การประชุมใหญ่สามัญ
ท่านสามารถรวมอิสราเอลได้!
การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2021


ท่านสามารถรวมอิสราเอลได้!

ข้าพเจ้ามั่นใจอย่างยิ่งว่าพวกท่านเยาวชนทำได้เนื่องจากบางสิ่งเกี่ยวกับอัตลักษณ์และพลังมหาศาลภายในตัวท่าน

เกือบสามปีที่แล้ว ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเชื้อเชิญเยาวชนทุกคนในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายให้เข้าร่วม “กองทัพเยาวชนของพระเจ้าเพื่อช่วยรวบรวมอิสราเอล” ในทั้งสองด้านของม่าน ท่านบอกว่า “การรวบรวมนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกในปัจจุบัน”1 ข้าพเจ้ามั่นใจอย่างยิ่งว่าพวกท่านเยาวชนทำได้—และทำได้ดีมาก—เนื่องจาก (1) บางสิ่งเกี่ยวกับอัตลักษณ์และ (2) พลังมหาศาลภายในตัวท่าน

ภาพ
บราเดอร์และซิสเตอร์คอร์บิตต์

สี่สิบเอ็ดปีที่แล้ว ผู้สอนศาสนาสองคนจากศาสนจักรได้รับการทรงนำไปยังบ้านหลังหนึ่งที่นิวเจอร์ซีย์ในสหรัฐ ในที่สุดทั้งพ่อแม่กับลูก 10 คนก็รับบัพติศมาอย่างน่าอัศจรรย์ ในถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ พวกเขา “ให้พระเจ้าทรงมีชัย”2 ในชีวิตพวกเขา ข้าพเจ้าควรใช้คำว่า “ชีวิตพวกเรา” ข้าพเจ้าเป็นลูกคนที่สาม ข้าพเจ้าอายุ 17 ปีเมื่อตัดสินใจทำพันธสัญญาถาวรที่จะติดตามพระเยซูคริสต์ แต่ลองทายดูว่าข้าพเจ้าตัดสินใจอะไรอีก? ข้าพเจ้าจะไม่รับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลา เพราะมันมากเกินไป คงไม่มีใครคาดหวังให้ข้าพเจ้าทำหรอกใช่ไหม? ข้าพเจ้าเป็นสมาชิกใหม่เอี่ยมของศาสนจักร ข้าพเจ้าไม่มีเงิน นอกจากนี้ แม้ว่าจะเพิ่งจบจากโรงเรียนมัธยมปลายที่โหดที่สุดในละแวกฟิลาเดลเฟียตะวันตกและฝ่าความท้าทายอันตรายบางอย่างมาได้ ข้าพเจ้าก็แอบกลัวที่จะต้องจากบ้านไปถึงสองปีเต็ม

ภาพ
ครอบครัวคอร์บิตต์

อัตลักษณ์ที่แท้จริงของท่าน

แต่ข้าพเจ้าเพิ่งเรียนรู้ว่าข้าพเจ้าและมนุษยชาติทั้งปวงเคยอาศัยอยู่กับพระบิดาบนสวรรค์ในฐานะบุตรธิดาทางวิญญาณของพระองค์ก่อนเราเกิด คนอื่นจำต้องรู้ เหมือนที่ข้าพเจ้ารู้ ว่าพระองค์ทรงปรารถนาให้ลูกๆ ทุกคนของพระองค์ได้เบิกบานใจในชีวิตนิรันดร์กับพระองค์ ดังนั้น ก่อนจะมีใครบนแผ่นดินโลก พระองค์ทรงนำเสนอทุกคนถึงแผนอันสมบูรณ์แบบแห่งความรอดและความสุข โดยมีพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา น่าเศร้าที่ซาตานต่อต้านแผนของพระผู้เป็นเจ้า3 ตามเรื่องราวในหนังสือวิวรณ์ “เกิดสงครามขึ้นในสวรรค์”!4 ซาตานหลอกลวงลูกๆ ทางวิญญาณของพระบิดาบนสวรรค์ถึงหนึ่งในสามเพื่อให้เขามีชัยแทนที่จะเป็นพระผู้เป็นเจ้า5 แต่ไม่ใช่ท่าน! อัครสาวกยอห์นได้เห็นว่าท่านเอาชนะซาตาน “ด้วยคำพยานของ [ท่าน] เอง”6

การรู้ถึงอัตลักษณ์ที่แท้จริงของตนเอง โดยมีปิตุพรช่วย ทำให้ข้าพเจ้ามีความกล้าหาญและศรัทธาที่จะตอบรับคำเชิญของประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ให้รวบรวมอิสราเอล7 สิ่งนี้จะเกิดกับท่านเช่นกัน เพื่อนที่รัก การรู้ว่าท่านเอาชนะซาตานด้วยคำแห่งประจักษ์พยานของท่านมาก่อนจะช่วยให้ท่านรัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญ8เวลานี้และตลอดไป—เชื้อเชิญให้ผู้อื่นมาดู มาช่วย และมาเป็นส่วนหนึ่ง ขณะที่สงครามเดียวกันนั้นเพื่อแย่งชิงจิตวิญญาณลูกๆ ของพระผู้เป็นเจ้ายังปะทุต่อไป

ภาพ
เอ็ลเดอร์คอร์บิตต์

ศรัทธาอันทรงพลังภายในตัวท่าน

แล้วพลังมหาศาลภายในตัวท่านเล่า? ลองนึกถึงเรื่องนี้: ท่านโห่ร้องด้วยความชื่นบาน9 ในการมายังโลกซึ่งตกไปแล้วที่ทุกคนจะเผชิญความตายทางร่างกายและทางวิญญาณ เราจะไม่มีวันเอาชนะความตายทั้งสองอย่างนั้นได้ด้วยตนเอง เราจะไม่เพียงทนทุกข์จากบาปของเราเองแต่จากบาปของคนอื่นด้วย มนุษยชาติจะประสบภาวะแตกสลายและความผิดหวังอย่างแท้จริงทุกรูปแบบที่เราจินตนาการได้10—ทั้งหมดนี้โดยมีม่านแห่งความลืมเลือนมาบดบังความคิดเราและศัตรูร้ายกาจที่สุดของโลกยังคงพุ่งเป้ามาที่เราและล่อลวงเรา ความหวังทั้งหมดสำหรับการกลับไปแบบฟื้นคืนชีวิตและสะอาดสู่ที่ประทับอันบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าขึ้นอยู่กับพระองค์เดียวเท่านั้นที่จะทรงรักษาสัญญาของพระองค์11

อะไรที่ทำให้ท่านมีพลังก้าวไปข้างหน้า? ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์สอนว่า “ท่านต้องใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์เพื่อสนับสนุนแผนแห่งความสุขและตำแหน่งของพระองค์ในแผนนั้นเมื่อท่านทราบเรื่องท้าทายที่จะเผชิญในความเป็นมรรตัยเพียงน้อยนิด”12 เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงสัญญาว่าพระองค์จะเสด็จมาในความเป็นมรรตัยและสละพระชนม์ชีพเพื่อรวมเรา13และช่วยเราให้รอด ท่านไม่ได้เพียงเชื่อพระองค์เท่านั้น แต่ท่านซึ่งเป็น “ดวงวิญญาณที่สูงส่ง”14 มี “ศรัทธาอันใหญ่หลวงยิ่ง” จนท่านมองว่าคำสัญญาของพระองค์จริงแท้แน่นอน15 พระองค์ทรงกล่าวเท็จไม่ได้ ท่านจึงมองพระองค์ราวกับว่าพระองค์ได้ทรงหลั่งเลือดเพื่อท่านแล้ว นานก่อนพระองค์มาประสูติ16

ในถ้อยคำเชิงสัญลักษณ์ของยอห์น ท่าน “ชนะ [ซาตาน] ด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก”17 ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์สอนว่าในโลกนั้น “[ท่าน] เห็นจุดหมายปลายทางตั้งแต่จุดเริ่มต้น”18

สมมุติว่าวันหนึ่งก่อนจะไปโรงเรียน พ่อหรือแม่ให้คำสัญญาจริงๆ ว่าท่านจะได้กินอาหารจานโปรดเมื่อกลับมาบ้าน! ท่านตื่นเต้น! ขณะอยู่โรงเรียนท่านจินตนาการว่ากำลังกินอาหารนั้น และท่านได้ลิ้มรสมันแล้ว โดยธรรมชาติแล้ว ท่านบอกข่าวดีกับคนอื่นๆ การตั้งตารอจะได้กลับบ้านทำให้ท่านมีความสุขจนการสอบและความท้าทายต่างๆ ในโรงเรียนดูเบาลง ไม่มีสิ่งใดนำปีติไปจากท่านหรือทำให้ท่านสงสัยได้เพราะคำสัญญานั้นแน่นอนจริงๆ! ในทำนองเดียวกัน ก่อนท่านดวงวิญญาณที่สูงส่งจะเกิดมา ท่านเรียนรู้ที่จะมองคำสัญญาของพระคริสต์ว่าเป็นเรื่องแน่นอน และท่านลิ้มรสความรอดของพระองค์19 ศรัทธาอันใหญ่หลวงยิ่งของท่านเป็นเหมือนกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้นและใหญ่ขึ้นเมื่อท่านยิ่งออกกำลังกาย แต่กล้ามเนื้อพวกนั้นมีอยู่ในตัวท่านอยู่แล้ว

ท่านจะปลุกศรัทธาอันยิ่งใหญ่ในพระคริสต์และใช้ศรัทธานั้นรวมอิสราเอลเวลานี้และเอาชนะซาตานอีกครั้งได้อย่างไร? โดยการเรียนรู้อีกครั้งที่จะตั้งตารอและมองด้วยความมั่นใจเดียวกันนั้นในคำสัญญาของพระเจ้าที่จะรวมและช่วยคนให้รอดในวันนี้ พระองค์ทรงใช้พระคัมภีร์มอรมอนและศาสดาพยากรณ์เป็นหลักเพื่อสอนวิธีแก่เรา เนิ่นนานก่อนพระคริสต์จะมา ชาวนีไฟที่เป็น “ศาสดาพยากรณ์, และปุโรหิต, และผู้สอน, … [ชักชวนให้ผู้คน] ตั้งตารอพระเมสสิยาห์, และเชื่อในพระองค์ที่จะเสด็จมาราวกับพระองค์เสด็จมาแล้ว”20 ศาสดาพยากรณ์อบินาไดสอนว่า “และบัดนี้ถ้าพระคริสต์ไม่เสด็จมาในโลก, โดยกล่าวถึงสิ่งที่จะมาเหมือนกับว่ามันมาแล้ว, การไถ่จะมีขึ้นไม่ได้”21 เช่นเดียวกับแอลมา อบินาได “ตั้งตารอด้วยดวงตาแห่งศรัทธา”22 และมองว่าคำสัญญาแน่นอนของพระผู้เป็นเจ้าเรื่องแผนแห่งความรอดได้เกิดสัมฤทธิผลแล้ว คนเหล่านั้น “ชนะ [ซาตาน] ด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดกและ … คำพยานของท่าน” นานก่อนที่พระคริสต์จะมาประสูติ เหมือนที่ท่านทำมาแล้ว และพระเจ้าประทานพลังแก่คนเหล่านั้นให้เชื้อเชิญและรวมอิสราเอล พระองค์จะทรงทำแบบเดียวกันกับท่านเมื่อท่านตั้งตารอด้วยศรัทธา ดูอิสราเอลรวมกัน—ทั่วโลกและใน “แวดวง” ของท่านเอง23—และเชื้อเชิญทุกคน!

ผู้สอนศาสนาหลายร้อยคนเสริมสร้างศรัทธาอันทรงพลังของตนที่มีมาแต่โลกก่อนเกิดในพระคริสต์โดยการนึกภาพคนที่พวกเขาติดต่อหรือสอนในชุดบัพติศมาและชุดพระวิหาร ในคำพูดเรื่อง “Begin with the End in Mind” [เริ่มต้นโดยมีจุดหมายอยู่ในใจ]24 ประธานเนลสันเล่าตัวอย่างส่วนตัวของการทำเช่นนี้และแนะนำให้ผู้นำคณะเผยแผ่สอนผู้สอนศาสนาให้ทำแบบเดียวกัน การรู้ว่าพวกเขาใช้ศรัทธาอันใหญ่หลวงยิ่งในพระคริสต์เช่นนี้ในโลกก่อนเกิดช่วยผู้สอนศาสนาของเราอย่างมากในการ “ฟังพระองค์”25 และกระตุ้นศรัทธาอันใหญ่หลวงของพวกเขาในการรวมอิสราเอลดังที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้

แน่นอนว่าการจินตนาการเรื่องเท็จย่อมทำร้ายศรัทธา26 เพื่อนๆ ของข้าพเจ้า การจงใจนึกภาพหรือมองดูสิ่งที่ขัดแย้งกับตัวตนที่แท้จริงของท่าน โดยเฉพาะสื่อลามก จะทำให้ศรัทธาในพระคริสต์อ่อนแอลง และหากไม่กลับใจ มันอาจทำลายศรัทธาได้ โปรดใช้จินตนาการของท่านเพื่อเพิ่มศรัทธาในพระคริสต์ ไม่ใช่ทำลาย

โปรแกรมเด็กและเยาวชน

โปรแกรมเด็กและเยาวชนเป็นเครื่องมือของศาสดาพยากรณ์เพื่อช่วยให้ท่านที่เป็นเยาวชนเพิ่มพลังศรัทธาอันใหญ่หลวงยิ่ง ประธานโอ๊คส์สอนว่า “โปรแกรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ท่านเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดของเรามากขึ้นในสี่ด้าน: ทางวิญญาณ ทางสังคม ทางร่างกาย และทางสติปัญญา”27 เมื่อเยาวชนนำ—นำ—ในการดำเนินชีวิตตามพระกิตคุณ ดูแลผู้อื่น เชื้อเชิญทุกคนให้รับพระกิตติคุณ สมานครอบครัวเพื่อนิรันดร และจัดกิจกรรมสนุกๆ28 ศรัทธาอันใหญ่หลวงยิ่งในพระคริสต์ที่ท่านมีในชีวิตก่อนเกิดจะผุดขึ้นมาอีกครั้งและเสริมพลังให้ท่านในการทำงานของพระองค์ในชีวิตนี้!

เป้าหมายส่วนตัวก็เช่นกัน “โดยเฉพาะเป้าหมายระยะสั้น”29 จะช่วยท่านจุดประกายศรัทธาอันทรงพลังของท่าน เมื่อท่านตั้งเป้าหมายที่ดี ท่านกำลังตั้งตารอ ดังที่ท่านเคยทำมาก่อน และมองเห็นสิ่งที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้ท่านหรือคนอื่นเป็น30 จากนั้นท่านวางแผนและทำงานหนักเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกสอนว่า “อย่าประเมินต่ำไปเรื่องความสำคัญของการวางแผน ตั้งเป้าหมาย … และ [เชื้อเชิญผู้อื่น]—ทั้งหมดนี้ด้วยดวงตาแห่งศรัทธา”31

ท่านเลือกได้! พระเจ้าตรัสถึงท่านว่า “พลัง [ในการเลือก] อยู่ในพวกเขา”32 เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นอธิบายว่า “ศรัทธาของท่านจะเติบโตไม่ใช่โดยบังเอิญ แต่โดยการเลือก”33 ท่านกล่าวด้วยว่า “คำถามที่จริงใจ [ใดๆ ที่ท่านมี] … จะได้รับการแก้ไขด้วยความอดทนและดวงตาแห่งศรัทธา”34

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่า (1) อัตลักษณ์ที่แท้จริงของท่านและ (2) พลังมหาศาลแห่งศรัทธาในพระคริสต์ภายในตัวท่านจะทำให้ท่านสามารถ “ช่วยเตรียมโลกให้พร้อมรับการเสด็จกลับมาของพระผู้ช่วยให้รอด โดยเชื้อเชิญให้ทุกคนมาหาพระคริสต์และรับพรแห่งการชดใช้ของพระองค์”35 ขอให้เราทุกคนแบ่งปันปีติของสัญญาอันแน่นอนในพระคัมภีร์มอรมอน:

“คนชอบธรรมที่สดับฟัง … ศาสดาพยากรณ์, และ … ตั้งตารอพระคริสต์ด้วยความแน่วแน่ … ทั้งที่มีการข่มเหงทุกอย่าง … จะไม่ตาย.

“แต่ [พระคริสต์] … จะทรงรักษาพวกเขาให้หาย, และพวกเขาจะมีสันติกับพระองค์”36

ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน