2022
การรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเป็นพรแก่ชีวิตข้าพเจ้าชั่วนิรันดร์
พฤษภาคม 2022


การรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเป็นพรแก่ชีวิตข้าพเจ้าชั่วนิรันดร์

ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้ท่านที่เป็นเยาวชนชายหญิงและบิดามารดาเห็นและรู้ว่าการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาจะเป็นพรแก่ชีวิตท่านชั่วนิรันดร์

ขอบคุณครับประธานเนลสันที่แบ่งปันคำแนะนำนั้นอีกครั้งเกี่ยวกับการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา

พี่น้องทั้งหลาย หลายปีก่อนขณะข้าพเจ้าพูดในการประชุมใหญ่สามัญ จู่ๆ ตาซ้ายของข้าพเจ้าก็พร่ามัวเพราะสิ่งที่เรียกว่าโรคจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งมีอาการแย่ลงเรื่อยๆ จนทำให้ตาข้างนั้นมองอะไรไม่ชัด

ขณะจัดการกับความท้าทายนี้ ข้าพเจ้าขอบพระทัยยิ่งกว่าเดิมสำหรับการมองเห็นแบบอื่น รวมถึงมุมมองใหม่ที่มีต่ออดีต เมื่อหวนนึกถึงชีวิตตัวเอง ข้าพเจ้าสามารถมองเห็นประสบการณ์บางอย่างที่สร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ หนึ่งในประสบการณ์เหล่านั้นคือการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลาสมัยหนุ่มในอังกฤษว่าเป็นพรแก่ชีวิตและส่งผลต่อจุดหมายทางวิญญาณของข้าพเจ้าอย่างไร

ข้าพเจ้าได้ใคร่ครวญความท้าทายทางเศรษฐกิจอันเกี่ยวเนื่องกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในทศวรรษ 1930 ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ของพ่อแม่กับครอบครัวเราย่ำแย่ คุณพ่อตั้งหน้าตั้งตากอบกู้บริษัทขายรถยนต์ของท่านและเลี้ยงดูครอบครัวในช่วงยากลำบากนี้จนพ่อแม่ไม่ได้มาโบสถ์อยู่พักหนึ่ง

แม้ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมศาสนจักรเป็นครอบครัว แต่ข้าพเจ้าก็ยังไปโบสถ์กับเพื่อนๆ เป็นครั้งคราว

ตอนนั้นข้าพเจ้าคิดอยากเป็นผู้สอนศาสนาแต่ไม่พูดคุยกับพ่อแม่เรื่องนี้

ขณะเรียนมหาวิทยาลัย ข้าพเจ้ากับเพื่อนหลายคนตัดสินใจรับใช้งานเผยแผ่ หลังจากพูดคุยกับอธิการ ข้าพเจ้ากรอกใบสมัครเป็นผู้สอนศาสนาขณะพ่อแม่อยู่ต่างเมือง เมื่อพ่อแม่กลับมา ข้าพเจ้าทำให้ท่านประหลาดใจด้วยข่าวการได้รับเรียกให้ไปรับใช้ในเกรตบริเตน ข้าพเจ้าขอบคุณที่พวกท่านสนับสนุนการตัดสินใจนี้อย่างกระตือรือร้น และเพื่อนดีๆ ที่ช่วยให้ข้าพเจ้าตัดสินใจรับใช้

การรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเตรียมข้าพเจ้าให้พร้อมเป็นสามีกับพ่อที่ดีขึ้นและประสบความสำเร็จในธุรกิจ ทั้งยังเตรียมข้าพเจ้าให้พร้อมรับใช้พระเจ้าในศาสนจักรของพระองค์ตลอดชีวิต

ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายนปี 1985 ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้พูดในภาคฐานะปุโรหิต ข้าพเจ้าพูดกับเยาวชนชายโดยตรง เกี่ยวกับการเตรียมรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา โดยบอกว่า “ในบรรดาการฝึกอบรมทั้งหมดที่เคยได้รับในงานมอบหมายของศาสนจักร ไม่มีการฝึกอบรมใดสำคัญต่อข้าพเจ้ามากไปกว่าการฝึกอบรมที่ได้รับขณะรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลาตอนอายุสิบเก้าปี”1

พระเจ้าทรงรู้จักท่าน เมื่อท่านรับใช้งานเผยแผ่ ท่านจะมีประสบการณ์ที่จะช่วยให้ท่านรู้จักพระองค์ดีขึ้น ท่านจะเติบโตทางวิญญาณในการรับใช้พระองค์ ท่านจะถูกส่งไปทำกิจธุระเพื่อรับใช้ผู้อื่นในพระนามของพระองค์ พระองค์จะทรงมอบประสบการณ์พร้อมกับการกระตุ้นเตือนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าจะทรงมอบสิทธิอำนาจให้ท่านสอนในพระนามพระองค์ ท่านสามารถแสดงให้พระองค์เห็นว่าทรงไว้ใจท่านได้และพึ่งพาท่านได้

เมื่อห้าเดือนกว่าที่ผ่านมา เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์กับเอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกซึ่งเคยรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาในหมู่เกาะอังกฤษไปเยี่ยมสมาชิกและผู้สอนศาสนาในแผ่นดินสวยงามนี้กับข้าพเจ้า ขณะอยู่ที่นั่น ข้าพเจ้าใคร่ครวญประสบการณ์สมัยเป็นผู้สอนศาสนาวัยหนุ่ม ข้าพเจ้าเป็นพยานว่างานเผยแผ่ทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์ทรงรู้จักและรักข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าได้รับพรให้มีประธานคณะเผยแผ่ที่ยอดเยี่ยมสองท่านคือเซลวอย เจ. บอยเยอร์ และสเตนเนอร์ ริชาร์ดส์ พร้อมกับคู่ชีวิตที่อุทิศตนของท่านคือเกลดีย์ บอยเยอร์ และเจน ริชาร์ดส์ เมื่อมองย้อนกลับไป ข้าพเจ้าเห็นชัดเจนขึ้นว่าท่านทั้งสองไว้วางใจและรักข้าพเจ้า ท่านเหล่านี้สอนพระกิตติคุณให้ข้าพเจ้า คาดหวังอย่างมากจากข้าพเจ้า ให้งานมอบหมายที่ท้าทายและหน้าที่ผู้นำมากมายที่ช่วยให้ข้าพเจ้าเติบโตและเตรียมรับใช้ตลอดชีวิต

นอกจากนี้ข้าพเจ้าได้ใคร่ครวญการเรียกจากประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ที่ให้ข้าพเจ้าเป็นประธานคณะเผยแผ่แคนาดา โตรอนโต กับบาร์บาราภรรยาที่รักและลูกๆ ของเราเคียงข้างกัน ประธานคิมบัลล์เรียกเราให้รับใช้ในเดือนเมษายนปี 1974 ไม่นานหลังจากท่านให้ข่าวสารที่ได้รับการดลใจเกี่ยวกับงานเผยแผ่ศาสนาชื่อ “เมื่อโลกจะเปลี่ยนใจเลื่อมใส”2 ในข่าวสารนั้นประธานคิมบัลล์อธิบายวิสัยทัศน์ของท่านว่าจะนำพระกิตติคุณไปสู่คนทั่วโลกอย่างไร ท่านเรียกร้องให้มีผู้สอนศาสนาจากทั่วโลกมากขึ้น ท่านย้ำเตือนเราถึงความคาดหวังของพระเจ้า “ให้มนุษย์ทุกคน … เปล่งเสียงเตือนผู้อยู่อาศัยของแผ่นดินโลก”3 คำสอนของประธานคิมบัลล์เกี่ยวกับความคาดหวังให้เยาวชนชายรับใช้งานเผยแผ่กลายเป็นหัวข้อสนทนาในบ้านทั่วโลก ความคาดหวังนั้นยังไม่เปลี่ยน ข้าพเจ้าสำนึกคุณที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันยืนยันความคาดหวังนั้นของพระเจ้าในเช้านี้อีกครั้ง

เกือบ 10 ปีมาแล้วตั้งแต่ประธานโธมัส เอส. มอนสันประกาศลดอายุผู้สอนศาสนาสำหรับเยาวชายและเยาวชนหญิง4 ในความเห็นข้าพเจ้า เหตุผลเบื้องต้นในการเปลี่ยนแปลงนี้คือเพื่อเปิดโอกาสเปลี่ยนชีวิตให้เยาวชนของเรามากขึ้นในการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา

ในฐานะอัครสาวกของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ บัดนี้ข้าพเจ้าขอให้ท่านเยาวชนชาย—และเยาวชนหญิงผู้ปรารถนาจะรับใช้งานเผยแผ่—เริ่มพูดคุยกับพ่อแม่ตั้งแต่ตอนนี้เกี่ยวกับการรับใช้งานเผยแผ่ และขอเชื้อเชิญท่านให้พูดคุยกับเพื่อนๆ เกี่ยวกับการรับใช้งานเผยแผ่ และถ้าเพื่อนคนหนึ่งของท่านไม่แน่ใจเรื่องการรับใช้ จงกระตุ้นพวกเขาให้พูดคุยกับอธิการ

ให้คำมั่นกับตัวเองและกับพระบิดาบนสวรรค์ของท่านว่าท่านจะรับใช้งานเผยแผ่และนับจากนี้เป็นต้นไปท่านจะพากเพียรรักษาใจ มือ และความคิดท่านให้สะอาดและมีค่าควร ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านมีประจักษ์พยานอันมั่นคงในพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์

บิดาและมารดาทั้งหลายของเยาวชนที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ ท่านมีบทบาทสำคัญยิ่งในกระบวนการเตรียมนี้ จงเริ่มวันนี้ที่จะพูดคุยกับลูกๆ เกี่ยวกับการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา เรารู้ว่าครอบครัวมีอิทธิพลลึกซึ้งที่สุดในการช่วยเยาวชนชายและเยาวชนหญิงของเราเตรียมตัว

ถ้าท่านยังอยู่ในช่วงอายุของการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาแต่ยังไม่ได้รับใช้เพราะโรคระบาดหรือเหตุผลอื่น ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านรับใช้ตอนนี้ พูดคุยกับอธิการ และเตรียมตัวรับใช้พระเจ้า

ข้าพเจ้าขอให้ท่านที่เป็นอธิการช่วยให้เยาวชนชายและเยาวชนหญิงทุกคนที่ใกล้ถึงวัยผู้สอนศาสนาเตรียมตัวรับใช้ และขอให้อธิการค้นหาคนที่อายุมากพอแต่ยังไม่ได้รับใช้ด้วย เชื้อเชิญเยาวชายแต่ละคนให้เป็นผู้สอนศาสนา รวมทั้งเยาวหญิงแต่ละคนที่ปรารถนาจะรับใช้

ถึงผู้สอนศาสนาที่กำลังรับใช้เวลานี้ เราขอบคุณท่าน งานเผยแผ่ของท่านอยู่ในช่วงเกิดโรคระบาดทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ประสบการณ์งานเผยแผ่ของท่านจึงไม่เหมือนของข้าพเจ้าหรือของผู้สอนศาสนาคนอื่นๆ ที่รับใช้ก่อนปี 2020 ข้าพเจ้ารู้ว่ามันไม่ง่าย แต่แม้ในช่วงเวลายากๆ เช่นนี้ พระเจ้าก็ทรงมีงานให้ท่านทำ และท่านก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม ตัวอย่างเช่น ท่านได้ใช้เทคโนโลยีวิธีใหม่ๆ ในการหาคนที่พร้อมจะเรียนรู้เรื่องการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ เมื่อท่านรับใช้อย่างขยันหมั่นเพียรตามความสามารถของท่าน ข้าพเจ้ารู้ว่าพระเจ้าพอพระทัยความพยายามของท่าน รู้ว่าการรับใช้ของท่านจะเป็นพรแก่ชีวิตท่าน

เมื่อท่านพ้นหน้าที่จากงานเผยแผ่ จำไว้ว่าท่านไม่ได้พ้นหน้าที่จากการแข็งขันในศาสนจักร จงสานต่อนิสัยดีๆ ที่ท่านได้เรียนรู้จากงานเผยแผ่ เสริมสร้างประจักษ์พยานต่อไป ทำงานหนัก สวดอ้อนวอน และเชื่อฟังพระเจ้า ให้เกียรติพันธสัญญาที่ท่านทำไว้ เป็นพรและรับใช้ผู้อื่นต่อไป

ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้ท่านที่เป็นเยาวชนชายหญิงและบิดามารดาเห็นและรู้ว่าการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาจะเป็นพรแก่ชีวิตท่านชั่วนิรันดร์ ขอให้ท่านรู้ในจิตและรู้สึกในใจถึงพลังแห่งพระดำรัสเชื้อเชิญของพระเจ้าที่ประทานแก่บรรดาบุตรของโมไซยาห์ผู้สอนศาสนาที่ยิ่งใหญ่ พระองค์ตรัสว่า “จงออกไป … และสถาปนาถ้อยคำของเรา; กระนั้นพวกเจ้าจงอดทนในความอดกลั้นและความทุกข์, เพื่อพวกเจ้าจะแสดงแบบอย่างอันดีในเรา …, และเราจะทำให้พวกเจ้าเป็นเครื่องมือในมือเราเพื่อความรอดของจิตวิญญาณเป็นอันมาก”5

เช้าวันนี้ข้าพเจ้าน้อมสวดอ้อนวอนขอพระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรเยาวชนศาสนจักรให้ปรารถนาจะเตรียมตัวและรับใช้พระองค์ ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. M. Russell Ballard, “Prepare to Serve,” Ensign, May 1985, 41.

  2. ดู Spencer W. Kimball, “When the World Will Be Converted,” Ensign, Oct. 1974, 2–14. คำปราศรัยนี้ให้ไว้เมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1974 ที่การสัมมนาตัวแทนระดับภูมิภาค

  3. หลักคำสอนและพันธสัญญา 63:37.

  4. ดู โธมัส เอส. มอนสัน, “ขอต้อนรับเข้าสู่การประชุมใหญ่,” เลียโฮนา, พ.ย. 2012, 4–5.

  5. แอลมา 17:11.