเกียรติ การเป็นเจ้าของมันก็ยังก่อให้เกิดสำนึกอันขมขื่นว่าในไม่ ช้าความตายจะมาปลดเปลื้องมันไปจากเขาและคนอื่นจะเข้ามาครอบครองมัน พวกเขามี ความหวังอะไรหรือในอนาคต หลังจากที่ผ่านโลกแห่งความเศร้าโศกนี้ไปแล้ว? พวกเขาไม่รู้ อะไรเลยเกี่ยวกับอนาคต พวกเขาไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความตายและนรก ความสบาย อันลมบูรณ์และความปีติยินดีที่บ่ริสุทํธิ้เป็นสิ่งที่พวกเขาโม่รู้จัก (DBY, 314)

การได้เป็นเจ้าของทองและเงินทั้งหมดในโลกจะไม่ลนองความกระหายของจิตวิญญาณ อันเป็นอมตะของมนุษย์ ของประทานแห่งพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าเท่านั้นที่ จะสร้างจิตใจที่ดี บริสุทธิ์ และพึงพอใจได้ แทนที่จะมองหาทองและเงิน จงมองดูสวรรค์ และพยายามเรียนรู้ปัญญาจนกว่าท่านจะจัดระเบียบองค์ประกอบทางธรรมชาดิเพื่อประโยชน์ ของท่านได้ และเมื่อนั้นท่านจึงเริ่มเป็นเจ้าของความมั่งคั่งที่แท้จริง (DBY, 305)

มีทรัพย์สิน เงินทองมากมายเพียงใดในแผ่นดินและบนแผ่นตินนี้ที่พระเจ้าประทานให้ คนนี้บ้าง และคนนั้นบ้าง—คนชั่วก็ได้รับเช่นเดียวกับคนชอบธรรม—เพื่อทรงดูว่าพวกเขา จะทำอะไรกับมัน แต่ทั้งหมดเป็นของพระองค์ พระองค์ทรงให้ส่วนที่ดีแก่คนพวกนี้ และโดย ทางศรัทธา ความอดทน และความอุตสาหะของเรา เราได้ทำดีแล้ว บ้านที่สุขสบายที่นี่ หลายคนอยู่ในฐานะมั่งคั่งพอสมควร…แต่มันไม่ใช่ของเรา สิ่งที่เราต้องทำคือ พยายาม ค้นหาว่าพระเจ้าทรงด้องการให้เราทำอะไรกับสิ่งที่เรามีอยู่ในครอบครองของเรา และแล้วจง ไปและทำสิ่งนั้น หากเราก้าวมากไปกว่านี้ ขวาหรือซ้าย เราก็กำลังก้าวเข้าสู่รูปแบบทาง ธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมายคือการทำสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการให้ เราทำซึ่งสิ่งนั้นพระองค์ประทานให้เราเราต้องจัดการตามที่พระองค์ทรงบอก แม้จะต้องให้ ทั้งหมดไม่ว่า หนึ่งส่วนสิบ หรือส่วนเกินก็ตาม (DBY, 305)

ชายและหญิงที่พยายามทำตัวให้มีความสุขในการครอบครองความมั่งคั่งหรืออำนาจจะ ไม่ได้สิ่งนั้น เพราะไม่มีสิ่งใดนอกจากพระกิตติคุณของพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าที่จะทำให้ ผู้อาศัยของแผ่นดินโลกมีความสุข และเตรียมตัวได้รับสวรรค์ในชีวิตนี้และหลังจากนี้ (DBY, 315)

ความรักเงินนำไปสู่ความผิดหวังและการสูญเสียพระวิญญาณ

ท่านไม้รู้หรือว่าการเป็นเจ้าของทรัพย์ลมบ้ติฃองท่านก็เหมือนกับเงาหรือนํ้าค้างในเวลาเช้า ก่อนพระอาทิตย์ในเวลาเที่ยงวัน คือ ท่านจะมีความมั่นใจใดๆ ไม่ไดในการควบคุมมันแม้ แต่สักชั่วขณะเดียว! พระหัตถ์ที่มองไม1เห็นของพระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานทุกสิ่งต่างหากที่ ควบคุมมันได้ (DBY, 305–6)

เรามีอาจวางใจในความแน่นอนของทรัพย์สมบัติแห่งความเป็นมตะ มันเป็นสิ่งชั่วคราว และการไว้วางใจในสิ่งนี้จะทำให้ทุกคนที่เชื่อถือมันต้องถลำไปสู่ความผิดพลาดที่น่าเศร้าใจ (DBY, 306)

มารจะครอบงำมนุษย์ที่กราบไหว้ผลประโยชน์เพียงไร! (DBY, 306)

ข้าพเจ้ากลัวความโลภของเหล่าเอ็ลเดอร์มากกว่ากลัวกองทัพที่มาจากนรกเลียอีก (DBY, 306)

ผู้ที่โลภและตะกละ กระวนกระวายที่จะหยิบฉวยโลกทั้งโลก ขุ่นข้องหมองใจอยู่ตลอด เวลาพวกเขาชอบวางแผนและคิดค้นวิธีที่จะได้สิ่งนี้ สิ่งนั้น และอะไรต่อมีอะไรอยู่ราไป (DBY, 306)

มนุษย์ตะกละอยากได้สิ่งที่ไร้ประโยชน์ของโลกนี้ ในใจของพวกเขามีความโลภ เป็น ความจริงที่ว่าสิ่งต่างๆ ของโลกนี้ถูกออกแบบไว้เพื่อทำให้เราสุขสบาย และทำให้คนบางคนมี ความสุขมากตราบเท่าที่เขาจะอาศัยอยู่ที่นี่ แต่ความรารวยไม่เคยทำให้สีทธิชนยุคสุดท้ายมี ความสุข ความรารวยในตัวของมันเองจะทำให้เกิดความสุขอันถาวรไม่ได้ เฉพาะพระวิญญาณที่มาจากเบื้องบนเท่านั้นที่จะทำได้ (DBY, 306)

สิทธิชนยุคสุดท้ายที่ตั้งหน้าตั้งตาอยู่กับการหาเงิน ในไม่ช้าก็จะรู้สึกเย็นชาต่อพิธีการของ พระนิเวศน์ของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาละเลยการสวดอ้อนวอนไม่เต็มใจที่จะจ่ายเงินบริจาค กฎส่วนสิบกลายเป็นภาระหนักลำหรับพวกเขา และในที่สุดพวกเขาก็ทิ้งพระผู้เป็นเจ้า ไม่ได้ รับการอารักขาจากสวรรค์อีกต่อไป—ทั้งหมดนี้เป็นผลของตัณหาที่เกิดจากการแสวงหา สิ่งของทางโลก ซึ่งย่อมมีวันสูญลิ้นแม้ขณะที่เราดูแลมัน เพราะแม้แต่การใช้สิ่งของก็ยังเกิด การลึกหรอและค่อยๆ เลื่อมสลายไปในที่สุด (DBY, 315)

การทำงานด้วยความอดทนจะนำมาซึ่งทรัพย์สินทางโลกและความร่ำรวยนิรันดร

การเป็นเจ้าของสิ่งของทางโลกไม่ได้จัดอยู่ในความมั่งคั่งที่แท้จริง มันไม่ใช่ความรารวย มันไม่ได้เป็นมากกว่าหรือน้อยกว่าสิ่งที่เป็นธรรมดาสามัญกับมนุษย์ทุกคน กับคนเที่ยงธรรม และคนอธรรม กับสิทธิชนและกับคนบาป พระอาทิตย์ขึ้นเหนือคนชั่วและคนดี พระเจ้าทรง ส่งฝนให้คนเที่ยงธรรมและคนอธรรม [ดู มัทธิว 5:45] สิ่งนี้ประจักษ์ต่อลายตาเรา และใน ประลบการณ์ประจำวันของเรา กษัตริย์โซโลมอน นักปราชญ์ท่านหนึ่งกล่าวว่าคนวิ่งเร็วไม่ ชนะการแข่งขันเสมอไป ทั้งคนมีกำลังก็ไม่ชนะสงครามเสมอไป คนมีปัญญาก็ไม่รวยเสมอ ไป [ดู ปัญญาจารย์ 9:11] เราจะมองเห็น ความจริงของข้อความนี้ได้ในแต่ละวัน…คน อ่อนแอคนนี้ขลาด และด้อยปัญญาบ่อยครั้งที่เป็นผู้ชนะในสงคราม คนทึ่ม คนโง่ และคนที่ ไม่ฉลาดจะเดินงกๆ เงิ่นๆ ไปสู่ความมั่งคั่ง (DBY, 308)

ความมั่งคั่งที่แท้จริงมีอยู่ในความเชี่ยวชาญที่จะนำความสะดวกสบายออกมาจากวัตถุดิบ อำนาจและความสูงศักดิ์ที่ความมั่งคั่งจะให้ได้นั้นเป็นแค่สิ่งจอมปลอมเราจะพบแก่นแท้ก็แต่ ในกระดูกและเส้นเอ็นของคนหลายล้านคนที่ตรากตรำทำงานหนัก แรงงานที่ถูกนำมาใช้ อย่างดีคืออำนาจแท้จริงที่จัดหามาสนองความต้องการของเรา มันให้ความสง่างามอย่าง ภาคภูมิแก่ผู้ปกครอง ให้การศึกษาและจัดหาให้แก่ผู้ปฏิบัติศาสนกิจและการเมือง จัดหามา สนองความต้องการของบรรดาลูกชายลูกลาวนับพันล้านคนของแผ่นดินโลก (DBY, 309)

เราใช้เวลาเพียงหนึ่งในลามหรือหนึ่งในสิ่จัดหาสิ่งจำเป็นเพื่อการดำรงชีวิตก็เพียงพอแล้ว หากเราใช้แรงงานอย่างถูกต้อง ผู้คนคิดว่าเรากำลังร่ำรวยโดยการทำงานหนัก—โดยการทำ งานวันละสิบหกชั่วโมงหรือที่สิบลีชั่วโมง แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น พี่น้องสมาชิกของเราจำนวนมากรู้สึกยากลำบากที่จะใช้เวลาไปการประชุมของศาลนาจักร ทั้งที่หกวันนั้นมากเกิน พอที่จะทำงาน (DBY, 311)

นี่คือคำแนะนำที่ข้าพเจ้าจะให้กับสิทธิชนยุคสุดท้ายในวันนี้ จงหยุด อย่าอยู่ในภาวะที่รีบ ร้อน ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าข้าพเจ้าจะพบคนลักคนในชุมชนของเราที่ไม่ต้องการความร่ำรวย ไม่อยากจะมีทุกสิ่งไว้ในครอบครองเพื่อจะทำให้เกิดความสะดวกสบายแก่เขาหรือไม1 ท่านรู้ วิธีที่จะได้มันมาหรือไม่? คนหนึ่งตอบว่า “หากผมไม่รู้ ผมก็อยากจะรู้ แต่ดูเหมือนผมจะ โชคไม่ดีอย่างนั้น—โชคไม่ค่อยเข้าข้างผม” ข้าพเจ้าจะบอกเหตุผลของเรื่องนี้วับท่าน—ท่าน ริบร้อนมากเกินไป ท่านไม่ได้ไปประชุมเพียงพอ ท่านไม่ได้ลวดอ้อนวอนเพียงพอ ท่านไม่ได้ อ่านพระคัมภีร์เพียงพอ ท่านไม่ได้ไตร่ตรองเพียงพอ ท่านยุ่งอยู่ตลอดเวลา และในความริบ ร้อนเช่นนั้นท่านไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อน นี่ไม่ใช่วิธีที่จะได้รับความร่ำรวย ข้าพเจ้าใช้แต่คำว่า “รารวย” เพียงเพื่อชักนำความคิด จนกระทั้งเราได้รับความร่ำรวยนิรันดร์ในอาณาจักรชั้น สูงของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตนี้เราปรารถนาความร่ำรวยพอประมาณ เราปรารถนาจะมีความ สุขสบายในชีวิต หากเราปรารถนามัน ขอให้เราดำเนินตามวิถีที่จะได้มันมา ข้าพเจ้า ขอพูดสั้นๆ และง่ายๆ ดังนี้—จงใช้วิธีที่เรียบง่ายที่สุดและเกี่ยวข้องกับชีวิตภายในบ้าน—“จงหงายจานของท่านนี้น” เพื่อว่าเมื่อพรแห่งความร่ำรวยเทลงมา ท่านจะใส่มันไว้ได้เต็ม จาน (DBY, 310)

เมื่อ [บุคคล] กระทำตามหลักธรรมที่จะช่วยให้เขาได้รับความรอดนิรันดร์พวกเขาก็มั่นใจ ว่าจะได้รับสิ่งที่ใจของเขาปรารถนาทั้งหมด ไม่ช้าก็เร็ว หากมันไม่ได้มาวันนี้ มันก็จะมาพรุ่งนี้ หากไม่ได้มาในชีวิตนี้ มันก็จะมาในชีวิตหน้า (DBY, 309)

เราควรเป็นคนพึ่งพาตนเองและแบ่งปันสิ่งของของเราแก่คนยากจน

คนจนคือผู้คนของพระผู้เป็นเจ้า และพวกเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก (DBY, 316)

คนที่หิวโหยและอดอยากมีสิทธิ์จะได้รับอาหารของข้าพเจ้าเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ข้าพเจ้า รู้สึกมีความสุขในการสมาคมกับเขาเช่นเดียวกับคนที่มีอย่างเหลือเฟึอ หรือกับเจ้าชายของ แผ่นดินโลกหากเขามีจิตใจที่ดีพวกเขาจะได้รับการเคารพนับถือจากข้าพเจ้า ไม่ใช่ตามความ รารวยและตำแหน่งที่ดำรงอยู่ แต่ตามลักษณะนิสัยที่พวกเขามี (DBY, 317)

คนยากจนที่รับใช้พระเจ้าไม่ลืมพันธสัญญาของเขา ขณะที่คนยากจนของมารไม่ให้ ความสำคัญแก่ปัญญาของตน (DBY, 317)

ขอให้คนยากจนเป็นคนชื่อตรง ขอให้คนรารวยใจกว้าง และวางแผนที่จะช่วยเหลือคน ยากจนเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า และในขณะเดียวกันก็ทำให้ตนมีคุณค่ามาก ขึ้น เพราะสิ่งนั้นคือวิธีที่เสริมลร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า (DBY, 317)

หากคนยากจนได้รับทรัพย์สมบัติส่วนเกินทั้งหมดจากคนรวย หลายคนจะใช้มันอย่างลิ้น เปลืองอันเกิดจากตัณหาของร่างกายเนื้อหนัง และทำลายตัวเองด้วยการใช้มัน ตังนั้นพระ เจ้าจึงไม่ทรงกำหนดว่าคนรารวยต้องให้สิ่งของทั้งหมดแก่คนยากจน เป็นความจริงที่ว่าชาย หนุ่มคนหนึ่งมาหาพระเยซูเพื่อจะรู้ว่าเขาต้องทำอะไรเพื่อได้รับความรอด พระองค์ทรงบอก เขาว่า “จงไปขายบรรดาสิ่งของซึ่งท่านมีอยู่แจกจ่ายให้คนอนาถา ท่านจึงจะมีทรัพย์สมบัติ ในสวรรค์ แล้วจงตามเรามา” หลายคนคิดว่าพระองค์ทรงบอกให้ชายหนุ่มนั้นบริจาคทุกสิ่งที่ เขามี แต่พระเยซูไม่ได้ทรงต้องการให้ทำเช่นนั้น ทั้งพระองค์ก็ไม่ได้ตรัสเช่นนั้น แต่ตรัส ง่ายๆ ว่า “จงไปบริจาคให้กับคนยากจน” [ดู ลูกา 18:18–23] (DBY, 317–18)

เป็นความอัปยศอดสูของชายและหญิงทุกคนที่มีลำนึกพอที่จะมีชีวิต แต่ไม่ดูแลเครือ ญาติของตน คนยากจนของตน และไม่วางแผนให้พวกเขาทำบางสิ่งที่พวกเขาทำได้ (DBY, 318)

เราควรอุทิศทรัพย์สินทางโลกเพื่อเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

เรารารวยเพื่ออะไร? เพื่อเป็นพร และเพื่อทำความดี ตังนั้นขอให้เราแจกจ่ายสิ่งที่พระเจ้า ประทานให้เราเพื่อใช้ในการเสริมลร้างอาณาจักรของพระองค์อย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อการล่งเสริมให้ความจริงแผ่ขยายบนแผ่นดินโลก เพื่อเราจะเห็นและชื่นชมพรแห่งไชอัน ของพระผู้เป็นเจ้าที่นี่บนแผ่นดินโลกนี้ (DBY, 307)

ด้วยลักษณะนิสัยที่อุตสาหะและการทำธุรกิจที่น่าเชื่อถือ หากท่านหาเงินได้หลายพัน หลายล้าน น้อยหรือมากก็ตาม เป็นหน้าที่ของท่านที่จะใช้ทุกสิ่งที่อยู่ในการครอบครองของ ท่านอย่างรอบคอบที่สุดเท่าที่ความรู้ของท่านจะอำนวย ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างอาณาจักรของ พระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลก (DBY, 313–14)

หากเรามีเงินหลายร้อยล้านเหรียญและอุทิศทรัพย์สินนั้นเพื่อเสริมสร้างอาณาจักรของ พระผู้เป็นเจ้า และทำความดีต่อมนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้าง ด้วยตาที่เห็นแก่รัศมีภาพของ พระองค์เราจะได้รับพรและมีสิทธิ์ต่อการได้รับความรอดมากเท่ากับคนขอทานที่ขอจากบ้าน หนึ่งไปอีกบ้านหนึ่ง คนรารวยที่ซื่อสัตย์มีสิทธิ์ได้รับการเปิดเผยจากพระเยซูคริสต์มากเท่ากับ คนยากจนที่ชื่อสัตย์ (DBY, 314)

เราต้องเฝ้าระวังและลวดอ้อนวอน พิจารณาการกระทำและคำพูดของเราอย่างรอบคอบ รวมทั้งดำเนินชีวิตให้ใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้าของเรา เพื่อความรักของโลกนี้จะไม่ทำให้เมล็ด แห่งความจริงอันมีค่าเหี่ยวแห้งไป และหากจำเป็น จงพร้อมที่จะถวายทุกสิ่งแม้แต่ชีวิตเพื่อ เห็นแก่อาณาจักรแห่งสวรรค์ (DBY, 314)

ระวัง เจ้าผู้คนของอีสราเอล จงรอบคอบเพื่อเจ้าจะไม่รักโลกหรือสิ่งของทางโลกในสถานะ ปัจจุบันของเจ้า และลืมพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าของเจ้าเนื่องจากความเย่อหยิ่งโอหังของเจ้า เราไม่ควรใส่ใจกับเงินทองและทรัพย์สมบัดิที่โลกอันชั่วร้ายแสวงหา มากไปกว่าพื้นดินและ เม็ดกรวดเม็ดทรายที่เราเดินเหยียบย่ำอยู่ (DBY, 314)

แม้ว่าข้าพเจ้าจะเป็นเจ้าของเงินและทรัพย์สินมูลค่านับล้าน นั้นไม่ได้เป็นข้อยกเว้นที่ ข้าพเจ้าจะไม่ต้องทำงานซึ่งเป็นการเรียกของข้าพเจ้า ตราบที่ข้าพเจ้ายังมีกำลังและความ ลามารถก็ไม่ได้รับการยกเว้นมากไปกว่าคนที่ยากจนที่สุดในชุมชน ยิ่งเราได้รับพรด้วยทรัพย์ สินมาก เราก็ยิ่งได้รับพรด้วยความรับผิดชอบมาก ยิ่งเราได้รับพรด้วยปัญญาและความลา มารถมาก เราก็ยิ่งได้รับการกำหนดให้ใช้ปัญญาและความลามารถนั้นในการแผ่ขยายความ ชอบธรรม พิชิตบาป และความทุกข์ยาก และทำให้สภาพของมนุษย์ดีพื้น คนที่มีหนึ่งตะสันต์ กับคนที่มีห้าตะลันต์มีความรับผิดชอบแตกต่างกันตามที่เขามี [ดู มัทธิว 25:14–30] หากเรา มีโลกแห่งทรัพย์สิน เราก็มีโลกแห่งความรับผิดชอบ (DBY, 315)

ข้อแนะนำสำหรับการศึกษา

เราควรหมกมุ่นกับเรื่องของพระผู้เป็นเจ้ามากกว่าเรื่องทางโลก

  • ทำไมการหมกมุ่นกับสิ่งของทางโลกจึงเป็นเรื่องที่โง่เขลา? เราจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของ พระผู้เป็นเจ้าได้อย่างไร?

  • จากคำพูดของประธานยัง ทำไมบางคนจึงได้รับพรด้วยความรารวย? มีอันตรายอะไรที่รอ คอยคนที่ล้มเหลว “ที่จะทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการให้เขาทำด้วยสิ่งที่พระองค์ประทาน ให้ [พวกเขา]? ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อใดท่านกำลังทำ “ธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย”? ท่านมีประสบการณ์ใดบ้างในการแบ่งปันสิ่งของทางโลกขณะที่ท่านพยายามดำเนินชีวิต ตามพระกิตติคุณ?

ความรักเงินนำไปสู่ความผิดหวังและการสูญเสียพระวิญญาณ

  • ทำไมการพึ่งพาความรารวยทางวัตถุนำไปสู่ความผิดหวัง? ท่านเห็นข้อพิสูจน์ผู้ใดที่แสดง ว่าเราควรมีความห่วงใยร่วมกับประธานยังเกี่ยวกับความโลภในจิตใจของผู้คน? เราจะ หลีกเลี่ยงยัญหาเช่นนั้นได้อย่างไร?

  • เกิดอะไรชั้นกับผู้ที่ “ตั้งหน้าตั้งตาอยู่กับการหาเงิน”? การหมกมุ่นอยู่กับเงินจะทำให้ ผู้คนหันเหไปจากพระวิหาร การลวดอ้อนวอน และการจ่ายส่วนสิบอย่างไร?

การทำงานด้วยความอดทนจะนำมาซึ่งทรัพย์สินทางโลกและความร่ำรวยนิรันดร

  • “ความมั่งคั่งที่แท้จริง” คืออะไร? (ดู ค.พ. 6:7)

  • อะไรคือคำแนะนำของประธานยัง ที่มีต่อผู้ที่ใช้เวลามากเกินโปในการแสวงหาสิ่งของ ทางโลก?

  • เราต้องทำอะไรเพื่อจะได้รับ “ความรารวยนิรันดรในอาณาจักรชั้นสูงของพระผู้เป็นเจ้า”?

  • ประธานยังกล่าวว่า “อย่าอยู่ในภาวะรีบร้อน…นี่ไม่ใช่วิธีที่จะได้รับความรารวย” ท่านคิด ว่าประธานยังหมายความว่าอย่างไร? ท่านจะประยุกต์คำแนะนำของประธานยังในชีวิต ของท่านได้อย่างไร?

เราควรเป็นคนพึ่งพาตนเองและแบ่งปันสิ่งของของเราแก่คนยากจน

  • อะไรควรเป็นทัศนคติของเราเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนยากจน? พระเจ้าทรงเรียกร้อง อะไรจากคนยากจน? ทรงเรียกร้องอะไรจากคนรารวย? (ดู โมไชยา 4:16–28 ด้วย)

  • ทำไมลักษณะนิสัยจึงสำคัญมากกว่าความมั่งคั่งทางโลก?

  • อะไรคือความรับผิดชอบที่เรามีต่อสมาชิกในครอบครัวผู้อยู่ในความขัดสน?

เราควรอุทิศทรัพย์สินทางโลกเพื่อเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

  • อะไรคือความรับผิดชอบของคนเหล่านั้นที่ได้รับความมั่งคั่งทางโลก?

  • ทั้งคนรารายและคนยากจนบริจาคอย่างเผื่อแผ่เพื่อสร้างอาณาจักรได้อย่างไร? พรใด สะสมไว้สำหรับผู้ที่ทำดังนี้?

ภาพ
Salt Lake City temple under construction

ประธานบริคัม ยังสอนว่าควรอุทิศความมั่งคั่งทางโลกเพื่อเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า