2017
การฟื้นฟูกุญแจฐานะปุโรหิต
มิถุนายน 2017


การฟื้นฟู กุญแจฐานะปุโรหิต

จากคำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2004

พระผู้ช่วยให้รอดทรงสร้างศาสนจักรของพระองค์บนรากฐานของอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ผู้ถือกุญแจทั้งหลายของฐานะปุโรหิตบนแผ่นดินโลกเวลานี้

ภาพ
ruins

ภาพถ่ายเมืองเอเฟซัสและภาพพื้นหลังจาก เก็ตตี อิมเมจส์

หลายปีก่อนข้าพเจ้าพูดในโรงละครเก่าแก่ในเมืองเอเฟซัส แสงแดดจ้าสาดส่องทั่วพื้นที่อัครสาวกเปาโลเคยยืนสั่งสอน หัวข้อของข้าพเจ้าคือเปาโล อัครสาวกที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียก

ผู้ฟังคือวิสุทธิยุคสุดท้ายหลายร้อยคน พวกเขานั่งอยู่บนม้าหินหลายแถวที่ชาวเอเฟซัสเคยนั่งเมื่อพันกว่าปีก่อน ท่ามกลางพวกเขาคืออัครสาวกที่มีชีวิตสองท่าน เอ็ลเดอร์มาร์ค อี. ปีเตอร์สันและเอ็ลเดอร์เจมส์ อี. เฟาสท์

ท่านคงนึกภาพออก ข้าพเจ้าเตรียมตัวมาอย่างดี ข้าพเจ้าอ่านกิจการของอัครทูตและสาส์นทั้งของเปาโลและเพื่อนอัครสาวกของท่าน ข้าพเจ้าอ่านและไตร่ตรองสาส์นของเปาโลถึงชาวเอเฟซัส

ข้าพเจ้าพยายามสุดความสามารถเพื่อยกย่องเปาโลและตำแหน่งของท่าน หลังจากปราศรัยหลายคนพูดในทางที่ดี อัครสาวกที่มีชีวิตอยู่ทั้งสองท่านแสดงความคิดเห็นด้วยความกรุณา แต่ต่อมาเอ็ลเดอร์เฟาสท์พาข้าพเจ้าไปด้านข้าง ยิ้ม และพูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “นั่นเป็นคำพูดที่ดี แต่คุณลืมเรื่องสำคัญที่สุดที่คุณสามารถพูดได้”

ข้าพเจ้าถามว่าเรื่องนั้นคืออะไร หลายสัปดาห์ต่อมาท่านยอมบอกข้าพเจ้า คำตอบของท่านสอนข้าพเจ้านับแต่นั้น

ท่านบอกว่าข้าพเจ้าสามารถบอกผู้คนได้ว่าถ้าวิสุทธิชนที่ฟังเปาโลได้รับประจักษ์พยานถึงความสำคัญและพลังอำนาจของกุญแจที่เปาโลถืออยู่ เหล่าอัครสาวกคงไม่ถูกนำไปจากแผ่นดินโลก

นั่นทำให้ข้าพเจ้าต้องกลับไปอ่านจดหมายที่เปาโลเขียนถึงชาวเอเฟซัสอีกครั้ง ข้าพเจ้าเห็นได้ว่าเปาโลต้องการให้ผู้คนรู้สึกถึงความสำคัญของห่วงโซ่กุญแจฐานะปุโรหิตที่สืบต่อจากพระเจ้าผ่านเหล่าอัครสาวกมาถึงพวกเขา บรรดาสมาชิกศาสนจักรของพระเจ้า เปาโลพยายามสร้างประจักษ์พยานในเรื่องกุญแจเหล่านั้น

เปาโลเป็นพยานต่อชาวเอเฟซัสว่าพระคริสต์ทรงเป็นประมุขของศาสนจักรของพระองค์ ท่านสอนว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงสร้างศาสนจักรของพระองค์บนรากฐานของอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ผู้ถือกุญแจทั้งหลายของฐานะปุโรหิตบนแผ่นดินโลกเวลานี้ (ดู เอเฟซัส 2:19–20)

ฐานะปุโรหิตได้รับการฟื้นฟู

ภาพ
the Apostle Paul

ภาพประกอบโดย ไบรอัน คอลล์

แม้จะมีความชัดเจนและพลังของการสอนตลอดจนแบบอย่างของท่าน แต่เปาโลรู้ว่าการละทิ้งความเชื่อจะเกิดขึ้น (ดู กิจการของอัครทูต 20:29–30; 2 เธสะโลนิกา 2:2–3) ท่านรู้ว่าอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์จะถูกนำไปจากแผ่นดินโลก ท่านรู้ว่าพระเจ้าจะทรงนำท่านเหล่านั้นกลับมาอีกครั้งในวันสำคัญยิ่งในอนาคต ท่านเขียนบอกชาวเอเฟซัสเกี่ยวกับเวลานั้นโดยพูดถึงสิ่งที่พระเจ้าจะทรงทำว่า “ทรงประสงค์ที่จะทำให้แผนงานสำเร็จเมื่อเวลาครบบริบูรณ์แล้วคือที่จะทรงรวบรวมทุกสิ่งทั้งที่อยู่ในสวรรค์และในแผ่นดินโลกให้อยู่ในพระคริสต์” (เอเฟซัส 1:10)

เปาโลตั้งตารอการปฏิบัติศาสนกิจของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธเมื่อสวรรค์จะเปิดอีกครั้ง เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแล้ว ยอห์นผู้ถวายบัพติศมาได้มาประสาทฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนและกุญแจทั้งหลายแห่งการปฏิบัติของเหล่าเทพ และของบัพติศมาโดยลงไปในน้ำทั้งตัวเพื่อการปลดบาป (ดู คพ. 13)

อัครสาวกและศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณกลับมาประสาทกุญแจที่พวกท่านถือในความเป็นมรรตัยให้โจเซฟ (ดู คพ. 110) มนุษย์อันเป็นมรรตัยได้รับแต่งตั้งสู่การเป็นอัครสาวกศักดิ์สิทธิ์ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1835 กุญแจฐานะปุโรหิตประทานแก่อัครสาวกสิบสองในช่วงหลังของเดือนมีนาคม ค.ศ. 1844

ศาสดาพยากรณ์ทุกท่านต่อจากโจเซฟ ตั้งแต่บริคัม ยังก์จนถึงประธานมอนสัน ล้วนถือและใช้กุญแจเหล่านั้น และดำรงตำแหน่งอัครสาวกศักดิ์สิทธิ์

ศรัทธาและกุญแจฐานะปุโรหิต

แต่เฉกเช่นในสมัยของเปาโล อำนาจของกุญแจฐานะปุโรหิตเหล่านั้นสำหรับเราเรียกร้องศรัทธาของเรา เราต้องรู้โดยการดลใจว่าคนเหล่านั้นที่นำเราและรับใช้เราถือกุญแจฐานะปุโรหิต ซึ่งเรียกร้องพยานของพระวิญญาณ

และขึ้นอยู่กับประจักษ์พยานของเราว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ พระองค์ทรงพระชนม์ และทรงนำศาสนจักรของพระองค์ เราต้องรู้ด้วยตัวเราเองเช่นกันว่าพระเจ้าทรงฟื้นฟูศาสนจักรและกุญแจฐานะปุโรหิตของพระองค์ผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ และเราต้องมีความเชื่อมั่นผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เป็นประจำว่ากุญแจเหล่านั้นส่งผ่านโดยไม่ขาดตอนมาถึงศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต พระเจ้าทรงอวยพรและทรงนำผู้คนของพระองค์ผ่านสายกุญแจฐานะปุโรหิตซึ่งสืบทอดผ่านประธานของสเตคและท้องถิ่น ผ่านอธิการและประธานสาขามาถึงเราไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดและไม่ว่าเราจะอยู่ห่างศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกเพียงใดก็ตาม

จงวางใจผู้รับใช้ที่พระเจ้าทรงเลือก

ภาพ
restoration of the Melchizedek Priesthood

การฟื้นฟูฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค โดย วอลเตอร์ เรน

เพื่อให้ตัวเรามีฐานมั่นคงในศาสนจักรของพระเจ้า เราสามารถฝึกและต้องฝึกสายตาให้มองเห็นเดชานุภาพของพระเจ้าในการรับใช้ของคนที่พระองค์ทรงเรียก เราต้องมีค่าควรรับความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และเราจำเป็นต้องสวดอ้อนวอนขอให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงช่วยให้เรารู้ว่าบุรุษทั้งหลายที่นำเราดำรงอำนาจนี้ สำหรับข้าพเจ้า การสวดอ้อนวอนเช่นนั้นได้รับคำตอบบ่อยที่สุดเมื่อข้าพเจ้ามีส่วนเต็มที่ในการรับใช้พระเจ้าด้วยตัวข้าพเจ้าเอง

เราสามารถปฏิบัติตนให้มีคุณสมบัติคู่ควรรับการเปิดเผยที่ยอมให้เรารู้ว่าพระเจ้าทรงส่งผ่านกุญแจเหล่านั้นจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง เราสามารถแสวงหาประสบการณ์นั้นได้ครั้งแล้วครั้งเล่า เราต้องแสวงหาจึงจะได้รับพรที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีให้เราและทรงต้องการให้เรามอบให้ผู้อื่น

คำตอบการสวดอ้อนวอนของท่านอาจไม่ตื่นเต้นระทึกใจเหมือนเวลาที่บางคนเห็นบริคัม ยังก์ขณะท่านพูดว่ามีลักษณะท่าทางเหมือนท่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟผู้สิ้นชีวิตเป็นมรณสักขี1 แต่คำตอบมีได้แน่นอน สันติสุขและพลังอำนาจจะเกิดพร้อมความเชื่อมั่นทางวิญญาณเช่นนั้น ท่านจะรู้อีกครั้งว่านี่คือศาสนจักรที่แท้จริงและดำรงอยู่ของพระเจ้า พระองค์ทรงนำศาสนจักรผ่านผู้รับใช้ที่พระองค์ทรงแต่งตั้ง และพระองค์ทรงห่วงใยเรา

ถ้าพวกเราจำนวนมากพอใช้ศรัทธานั้นและได้รับความเชื่อมั่นเหล่านั้น พระผู้เป็นเจ้าจะทรงยกคนที่นำเราและประทานพรแก่ชีวิตเรารวมทั้งครอบครัวของเรา เราจะเป็นอย่างที่เปาโลต้องการให้คนที่เขารับใช้เป็น นั่นคือ “ก่อร่างสร้างขึ้นบนรากฐานของบรรดาอัครทูตและบรรดาผู้เผยพระวจนะ มีพระเยซูคริสต์เป็นศิลาหัวมุม” (เอเฟซัส 2:20)

อ้างอิง

  1. ดู Doctrine and Covenants and Church History Seminary Student Study Guide (2001), 158.