ชาวนีไฟเป็นพยานถึงวันที่ไม่มีกลางคืน

หนึ่งวัน หนึ่งคืน กับหนึ่งวัน โดย จอร์จ ค็อกโค

7–13 กันยายน

3 นีไฟ 1–7

“จงเงยหน้าของเจ้าและรื่นเริงเถิด”

พระวิญญาณบริสุทธิ์อาจกระตุ้นเตือนให้ท่านเน้นหลักธรรมบางอย่างจาก 3 นีไฟ 1–7 ในชั้นเรียน อาจเป็นเพียงหลักธรรมที่จะเป็นพรแก่คนขัดสน

บันทึกความประทับใจของท่าน

ไอคอนการแบ่งปัน

เชื้อเชิญให้แบ่งปัน

เพื่อช่วยให้สมาชิกชั้นเรียนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขากำลังเรียนรู้ที่บ้าน จงขอให้พวกเขาเขียนความจริงบางประการที่พบใน 3 นีไฟ 1–7 และพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงความจริงเหล่านั้นลงบนแผ่นกระดาษ ใส่กระดาษไว้ในภาชนะ แล้วหยิบออกมาหลายๆ แผ่นให้ชั้นเรียนสนทนา ขณะสมาชิกชั้นเรียนแบ่งปัน พึงพิจารณาว่ามีแนวคิดที่เกี่ยวข้องในโครงร่างนี้หรือไม่ที่สามารถทำให้การสนทนาลึกซึ้งขึ้นและให้สมาชิกคนอื่นในชั้นมีส่วนร่วม

ไอคอนการสอน

สอนหลักคำสอน

3 นีไฟ 1–7

การเปลี่ยนใจเลื่อมใสเป็นกระบวนการที่ต้องเพียรพยายาม

• 3 นีไฟ 1–7 พูดถึงคนที่เปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์และคนที่ไม่เปลี่ยนใจเลื่อมใส เพื่อช่วยให้ชั้นเรียนค้นพบว่าอะไรทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างคนสองกลุ่มนี้ ท่านจะสร้างแผนภูมิบนกระดานด้วยหัวข้อต่อไปนี้: ความเชื่อและการกระทำที่บั่นทอนการเปลี่ยนใจเลื่อมใส และ ความเชื่อและการกระทำที่เสริมสร้างการเปลี่ยนใจเลื่อมใส แบ่งพระคัมภีร์อ้างอิงต่อไปนี้ให้สมาชิกชั้นเรียน และเชื้อเชิญให้พวกเขาเติมสิ่งที่พบลงในแผนภูมิ (มีตัวอย่างสำหรับพระคัมภีร์อ้างอิงข้อแรก)

  • 3 นีไฟ 1:4–23, 29–30: บั่นทอนการเปลี่ยนใจเลื่อมใส: ไม่เชื่อถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์และเยาะเย้ยคนชอบธรรม (ข้อ 5–6) เสริมสร้างการเปลี่ยนใจเลื่อมใส: มีศรัทธาในถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์และสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ (ข้อ 8, 11)

  • 3 นีไฟ 2:1–3

  • 3 นีไฟ 3:12–16

  • 3 นีไฟ 4:8–10, 30–33

  • 3 นีไฟ 6:13–18

  • 3 นีไฟ 7:15–22

  เราจะทำให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสของเราคงมั่นแม้มีการต่อต้านได้อย่างไร

• ชั้นเรียนของท่านอาจสนใจการสำรวจวิธีทำให้คนที่ 3 นีไฟ 1:27–30 เรียกว่า “อนุชนรุ่นหลัง” เข้มแข็ง ท่านอาจจะขอให้สมาชิกชั้นเรียนหาเหตุผลในข้อเหล่านี้ว่าเหตุใดชาวนีไฟและชาวนีไฟที่อายุยังน้อยจึงไม่สามารถต่อต้านความชั่วรอบข้างพวกเขาได้ ซึ่งจะนำไปสู่การสนทนาเกี่ยวกับความท้าทายบางอย่างที่อนุชนรุ่นหลังกำลังประสบและวิธีที่จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาศรัทธาในพระคริสต์ได้ดีที่สุด ข้อเสนอแนะบางประการอยู่ใน “แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม”

3 นีไฟ 1:4–21; 5:1–3

พระเจ้าจะทรงทำให้พระวจนะของพระองค์เกิดสัมฤทธิผลโดยครบถ้วน

• การอ่านเรื่องราวใน 3 นีไฟ 1:4–21 และ 5:1–3 จะเสริมสร้างศรัทธาของสมาชิกชั้นเรียนในคำสัญญาของพระเจ้า สมาชิกชั้นเรียนอาจจะอ่าน 3 นีไฟ 1:4–7 ด้วยกันและเขียนบนกระดานเป็นข้อๆ ว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไรถ้าพวกเขาเป็นผู้เชื่อที่บรรยายไว้ในข้อเหล่านี้ พวกเขาจะนึกถึงสถานการณ์คล้ายกันที่เราอาจพบเจอในปัจจุบันด้วย เราเรียนรู้อะไรจาก 3 นีไฟ 1:8–21 และ 5:1–3 เกี่ยวกับพระเจ้าและคำสัญญาของพระองค์ เพื่อให้การสนทนากว้างขึ้น ท่านจะทบทวนเพลงสวดเพลงหนึ่งเกี่ยวกับการวางใจพระผู้เป็นเจ้า เช่น “ฐานมั่นคงหนักหนา” (เพลงสวด เพลงที่ 33) สมาชิกชั้นเรียนจะแบ่งปันประสบการณ์เมื่อศรัทธาและความวางใจในพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาได้รับผลตอบแทนแม้มีการต่อต้าน

3 นีไฟ 1:4–15; 5:12–26; 6:10–15; 7:15–26

เราเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์

• มอรมอนประกาศว่า “ดูเถิด, ข้าพเจ้าเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์” (3 นีไฟ 5:13) เพื่อสำรวจกับชั้นเรียนว่าการเป็นสานุศิษย์หมายความว่าอย่างไร ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้สมาชิกชั้นเรียนค้นคว้า 3 นีไฟ 1:4–15; 5:12–26; 6:10–15; และ 7:15–26 โดยมองหาคุณสมบัติ ความเชื่อ และการกระทำของสานุศิษย์ของพระคริสต์ ท่านอาจให้เวลาสมาชิกชั้นเรียนสองสามนาทีไตร่ตรองและจดบางสิ่งที่พวกเขาทำได้เพื่อเป็นสานุศิษย์ที่ดีขึ้นของพระเยซูคริสต์

3 นีไฟ 2:11–12; 3:12–26; 5:24–26

เมื่อคนชอบธรรมมารวมกัน พระเจ้าทรงสามารถเพิ่มพลังและคุ้มครองพวกเขา

• เหตุผลส่วนหนึ่งที่ชาวนีไฟสามารถปราบกองโจรแกดิแอนทันได้คือพวกเขาผนึกกำลังกับชาวเลมันที่เปลี่ยนใจเลื่อมใสและทำตามการนำทางด้วยการดลใจของเลโคนิอัสให้ “มารวมกัน” ในเซราเฮ็มลา (3 นีไฟ 3:22) เหตุการณ์นี้น่าจะมีบทเรียนอะไรสำหรับสมาชิกชั้นเรียนของท่าน ท่านจะขอให้พวกเขาแบ่งปันประสบการณ์เมื่อคนชอบธรรมรอบข้างพวกเขาทำให้พวกเขาเข้มแข็งขึ้น จากนั้นท่านจะเชื้อเชิญให้สมาชิกชั้นเรียนอ่าน 3 นีไฟ 3:12–26 โดยมองหาเหตุผลที่ชาวนีไฟมารวมกันและพรที่พวกเขาประสบ เราประสบพรเดียวกันนี้อย่างไรเมื่อเรามารวมกับสมาชิกของครอบครัว หรือสาขาและวอร์ดของเรา เราสามารถเรียนรู้อะไรอีกบ้างเกี่ยวกับการมารวมกันจาก 3 นีไฟ 5:24–26

• การอ่าน 3 นีไฟ 3 จะเป็นโอกาสให้ช่วยสมาชิกชั้นเรียนเห็นว่าเราเข้มแข็งมากขึ้นเพียงใดเมื่อเรามารวมกันในความชอบธรรม ท่านอาจจะนึกถึงบทเรียนที่ใช้อุปกรณ์จริงเพื่อแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่อ่อนแอกลับเข้มแข็งขึ้นอย่างไรเมื่อรวมกับสิ่งอื่น เชื้อเชิญให้สมาชิกชั้นเรียนสมมติว่ามีคนขอให้เขาโน้มน้าวชาวนีไฟให้เชื่อเรื่องประโยชน์ของการมารวมกัน ดังที่อธิบายไว้ใน ข้อ 12–26 พวกเขาอาจจะทำงานเป็นกลุ่มเพื่อสนทนาวิธีทำเช่นนี้โดยอิงกับสิ่งที่อ่านในข้อเหล่านี้ ให้พวกเขาแบ่งปันแนวคิดของพวกเขา จากนั้นท่านอาจจะให้ชั้นเรียนสนทนาคำถามทำนองนี้: เราประสบความท้าทายอะไรบ้างที่เปรียบได้กับกองโจรแกดิแอนทัน เราจะทำให้บ้านของเราและวอร์ดของเราเป็นสถานที่หลบภัยได้อย่างไร

3 นีไฟ 3:1–13

เราไม่จำเป็นต้องกลัวซาตาน

• สาส์นที่กิดดิแอนไฮผู้นำโจรแกดิแอนทันเขียนคือการพยายามขู่และหลอกลวงชาวนีไฟ สมาชิกชั้นเรียนอาจจะทบทวนถ้อยคำของเขาใน 3 นีไฟ 3:2–10 และเปรียบเทียบกับวิธีที่ซาตานพยายามหลอกเราในทุกวันนี้ เราเรียนรู้อะไรจากปฏิกิริยาของเลโคนิอัส หัวหน้าผู้พิพากษาของชาวนีไฟ

ไอคอนการเรียนรู้

กระตุ้นให้เรียนรู้ที่บ้าน

เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้สมาชิกชั้นเรียนอ่าน 3 นีไฟ 8–11 สำหรับชั้นเรียนสัปดาห์หน้า ให้บอกพวกเขาว่า 3 นีไฟ 11 มี “เหตุการณ์สำคัญที่สุด” ของพระคัมภีร์มอรมอน—การปฏิบัติศาสนกิจเป็นส่วนพระองค์ของพระเยซูคริสต์ท่ามกลางชาวนีไฟ (ดู คำนำของพระคัมภีร์มอรมอน)

ไอคอนแหล่งข้อมูล

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

การช่วยสร้างศรัทธาในอนุชนรุ่นหลัง

เอ็ลเดอร์วาเลรี วี. คอร์ดอนแห่งสาวกเจ็ดสิบเสนอสามวิธีที่จะช่วยให้อนุชนรุ่นหลังแน่วแน่ต่อพระกิตติคุณ:

1. “ขยันหมั่นเพียรและทุ่มเทให้บ้านมากขึ้น … การสอนที่มีประสิทธิภาพสำคัญอย่างมากต่อการปกปักรักษาพระกิตติคุณในครอบครัวของเรา และสิ่งนี้เรียกร้องความพยายามและความขยันหมั่นเพียร เราได้รับการเชื้อเชิญหลายครั้งให้สร้างนิสัยในการศึกษาพระคัมภีร์ส่วนตัวและเป็นครอบครัวทุกวัน หลายครอบครัวที่กำลังทำสิ่งนี้ได้รับพรในแต่ละวันด้วยความสามัคคีกลมเกลียวยิ่งขึ้นและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นมากขึ้นกับพระเจ้า”

2. “เป็นแบบอย่างที่เข้มแข็งในบ้าน … การ พูด กับลูกเรื่องความสำคัญของการแต่งงานในพระวิหาร การอดอาหาร และการรักษาวันสะบาโตให้ศักดิ์สิทธิ์ยังไม่เพียงพอ พวกเขาจำเป็นต้องเห็นเราหาเวลาในตารางของเราเพื่อไปพระวิหารให้บ่อยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเขาจำเป็นต้องเห็นเรายึดมั่นที่จะอดอาหารเป็นประจำและรักษาวันสะบาโตทั้งวันให้ศักดิ์สิทธิ์”

3. “ประเพณี … ในฐานะครอบครัว เราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงประเพณีทุกอย่างที่จะกีดกันเราจากการรักษาวันสะบาโตให้ศักดิ์สิทธิ์หรือการศึกษาพระคัมภีร์และสวดอ้อนวอนที่บ้านทุกวัน เราจำเป็นต้องปิดประตูดิจิทัลของบ้านเราไม่ให้สื่อลามกและอิทธิพลชั่วร้ายอื่นๆ ผ่านเข้ามาได้ เพื่อต่อสู้กับประเพณีของโลกในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องใช้พระคัมภีร์และเสียงของศาสดาพยากรณ์ในปัจจุบันของเราสอนลูกๆ เกี่ยวกับอัตลักษณ์อันสูงส่ง จุดประสงค์ในชีวิตพวกเขา และพระพันธกิจอันสูงส่งของพระเยซูคริสต์” (“ภาษาของพระกิตติคุณ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 56–57; เน้นตัวเอน)

ปรับปรุงการสอนของเรา

รวมคนที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนไว้ด้วย บางครั้งเราต้องรวมสมาชิกชั้นเรียนที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนไว้ในกลุ่มด้วยเพื่อให้พวกเขารู้สึกว่ามีคนรัก ท่านอาจจะขอให้พวกเขามีบทบาทในบทเรียนที่จะมาถึงหรือให้มีคนพาพวกเขามาโบสถ์ อย่ายอมแพ้ถ้าพวกเขาไม่ขานรับความพยายามของท่านในตอนแรก (ดู การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด, 8–9)