“30 กันยายน–13 ตุลาคม เอเฟซัส: ‘เพื่อเตรียมธรรมิกชน’” จงตามเรามา—สำหรับปฐมวัย: พันธสัญญาใหม่ 2019 (2019)
“30 กันยายน–13 ตุลาคม เอเฟซัส,” จงตามเรามา—สำหรับปฐมวัย: 2019
30 กันยายน–13 ตุลาคม
เอเฟซัส
“เพื่อเตรียมธรรมิกชน”
ขณะที่ท่านศึกษาสาส์นถึงชาวเอเฟซัส ให้นึกถึงหลักธรรมที่ท่านจะเน้นเพื่อเป็นพรแก่เด็กที่ท่านสอน จดบันทึกแนวคิดที่ท่านมีขณะอ่าน
บันทึกความประทับใจของท่าน
เชื้อเชิญให้แบ่งปัน
เชื้อเชิญให้เด็กยืนเป็นแถว ขอให้คนแรกในแถวแบ่งปันว่าเขาเรียนรู้อะไรเมื่อไม่นานมานี้ระหว่างการศึกษาพระคัมภีร์ในครอบครัว ในปฐมวัย หรือที่อื่น ขอให้เด็กคนถัดไปในแถวทวนสิ่งที่เด็กคนก่อนหน้าแบ่งปันและเพิ่มบางสิ่งที่เขาเรียนรู้ ทำซ้ำจนกระทั่งเด็กทุกคนมีโอกาสแบ่งปัน
สอนหลักคำสอน
เด็กเล็ก
สมาชิกของศาสนจักรควรเป็นเพื่อนและ “พลเมืองเดียว”
เด็กในชั้นเรียนของท่านเป็นเหมือน “คนนอก” หรือ “พลเมืองเดียว” ต่อกันและกับสมาชิกวอร์ดคนอื่นหรือไม่ ช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าถึงแม้เรามีความแตกต่างกัน แต่พระผู้ช่วยให้รอดทรงช่วยให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันและรักกัน
กิจกรรมที่ทำได้
-
วางภาพพระผู้ช่วยให้รอดไว้กลางห้อง เชื้อเชิญให้เด็กยืนอยู่ในส่วนต่างๆ ของห้องเพื่อแสดงถึง “คนนอก” หรือ “คนต่างด้าว” ขณะที่ท่านอ่าน เอเฟซัส 2:19 เชื้อเชิญให้พวกเขาเดินเข้ามาที่ภาพของพระคริสต์จนกระทั่งพวกเขายืนอยู่ใกล้กัน บอกพวกเขาว่าเมื่อเราเข้าใกล้พระผู้ช่วยให้รอด เราสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้อื่นในฐานะเพื่อนและ “พลเมืองเดียว”
-
หาภาพเด็กจากที่ต่างๆ ของโลก และซ่อนภาพไว้ทั่วห้อง วางภาพพระผู้ช่วยให้รอดไว้หน้าห้อง เชื้อเชิญให้ชั้นเรียนของท่านจับคู่เหมือนเป็นผู้สอนศาสนาและผลัดกันหาภาพ “คนนอก” เพื่อนำไปวางไว้ใกล้ภาพของพระผู้ช่วยให้รอด ช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าเมื่อผู้คนรับบัพติศมา พวกเขากลายเป็นครอบครัวของศาสนจักร หรือ “ครอบครัวของพระเจ้า” เราจะช่วยคนใหม่ให้รู้สึกเป็นที่ต้อนรับได้อย่างไร
พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้ฉันเชื่อฟังพ่อแม่
ขณะที่ท่านอ่าน เอเฟซัส 6:1–3 คิดหาวิธีที่ท่านสามารถช่วยให้เด็กเข้าใจว่าทำไมการเชื่อฟังพ่อแม่ของพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญ
กิจกรรมที่ทำได้
-
อ่าน เอเฟซัส 6:1 ให้ชั้นเรียนฟัง หรือช่วยเด็กคนหนึ่งอ่าน ขอให้พวกเขาแสดงบทบาทสมมุติเวลาที่พวกเขาเชื่อฟังพ่อแม่ อะไรจะเกิดขึ้นถ้าพวกเขาไม่เชื่อฟัง
-
ร้องเพลงเกี่ยวกับการเชื่อฟังด้วยกัน เช่น “ฉันเชื่อฟังเร็วพลัน” (หนังสือเพลงสำหรับเด็ก, 71) หยุดหลังจากจบบรรทัดแรก และขอให้เด็กบอกบางสิ่งที่พ่อหรือแม่ขอให้เขาทำ จากนั้นร้องจนจบเพลง ทำซ้ำสองสามครั้งเพื่อเด็กคนอื่นๆ จะได้พูดด้วย
-
แบ่งปันประสบการณ์ซึ่งท่านเชื่อฟังพ่อแม่ของท่านและได้รับพร หรือเล่าเรื่องราวของโคลอี้จากคำพูดของซิสเตอร์แคโรล เอ็ม. สตีเฟนส์เรื่อง “ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา” (เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 118–120) หรือฉายวีดิทัศน์ “Going to Grandma’s” (LDS.org)
ยุทธภัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้าสามารถคุ้มครองฉันได้
ท่านจะช่วยให้เด็กเข้าใจว่าการทำสิ่งชอบธรรมเหมือนกับการสวมยุทธภัณฑ์อย่างไร
กิจกรรมที่ทำได้
-
ให้ดูภาพบุคคลสวมยุทธภัณฑ์ เช่นที่อยู่ในหน้ากิจกรรมของสัปดาห์นี้หรือ โครงร่างของสัปดาห์นี้ ใน จงตามเรามา—สำหรับบุคคลและครอบครัว ขณะที่ท่านสรุป เอเฟซัส 6:10–18 ให้เด็กดูว่ายุทธภัณฑ์ชิ้นต่างๆ ปกป้องส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างไร (ดู “ยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระผู้เป็นเจ้า,” เลียโฮนา, มิถุนายน 2016, 70–71)
-
นำสิ่งของสี่ห้าอย่างมาชั้นเรียนที่อาจแสดงถึงชิ้นส่วนต่างๆ ของยุทธภัณฑ์ดังที่กล่าวไว้ใน เอเฟซัส 6:14–17 (ตัวอย่างเช่นหมวกหรือผ้ากันเปื้อน) หรือทำชิ้นส่วนยุทธภัณฑ์แบบง่ายๆ จากกระดาษ ให้เด็กผลัดกันสวม “ยุทธภัณฑ์” สนทนาว่าได้รับการปกป้องจากสิ่งชั่วร้ายหมายความว่าอย่างไรและการสวมยุทธภัณฑ์แต่ละชิ้นจะคุ้มครองพวกเขาอย่างไร เราจะสวมยุทธภัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้าได้อย่างไร (ตัวอย่างเช่น โดยการศึกษาพระคัมภีร์ รับใช้ผู้อื่น สวดอ้อนวอน เชื่อฟัง และอื่นๆ)
สอนหลักคำสอน
เด็กโต
เราเป็นพลเมืองเดียวในครอบครัวของพระผู้เป็นเจ้า
เด็กจะเข้มแข็งขึ้นเมื่อพวกเขามีเพื่อนที่ดีในพระกิตติคุณ ท่านจะช่วยพวกเขาเสริมสร้างมิตรภาพที่ดีขึ้นต่อกันได้อย่างไร
เราเป็น “พลเมืองเดียว” กับวิสุทธิชนของพระผู้เป็นเจ้า
กิจกรรมที่ทำได้
-
อ่าน เอเฟซัส 2:19 ด้วยกัน และสนทนาว่าการเป็นคนนอกหรือคนต่างด้าวหมายความว่าอย่างไร แบ่งปันประสบการณ์ซึ่งท่านรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกหรือคนต่างด้าวและมีบางคนช่วยให้ท่านรู้สึกเป็นที่ต้อนรับและเป็นที่ยอมรับ เชื้อเชิญให้เด็กแบ่งปันประสบการณ์ที่คล้ายกัน เราทำอะไรได้บ้างเพื่อจะเป็น “พลเมืองเดียว” แทนที่จะเป็นคนนอก มีเด็กคนใดในชั้นเรียนของท่านที่ไม่ได้เข้าชั้นเรียนบ่อยๆ บางทีเป็นเพราะพวกเขารู้สึกว่าเป็นคนนอกหรือไม่ ช่วยเด็กคิดแผนซึ่งจะช่วยให้สมาชิกเหล่านั้นรู้สึกเป็นที่ต้อนรับและเป็นที่รัก
-
เพื่อช่วยให้เด็กที่ท่านสอนใกล้ชิดกันมากขึ้น เขียนคำถามบนกระดานที่กระตุ้นให้พวกเขาแบ่งปันบางสิ่งเกี่ยวกับตนเอง เช่น เมื่อใดที่การสวดอ้อนวอนของคุณได้รับคำตอบ หรือ คุณชอบทำอะไรร่วมกับครอบครัวมากที่สุด แบ่งเด็กออกเป็นคู่ๆ และเชื้อเชิญให้พวกเขาถามคำถามกัน พวกเขาเรียนรู้อะไรจากกัน
พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้ฉันเชื่อฟังและให้เกียรติพ่อแม่
คิดหาวิธีที่ท่านสามารถช่วยให้เด็กเข้าใจว่าทำไมการเชื่อฟังพ่อแม่ของพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญ
กิจกรรมที่ทำได้
-
เชื้อเชิญให้เด็กแต่ละคนอ่าน เอเฟซัส 6:1–3 และระบุคำหรือวลีที่พวกเขาเห็นว่าสำคัญ เชื้อเชิญให้พวกเขาแบ่งปันคำหรือวลีเหล่านี้และทำไมพวกเขาจึงรู้สึกว่าคำหรือวลีนั้นสำคัญ
-
เชื้อเชิญให้เด็กแบ่งปันตัวอย่างของผู้คนในพระคัมภีร์ที่เชื่อฟังและให้เกียรติพ่อแม่ เช่นพระผู้ช่วยให้รอด (ดู ลูกา 2:42–52), นางรูธ (ดู นางรูธ 1), หรือนีไฟ (ดู 1 นีไฟ 3:1–8) เหตุใดการเชื่อฟังและให้เกียรติพ่อแม่ของเราจึงเป็นเรื่องสำคัญ
-
แจกกระดาษให้เด็กคนละแผ่นโดยข้างบนเขียนคำว่า ให้เกียรติ สนทนาความหมายของคำนั้น เชื้อเชิญให้เด็กเขียนหรือวาดรูปลงในกระดาษถึงบางสิ่งที่พวกเขาทำได้เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาให้เกียรติพ่อแม่ของตน
ยุทธภัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้าสามารถปกป้องฉันจากความชั่วร้าย
ขณะที่ท่านอ่าน เอเฟซัส 6:10–18 ให้นึกถึงภยันตรายทางวิญญาณที่เด็กเผชิญและวิธีที่ท่านจะช่วยเสริมสร้างพลังให้เด็กต้านทานสิ่งเหล่านั้น
กิจกรรมที่ทำได้
-
ขณะที่เด็กคนหนึ่งอ่าน เอเฟซัส 6:10–18 ขอให้เด็กอีกคนหนึ่งเขียนหรือวาดรูปชิ้นส่วนของยุทธภัณฑ์ที่กล่าวถึงไว้บนกระดาน เหตุใดยุทธภัณฑ์จึงสำคัญในการสู้รบ เราสามารถสวมยุทธภัณฑ์ทางวิญญาณทุกวันได้อย่างไร
-
มอบหมายให้เด็กแต่ละคนวาดรูปและเขียนชื่อชิ้นส่วนยุทธภัณฑ์ที่บรรยายไว้ใน เอเฟซัส 6:14–17 ชิ้นส่วนยุทธภัณฑ์เหล่านี้จะปกป้องเราจากสิ่งชั่วร้ายได้อย่างไร พระเจ้าทรงสัญญาอะไรกับคนที่สวมยุทธภัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า (ดู เอเฟซัส 6:13) “ต่อสู้ในวันชั่วร้าย” หมายความว่าอย่างไร
กระตุ้นให้เรียนรู้ที่บ้าน
เชื้อเชิญให้เด็กมองหาบางคนในสัปดาห์นี้ที่อาจรู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ท้าทายให้พวกเขาทำบางสิ่งเพื่อช่วยเหลือบุคคลนั้น
ปรับปรุงการสอนของเรา
ช่วยเด็กเล็กเรียนรู้จากพระคัมภีร์ เพื่อช่วยให้เด็กเล็กเรียนรู้จากพระคัมภีร์ท่านจะเน้นพระคัมภีร์ข้อเดียวหรือแค่วลีสำคัญวลีเดียว ท่านอาจเชื้อเชิญให้เด็กยืนขึ้นเมื่อพวกเขาได้ยินคำหรือวลีใดวลีหนึ่งโดยเฉพาะ (ดู การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด, 25–26)