2019
แบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดในการผูกมิตร
ธันวาคม 2019


คนหนุ่มสาว

แบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดใน การผูกมิตร

เราทุกคนล้วนผ่านช่วงเวลาโดดเดี่ยว แต่แบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดมีสิ่งที่สอนเราสองสามเรื่องเกี่ยวกับการผูกมิตร

ภาพ
friends walking

ภาพถ่ายจาก Getty Images

ในฐานะคนหนุ่มสาว เราทุกคนล้วนผ่านช่วงเวลาโดดเดี่ยว—การย้ายไปเรียน กลับจากงานเผยแผ่ ผ่านการเลิกรา การเป็นสมาชิกศาสนจักรคนเดียวในพื้นที่ เป็นคนใหม่ในวอร์ด การเป็นคนโสด แต่งงานกับคนที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน การเป็นพ่อแม่มือใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะผูกมิตรในบางช่วงเวลาของชีวิต

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ คำตอบอยู่ในการทำตามพระผู้ช่วยให้รอด เช่นเดียวกับทุกเรื่อง เอ็ลเดอร์โรนัล เอ. ราสแบนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า “เช่นเดียวกับหลักธรรมพระกิตติคุณทุกข้อ พระเยซูคริสต์คือพระผู้ทรงเป็นแบบอย่างเรื่องมิตรภาพ”1 ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่เราเรียนรู้สองสามเรื่องจากแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดเกี่ยวกับการผูกมิตร

ออกไปหาพวกเขา

พระเยซูทรงเห็นค่ามิตรภาพ พระองค์ทรงต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากผู้อื่น (เหมือนกับเราทุกคน) เพื่อทำให้การปฏิบัติศาสนกิจบนแผ่นดินโลกของพระองค์เกิดสัมฤทธิผล แต่แทนที่จะรอให้คนที่ใช่ปรากฏตัวที่ประตูของพระองค์ พระองค์ทรงออกไปพบกับพวกเขา! พระองค์เสด็จไปสถานที่ซึ่งโดยปกติพระองค์ไม่เสด็จไป (ดู ลูกา 5:3–10) พระองค์ทรงดำเนินรอบ (ดู มาระโก 1:16; ยอห์น 1:36) และกระทั่งทรงเชิญคนให้มาและดูสถานที่ซึ่งพระองค์ประทับอยู่ (ดู ยอห์น 1:39)

เราอาจไม่ต้องการเพื่อนด้วยเหตุผลเดียวกันกับพระผู้ช่วยให้รอด แต่ยังเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเราที่จะอยู่ในแวดวงของคนดี หากท่านกำลังอยู่ในช่วงใหม่ของชีวิตที่ท่านพบว่าตนเองต้องการเพื่อน ให้ออกไปหาพวกเขา มีส่วนร่วมในศาสนจักรและกิจกรรมอื่นๆ แนะนำตัว ลองสิ่งใหม่ จัดเลี้ยงพบปะสังสรรค์กัน ปฏิบัติศาสนกิจอย่างจริงใจ (ใครก็ตามที่ท่านปฏิบัติศาสนกิจกับเขาก็คงต้องการเพื่อนเช่นกัน!) และท่านจะพบว่าตัวท่านเองอยู่ในแวดวงของคนที่จะเป็นเพื่อนท่านได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ชี้ให้เห็นความดีของผู้อื่น

ดิฉันชอบเมื่อพระเยซูทรงพบนาธานาเอลและตรัสว่า “นี่แหละชาวอิสราเอลแท้ ในตัวเขาไม่มีอุบาย” (ยอห์น 1:47) เมื่อใดก็ตามที่ดิฉันนึกถึงข้อนี้ พระคัมภีร์เตือนดิฉันว่าดิฉันควรมองหาและทำให้ความดีที่ดิฉันเห็นในผู้อื่นเป็นที่ประจักษ์

“มิสเตอร์” เฟร็ด โรเจอร์สผู้เชี่ยวชาญในการผูกมิตร ชี้ให้เห็นเช่นกันว่าการมองหาสิ่งที่ดีที่สุดในผู้อื่นเป็นคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์อย่างไร “ผมเชื่อว่าความซาบซึ้งใจเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์” เขาบอก “การที่เรามองหาสิ่งดีในคนที่เราบังเอิญอยู่ด้วยในเวลานั้น เรากำลังทำสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงทำ ดังนั้น เรากำลังมีส่วนร่วมในบางสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ในความรักและความซาบซึ้งใจเพื่อนบ้านของเรา”2

สวดอ้อนวอนให้เพื่อน

ประสบการณ์บนแผ่นดินโลกที่น่าจดจำที่สุดบางเรื่องกับพระผู้ช่วยให้รอดคงเป็นเมื่อพระองค์ทรงสวดอ้อนวอนให้ผู้อื่น ชาวนีไฟบันทึกไว้ว่า “ไม่มีใคร [จะ] เข้าใจถึงปีติซึ่งเต็มจิตวิญญาณ [พวกเขา] ในเวลาที่ [พวกเขา] ได้ยินพระองค์ทรงสวดอ้อนวอนถึงพระบิดาเพื่อ [พวกเขา]” (3 นีไฟ 17:17) คำสวดอ้อนวอนของเราอาจไม่น่าประทับใจเท่าของพระองค์ แต่เรายังคงสามารถใช้เวลาสวดอ้อนวอนให้คนที่เราห่วงใย

นอกจากสวดอ้อนวอนให้เพื่อนของท่าน ท่านสวดอ้อนวอนเพื่อมีเพื่อนได้ด้วย ขณะที่ท่าน “ปรึกษาพระเจ้าในการกระทำทั้งหมดของลูก” (แอลมา 37:37)—รวมถึงความกังวลของท่านเกี่ยวกับความโดดเดี่ยวและต้องการเพื่อน—พระองค์จะไม่เพียง “ชี้ทางให้ [ท่าน] เพื่อความดี” แต่พระองค์จะทรงชี้ทาง ไปสู่ ความดี—คนที่ดีผู้จะเป็นเพื่อนที่ดีได้

มองไปที่พระผู้ช่วยให้รอด

พระเยซูทรงทราบว่าเรารู้สึกอย่างไรเมื่อเรารู้สึกโดดเดี่ยวเนื่องจากพระองค์เองก็ “คุ้นเคยกับความโศกเศร้า” และความโดดเดี่ยว (โมไซยาห์ 14:3) ดังนั้นแม้ว่าเราจะเก่งในการเป็นเพื่อน เราน่าจะยังมีช่วงเวลาหรือชั่วขณะที่โดดเดี่ยว แต่ความโดดเดี่ยวสามารถเป็นเครื่องเตือนใจเราถึงประกาศิตจากสวรรค์ให้รักกัน (ดู ยอห์น 13:34)

หากท่านกำลังต่อสู้กับช่วงเวลาแห่งความโดดเดี่ยวตอนนี้ ให้มองไปที่แบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอด เหนือคนอื่นใด ทำให้พระองค์ทรงเป็นเพื่อนท่าน พระองค์—พระบิดาบนสวรรค์ของเรา—จะไม่ทรงทอดทิ้งท่านให้โดดเดี่ยว

อ้างอิง

  1. โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์, “True Friendship,” New Era, Oct. 2016, 5.

  2. เฟร็ด โรเจอร์ส, คำปราศรัยพิธีรับปริญญาที่ Marquette University, 2001, marquette.edu/universityhonors/speakers-rogers.shtml.