2021
ของประทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคริสต์มาส
ธันวาคม 2021


ของประทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของคริสต์มาส

เราจะถวายของขวัญใดแด่พระผู้ช่วยให้รอดได้บ้างเพื่อตอบแทนทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อเรา?

ภาพ
Photograph of baby in manger

ภาพถ่ายจาก Getty Images

คริสต์มาสเป็นเวลาพิเศษสำหรับข้าพเจ้าเสมอ เวลาของการแสดงความรัก เวลาของการให้ เวลาของการระลึกถึง

ข้าพเจ้าระลึกถึงประเพณีคริสต์มาสอันเลอเลิศเก่าแก่หลายศตวรรษของเชโกสโลวะเกียที่ทำให้ข้าพเจ้าในวัยเด็กน้อยตื่นตาตื่นใจ ข้าพเจ้าระลึกถึงต้นคริสต์มาสที่ประดับด้วยแสงเทียน ของขวัญทำด้วยมือ กลิ่นอายของการเตรียมตัวรับเทศกาล ข้าพเจ้าระลึกถึงเพลงคริสต์มาสอันไพเราะและเสียงดนตรีจากออร์แกนอันสง่างามที่ทำให้ถนนอันมืดมนของเมืองซวิคเคาในเยอรมันตะวันออกสว่างสดใส นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังระลึกถึงห้องเพดานซอมซ่อที่ครอบครัวเราอยู่กันอย่างเบียดเสียดหลังจากเราหลบหนีสถานการณ์อันตรายเป็นครั้งที่สองและเริ่มชีวิตใหม่ในเยอรมันตะวันตกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ขณะข้าพเจ้ามองย้อนไปด้วยความปวดร้าวใจและปีติ สิ่งที่ข้าพเจ้าระลึกถึงมากที่สุดเกี่ยวกับคริสต์มาสอาจเป็นความรักที่ครอบครัวข้าพเจ้ามีต่อกัน วิธีที่เราแสดงความรักและยอมรับศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ที่ได้รับการฟื้นฟู และวิธีที่เราแสดงความรักต่อพระผู้ช่วยให้รอด

คริสต์มาสที่ใกล้เข้ามาอีกครั้ง เตือนข้าพเจ้าให้นึกถึงถ้อยคำของประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันที่แบ่งปันเมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับการมุ่งความสนใจของเราในช่วงเทศกาลคริสต์มาส: “ไม่มีสิ่งใดที่เราสามารถทำได้ในคริสต์มาสนี้จะสำคัญไปกว่าการมุ่งความสนใจของเราไปที่พระผู้ช่วยให้รอดและของประทานที่แสดงว่าพระชนม์ชีพของพระองค์มีความหมายต่อเราแต่ละคนจริงๆ อย่างไร”1

และยังเตือนข้าพเจ้าให้นึกถึงประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน (1899–1994) ผู้ได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือสมาชิกศาสนจักรในเยอรมนีหลังสงครามโลกครั้งที่สองด้วย “ด้วยโปรแกรมสวัสดิการที่พระผู้เป็นเจ้าดลใจ ท่านให้ทานคนหิวโหย ปลอบโยนคนร่ำไห้ และยกทุกคนที่ท่านพบให้เข้าใกล้สวรรค์อย่างแท้จริง”2

หลายปีต่อมา ประธานโธมัส เอส. มอนสัน (1927–2018) อ้างถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นที่การประชุมพิธีอุทิศในเมืองซวิคเคา ที่การประชุม สมาชิกศาสนจักรสูงวัยคนหนึ่งเข้ามาใกล้ท่านและกล่าวว่า “โปรดบอกประธานเบ็นสันว่าเรารักท่าน ท่านช่วยให้เรารอดชีวิต: ชีวิตของผม ภรรยา ลูกๆ และของคนอื่นๆ อีกมากต่อมาก ท่านคือเทพที่พระผู้เป็นเจ้าส่งมาเพื่อนำความหวังและความเชื่อมั่นต่ออนาคตของเรากลับคืนมา”3

พี่น้องที่รักทั้งหลาย เพื่อนที่รักทุกคน ไม่มีเวลาใดจะดีไปกว่าเวลานี้ ในเทศกาลคริสต์มาสนี้ ที่เราจะทำตามแบบอย่างนั้นและอุทิศตนอีกครั้งต่อหลักธรรมที่พระเยซูคริสต์ทรงสอน เป็นเวลาที่ถูกต้องเสมอที่จะรักพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าของเราด้วยสุดจิตสุดใจ—และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง

เป็นสิ่งดีที่จะระลึกว่า “คนที่ให้เงินก็ให้มาก คนที่ให้เวลาให้มากกว่า แต่คนที่ให้ตนเองให้ทั้งหมด ขอให้คำพูดนี้เป็นข้อกำหนดสำหรับของขวัญคริสต์มาสของเรา”4

มุ่งความสนใจไปที่พระชนม์ชีพของพระองค์

ผู้คนมากมายในโลกฉลองคริสต์มาส แต่ในฐานะสานุศิษย์และผู้ติดตามของพระเยซูคริสต์ เราทำพันธสัญญาที่จะ “ระลึกถึงพระองค์ตลอดเวลา” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:77, 79) ในเทศกาลคริสต์มาส เราพบว่าเป็นเรื่องง่ายเป็นพิเศษที่เราจะมุ่งความสนใจไปที่พระคริสต์พระกุมารผู้จะทรงเติบโตเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและกษัตริย์

เรามุ่งความสนใจไปที่พระเยซูคริสต์เมื่อเรายินดีในการประสูติของพระองค์ เราฉลอง “ข่าวดี [อัน] เป็นความยินดีอย่างยิ่ง” กับครอบครัวและเพื่อน (ลูกา 2:10) เราฟังดนตรีศักดิ์สิทธิ์ที่แจ้งข่าวการเสด็จมายังแผ่นดินโลก เราอ่านพระคัมภีร์ที่บันทึกการประสูติของพระองค์ในมัทธิว ลูกา และ 3 นีไฟ เราแสดงประจักษ์พยานว่าพระเยซูทรงเป็นอิมมานูเอลที่พยากรณ์ไว้ โดยเกิดจากมารีย์ ผู้ “เอาผ้าอ้อมพันและวาง [พระองค์] ไว้ในรางหญ้า เพราะว่าไม่มีที่ว่างในโรงแรมสำหรับพวกเขา” (ลูกา 2:7; ดู มัทธิว 1:23 ; อิสยาห์ 7:14 ด้วย)

เรามุ่งความสนใจไปที่พระเยซูคริสต์เมื่อเราศึกษาและน้อมรับพระดำรัสสอนของพระองค์ เราพยายามเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและมีใจเมตตา เป็นผู้สร้างสันติและมีใจบริสุทธิ์ ให้อภัยและซื่อสัตย์ เราเป็นคนช้าที่จะตัดสินและเร็วที่จะสวดอ้อนวอนและให้อภัย เราปฏิบัติต่อผู้อื่นดังที่เราต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา เราแสวงหา “ผลดี” ที่มาจากหลักคำสอนแห่งสวรรค์ เรา “ทำตามพระทัย” ของพระบิดาในสวรรค์5

เรามุ่งความสนใจไปที่พระเยซูคริสต์เมื่อเราทำตามแบบอย่างอันดีพร้อมของพระองค์ พระองค์ทรงสอนให้เรารัก แบ่งปัน และเชิญโดยการรับใช้ การเชื่อฟัง การสวดอ้อนวอน การเสียสละ และการอดทนนาน

เช่นเดียวกับพระเยซู เราแสวงหาโอกาสที่จะเป็นพรแก่บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าขณะเราออกไป “ทำคุณประโยชน์” (กิจการ 10:38; ดู มัทธิว 5:16 ด้วย) เราเลียนแบบอย่างของพระองค์ในการเชื่อฟังพระบิดาขณะเราให้คำมั่นสัญญาอย่างต่อเนื่องว่าจะดำเนินชีวิตด้วยพระคำของพระผู้เป็นเจ้าและพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะรักษาพระบัญญัติของพระองค์ (ดู ยอห์น 14:15)6

เรายอมรับพระดำรัสเชิญของพระองค์ “จงตามเรามา” (มัทธิว 19:21) เราเชิญเพื่อนประชากรโลกของเราให้มาและดู มาและช่วยเหลือ มาและเป็นส่วนหนึ่ง แม้เมื่อเราเผชิญการข่มเหง การล่อลวง หรือความยากลำบาก

ภาพ
Photograph of actor portraying the Lord walking

มุ่งความสนใจไปที่ของประทานของพระองค์

ของประทานแห่งสิ่งที่การประสูติและพระชนม์ชีพของพระผู้ช่วยให้รอดมีความหมายต่อเราพบสัมฤทธิผลแล้วในการชดใช้และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดทรงสั่นเพราะความเจ็บปวด ทรงหลั่งพระโลหิตทุกขุมขน ทรงทนทุกข์ทั้งพระวรกายและพระวิญญาณ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 19:18) การเสียสละของพระองค์เพื่อบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าและชัยชนะของพระองค์เหนือบาปและความตายก่อให้เกิดของประทานที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเข้าใจของประทานอันหาค่ามิได้นี้ เราจำเป็นต้องใช้เวลาไตร่ตรองการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดและความหมายที่สิ่งนี้มีต่อเราทุกคน

เพราะการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ เราจึงรู้ว่าเราสามารถค้นพบการช่วยชีวิตจากการสำนึกผิด เรารู้ว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลง พัฒนา และเอาชนะได้ เรารู้ว่าเราสามารถกลับใจจากบาปของเราและรับการให้อภัยได้ และขณะที่เราใช้ศรัทธาไปสู่การกลับใจ เรารู้ว่าข้อเรียกร้องของความยุติธรรมได้รับการตอบสนอง (ดู แอลมา 34:16)

“การกลับใจเป็นของขวัญอันเจิดจรัส” ประธานเนลสันกล่าว “เป็นกระบวนการที่ไม่มีอะไรน่ากลัว เป็นของขวัญให้เรารับด้วยปีติและให้ใช้—แม้น้อมรับไว้—ทุกวันขณะที่เราพยายามเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น”7

เพราะพระคริสต์พระกุมาร เราจึงได้รับของประทานอันสูงส่งแห่งการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ เพราะของประทานนี้ เราสามารถพบพระคุณและการนำทาง เราสามารถยอมรับการทนทุกข์ เราสามารถพบสันติที่ “ไม่ได้ให้อย่างที่โลกให้” แต่อย่างที่พระเจ้าประทานแก่เรา (ยอห์น 14:27)

ผิดทำให้ถูกได้ ภาระทำให้เบาได้ เพราะการเสียสละอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระเยซูคริสต์ เราสามารถค้นพบความหวังที่ให้อิสรภาพ

และอะไรเล่าที่เราจะหวัง?

มอรมอนตอบว่า “ดูเถิดข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านว่าท่านจะมีความหวังโดยผ่านการชดใช้ของพระคริสต์และเดชานุภาพแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์, เพื่อยกท่านขึ้นสู่นิรันดรแห่งชีวิต, และนี่เพราะศรัทธาของท่านในพระองค์” (โมโรไน 7:41)

การชดใช้และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระผู้ช่วยให้รอดทำให้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาของประทานแห่งคริสต์มาสทั้งหมดเป็นไปได้: ชีวิตนิรันดร์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 6:13; 14:7)

นั่นเป็นเหตุที่เราร้องเพลง “โลกจงสุขี”8

ของขวัญที่เราถวายแด่พระองค์

เราประกาศร่วมกับอัครสาวกเปาโลว่า “ขอขอบพระคุณพระเจ้า เพราะของประทานที่เกินความคาดคิดซึ่งพระองค์ประทานนั้น” (2 โครินธ์ 9:15)

แต่เราจะตอบแทนด้วยของขวัญใด?

ของขวัญที่พระองค์ทรงเรียกร้องจากเราไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน หาไม่ได้ในร้านออนไลน์ ขอให้ใครทำให้ก็ไม่ได้ จะวางไว้ใต้ต้นคริสต์มาสก็ไม่ได้

สิ่งที่พระองค์ทรงเรียกร้องจากเราคือใจของเรา

ฉันจะถวายของขวัญใดแด่พระองค์ได้เล่า

เมื่อฉันจนอย่างนี้?

ถ้าฉันเป็นผู้เลี้ยงแกะ

ฉันจะถวายแกะ

ถ้าฉันเป็นนักปราชญ์

ฉันจะทำส่วนของฉัน—

กระนั้นฉันจะถวายสิ่งที่ถวายได้

ถวายใจของฉัน9

เพื่อถวายใจของเราแด่พระองค์ เราจำเป็นต้องยอมรับความช่วยเหลือของพระองค์ก่อน การถวายใจทั้งดวงของเราแด่พระผู้ช่วยให้รอดหมายถึงการมาหาพระองค์ด้วยใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิดของการกลับใจ (ดู 3 นีไฟ 12:19) นั่นคือวิธีเดียวที่เราสามารถรับของประทานแห่งการชดใช้ของพระองค์ได้อย่างสมบูรณ์และมีค่าสมกับของประทานแห่งชีวิตนิรันดร์ของพระผู้เป็นเจ้า ขณะเรากลับใจด้วยความเต็มใจ เราแสดงความรักและความสำนึกคุณต่อของประทานของพระผู้เป็นเจ้าและต่อการพลีพระชนม์ชีพเพื่อเราของพระผู้ช่วยให้รอด

เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงทำให้ใจของเราหายดีอีกครั้ง เราจึงเปี่ยมด้วยปีติ และเมื่อเราเปี่ยมด้วยปีติ เราต้องการแบ่งปันประสบการณ์พิเศษสุดแห่งความรัก สันติ และความหวังนี้กับบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้า เราต้องการรับใช้พระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์ทั้งปวง และเราต้องการมอบของขวัญล้ำค่าที่สุดเท่าที่เคยให้มาแก่ทุกคน แม้ “อาหารแห่งชีวิต” (ยอห์น 6:35) และ “น้ำดำรงชีวิต” (ยอห์น 4:10)

ขณะเราทำให้พระผู้ช่วยให้รอดและของประทานอันสูงส่งของพระองค์เป็นศูนย์กลางของชีวิตเราในเทศกาลคริสต์มาสนี้และตลอดเวลา เราจะประกาศต่อโลกด้วยปีติและความเคารพว่าพระชนม์ชีพของพระคริสต์ “หาได้เริ่มต้นที่เบธเลเฮมและจบลงที่คัลวารีไม่”10

ทุกคนที่ยอมรับของประทานแห่งความรักของพระองค์จะไม่มีวันหิวหรือกระหาย พวกเขาจะพบการพักผ่อนในจิตวิญญาณของตน (ดู มัทธิว 11:29) และยินดีด้วยสุดใจและสุดจิตวิญญาณว่า “พระเจ้าเสด็จมา”11

เทศกาลคริสต์มาสนี้และตลอดปี ขอให้เราได้รับของประทานและให้ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคริสต์มาส

อ้างอิง

  1. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ของประทานจากสวรรค์” (การให้ข้อคิดทางวิญญาณเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส, 6 ธ.ค. 2020), broadcasts.ChurchofJesusChrist.org.

  2. โธมัส เอส. มอนสัน, “The Gifts of Christmas,” Liahona, Dec. 2003, 4.

  3. โธมัส เอส. มอนสัน, “The Gifts of Christmas,” 4.

  4. โธมัส เอส. มอนสัน, “The Gifts of Christmas,” 5.

  5. ดูการเทศนาบนภูเขาของพระผู้ช่วยให้รอดใน มัทธิว 5–7, โดยเฉพาะ มัทธิว 5:5, 7–9; 6:14–15, 19–20, 33; 7:1–2, 7–8, 12, 15–21.

  6. ศาสนพิธีศีลระลึกให้โอกาสนี้แก่เราทุกวันอาทิตย์

  7. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ของขวัญสี่ประการจากพระผู้ช่วยให้รอด,” เลียโฮนา, ธ.ค. 2019, 7.

  8. “โลกจงสุขี,” เพลงสวด, บทเพลงที่ 94.

  9. “A Christmas Carol,” in The Poetical Works of Christina Georgina Rossetti (1904), 246–47.

  10. “พระคริสต์ผู้ทรงพระชนม์: ประจักษ์พยานของอัครสาวก,” ChurchofJesusChrist.org.

  11. Hymns, no. 201.