2017
พระบิดาบนสวรรค์คอยคุ้มกัน
มิถุนายน 2017


ไตร่ตรอง

พระบิดาบนสวรรค์คอยคุ้มกัน

ภาพ
cowboys

ภาพถ่ายโดย Tobias Keller/Unsplash

ก่อนป่วยเป็นอัลไซเมอร์ คุณพ่อของดิฉันมักจะมีเรื่องเล่าหรือร้องเพลงให้ลูกๆ ฟังเสมอ ดิฉันจำได้คราวท่านนั่งอยู่ในเก้าอี้ตัวใหญ่กำลังอุ้มน้องชายตัวน้อยของดิฉันไว้บนตักขณะเสียงนุ่มนวลของท่านเล่าเรื่องราวจากวัยเยาว์ของท่าน—ทุกเรื่องตั้งแต่การเลี้ยงวัวโดยมีแมวเกาะอยู่ที่บ่าของท่านไปจนถึงการไถลลงมาตามโขดหินสีแดงของเอสกาลานเต ยูทาห์ สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นเมื่อตาของน้องชายดิฉันเริ่มปรือ ท่านจะหยุดเล่า และเริ่มร้องเพลงคาวบอยกล่อมเด็กเพลงเดิมว่า

หลับตาสะลึมสะลือเถิด โคบาลน้อยของข้า

พระบิดาบนสวรรค์คอยคุ้มกันเจ้าอยู่

ไม่รู้หรือว่าได้เวลานอนแล้ว อีกวันผันผ่าน

หลับเถิดหนา โคบาลน้อยของข้า1

เวลานี้น้องชายตัวน้อยของดิฉันเป็นคุณพ่อแล้ว และคุณพ่อของดิฉันนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในแซนดีเอโก แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา แม้ท่านจะเห็นต้นปาล์ม แต่ท่านก็คิดว่าท่านเป็นเด็กกำลังปล่อยน้ำชลประทานไปตามแถวข้าวโพด มะเขือเทศ และถั่วฝักยาว แต่ท่านไม่ใช่เด็ก ท่านกำลังจะสิ้นใจ

คุณแม่ พี่ชาย และน้องสาวของดิฉันห้อมล้อมเตียงท่านหลายวันติดต่อกัน คุณแม่โทรมาที่บ้านดิฉันในเทือกเขาของยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ท่านบอกว่าเมื่อท่านให้คุณพ่อดูภาพถ่ายเก่าๆ ของครอบครัว รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าที่ซูบผอมของคุณพ่อ บางครั้งภาพพี่ชายของคุณพ่อซึ่งสิ้นชีวิตนานแล้ววนเวียนอยู่ในใจและความคิดท่าน คุณแม่พยายามให้ท่านกินอาหาร แต่ท่านไม่ยอม ท่านบอกคุณแม่ว่าพี่ชายท่านจับปลาเทราท์ได้ และท่านต้องไปดูแลม้าก่อนอาหารเย็น

เราทำใจได้ทีละเรื่องด้วยความรู้ที่ว่าเมื่อคุณพ่อไปจากชีวิตมรรตัยนี้ พระองค์จะทรง “นำ [ท่าน] กลับบ้านไปสู่พระผู้เป็นเจ้าองค์นั้นผู้ประทานชีวิตให้ [พวกเรา]” สู่ “เมืองบรมสุขเกษม, … ซึ่งที่นั่น [ท่านจะ] พักผ่อนจากความยุ่งยากทั้งหลายทั้งปวง [ของท่าน] และจากความกังวลทั้งปวง, และโทมนัส” (แอลมา 40:11–12)

ดิฉันโทรหาคุณแม่และท่านยื่นโทรศัพท์ให้คุณพ่อ ยังความประหลาดใจแก่ดิฉัน ท่านเริ่มร้องเพลงให้ดิฉันฟัง “หลับตาสะลึมสะลือเถิด โคบาลน้อยของข้า พระบิดาบนสวรรค์คอยคุ้มกันเจ้าอยู่”

ดิฉันสงสัยว่าคุณพ่อรู้จริงหรือไม่ว่าท่านกำลังคุยกับดิฉัน ท่านอาจจะไม่รู้ แต่เพลงนี้เป็นของขวัญที่เข้ามาในใจดิฉันอย่างไม่รู้ตัว ดิฉันร้องไห้ด้วยความสำนึกคุณต่อพระเมตตาอันละเอียดอ่อนนี้จากพระบิดาบนสวรรค์และต่อแผนแห่งความรอดของพระองค์ ไม่นานเพลงกล่อมเด็กก็จบ ดิฉันนึกภาพดวงตาของคุณพ่อเริ่มปรือใกล้จะหลับ ชั่วขณะนั้นผ่านไป แต่ดิฉันพบความหวังในความรู้ว่าความตายเป็นส่วนหนึ่งในแผนของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อนำเรากลับบ้านไปหาพระองค์ ดิฉันเชื่อในแผนของพระผู้เป็นเจ้าและในความรักที่ทรงมีต่อเราเมื่อเราจากชีวิตนี้ ดิฉันกระซิบว่า “ราตรีสวัสดิ์ค่ะพ่อ นอนหลับนะคะ พระบิดาบนสวรรค์ของเราคอยคุ้มกันคุณพ่ออยู่นะคะ”

อ้างอิง

  1. ดู Jack Scholl and M. K. Jerome, “My Little Buckaroo” (1937).