การกลับไปรับใช้

ผู้สอนศาสนาที่กลับบ้านก่อนกำหนดอาจปรารถนาจะกลับไปรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาหรือหาโอกาสอื่นให้รับใช้ ในกรณีเหล่านี้ พึงพิจารณาตัวเลือกต่อไปนี้:

1. การกลับไปทำงานเผยแผ่ศาสนาเต็มเวลาเหมือนเดิม

สำคัญอย่างยิ่งที่ผู้สอนศาสนาต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนถึงเหตุผลที่เขาพ้นจากหน้าที่ก่อนกำหนดและความเป็นไปได้ของการเกิดปัญหาซ้ำหากกลับไปทำงานเหมือนเดิม บ่อยครั้งเมื่อผู้สอนศาสนากลับบ้านก่อนกำหนด ความเครียดเรื่องงานเผยแผ่ลดลง โรคประจำตัวและอาการทางจิตดีขึ้น จำไว้ว่าข้อเรียกร้องและต้นเหตุความเครียดของงานเผยแผ่มักทำให้อาการเหล่านี้รุนแรงขึ้น

ดังที่ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์สอน “สุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีเป็นเรื่องสำคัญ … ความเจ็บป่วย ปัญหาทางกาย หรือทางจิตของผู้สอนศาสนาในเวลาเข้าสู่สนามเผยแผ่มีแต่จะเลวร้ายลงภายใต้ความกดดันของงาน … เราต้องการผู้สอนศาสนา แต่เขาต้องทำงานได้ … จะต้องมีสุขภาพดีและแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจเพราะงานนี้เรียกร้องมาก เวลาทำงานยาวนาน และความเครียดหนักยิ่ง” (“การรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา” การประชุมอบรมผู้นำทั่วโลก, 11 ม.ค. 2003, 22) บุคคลต้องแน่ใจว่าเขาสามารถควบคุมอาการได้เมื่อกลับสู่สนามเผยแผ่ การกลับไปทำงานเผยแผ่ศาสนาเหมือนเดิมเรียกร้องให้ประธานสเตคส่งเอกสารต่อไปนี้ไปที่แผนกผู้สอนศาสนา:

• จดหมายจากประธานสเตคขอให้ผู้สอนศาสนากลับไปรับใช้เหมือนเดิมและระบุว่าผู้สอนศาสนามีค่าควรรับใช้ ปัญหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการปลดได้รับการแก้ไขแล้ว เขาได้สัมภาษณ์ผู้สอนศาสนาและทั้งเขากับผู้สอนศาสนารู้สึกว่าเขาสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในสนามเผยแผ่

• จดหมายจากผู้สอนศาสนาแสดงความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับการกลับไปรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา

• จดหมายจากผู้เชี่ยวชาญการรักษา สำหรับคนที่กลับบ้านเพราะเหตุผลทางการแพทย์หรือสุขภาพจิต โดยอธิบายอาการ การรักษาที่ได้รับ การตอบสนองต่อการรักษา ยาหรือการรักษาอื่นที่อาจจำเป็นต้องใช้ในสนามเผยแผ่ และการประเมินความสามารถของผู้สอนศาสนาในการปฏิบัติงานภายใต้ความเข้มงวดของการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาและในการอยู่กับคู่

• จะต้องส่งแบบฟอร์มทางการแพทย์และทันตกรรมที่อัปเดตแล้วไปด้วยหากผู้สอนศาสนาพ้นจากหน้าที่นานเกินหนึ่งปี

2. งานเผยแผ่ด้านบำเพ็ญประโยชน์ (SM)

โอกาสให้รับใช้ในด้านต่างๆ และระยะเวลาการรับใช้จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป ข้อมูลเพิ่มเติมมีอยู่ในเว็บไซต์ ChurchofJesusChrist.org/service-missionary

3. การเรียกอื่น

ในภาคที่ไม่มีโอกาสเป็นผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์ หรือเมื่องานมอบหมายนี้ไม่เหมาะกับผู้สอนศาสนา อาจพิจารณาให้การเรียกเป็นผู้สอนศาสนาวอร์ดหรือเจ้าหน้าที่พระวิหารหรือให้โอกาสเป็นอาสาสมัครในท้องที่ตามที่เห็นควร