การประชุมใหญ่สามัญ
คือการ​ที่​พวก‍เขา​รู้‍จัก​พระ‍องค์
การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2022


คือการ​ที่​พวก‍เขา​รู้‍จัก​พระ‍องค์

(ยอห์น 17:3)

ความปรารถนาอันแรงกล้าของข้าพเจ้าคือให้ท่านได้รู้จักพระเยซูตามพระนามต่างๆ ของพระองค์และให้ท่านเป็นเหมือนพระองค์

ไม่กี่ปีก่อน ข้าพเจ้ามีประสบการณ์เปลี่ยนชีวิตระหว่างการประชุมศีลระลึกในวอร์ดบ้านที่แอริโซนา เมื่อคำสวดศีลระลึกบอกถึงความเต็มใจของเราที่จะ “รับพระนามของพระบุตรของพระองค์ [พระเยซูคริสต์]”1 พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเตือนใจข้าพเจ้าว่าพระเยซูทรงมีหลายพระนาม จากนั้นเกิดคำถามนี้ในใจข้าพเจ้า: “สัปดาห์นี้ฉันควรรับพระนามใดของพระเยซู?”

ข้าพเจ้านึกถึงสามพระนาม และจดพระนามเหล่านั้นไว้ ทั้งสามพระนามนี้มีคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ที่ข้าพเจ้าต้องการพัฒนาให้สมบูรณ์มากขึ้น ในสัปดาห์ถัดมา ข้าพเจ้ามุ่งความสนใจไปที่ทั้งสามพระนามและพยายามน้อมรับคุณลักษณะและอุปนิสัยที่สอดคล้องกันกับพระนามเหล่านั้น ตั้งแต่นั้นมา ข้าพเจ้ายังคงถามคำถามนี้โดยทำเป็นส่วนหนึ่งของการนมัสการส่วนตัว: “สัปดาห์นี้ฉันควรรับพระนามใดของพระเยซู?” การตอบคำถามข้อนั้นและการพากเพียรพัฒนาคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ที่เกี่ยวข้องเป็นพรแก่ชีวิตข้าพเจ้า

ในคำสวดอ้อนวอนเพื่อวิงวอนแทน พระเยซูทรงแสดงความจริงสำคัญข้อนี้: “และ​นี่​แหละ​คือ​ชีวิต​นิ‌รันดร์ คือ​ การ​ที่​พวก‍เขา​รู้‍จัก​พระ‍องค์ ผู้​ทรง​เป็น​พระ‍เจ้า​เที่ยง‍แท้​องค์​เดียว และ​รู้‍จัก​พระ‍เยซู‍คริสต์​ที่​พระ‍องค์​ทรง​ใช้​มา”2 วันนี้ข้าพเจ้าอยากแบ่งปันพรและพลังอำนาจที่มาจากการรู้จักพระเยซูคริสต์ตามพระนามต่างๆ ของพระองค์

วิธีง่ายๆ ที่เราทำความรู้จักใครสักคนคือการเรียนรู้ชื่อคนเหล่านั้น เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “ชื่อของบุคคลเป็นเสียงที่ไพเราะที่สุดและสำคัญที่สุดในทุกภาษาสำหรับบุคคลนั้น”3 ท่านเคยมีประสบการณ์ในการโทรหาใครแล้วเรียกชื่อผิดหรือลืมชื่อของคนนั้นหรือไม่? บางครั้งข้าพเจ้ากับอเล็กซิสภรรยาเรียกลูกคนหนึ่งว่า “โลล่า” แต่ทุกท่านคงเดาได้ โชคร้ายที่โลล่าเป็นสุนัขของเรา! ไม่ว่าจะดีหรือร้าย การลืมชื่อใครบางคนเป็นการสื่อสารไปยังบุคคลนั้นว่าบางทีท่านอาจไม่รู้จักพวกเขาดีพอ

พระเยซูทรงรู้จักและทรงเรียกผู้คนตามชื่อ พระเจ้าตรัสกับชาวอิสราเอลสมัยโบราณว่า “อย่า​กลัว​เลย เพราะ​เรา​ได้​ไถ่​เจ้า​แล้ว เรา​ได้​เรียก​เจ้า​ตาม​ชื่อ เจ้า​เป็น​ของ​เรา”4 ในเช้าวันอีสเตอร์ คำพยานของมารีย์เรื่องพระคริสต์ผู้ฟื้นคืนพระชนม์มั่นคงขึ้นเมื่อพระเยซูทรงเรียกเธอตามชื่อ5 ในทำนองเดียวกัน พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกชื่อโจเซฟ สมิธในการตอบคำสวดอ้อนวอนด้วยศรัทธาของเขา6

ในบางกรณี พระเยซูประทานชื่อใหม่แก่เหล่าสานุศิษย์ซึ่งบ่งบอกถึงธรรมชาติวิสัย ความสามารถ และศักยภาพของคนเหล่านั้น พระเยโฮวาห์ประทาน​ชื่อ​ใหม่​ให้​ยาโคบ​ว่า​อิสราเอล ซึ่ง​หมาย​ถึง “ผู้ที่มีชัยชนะกับพระผู้เป็นเจ้า” หรือ “ให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัย”7 พระ​เยซู​ประทานชื่อให้ยากอบและยอห์นว่าโบ‌อา‌เนอ‌เย ซึ่ง​หมายถึง “ลูก​ฟ้า‍ร้อง”8 เมื่อทรงเห็นความเป็นผู้นำของซีโมนในอนาคต พระเยซูประทานชื่อให้เขาว่าเคฟาสหรือเปโตร ซึ่งหมายถึงศิลา9

เฉกเช่นที่พระเยซูทรงรู้จักชื่อเราแต่ละคน วิธีหนึ่งที่เราจะรู้จักพระเยซูได้ดีขึ้นก็คือการเรียนรู้พระนามต่างๆ ของพระองค์ เช่นเดียวกับชื่อของอิสราเอลและเปโตร พระนามต่างๆ ของพระเยซูเป็นพระสมัญญานามที่ช่วยให้เราเข้าใจพระพันธกิจ จุดประสงค์ พระอุปนิสัย และพระคุณลักษณะของพระองค์ เมื่อเรารู้จักพระนามต่างๆ ของพระเยซู เราจะเข้าใจดีขึ้นถึงพระพันธกิจอันสูงส่งและพระอุปนิสัยที่ไม่เห็นแก่พระองค์เองของพระองค์ การรู้จักพระนามต่างๆ ของพระองค์เป็นแรงบันดาลใจให้เราเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นด้วย—ในการพัฒนาคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ที่นำปีติและจุดประสงค์มาสู่ชีวิตเรา

ไม่กี่ปีก่อน ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันศึกษาพระคัมภีร์ทุกข้อเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ในคู่มือพระคัมภีร์10 จากนั้นท่านเชื้อเชิญให้คนหนุ่มสาวศึกษาข้อพระคัมภีร์เหล่านี้เช่นกัน ในเรื่องพระนามต่างๆ ของพระเยซู ประธานเนลสันกล่าวว่า “จงศึกษาทุกอย่างที่พระเยซูคริสต์ทรง เป็น โดยขวนขวายร่วมกับการสวดอ้อนวอนในการพยายามทำความเข้าใจแต่ละพระนามของพระองค์ว่ามีความหมายอะไรต่อท่าน เป็นส่วนตัว11

ข้าพเจ้าทำตามคำเชื้อเชิญของประธานเนลสันโดยเริ่มด้วยการสร้างรายการพระนามของพระเยซูของตนเอง ตอนนี้รายการของข้าพเจ้ามีมากกว่า 300 ชื่อ และข้าพเจ้าแน่ใจว่ายังมีอีกมากที่ยังไม่ได้ค้นพบ

แม้จะมีบางพระนามของพระเยซูที่สงวนไว้เฉพาะพระองค์เท่านั้น12 แต่ข้าพเจ้าอยากแบ่งปันพระนามและพระสมัญญานามห้าชื่อที่ประยุกต์ใช้กับเราทุกคนได้ ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านทำรายการของตนเองเมื่อท่านได้รู้จักพระเยซูตามพระนามต่างๆ ของพระองค์ ในการทำเช่นนั้น ท่านจะพบว่ามีพระนามอื่นๆ—พร้อมกับคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ที่สอดคล้องกัน—ซึ่งท่านจะต้องการรับไว้ในฐานะสานุศิษย์ในพันธสัญญาของพระเยซู13

หนึ่ง พระเยซูทรงเป็น พระเมษบาลผู้ประเสริฐ (ผู้เลี้ยงที่ดี)14 ดังที่เป็นเช่นนั้น พระเยซูทรงรู้จักแกะของพระองค์15 ทรงเรียก​ชื่อ​แกะ​ของ​พระองค์16 และในฐานะพระ‍เมษ‌โป‌ดก​ของ​พระ‍เจ้า พระองค์ทรงสละพระชนม์ชีพเพื่อ​แกะของพระองค์17 ในทำนองเดียวกัน พระเยซูทรงต้องการให้เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวของเราและในฐานะบราเดอร์และซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ วิธีหนึ่งที่เราแสดงความรักต่อพระเยซูคือการเลี้ยงดู​แกะ​ของ​พระองค์18 สำหรับแกะที่อาจกำลังเร่ร่อน ผู้เลี้ยงที่ดีต้องเข้าไปในแดนทุรกันดารเพื่อค้นหาแกะที่หลงหาย แล้วอยู่กับพวกเขาจนกว่าจะกลับไปอย่างปลอดภัย19 ในฐานะผู้เลี้ยงที่ดีและตามสภาพพื้นที่เอื้ออำนวย เราควรพยายามใช้เวลามากขึ้นในการปฏิบัติศาสนกิจต่อคนในบ้านพวกเขา ในการปฏิบัติศาสนกิจ เราควรใช้การส่งข้อความและเทคโนโลยีเพื่อมาเสริม แต่ไม่ใช่เพื่อมาแทนการติดต่อแบบพบหน้า20

สอง พระเยซูทรงเป็น ​มหา‍ปุ‌โร‌หิต​แห่ง​บรร‌ดา​สิ่ง​ประ‌เสริฐ​ซึ่ง​มา​ถึง​21 เมื่อรู้ว่าการตรึงกางเขนจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า พระเยซูตรัสว่า “เราบอกเรื่องนี้กับพวกท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติ‌สุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงมีใจกล้าเถิด เพราะว่าเราชนะโลกแล้ว”22 ปัจจุบัน เนื่องจากโลกมักจะมีการแบ่งขั้วและแบ่งแยกกันอยู่บ่อยครั้ง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องสั่งสอนและปฏิบัติตนในเชิงบวก มองโลกในแง่ดี และมีความหวัง แม้จะมีความท้าทายต่างๆ ในอดีต แต่ศรัทธาชี้บอกอนาคตเสมอ23 ทั้งเติมเต็มด้วยความหวัง และเปิดทางให้เราทำตามพระดำรัสเชิญของพระเยซูที่ให้เรามีใจกล้า24 การดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณอย่างมีความสุขช่วยให้เราเป็น สานุศิษย์​แห่ง​บรร‌ดา​สิ่ง​ประ‌เสริฐ​ซึ่ง​มา​ถึง

อีกพระสมัญญานามหนึ่งของพระเยซูคือพระองค์ทรง เหมือน​เดิม​ทั้ง​วาน‍นี้ ​วัน‍นี้ และ​ตลอด‍ไป​เป็น​นิตย์25 ความเสมอต้นเสมอปลายเป็นคุณลักษณะของพระคริสต์ พระเยซูทรงทำตามพระประสงค์ของพระบิดาเสมอ26 และพระหัตถ์ของพระองค์ยื่นออกไปตลอดเวลาเพื่อช่วยให้รอด ช่วยเหลือ และเยียวยาเรา27 เมื่อเราดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เราจะเป็นเหมือนพระเยซูมากขึ้น28 แม้โลกจะประสบกับการแกว่งไกวครั้งใหญ่ในลูกตุ้มแห่งความนิยม เมื่อผู้คนถูก​ซัด​ไปซัด​​มา​และ​พัด​ไปพัด​มา​ด้วย​ลม​คำแห่งหลักคำสอนทุก‍อย่าง29 การดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณอย่างเสมอต้นเสมอปลายจะช่วยให้เราแน่วแน่และไม่หวั่นไหวในช่วงมรสุมแห่งชีวิต30 เรายังสามารถแสดงความเสมอต้นเสมอปลายโดยยอมรับคำเชื้อเชิญของประธานเนลสันให้ “จัดสรรเวลาให้พระเจ้า”31 ความเข้มแข็งทางวิญญาณที่ยิ่งใหญ่มาจากสิ่งเล็กๆ และเรียบง่าย32 เช่น การพัฒนา “นิสัยอันศักดิ์สิทธิ์และกิจวัตรที่ชอบธรรม”33ของการสวดอ้อนวอนทุกวัน การกลับใจ การศึกษาพระคัมภีร์ และการรับใช้ผู้อื่น

สี่ พระเยซูทรงเป็น พระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล34 พระชนม์ชีพของพระเยซูเป็นแบบฉบับของความบริสุทธิ์ เมื่อเราติดตามพระเยซู เราสามารถเป็นผู้บริสุทธิ์ ใน อิสราเอลได้35 เรามีความบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นเมื่อไปพระวิหารเป็นประจำ ที่ซึ่งจารึกคำว่า “ศักดิ์สิทธิ์​แด่​พระ‍เจ้า” ไว้เหนือทางเข้าทุกแห่ง ทุกครั้งที่เรานมัสการในพระวิหาร เราได้รับการประสาทพรด้วยอำนาจมากขึ้นเพื่อทำให้บ้านของเราเป็นสถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์36 สำหรับใครที่ยังไม่มีใบรับรองเข้าพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ ข้าพเจ้าขอเชิญให้ท่านพบกับอธิการและเตรียมตัวเข้าหรือกลับไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น ช่วงเวลาในพระวิหารจะเพิ่มความบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตเรา

พระนามสุดท้ายของพระเยซูคือ พระองค์ทรง ซื่อ‍สัตย์​และ​สัตย์‍จริง37 เฉกเช่นที่พระเยซูทรงซื่อสัตย์และสัตย์‍จริงเสมอมา ความปรารถนาอันแรงกล้าของพระองค์คือให้เราแสดงคุณลักษณะเหล่านี้ในชีวิต เมื่อศรัทธาของเราหวั่นไหว เราสามารถร้องทูลพระเยซูว่า “องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า ช่วย​ข้า‍พระ‍องค์​ด้วย” เช่นเดียวกับเปโตรขณะที่เขาเริ่มจมลงในทะเลกาลิลีท่ามกลางพายุ38 ในวันนั้นพระเยซูทรงเอื้อมพระหัตถ์ลงไปช่วยชีวิตสานุศิษย์ที่กำลังจมน้ำ พระองค์ทรงทำเช่นเดียวกันเพื่อข้าพเจ้า และพระองค์จะทรงทำเช่นเดียวกันเพื่อท่าน อย่าหมดหวังในพระเยซู—พระองค์ทรงไม่มีวันหมดหวังในตัวท่าน!

เมื่อเราซื่อสัตย์และ​สัตย์จริง เราทำตามข้อเรียกร้องของพระเยซูให้ “ติด‍สนิท​อยู่​กับ​เรา” ซึ่งสามารถหมายถึง “อยู่กับเรา” ด้วยเช่นกัน39 เมื่อเราเผชิญกับคำถามต่างๆ เมื่อเราถูกล้อเลียนเพราะศรัทธาของเรา เมื่อฝูงชนในอาคารใหญ่และกว้างชี้นิ้วเยาะเย้ยมาที่เรา เราจะยังคงซื่อสัตย์และสัตย์จริงต่อไป ในช่วงเวลาเหล่านี้ เราจะระลึกถึงคำวิงวอนของพระเยซูที่ว่า: “จงดูที่เราในความนึกคิดทุกอย่าง; อย่าสงสัย, อย่ากลัว”40 เมื่อเราทำเช่นนั้น พระองค์จะประทานศรัทธา ความหวัง และความเข้มแข็งที่จำเป็นต่อเราในการอยู่กับพระองค์ชั่วนิรันดร์41

พี่น้องที่รักทั้งหลาย พระเยซูทรงต้องการให้เรารู้จักพระองค์เพราะทรงเป็นพระนามเดียวภายใต้ฟ้าสวรรค์ที่เราจะได้รับการช่วยให้รอดได้42 พระเยซูทรงเป็น​ทาง​นั้น เป็น​ความ​จริง และ​เป็น​ชีวิต—ไม่‍มี​ใคร​มา​ถึง​พระ‍บิดา​ได้​นอก‍จาก​ทางพระองค์43 พระเยซูทรงเป็นทางเดียว! ด้วยเหตุนี้ พระเยซูจึงทรงกวักพระหัตถ์เรียก “จงมาหาเรา”44 “ตามเรามา”45 “ดำเนินไปกับเรา”46 และ “เรียนจากเรา”47

ข้าพเจ้ากล่าวคำพยานถึงพระเยซูคริสต์ด้วยสุดใจ—ว่าพระองค์ทรงพระชนม์ ทรงรักท่าน และทรงรู้จักท่านตามชื่อ ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า48 องค์เดียวที่ถือกำเนิดจากพระบิดา49 ทรงเป็นศิลา ป้อมปราการ โล่ ที่หลบภัย และผู้ช่วยกู้ของเรา50 ทรงเป็นแสงสว่างซึ่งส่องในความมืด51 ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด52และพระผู้ไถ่ของเรา53 ทรงเป็น​ชีวิต​และ​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย54 ความปรารถนาอันแรงกล้าของข้าพเจ้าคือให้ท่านได้รู้จักพระเยซูตามพระนามต่างๆ ของพระองค์และให้ท่านเป็นเหมือนพระองค์เมื่อท่านทำตามแบบอย่างพระคุณลักษณะอันสูงส่งของพระองค์ในชีวิต ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:77

  2. ยอห์น 17:3; เน้นตัวเอน เกี่ยวกับคำสวดอ้อนวอนนี้ ประธานเดวิด โอ. แมคเคย์สอนว่า: “ข้อความนี้นำมาจากหนึ่งในคำสวดอ้อนวอนที่งดงามที่สุด—ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นคำสวดอ้อนวอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด—ที่เคยเอ่ยในโลกนี้ ไม่เว้นแม้แต่คำอธิษฐานของพระเจ้า นี่คือคำสวดอ้อนวอนของพระคริสต์ที่ตรัสก่อนจะเข้าไปในสวนเกทเสมนีในคืนที่พระองค์ถูกทรยศ … ข้าพเจ้ารู้ว่าไม่มีบทอื่นใดจะสำคัญไปกว่านี้ในพระคัมภีร์ไบเบิล” (ใน Conference Report, Oct. 1967, 5)

  3. Dale Carnegie, How to Win Friends and Influence People, rev. ed. (1981), 83.

  4. อิสยาห์ 43:1; เน้นตัวเอน

  5. ดู ยอห์น 20:16

  6. ดู โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:17

  7. Bible Dictionary, “Israel.”

  8. มาระโก 3:17

  9. ดู ลูกา 6:14; ยอห์น 1:42

  10. ดู Russell M. Nelson, “I Studied More Than 2,200 Scriptures about the Savior in Six Weeks: Here Is a Little of What I Learned,” Inspiration (blog), Feb. 28, 2017, ChurchofJesusChrist.org. หลังจากประสบการณ์นี้ ประธานเนลสันประกาศว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนใหม่!” (“ดึงพลังของพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 39)

  11. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ศาสดาพยากรณ์ การเป็นผู้นำ และกฎสวรรค์” (การให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลก, 8 ม.ค. 2017), broadcasts.ChurchofJesusChrist.org.

  12. ตัวอย่างเช่น พระเยซูคือพระเมสสิยาห์ พระคริสต์ พระเยโฮวาห์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้​แรก​ที่​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย และพระบุตรองค์เดียวที่ถือกำเนิดของพระผู้เป็นเจ้า

  13. นอกจากคำเชื้อเชิญของประธานเนลสันให้ศึกษาพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระเยซูในคู่มือพระคัมภีร์แล้ว ท่านยังสามารถศึกษาพระนามต่างๆ ของพระเยซูโดยดู Bible Dictionary ใต้ “Christ, names of” ท่านอาจศึกษาหนังสือ Witness for His Names (2019) ของเอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์และคำพูดให้ข้อคิดทางวิญญาณโดยเอ็ลเดอร์โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์เรื่อง “Name above All Names” (Brigham Young University–Hawaii devotional, Oct. 20, 2020), speeches.byuh.edu.

  14. ดู ยอห์น 10:11

  15. ดู ยอห์น 10:14

  16. ดู ยอห์น 10:3

  17. ดู ยอห์น 10:11–15; 1 นีไฟ 11:31–33

  18. ดู ยอห์น 21:15–17

  19. ข้าพเจ้าชอบงานแปลของโจเซฟ สมิธเป็นพิเศษใน Luke 15:4 ซึ่งอ่านว่า “ใครในพวกท่านที่มีแกะร้อยตัวและตัวหนึ่งหลงหายไป จะไม่ทิ้งเก้าสิบเก้าตัวนั้น แล้วออกไปในแดนทุรกันดารไปตามหาตัวที่หายไปนั้น จนกว่าจะพบหรือ?” (ใน Luke 15:4, เชิงอรรถ a, เน้นตัวเอน)

  20. ดังที่เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์ตั้งข้อสังเกตว่า: “ทุกคนคิดว่าข้อความเดียวก็เพียงพอแล้ว [สำหรับการปฏิบัติศาสนกิจ] มีหลายครั้งที่ท่านต้องอยู่ในบ้านนั้นและต้องมองเข้าไปในตาผู้คน เพราะท่านจะได้รับการกระตุ้นเตือนและการดลใจในบ้านแบบที่ท่านจะไม่มีวันได้ในวิธีอื่น” (“An Evening with Elder David A. Bednar” [broadcast for religious educators], Feb. 7, 2020], broadcasts.ChurchofJesusChrist.org)

  21. ดู ฮีบรู 9:11

  22. ยอห์น 16:33

  23. ดู เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “‘Remember Lot’s Wife’: Faith Is for the Future” (Brigham Young University devotional, Jan. 13, 2009), speeches.byu.edu. “ศรัทธาชี้บอกอนาคตเสมอ ศรัทธาเกี่ยวข้องกับพรและความจริงและเหตุการณ์ที่ ยังไม่ ส่งผลในชีวิตเราเสมอ”

  24. ดู มัทธิว 9:2; มาระโก 6:50; ยอห์น 16:33; 3 นีไฟ 1:13; หลักคำสอนและพันธสัญญา 61:36

  25. ดู ฮีบรู 13:8; ดู Bible Dictionary, “Christ, names of ด้วย”

  26. ดู ยอห์น 8:29

  27. ดู แอลมา 5:33; 19:36; 3 นีไฟ 9:14

  28. ดู ตัวอย่างเช่น เดวิด เอ. เบดนาร์, “ขยันหมั่นเพียรและเอาใจใส่ครอบครัวยิ่งขึ้น,” เลียโฮนา, พ.ย. 2009, 20: “ความเสมอต้นเสมอปลายเป็นหลักธรรมสำคัญขณะที่เราวางรากฐานของงานอันสำคัญยิ่งในชีวิตเราแต่ละคน … เราต้องเสมอต้นเสมอปลาย และเสมอต้นเสมอปลายมากขึ้น”

  29. ดู เอเฟซัส 4:14

  30. ดู โมไซยาห์ 5:15

  31. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “จัดสรรเวลาให้พระเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ย. 2021, 120.

  32. ดู แอลมา 37:6

  33. นี่เป็นวลีที่ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์กล่าวซ้ำหลายครั้งในการปฏิบัติศาสนกิจของท่าน ดู ตัวอย่างเช่น “YSA Face to Face with Elder Oaks and Elder Ballard” (การถ่ายทอดสำหรับคนหนุ่มสาวโสด, Nov. 19, 2017), ChurchofJesusChrist.org.

  34. ดู 2 นีไฟ 9:18–19, 41

  35. เมื่อเร็วๆ นี้ ในการให้ข้อคิดทางวิญญาณทั่วโลกสำหรับคนหนุ่มสาว ซิสเตอร์เวนดี้ เนลสันตั้งคำถามที่เธอกล่าวว่าคำถามนั้นจะสามารถเปลี่ยนชีวิต เพิ่มความมั่นใจและลดความวิตกกังวล สร้างแรงจูงใจ เพิ่มความสำนึกคุณและลดความเครียด ช่วยต้านทานการล่อลวง ตลอดจนทำให้เกิดปีติ การปลอบโยน ความรัก และสันติสุข คำถามนั้นคือ “หนุ่มสาวผู้บริสุทธิ์จะทำอย่างไร?” จากนั้นเธอขอให้ถามคำถามนี้ในสถานการณ์เพียงหนึ่งอย่างในแต่ละวันเป็นเวลาติดต่อกันสามวัน ดู “One Question That Can Change Your Life” (การให้ข้อคิดทางวิญญาณทั่วโลกสำหรับคนหนุ่มสาว, 15 พ.ค. 2022), broadcasts.ChurchofJesusChrist.org.

  36. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 109:12–13, 22

  37. ดู วิวรณ์ 19:11

  38. มัทธิว 14:30

  39. ยอห์น 15:4 ภาษากรีกคำว่า ติดสนิทอยู่ คือ μείνατε (meinate หรือ menó) ซึ่งหมายถึงอยู่หรือคงอยู่

  40. หลักคำสอนและพันธสัญญา 6:36

  41. เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์เคยตั้งข้อสังเกตว่าในภาษาสเปน วลีภาษาอังกฤษ “abide in me” แปลว่า “permaneced en mi” ท่านกล่าวต่อว่า: “ในความหมายนี้จึงแปลว่า ‘อยู่—แต่อยู่ ตลอดกาล’ … จงมาอย่างถาวร เพื่อเห็นแก่ท่านและเห็นแก่คนทุกชั่วอายุที่จะต้องตามท่านมา และเราจะช่วยกันเข้มแข็งจนถึงที่สุดของที่สุด” (ดู “จงเข้าสนิทอยู่ในเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2004, 32)

  42. ดู 2 นีไฟ 31:21

  43. ดู ยอห์น 14:6

  44. มัทธิว 11:28; 3 นีไฟ 9:14, 22

  45. มัทธิว 16:24; ลูกา 18:22; ยอห์น 21:19; ดู 2 นีไฟ 31:10 ด้วย

  46. วิวรณ์ 3:4; โมเสส 6:34

  47. มัทธิว 11:29; หลักคำสอนและพันธสัญญา 19:23

  48. ดู 3 นีไฟ 9:15

  49. ดู ยอห์น 1:14; แอลมา 5:48

  50. ดู 2 ซามูเอล 22:2–3

  51. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 6:21

  52. ดู ลูกา 2:11

  53. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:11–13

  54. ดู ยอห์น 11:25