ความช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับการพัฒนาครู
ประสบการณ์การเรียนรู้ 6: การเข้าใจบริบทและเนื้อหา


ประสบการณ์การเรียนรู้ 6

การเข้าใจบริบทและเนื้อหา

สาระโดยสังเขป

ประสบการณ์การเรียนรู้นี้ครอบคลุมแนวคิดต่อไปนี้

  • การเข้าใจความหมายของบริบทและเนื้อหา

  • การเข้าใจความสำคัญของบริบทและเนื้อหา

  • การค้นหาบริบทและเนื้อหาในพระคัมภีร์

แนวคิดหลัก

ในประสบการณ์การเรียนรู้อีกสองสามบทถัดไป เราจะดูองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้ทีละอย่างละเอียดขึ้น รูปแบบการเรียนรู้ให้ขอบข่ายของหลักพื้นฐานที่ช่วยปลูกฝังพระกิตติคุณในใจและความคิดของเรา ในประสบการณ์การเรียนรู้นี้ เราจะเรียนเรื่องการเข้าใจบริบทและเนื้อหา

จุดประสงค์ของประสบการณ์การเรียนรู้นี้คือแนะนำให้รู้จักแง่มุมต่างๆ ของรูปแบบการเรียนรู้พอสังเขป ขณะที่ท่านรับใช้เป็นครูเซมินารีหรือสถาบัน ท่านจะมีโอกาสอีกมากมายให้เรียนรู้และฝึกทักษะเหล่านี้

การเรียนรู้จากพระคัมภีร์: เข้าใจบริบทและเนื้อหา

ภาพ
มือ

ในอุปมาเรื่องเพชรพลอย เยาวชนหญิงฝันว่ากำลังหาเพชรพลอยในทราย การค้นหาของเธอเป็นสัญลักษณ์ของผู้เรียนกำลังค้นหาความจริงนิรันดร์ในพระคัมภีร์ ทรายหมายถึงบริบทและเนื้อหาของพระคัมภีร์—ผู้คน สถานที่ เหตุการณ์ โครงเรื่อง คำสอน และอื่นๆ—ซึ่งจะพบความจริงของพระกิตติคุณในนั้น

ภาพ
พระคัมภีร์

เมื่อค้นหาความจริงนิรันดร์ในพระคัมภีร์ เราควรเริ่มโดยพยายามเข้าใจภูมิหลังและรายละเอียดพื้นฐานของข้อที่เรากำลังอ่าน การพยายามเข้าใจบริบทและเนื้อหาของพระคัมภีร์จะช่วยให้เราค้นพบความจริงพระกิตติคุณที่สำคัญๆ ได้ง่ายขึ้น

กิจกรรมหนังสือคู่มือการสอนและการเรียนรู้พระกิตติคุณ

ภาพ
ปกหนังสือคู่มือ

อ่านหัวข้อ 2.4.1 (“บริบท”) และ 2.4.2 (“เนื้อหา”) ในหน้า 24–25 ของหนังสือคู่มือ การสอนและการเรียนรู้พระกิตติคุณ ของท่าน ใช้ปากกาเน้นข้อความที่คำหรือวลีในหัวข้อเหล่านี้ที่ช่วยให้ท่านเข้าใจว่าบริบทและเนื้อหาของพระคัมภีร์หมายถึงอะไรและเหตุใดจึงสำคัญต่อการศึกษาของเรา

จดความเข้าใจและความประทับใจเกี่ยวกับความสำคัญของการเข้าใจบริบทและเนื้อหาในการศึกษาพระกิตติคุณลงในสมุดบันทึกการศึกษาหรืออีกที่หนึ่งที่ท่านสามารถเปิดอ่านและแบ่งปันกับหัวหน้าหรือกลุ่มนิเทศของท่านได้

ความหมายและความสำคัญของบริบทและเนื้อหา

ทบทวนแผนภูมิต่อไปนี้เพื่อเข้าใจบริบทและเนื้อหามากขึ้น

บริบท

เนื้อหา

บริบทคืออะไร

บริบทประกอบด้วยสภาวการณ์ที่แวดล้อมหรือให้ภูมิหลังแก่พระคัมภีร์ข้อนั้น เหตุการณ์นั้น หรือเรื่องนั้น บริบทรวมถึงสภาพทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภูมิศาสตร์ คำถามที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ และอื่นๆ

เนื้อหาคืออะไร

เนื้อหารวมถึงโครงเรื่อง ผู้คน เหตุการณ์ โอวาท และคำอธิบายที่ได้รับการดลใจซึ่งประกอบเป็นข้อความพระคัมภีร์ การค้นหาเนื้อหารวมถึงการเรียนรู้ความหมายของคำและวลียากๆ เช่นเดียวกับการตีความอุปมา สัญลักษณ์ และอื่นๆ

เหตุใดบริบทจึงสำคัญ

บริบทขยายความและทำให้เข้าใจเรื่องราว คำสอน หลักคำสอน และหลักธรรมในข้อความพระคัมภีร์ลึกซึ้งขึ้น

เหตุใดเนื้อหาจึงสำคัญ

เนื้อหาให้ชีวิตและความเกี่ยวโยงกับหลักคำสอนและหลักธรรมที่พบในช่วงพระคัมภีร์

ภาพ
ครูศึกษาพระคัมภีร์

การถามคำถาม

เพื่อเข้าใจบริบทและเนื้อหาของพระคัมภีร์ อันดับแรกจงพยายามคุ้นเคยกับรายละเอียดพื้นฐานของข้อนั้นแล้วสำรวจรายละเอียดเหล่านั้นให้เข้าใจมากขึ้น ท่านทำสิ่งนี้ได้โดยฝึกถามคำถามเกี่ยวกับผู้คน สถานที่ เหตุการณ์ และอื่นๆ ในพระคัมภีร์ข้อที่ท่านกำลังอ่าน จากนั้นจึงหาคำตอบของคำถามเหล่านั้นโดยใช้แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และเป็นประโยชน์

คำถามต่อไปนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจบริบทและเนื้อหาของข้อพระคัมภีร์ที่ท่านกำลังศึกษาได้ดีขึ้น

  • ภูมิหลังของข้อนี้คืออะไร

  • สภาวะแวดล้อมทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภูมิศาสตร์เป็นอย่างไร

  • ใครเป็นผู้เขียน

  • ผู้คนในข้อนั้นเป็นใคร พวกเขาทำหรือพูดอะไร และเพราะเหตุใด

  • กำลังเกิดอะไรขึ้น โครงเรื่องคืออะไร

  • อะไรคือความหมายของคำ วลี หรือสำนวนที่ไม่คุ้นหู

  • อะไรคือนัยสำคัญของธรรมเนียมปฏิบัติที่พูดถึง

ภาพ
การศึกษาพระคัมภีร์

การค้นหาคำตอบ

ต่อไปนี้เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้มากที่สุดและดีที่สุดที่ท่านสามารถนำมาใช้ช่วยท่านหาคำตอบให้แก่คำถามของท่าน

  • สิ่งช่วยศึกษาพระคัมภีร์เช่น หัวบทหรือหัวภาค เชิงอรรถ Bible Dictionary, Topical Guide, คู่มือพระคัมภีร์, ดัชนีในพระคัมภีร์สามเล่มรวม, แผนที่ เป็นต้น

  • ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง

  • ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกที่มีชีวิต (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญ)

  • หลักสูตรพระคัมภีร์ของเซมินารีและสถาบัน (รวมถึงคู่มือครูและคู่มือนักเรียน)

  • พจนานุกรม

เมื่อท่านเข้าใจบริบทและเนื้อหาของพระคัมภีร์ ท่านจะสามารถก้าวเข้าไปในโลกของผู้คน สถานที่ เหตุการณ์ และคำสอนที่ท่านกำลังอ่านได้เต็มที่มากขึ้นและเห็นสิ่งต่างๆ ตามที่ผู้เขียนเห็น สิ่งนี้จะช่วยเปิดประตูให้ค้นพบความจริงพระกิตติคุณที่สำคัญ

การรับความช่วยเหลือจากสวรรค์ในการสอนพระกิตติคุณ

ดูวีดิทัศน์เรื่อง “การเข้าใจบริบทและเนื้อหา” (7:39) มีอยู่ที่ LDS.org ในวีดิทัศน์เรื่องนี้ ครูสามคนพูดถึงความพยายามของพวกเขาในการเข้าใจบริบทและเนื้อหา

จดแนวคิดสองหรือสามข้อที่ท่านเรียนรู้จากวีดิทัศน์ลงในสมุดบันทึกการศึกษาหรืออีกที่หนึ่งที่ท่านสามารถเปิดอ่านและแบ่งปันกับหัวหน้าหรือกลุ่มนิเทศของท่านได้

กิจกรรมพระคัมภีร์

บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องฝึกค้นหาบริบทและเนื้อหาในพระคัมภีร์

อ่าน ลูกา 5:12-26โดยเริ่มตรงข้อที่ครูในวีดิทัศน์เรื่อง “การเข้าใจบริบทและเนื้อหา” ค้างไว้ เขียนคำถามเกี่ยวกับผู้คน สถานที่ เหตุการณ์ และรายละเอียดอื่นๆ ที่อาจจะช่วยให้ท่านเข้าใจบริบทและเนื้อหาของข้อเหล่านี้ได้ดีขึ้น จากนั้นใช้เวลาสองสามนาทีค้นหาคำตอบให้คำถามของท่าน

หลังจากทำกิจกรรมนี้เสร็จแล้ว ให้เขียนสรุปประสบการณ์ของท่านลงในสมุดบันทึกการศึกษาหรืออีกที่หนึ่งที่ท่านสามารถเปิดอ่านและแบ่งปันกับหัวหน้าหรือกลุ่มนิเทศของท่านได้ รวมถึง (1) บางอย่างที่ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการเข้าใจบริบทและเนื้อหาในการศึกษาพระกิตติคุณ และ (2) ความเข้าใจใหม่ๆ บางเรื่องที่ท่านได้รับเกี่ยวกับผู้คน สถานที่ และเหตุการณ์ใน ลูกา 5:12-26

สรุปและการประยุกต์ใช้

หลักธรรมที่พึงจดจำ

  • บริบทขยายความและทำให้เราเข้าใจเรื่องราว คำสอน หลักคำสอน และหลักธรรมในข้อความพระคัมภีร์ลึกซึ้งขึ้น

  • เนื้อหาให้ชีวิตและความเกี่ยวโยงกับหลักคำสอนและหลักธรรมในพระคัมภีร์

  • การเข้าใจบริบทและเนื้อหาของพระคัมภีร์จะช่วยไขความจริงพระกิตติคุณที่สำคัญอีกมากมาย

  • เพื่อเข้าใจบริบทและเนื้อหาของพระคัมภีร์ เราต้องถามคำถามและค้นคว้าแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เพื่อหาคำตอบให้แก่คำถามเหล่านั้น

ภาพ
ประธานโธมัส เอส. มอนสัน

“จงทำความคุ้นเคยกับบทเรียนที่พระคัมภีร์สอน เรียนรู้ภูมิหลังและเหตุการณ์แวดล้อมในอุปมาของพระอาจารย์และคำตักเตือนของศาสดาพยากรณ์ ศึกษาพระคัมภีร์ประหนึ่งพระคัมภีร์กำลังพูดกับท่าน เพราะนั่นคือความจริง” (โธมัส เอส. มอนสัน, “เป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุด,” เลียโฮนา, พ.ค. 2009, 84)

“ฉะนั้น เราต้องทำอะไร”

เพื่อสรุปประสบการณ์การเรียนรู้นี้ ให้จดบางสิ่งที่ท่านจะทำโดยยึดหลักธรรมที่ท่านเรียนรู้วันนี้