โมเสส 1; อับราฮัม 3: บทเรียนที่ 4

โมเสส 1:1–11

“เรามีงานอย่างหนึ่งให้เจ้า … บุตรของเรา”

บนภูเขาสูง โมเสส “เห็นพระผู้เป็นเจ้าอยู่ตรงหน้า, และ … พูดกับพระองค์” (โมเสส 1:2) พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เจ้าเป็นบุตรของเรา” (โมเสส 1:4) และ “เรามีงานอย่างหนึ่งให้เจ้า” (โมเสส 1:6) จุดประสงค์ของบทเรียนนี้คือเพื่อช่วยให้นักเรียนรู้สึกว่าพวกเขาเป็นบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าและพระองค์ทรงมีงานให้พวกเขาทํา

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองหรือเขียนสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นจุดประสงค์ของพวกเขาในชีวิต

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

บางสิ่งที่ท่านต้องทํา

เขียนบนกระดานว่า “ (ชื่อของท่าน) เรามีบางอย่างที่อยากให้คุณทํา” ถามนักเรียนว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรเมื่อมีคนบอกพวกเขาว่ามีบางอย่างที่ต้องการให้นักเรียนทํา ท่านอาจถามคำถามต่อไปนี้

• ท่านรู้สึกแตกต่างออกไปโดยขึ้นอยู่กับคนที่ขอหรือไม่? เหตุใดจึงรู้สึกเช่นนั้น?

• ท่านจะรู้สึกอย่างไรถ้าพระผู้เป็นเจ้ากําลังตรัสกับท่าน? เพราะเหตุใด?

  เชื้อเชิญให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษา

• ท่านเชื่อหรือไม่ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงมีงานให้ท่านในชีวิตนี้? เหตุใดจึงรู้สึกเช่นนั้น?

• ท่านรู้สึกว่าท่านรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้ท่านทําบางสิ่งดีเพียงใด?

• ท่านคิดว่าท่านจะต้องรู้อะไรเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าและตัวท่านเองเพื่อให้งานนั้นมีแรงจูงใจ?

ขณะที่นักเรียนศึกษา โมเสส 1 ในบทเรียนนี้ เชื้อเชิญให้พวกเขาแสวงหาความช่วยเหลือผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อรู้มากขึ้นเกี่ยวกับตนเอง พระผู้เป็นเจ้า และสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการให้พวกเขาทําในชีวิตนี้

ตัวอย่างของโมเสส

เชื้อเชิญให้นักเรียนค้นหาหนังสือของโมเสสในพระคัมภีร์ไข่มุกอันล้ำค่า อธิบายว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยหนังสือของโมเสสผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธเมื่อท่านทํางานแปลที่ได้รับการดลใจ ปฐมกาล 1 ถึง ปฐมกาล 6:13 ในนั้นมีพระคําที่พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้โมเสสบันทึก (โมเสส 1:40)

ท่านอาจแสดงภาพโมเสสดังต่อไปนี้

• ท่านรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับโมเสสและชีวิตของเขา?

  หากจําเป็น ให้อธิบายว่าก่อนที่พระเจ้าจะทรงสร้างปาฏิหาริย์ผ่านโมเสสเพื่อนําผู้คนของเขาออกจากการเป็นทาส โมเสสเกิดจากชาวอิสราเอล (สมาชิกคนหนึ่งของผู้คนในพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า) แต่ครอบครัวกษัตริย์อียิปต์รับอุปการะเขา ในที่สุดเขาต้องหนีออกจากอียิปต์ไปแผ่นดินใหม่เพื่อปกป้องชีวิตของตน โดยออกจากครอบครัวเดียวที่เขารู้จัก

• หากท่านอยู่ในสถานการณ์ของโมเสส ท่านอาจคิดอย่างไรเกี่ยวกับจุดประสงค์ของชีวิตท่าน?

ไม่นานหลังจากโมเสสหนีออกจากอียิปต์ พระผู้ช่วยให้รอดทรงปรากฏต่อโมเสส “ตรงหน้า” (โมเสส 1:2) พระเยซูคริสต์ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาบนสวรรค์ ตรัสกับโมเสสราวกับว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้าพระบิดา ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถอ่านข้อพระคัมภีร์เหล่านี้เพื่อเข้าใจทั้งพระบิดาและพระบุตรดีขึ้น โมเสสได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และความสัมพันธ์ของพระองค์กับเขาซึ่งนําทางท่านให้ทํางานสําคัญ เพื่อช่วยให้นักเรียนค้นพบสิ่งที่โมเสสเรียนรู้ ให้วาดแผนภูมิต่อไปนี้บนกระดาน ในกิจกรรมนี้ นักเรียนอาจคัดลอกแผนภูมิลงในสมุดบันทึกการศึกษาหรือทําในชั้นเรียนบนกระดาน

พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์	โมเสส

อ่าน โมเสส 1:1–11 โดยจินตนาการว่าจะเป็นอย่างไรถ้ามีประสบการณ์นี้ เขียนสิ่งที่ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้สอนเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์ พระเยซูคริสต์ และโมเสสไว้บนแผนภูมิ

ทางเลือกในการศึกษาข้อพระคัมภีร์เหล่านี้คือฉายวีดิทัศน์ I Am a Son of God [เราเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า]” ตั้งแต่รหัสเวลา 0:00 ถึง 2:49 หลังจากรับชม ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านข้อพระคัมภีร์เหล่านี้โดยมองหาข้อความหรือรายละเอียดสําคัญที่ไม่ได้อยู่ในวีดิทัศน์

เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาพบในพระคัมภีร์ขณะเติมแผนภูมิให้ครบถ้วนและเหตุใดจึงสําคัญหรือมีความหมายต่อพวกเขา หากจำเป็น ให้ถามคำถามต่อไปนี้

• สิ่งใดในวีดิทัศน์ที่โดดเด่นสําหรับท่านเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์? เพราะเหตุใด?

  ขณะที่นักเรียนแบ่งปัน ให้มองหาวิธีเน้นย้ำถึงความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า ท่านอาจขอให้นักเรียนชี้ให้เห็นวลีที่เน้นย้ำเดชานุภาพของพระองค์

• พระผู้เป็นเจ้าตรัสอะไรกับโมเสสใน ข้อ 4, 6–7 ที่ประยุกต์ใช้กับท่านได้เช่นกัน?

  นักเรียนอาจระบุความจริงทํานองนี้: เราเป็นบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าและพระองค์ทรงมีงานให้เราทํา ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนบันทึกความจริงนี้ในพระคัมภีร์หรือทําเครื่องหมายวลีที่สอนความจริงนั้น

• การรู้ความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าทําให้การเป็นบุตรธิดาของพระองค์มีความหมายมากขึ้นอย่างไร?

• การเข้าใจว่าเราเป็นบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าอาจช่วยให้เราเข้าใจจุดประสงค์ของเราหรือจุดประสงค์ในชีวิตนี้อย่างไร?

หมายเหตุ: อาจเป็นประโยชน์ที่จะรู้ว่าในบทเรียนต่อไปเกี่ยวกับ โมเสส 1:12–26 นักเรียนจะศึกษาว่าความเข้าใจของโมเสสเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของเขาในฐานะบุตรของพระผู้เป็นเจ้าให้พลังเขาต่อต้านการล่อลวงของซาตานอย่างไร บทเรียนใน ปฐมกาล 1:26–27 ในสัปดาห์ถัดไปจะช่วยให้นักเรียนรู้สึกถึงความสําคัญของอัตลักษณ์และศักยภาพของพวกเขาในฐานะบุตรและธิดาของพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์

งานที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีให้เรา

เพื่อช่วยให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงมีงานสําคัญสําหรับบุตรธิดาแต่ละคนของพระองค์อย่างไร ท่านอาจทํากิจกรรมต่อไปนี้

วาดรูปคนสามคนลงในสมุดบันทึกการศึกษา เรียนรู้เกี่ยวกับงานที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีให้แต่ละคนในตัวอย่างต่อไปนี้และเขียนกํากับภาพคน จากนั้นให้เขียนคําตอบของคําถามต่อไปนี้ข้างๆ หรือข้างล่างรูป

1. โมเสส ค้นหา “โมเสส” ในคู่มือพระคัมภีร์

2. กิริช (ชายคนหนึ่งเกิดและเติบโตในเนปาลผู้พบพระกิตติคุณและท้ายที่สุดย้ายไปยูทาห์) อ่านหรือดู “เรามีงานอย่างหนึ่งให้เจ้า” (10:25) ตั้งแต่รหัสเวลา 0:18 ถึง 1:12

หลายปีต่อมา เมื่อผู้ลี้ภัย 1,500 กว่าคนจากค่ายในเนปาลย้ายมาอยู่ยูทาห์ กิริชรู้สึกได้รับการดลใจให้ช่วย ด้วยความคล่องแคล่วด้านภาษาและความเข้าใจด้านวัฒนธรรม กิริชจึงรับใช้เป็นล่าม ครู และครูพี่เลี้ยง … ศาสนจักรจึงจัดตั้งสาขาที่พูดภาษาเนปาลและกิริชรับใช้เป็นประธานสาขาในเวลาต่อมา เขาเป็นเครื่องมือในการแปลพระคัมภีร์มอรมอนเป็นภาษาเนปาลด้วย (จอห์น ซี. พิงกรี จูเนียร์ “เรามีงานอย่างหนึ่งให้เจ้า” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 32)

1. สตรีผู้หมดกําลังใจ อ่านเรื่องราวต่อไปนี้

วันหนึ่ง สตรีผู้หมดกำลังใจวิงวอนว่า “ข้าแต่พระเจ้า การปฏิบัติศาสนกิจของข้าพระองค์คืออะไร” พระองค์ทรงตอบว่า “สังเกตคนอื่นๆ” … นับตั้งแต่นั้นมา เธอพบปีติในการสังเกตคนที่ถูกลืมอยู่เสมอ และพระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานผ่านเธอเพื่อเป็นพรแก่คนมากมาย (จอห์น ซี. พิงกรี จูเนียร์ “เรามีงานอย่างหนึ่งให้เจ้า” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 33)

ท่านอาจแทนเรื่องราวของกีริชหรือสตรีที่ท้อแท้ด้วยแบบอย่างยุคปัจจุบันอีกอย่างหนึ่งที่ท่านรู้

การแสดงคำถามต่อไปนี้บนกระดานอาจเป็นประโยชน์

• บุคคลทําอะไรเพื่อช่วยผู้อื่นและนําพวกเขามาหาพระเยซูคริสต์?

• เหตุใดพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงรักเราจึงทรงต้องการให้พวกเขาทํางานนี้?

• พวกเขาเตรียมตัวที่จะช่วยอย่างไร? หรือพวกเขาช่วยในวิธีที่เหมาะกับคนๆ นั้นอย่างไร?

ขณะที่นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาพบ ให้มองหาวิธีทําให้ชัดเจนว่าใช่ว่างานทั้งหมดที่พระเจ้าทรงต้องการให้เราทํานั้นใหญ่โตหรือยิ่งใหญ่ แต่เป็นสิ่งสําคัญเสมอต่อพระเจ้าและต่อคนที่บุตรธิดาของพระองค์รับใช้ งานและความรับผิดชอบที่เฉพาะเจาะจงที่พระเจ้าอาจประทานแก่เราจะช่วยให้เรามีส่วนในงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระองค์ (ดู โมเสส 1:39) อาจมีงานที่พระองค์ทรงต้องการมุ่งเน้นตอนนี้ แต่พระองค์อาจขอให้เรามุ่งเน้นกับบางสิ่งที่แตกต่างในอนาคต

งานสำหรับท่าน

วาดรูปคนเพิ่มและเขียนชื่อของท่านไว้ใต้ภาพนั้น

เอ็ลเดอร์จอห์น ซี. พิงกรี จูเนียร์ แห่งสาวกเจ็ดสิบเป็นพยานว่า:

พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศต่อโมเสสว่า “เรามีงานอย่างหนึ่งให้เจ้า” (โมเสส 1:6) ท่านเคยสงสัยไหมว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงมีงานให้ท่านหรือไม่ มีสิ่งสำคัญที่พระองค์ทรงเตรียมท่าน—เฉพาะท่าน—ให้ทำให้สำเร็จหรือไม่ ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าคําตอบคือมี! (“เรามีงานอย่างหนึ่งให้เจ้า” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 32)

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนกล่าวคําสวดอ้อนวอนในใจและแสวงหาการเปิดเผยจากพระเจ้าขณะพวกเขาตอบคําถามต่อไปนี้บางข้อหรือทุกข้อรอบรูปคนของตน อาจเป็นประโยชน์ถ้าอธิบายว่านักเรียนอาจไม่ได้รับคําตอบที่สมบูรณ์ของคําถามเหล่านี้ในชั้นเรียน เชื้อเชิญให้พวกเขาไตร่ตรองและสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับคําถามเหล่านั้นต่อไป

• ฉันกําลังทําอะไรอยู่แล้วที่อาจเป็นงานส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้าสําหรับฉันในชีวิตนี้?

• พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยอะไรต่อฉันแล้วเกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการให้ฉันทํา? (อาจได้แก่ พรฐานะปุโรหิต การเรียก ปิตุพร และช่วงเวลาอื่นๆ ในการเปิดเผย)

• พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้ฉันทํางานของพระองค์ในครอบครัวอย่างไร? ในวอร์ดหรือสาขาของฉัน?

• พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้ฉันเตรียมช่วยเหลือผู้อื่นเวลานี้หรือในอนาคตอย่างไร?

หากไม่เป็นเรื่องส่วนตัวมากเกินไป เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันความประทับใจหรือความรู้สึกที่พวกเขามีขณะศึกษาวันนี้ ท่านอาจแบ่งปันประจักษ์พยานและความรู้สึกของท่านเกี่ยวกับหลักธรรมในบทเรียนนี้

แหล่งช่วยเพิ่มเติม

ใครกําลังตรัสกับโมเสสใน โมเสส 1: พระบิดาบนสวรรค์หรือพระเยซูคริสต์?

ประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธ (1876–1972) กล่าวว่า:

ในพระคัมภีร์ทั้งหมดที่กล่าวถึงพระผู้เป็นเจ้าและที่พระองค์ทรงปรากฏคือพระเยโฮวาห์ผู้ทรงสนทนากับอับราฮัม กับโนอาห์ เอโนค โมเสส และศาสดาพยากรณ์ทั้งปวง …

ในการประทานการเปิดเผย บางครั้งพระผู้ช่วยให้รอดของเราตรัสแทนพระองค์เอง บางครั้งตรัสแทนพระบิดา และในพระนามของพระบิดา เสมือนพระองค์ทรงเป็นพระบิดา แต่กระนั้นทรงเป็นพระเยซูคริสต์ พระผู้ไถ่ของเราผู้ประทานข่าวสาร (Doctrines of Salvation, comp. Bruce R. McConkie, 3 vols. [1954–1956], 1:27–28)

เหตุใดการที่ได้ทราบว่าเราเป็นบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าจึงสำคัญ?

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า:

เพื่อนรักทั้งหลาย ท่านเป็นบุตรธิดาที่เป็นวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าจริงๆ …

ข้าพเจ้าเกรงว่าท่านอาจได้ยินความจริงนี้บ่อยจนฟังเหมือนเป็นคำขวัญมากกว่าความจริงอันศักดิ์สิทธิ์ แต่วิธีที่ท่านคิดเกี่ยวกับตัวตนจริงๆ ของท่านส่งผลต่อการตัดสินใจเกือบทุกเรื่องที่ท่านจะทำ (“การเลือกเพื่อนิรันดร” [การให้ข้อคิดทางวิญญาณสําหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลก, 15 พ.ค. 2022], broadcasts.ChurchofJesusChrist.org)

โมเสส 1:10 “มนุษย์ไม่ได้เป็นอะไรเลย” หมายความว่าอย่างไร?

โมเสสเรียนรู้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระผู้เป็นเจ้าแล้ว “มนุษย์ไม่ได้เป็นอะไรเลย” (โมเสส 1:10) กษัตริย์เบ็นจามินแนะนําให้เรา “เก็บไว้ในความทรงจำเสมอ, ถึงความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า, และความไม่สลักสําคัญของท่านเอง” (โมไซยาห์ 4:11)

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ ฝ่ายประธานสูงสุดขณะนั้นสอนว่า:

ปฏิทรรศน์ของมนุษย์คือ เมื่อเปรียบเทียบกับพระผู้เป็นเจ้า มนุษย์ไม่สลักสำคัญอะไรเลย แต่กระนั้นเรายังเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับพระผู้เป็นเจ้า …

พี่น้องทั้งหลาย พระสัตภาวะที่ทรงเดชานุภาพที่สุดในจักรวาลคือพระบิดาของวิญญาณท่าน พระองค์ทรงรู้จักท่าน พระองค์ทรงรักท่านด้วยความรักอันบริสุทธิ์ …

พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงเห็นท่านเป็นเพียงสัตภาวะมรรตัยในดาวเคราะห์ดวงเล็กๆ ซึ่งมีชีวิตอยู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ—แต่พระองค์ทรงเห็นท่านเป็นบุตรธิดาของพระองค์ พระองค์ทรงเห็นท่านเป็นสัตภาวะที่มีความสามารถและทรงกำหนดมาให้เป็นเช่นนั้น พระองค์ทรงต้องการให้ท่านรู้ว่าท่านสําคัญต่อพระองค์ (“ท่านสำคัญต่อพระองค์” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 24)

กิจกรรมเสริมการเรียนรู้

วิธีเริ่มบทเรียนอีกวิธี

วิธีเริ่มบทเรียนอีกวิธีคือขอให้นักเรียนแบ่งปันว่าพวกเขาคิดว่าเยาวชนส่วนใหญ่จะรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับข้อความต่อไปนี้และเพราะเหตุใด

• ฉันเชื่อมั่นในตัวตนของฉัน

• ฉันรู้จุดประสงค์ของชีวิตฉัน

เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันว่าเหตุใดความรู้สึกมั่นใจและการรู้จุดประสงค์ของพวกเขาจึงเป็นเรื่องยาก กระตุ้นให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรและแสวงหาความช่วยเหลือจากพระเจ้าเพื่อตอบคําถามเหล่านี้ขณะพวกเขาศึกษาบทเรียนนี้

“เรามีงานอย่างหนึ่งให้เจ้า” (โมเสส 1:6)

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงมีงานอะไรให้พวกเขาทํา ท่านอาจเชื้อเชิญให้พวกเขาใช้ชื่อของตนแทนโมเสสในข้อ 6 หากท่านต้องการ ท่านอาจเชื้อเชิญให้พวกเขาอ่าน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:33 โดยมองหาความจริงเดียวกันสําหรับโจเซฟ สมิธและใส่ชื่อพวกเขาที่นั่นด้วย ท่านอาจชี้ให้เห็นว่าโจเซฟไม่ได้เรียนรู้ว่างานของท่านจะเป็นอย่างไรในเวลานี้ แต่พระเจ้าทรงเปิดเผยต่อท่านทีละเล็กทีละน้อย

แบ่งปันคําพูดอ้างอิงต่อไปนี้จากประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

เนื่องจากมีแผนแห่งความรอดอันยิ่งใหญ่ที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงลิขิตไว้ ย่อมมีเหตุผลที่ท่านจะมีจุดหมายอันสูงส่งด้วยมิใช่หรือ?

โปรดอย่าเข้าใจเป็นอื่น: ศักยภาพของท่านสูงส่ง เมื่อท่านเพียรแสวงหา พระผู้เป็นเจ้าจะประทานให้ท่านเห็นว่าท่านสามารถเป็นใครได้ (“การเลือกเพื่อนิรันดร” [การให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลก, 15 พ.ค. 2022])