บทที่ 8
การรวมอิสราเอลยุคสุดท้าย
คำนำ
ภายในหนึ่งปีของการจัดตั้งศาสนจักร พระเจ้าทรงบัญชาวิสุทธิชนให้ไปรวมกันในเขตโอไฮโอ (ดู คพ. 37:3) นับแต่นั้น วิสุทธิชนยุคสุดท้ายไปรวมกันตามที่ต่างๆ ขณะพวกเขาหมายมั่นติดตามศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตและสร้างที่ปลอดภัยไว้อยู่อาศัย ในบทนี้ นักเรียนจะเรียนรู้ว่าพระเจ้าทรงรวมผู้คนของพระองค์เพื่อทำให้พวกเขาเข้มแข็งและเตรียมพวกเขาให้พร้อมรับพรมากขึ้น รวมทั้งพรของพระวิหาร (ดู คพ. 84:4)
ความรู้พื้นฐานที่ควรอ่าน
-
รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “การรวบรวมอิสราเอลที่กระจัดกระจาย,” เลียโฮนา, พ.ย. 2006, 99-103
ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน
พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา 38:31–33; 39:15; 95:8; 110:9
การเรียกให้ไปรวมกันที่โอไฮโอ
ให้ดู แผนที่ “เขตนิวยอร์ก, เพนน์ซิลเวเนีย, และโอไฮโอของสหรัฐอเมริกา” (แผนที่ประวัติศาสนจักร แผนที่ 3) อยู่ด้านหลังพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา หรือแผนที่อื่นของเขตนี้
เชื้อเชิญให้นักเรียนระบุสถานที่เกิดเหตุการณ์สำคัญต่อไปนี้ของการฟื้นฟู: นิมิตแรก (แมนเชสเตอร์ นิวยอร์ก) การฟื้นฟูฐานะปุโรหิต (ฮาร์โมนีย์ เพนน์ซิลเวเนีย) และการจัดตั้งศาสนจักร (เฟเยทท์ นิวยอร์ก)
จากนั้นขอให้นักเรียนสองสามคนผลัดกันอ่านออกเสียงจากข้อความต่อไปนี้
“ซิดนีย์ ริกดัน อดีตบาทหลวงและสมาชิกที่เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่จากเขตเคิร์ทแลนด์ และเอ็ดเวิร์ด พาร์ทริดจ์เพื่อนที่ไม่เป็นสมาชิกร้อนใจอยากพบท่านศาสดาพยากรณ์และเรียนรู้คำสอนของศาสนจักรมากขึ้น ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1830 พวกเขาเดินทางกว่า 250 ไมล์ไปเมืองเฟเยทท์ รัฐนิวยอร์กเพื่อเยี่ยมโจเซฟ สมิธ พวกเขาขอร้องให้โจเซฟแสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้าเกี่ยวกับพวกเขาและวิสุทธิชนเคิร์ทแลนด์ เพื่อตอบคำสวดอ้อนวอน พระเจ้าทรงเปิดเผยว่าวิสุทธิชนนิวยอร์กควร ‘ร่วมชุมนุมกันที่โอไฮโอ’ (คพ. 37:3) ณ การประชุมใหญ่ครั้งที่สามและครั้งสุดท้ายของศาสนจักรในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งจัดที่ฟาร์มวิตเมอร์วันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 1831 พระเจ้าทรงย้ำพระบัญชา [ให้สมาชิกศาสนจักรย้ายไปโอไฮโอ] … นี่เป็นการเรียกวิสุทธิชนมารวมกันครั้งแรกในสมัยการประทานนี้ …
“… สมาชิกราว 68 คนจากเมืองโคลส์วิลล์ออกเดินทางไปรัฐโอไฮโอราวกลางเดือนเมษายน ค.ศ. 1831 วิสุทธิชน 80 คนจากสาขาเฟเยทท์และ 50 คนจากสาขาแมนเชสเตอร์เชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าเช่นกัน พวกเขาออกจากบ้านต้นเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1831 … ราวกลางเดือนพฤษภาคมทุกสาขาของศาสนจักรจากนิวยอร์กได้ลงเรือเดินทางข้ามทะเลสาบอีรีไปท่าเรือแฟร์พอร์ต ไอไฮโอ เพื่อพบกับเพื่อนวิสุทธิชนและพากันไปสู่จุดหมายในเมืองเคิร์ทแลนด์และเมืองธอมป์สัน การรวมกันครั้งใหญ่ของอิสราเอลยุคสุดท้ายเริ่มต้นแล้ว” (ดู มรดกของเรา: ประวัติย่อของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย [1996], 20-22)
เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงหลักคำสอนและพันธสัญญา 38:31-33 ขอให้นักเรียนที่เหลือดูตามและระบุด้านต่างๆ ที่วิสุทธิชนจะได้รับพรถ้าพวกเขาเชื่อฟังพระบัญชาให้ไปรวมกันที่โอไฮโอ นักเรียนควรระบุพรสี่ประการนี้ (1) พวกเขา “จะได้หนีพ้นอำนาจของศัตรู” (2) พระผู้เป็นเจ้าจะ “รวม [พวกเขา] ไว้เป็นผู้คนชอบธรรม” (3) พวกเขาจะได้รับกฎของพระผู้เป็นเจ้า และ (4) พวกเขาจะ “ได้รับการประสาทอำนาจจากเบื้องบน” ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนเขียนตัวเลขหนึ่งถึงสี่สำหรับพรทั้งสี่ประการนี้ในพระคัมภีร์ของพวกเขา (หมายเหตุ: การระบุเป็นข้อๆ ในพระคัมภีร์จะช่วยให้นักเรียนเห็นประเด็นหลักที่พระเจ้าหรือศาสดาพยากรณ์กำลังเน้น)
เขียนบนกระดานดังนี้ พระเจ้าทรงรวมผู้คนของพระองค์เพื่อคุ้มครองพวกเขาและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิญญาณให้แก่พวกเขา ท่านอาจจะชี้ให้เห็นว่าในพระคัมภีร์ หลักคำสอนเรื่องการรวมมักจะเชื่อมโยงกับความคุ้มครอง “การเชื่อมโยงคือความสัมพันธ์หรือการเชื่อมต่อระหว่างแนวคิด ผู้คน เรื่องราว หรือเหตุการณ์ และพระคัมภีร์เต็มไปด้วยการเชื่อมโยง” (เดวิด เอ. เบดนาร์, “A Reservoir of Living Water” (Brigham Young University fireside, Feb. 4, 2007), 4, speeches.byu.edu)
อธิบายว่าพระเจ้าทรงนำอิสราเอลโบราณไปเขาซีนายและประทานกฎให้พวกเขาฉันใด พระองค์ทรงแนะนำวิสุทธิชนยุคสุดท้ายให้ไปรวมกันที่โอไฮโอเพื่อพวกเขาจะได้รับกฎของพระองค์ในสมัยการประทานนี้ฉันนั้น (ดู คพ. 38:32) ในโอไฮโอ พระเจ้าทรงเริ่มเปิดเผยกฎของพระองค์ต่อศาสนจักร (ดู หัวบทของภาค คพ. 42) จากนั้นให้ถามว่า
-
การรวมกับคนที่มีความเชื่อและมาตรฐานเดียวกับท่านช่วยคุ้มครองท่านจากอำนาจของซาตานอย่างไร
-
การได้รับกฎของพระผู้เป็นเจ้าช่วยให้เราเข้มแข็งทางวิญญาณอย่างไร
-
ท่านคิดว่าในโอไฮโอวิสุทธิชนจะ “ได้รับการประสาทอำนาจจากเบื้องบน” หมายความว่าอย่างไร
อธิบายว่าพรที่สัญญาไว้ของการ “ได้รับการประสาทอำนาจจากเบื้องบน” เริ่มมีสัมฤทธิผลเมื่อพระวิหารเคิร์ทแลนด์เสร็จสมบูรณ์หลังจากวิสุทธิชนมารวมกันที่โอไฮโอได้ห้าปี ทูตสวรรค์มาเยือนพระวิหารที่เสร็จสมบูรณ์เพื่อฟื้นฟูกุญแจและสิทธิอำนาจอันจำเป็นต่อการประกอบศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ให้โจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรี ปรากฏการณ์ทางวิญญาณเทลงมาบนวิสุทธิชนจำนวนมาก ณ เวลาของการอุทิศพระวิหาร และวิสุทธิชนจำนวนเล็กน้อยได้รับการล้างและการเจิมในพระวิหาร ไม่กี่ปีต่อมาในนอวู สัญญาของการได้รับประสาทอำนาจมีสัมฤทธิผลมากขึ้นเมื่อเริ่มให้วิสุทธิชนรับศาสนพิธีเอ็นดาวเม้นท์พระวิหาร ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ ให้ไว้ในนอวู และขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง
“จุดประสงค์ของการรวม … ผู้คนของพระผู้เป็นเจ้าในทุกยุคทุกสมัยของโลกคืออะไร … จุดประสงค์หลักคือเพื่อสร้างพระนิเวศน์แด่พระเจ้าซึ่งที่นั่นพระองค์ทรงสามารถเปิดเผยแก่ผู้คนของพระองค์ถึงพิธีการแห่งพระนิเวศน์ของพระองค์และรัศมีภาพแห่งอาณาจักรของพระองค์ และทรงสอนผู้คนถึงหนทางสู่ความรอด” (คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 448)
-
ท่านสังเกตเห็นพระผู้เป็นเจ้าประทานพรวิสุทธิชนยุคสุดท้ายในด้านใดบ้างเมื่อพวกเขามารวมกันและสร้างพระวิหารตามที่พระองค์ทรงบัญชา
หลักคำสอนและพันธสัญญา 45:62-67
พระเจ้าตรัสถึงเยรูซาเล็มใหม่ หรือไซอัน
อธิบายว่าไม่นานหลังจากวิสุทธิชนนิวยอร์กมารวมกันที่โอไฮโอ เรื่องเท็จมากมายจากหนังสือพิมพ์และข่าวลือต่างใส่ความและใส่ร้ายป้ายสีศาสนจักร ระหว่างนี้ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธได้รับการเปิดเผยเกี่ยวกับสถานที่แห่งความสงบสุขและความปลอดภัยที่กำหนดให้ไปรวมกัน
เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงหลักคำสอนและพันธสัญญา 45:62-67 ขอให้นักเรียนที่เหลือดูตามและระบุจุดประสงค์ของพระเจ้าในการบัญชาให้วิสุทธิชนรวมกันไปสู่ “ประเทศตะวันตก” (คพ. 45:64) พิจารณาคำถามต่อไปนี้
-
พระเจ้าตรัสว่าอะไรอยู่ “แม้ที่ประตูของเจ้า” วลี “แม้ที่ประตูของเจ้า” มีความหมายอะไรต่อท่าน
-
พระเจ้าทรงต้องการให้วิสุทธิชนทำอะไรเมื่อพวกเขาไปร่วมชุมนุมกันในประเทศตะวันตก
-
เหตุใดพวกเขาจึงรวมของมีค่า (อธิบายว่า คำว่า มรดก หมายถึงที่ดินที่พวกเขาต้องซื้อเพื่อจะได้อยู่และนมัสการพระเจ้าได้)
-
ที่ดินมรดกของวิสุทธิชนเรียกว่าอะไร
อธิบายว่าในพระคัมภีร์ คำว่า ไซอัน มีได้หลายความหมาย บางครั้งกล่าวถึงผู้คนของไซอันและเรียกพวกเขาว่า “ผู้มีใจบริสุทธิ์” (คพ. 97:21) ในข้ออื่น ไซอัน หมายถึงทั้งศาสนจักรและสเตคของศาสนจักร (ดู คพ. 82:14) คำว่า ไซอัน สามารถหมายถึงที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เฉพาะที่ได้เช่นกัน ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 45:66-67, ไซอัน หมายถึงเมืองที่วิสุทธิชนจะสถาปนาและมารวมกัน บางครั้งเรียกว่าเยรูซาเล็มใหม่ (ดู 3 นีไฟ 20:22; 21:23; อีเธอร์ 13:1–8; Bible Dictionary, “Zion”ด้วย) สนทนาคำถามต่อไปนี้
-
พระเจ้าทรงเรียกเยรูซาเล็มใหม่หรือไซอันว่าอย่างไร (นักเรียนควรระบุหลักคำสอนต่อไปนี้ เยรูซาเล็มใหม่จะเป็นสถานที่แห่งความสงบสุข การพักพิง และความปลอดภัย รัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้าจะอยู่ที่นั่น)
-
การเป็นสมาชิกของศาสนจักรให้ความปลอดภัยและความสงบสุขที่พบในไซอันแก่ท่านในด้านใดบ้าง
อธิบายว่าตอนปิดการประชุมใหญ่ครั้งที่สี่ของศาสนจักร ซึ่งจัดเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1831 ในเมืองเคิร์ทแลนด์ รัฐโอไฮโอ พระเจ้าทรงบัญชาให้โจเซฟ สมิธและเอ็ลเดอร์คนอื่นๆ เดินทางเป็นคู่ๆ ประมาณ 900 ไมล์ไปมิสซูรีโดยสั่งสอนไปตามทาง (ดู สรุปข้อของ คพ. 52) หลังจากมาถึง ท่านศาสดาพยากรณ์ได้รับการเปิดเผยระบุว่ารัฐมิสซูรีเป็น “แผ่นดินแห่งคำสัญญา, และสถานที่สำหรับนครแห่งไซอัน” ส่วนเมืองอินดิเพนเดนซ์ รัฐมิสซูรีเป็น “ศูนย์กลาง” (คพ. 57:1-3) ตลอดสองปีติดต่อกัน วิสุทธิชนยุคสุดท้ายหลายร้อยคนที่ปรารถนาจะสร้างไซอันได้ย้ายไปอยู่เขตเทศมณฑลแจ็คสันของรัฐมิสซูรี น่าเสียดายที่เกิดความขัดแย้งระหว่างสมาชิกศาสนจักรกับพลเมืองคนอื่นๆ ในเขตนั้นจนสถานการณ์รุนแรงในที่สุด วิสุทธิชนถูกบังคับให้ออกจากบ้านในเทศมณฑลแจ็คสันเมื่อเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ค.ศ. 1833
หลักคำสอนและพันธสัญญา 115:5-6
ผู้คนของพระผู้เป็นเจ้าปัจจุบันมารวมกันในสเตคแห่งไซอัน
เพื่ออธิบายความพยายามของวิสุทธิชนในการไปรวมกันยังสถานที่แห่งความปลอดภัยและความสงบสุขอีกหลายแห่ง ให้ดู แผนที่ “การเคลื่อนย้ายไปตะวันตกของศาสนจักร” (แผนที่ประวัติศาสนจักร แผนที่ 6) อยู่ด้านหลังพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา
อธิบายว่าในที่สุดวิสุทธิชนถูกบังคับให้ออกจากเมืองเคิร์ทแลนด์ รัฐโอไฮโอ และอีกหลายแห่งทางตะวันตกของรัฐมิสซูรี ค.ศ. 1839 วิสุทธิชนเริ่มไปรวมกันที่เมืองนอวู รัฐอิลลินอยส์ พวกเขาสร้างเมืองใหญ่ที่นั่น แต่ไม่นานหลังจากมรณกรรมของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ สมาชิกของศาสนจักรถูกบังคับให้ออกจากบ้านของพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาย้ายไปเทือกเขาร็อกกีและตั้งถิ่นฐานทั่วตะวันตกของอเมริกาเหนือ โดยตั้งสำนักงานใหญ่ของศาสนจักรในซอลท์เลคซิตี้
เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านพระคัมภีร์ หลักคำสอนและพันธสัญญา 115:5-6 จากนั้นให้ถามว่า
-
ตามที่กล่าวไว้ในข้อเหล่านี้ พรใดสัญญาไว้กับคนที่รวมกันไปสเตคแห่งไซอัน (คำตอบควรรวมถึงความจริงต่อไปนี้ เรารวมกันไปสเตคแห่งไซอันเพื่อการคุ้มภัยและที่พักพิงจากความชั่วร้าย)
-
สเตคแห่งไซอันจะจัดหาการคุ้มภัยและที่พักพิงให้สมาชิกศาสนจักรในแผ่นดินเกิดของพวกเขาในด้านใดได้บ้าง
-
ท่านเคยรู้สึกถึงพลังและความคุ้มครองขณะท่านมารวมกับวิสุทธิชนในวอร์ดหรือสาขาของท่านเมื่อใด
เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้นว่าปัจจุบันสมาชิกศาสนจักรมารวมกันในสเตคแห่งไซอันหมายความว่าอย่างไร ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง และเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง
“ในปีต้นๆ ของสมัยการประทานสุดท้ายนี้ การรวมกันไปไซอันนั้นมีหลายแห่งในประเทศสหรัฐ เช่น เคิร์ทแลนด์ มิสซูรี นอวู และบนยอดเขา การรวมกันเหล่านี้มักเป็นการรวมกันไปพระวิหารในอนาคตเสมอ เนื่องด้วยการจัดตั้งสเตคและการสร้างพระวิหารในประเทศส่วนใหญ่ที่มีจำนวนผู้ซื่อสัตย์มากพอ พระบัญญัติในปัจจุบันจึงไม่ใช่การไปรวมกันที่หนึ่งแต่ไปรวมกันในสเตคในแผ่นดินเกิดของเรา ที่นั่นผู้ซื่อสัตย์สามารถชื่นชมพรอันสมบูรณ์แห่งนิรันดรในพระนิเวศน์ของพระเจ้า … ด้วยวิธีนี้ สเตคแห่งไซอันจึงเป็นไป ‘เพื่อการคุ้มภัย, และเพื่อเป็นที่พักพิงจากพายุ, และจากพระพิโรธเมื่อจะเทลงมาโดยมิได้เจือจางบนทั้งผืนแผ่นดินโลก’ (คพ. 115:6)” (“การเตรียมพร้อมสำหรับการเสด็จมาครั้งที่สอง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2004, 8)
เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ (1895-1985)
“บัดนี้ การรวมอิสราเอลประกอบด้วยการเข้าร่วมศาสนจักรที่แท้จริงและการมีความรู้เรื่องพระผู้เป็นเจ้าองค์จริง … ด้วยเหตุนี้ บุคคลใดก็ตามผู้ยอมรับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู และผู้ซึ่งเวลานี้หาทางนมัสการพระเจ้าในภาษาของตนและกับวิสุทธิชนในประเทศที่เขาอาศัยอยู่ เขาได้ทำตามกฎแห่งการรวมอิสราเอลและเป็นทายาทของพรทั้งหมดที่สัญญาไว้กับวิสุทธิชนในวันเวลาสุดท้ายนี้” (The Teachings of Spencer W. Kimball, ed. Edward L. Kimball [1982], 439)
-
ท่านเคยเห็นอะไรเกิดขึ้นกับจำนวนพระวิหารที่ศาสนจักรสร้างในช่วงชีวิตของท่าน
-
ท่านได้รับพรอย่างไรจากการเป็นสมาชิกในสเตคหรือท้องถิ่นแห่งไซอัน ท่านได้รับพรอย่างไรจากพระวิหารศักดิ์สิทธิ์
สรุปโดยขอให้นักเรียนพิจารณาว่าพวกเขาจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยให้ผู้อื่นได้รับความคุ้มครองทางวิญญาณและความเข้มแข็งที่มาจากการมีส่วนร่วมอย่างซื่อสัตย์ในสเตคแห่งไซอันและการนมัสการในพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ เชื้อเชิญนักเรียนให้ทำตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณที่พวกเขาอาจได้รับ