สถาบัน
บทที่ 6 สื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน: พระคัมภีร์มอรมอน—ศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา


“บทที่ 6 สื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน: พระคัมภีร์มอรมอน—ศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา” รากฐานของการฟื้นฟู สำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน (2019)

“บทที่ 6 สื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน” รากฐานของการฟื้นฟู สำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน

บทที่ 6 สื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน

พระคัมภีร์มอรมอน—ศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา

ภาพ
การนำเข้าสู่พระคำ โดย เจฟฟรีย์ ไฮน์

ท่านมีประจักษ์พยานอะไรเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน? ท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเสริมสร้างประจักษ์พยานนั้นให้เข้มแข็งต่อไป? ขณะท่านศึกษาเนื้อหาต่อไปนี้ ท่านพึงสามารถอธิบายได้ดีขึ้นว่าเหตุใดพระคัมภีร์มอรมอนจึงเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเราและประจักษ์พยานของเรา

หัวข้อ 1

มีหลักฐานอะไรยืนยันความจริงและความสำคัญของพระคัมภีร์มอรมอนบ้าง?

หลังจากจัดพิมพ์พระคัมภีร์มอรมอนในเดือนมีนาคม ปี 1830 ได้ไม่นาน พระเจ้าทรงบัญชาให้โจเซฟจัดตั้งศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ ผู้สอนศาสนาเริ่มขายพระคัมภีร์มอรมอนขณะเดินทาง พระคัมภีร์เริ่มมีผลลึกซึ้งต่อการรวมผู้คนเข้ามาในศาสนจักร

ปีเดียวกับที่จัดพิมพ์พระคัมภีร์มอรมอน ชายหนุ่มชื่อพาร์ลีย์ พี. แพรทท์รู้สึกได้รับการดลใจให้ขายฟาร์มของเขาในรัฐโอไฮโอเพื่อเขาจะได้สั่งสอนเกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิล หลังจากขายฟาร์มได้ไม่นาน พาร์ลีย์กับแทงค์ฟูลภรรยาก็เดินทางไปตะวันออก เมื่อพวกเขามาใกล้พอลไมรา รัฐนิวยอร์ก พาร์ลีย์รู้สึกได้รับการกระตุ้นเตือนให้ขึ้นจากเรือ เขาขึ้นฝั่ง ส่วนแทงค์ฟูลเดินทางต่อ จากนั้นพาร์ลีย์เดิน 10 ไมล์ไปบ้านของผู้ช่วยบาทหลวงนิกายแบปทิสต์ ผู้ช่วยบอกเขาเกี่ยวกับหนังสือเล่มหนึ่งที่ได้มาซึ่งแปลจากแผ่นจารึกทองคำ พาร์ลีย์บันทึกในภายหลังดังนี้:

“ข้าพเจ้าเปิด [พระคัมภีร์มอรมอน] ด้วยความกระหายใคร่รู้ และอ่านหน้าปกใน แล้วอ่านประจักษ์พยานของพยานหลายๆ ท่านเกี่ยวกับวิธีพบและแปลพระคัมภีร์เล่มนี้ หลังจากนั้นก็เริ่มอ่านเนื้อหาตามลำดับ ข้าพเจ้าอ่านทั้งวัน การกินเป็นภาระ ข้าพเจ้าไม่อยากอาหาร การนอนเป็นภาระเมื่อถึงเวลากลางคืน เพราะข้าพเจ้าชอบอ่านมากกว่านอน

ขณะอ่าน พระวิญญาณของพระเจ้าสถิตกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้ารู้และเข้าใจว่าหนังสือเล่มนี้เป็นความจริง ชัดเจนและประจักษ์ชัดเท่าที่ชายคนหนึ่งเข้าใจและรู้ว่าเขาดำรงอยู่ (Autobiography of Parley P. Pratt, ed. Parley P. Pratt Jr. [1938], 37)

ภาพ
เยาวชนหญิงถือพระคัมภีร์

ตั้งแต่ยุคแรกของศาสนจักร ผู้คนหลายล้านคนค้นพบสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสอนพาร์ลีย์คืนนั้น—ว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง ในนั้นมีพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า

เมื่อโจเซฟ สมิธแปลพระคัมภีร์มอรมอนเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมิถุนายน ปี 1829 พระเจ้าทรงเป็นพยานถึงความจริงของหนังสือนี้ด้วยพระองค์เอง

ภาพ
ไอคอน ศึกษา

ศึกษาเพื่อเตรียมมาเรียน

อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 17:6

ต่อมาพระเจ้าทรงยืนยันความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนและประทานเหตุผลที่ทรงนำพระคัมภีร์เล่มนี้ออกมา

ภาพ
ไอคอน ศึกษา

ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:8–12, 14

หลายปีต่อมาในวันอาทิตย์ปี 1841 ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธใช้วันนั้นในสภากับอัครสาวกสิบสองที่บ้านของประธานบริคัม ยังก์ผู้รับใช้เป็นประธานโควรัมเวลานั้น ขณะพูดคุยกันหลายๆ เรื่อง โจเซฟสอนความสำคัญของพระคัมภีร์มอรมอน

ข้าพเจ้าบอกบรรดาพี่น้องชายว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นหนังสือที่ถูกต้องยิ่งกว่าหนังสือใดๆ บนแผ่นดินโลก และเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา และมนุษย์จะเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นโดยการยึดมั่นกับหลักการของหนังสือเล่มนี้ ยิ่งกว่าหนังสือเล่มอื่นใด (ดู คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007] หน้า 67)

ศึกษาหัวข้อต่อไปนี้เพื่อเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับความจริงเหล่านี้ที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟสอน

หัวข้อ 2

พระคัมภีร์มอรมอนเป็นหนังสือที่ถูกต้องยิ่งกว่าหนังสือใดๆ บนแผ่นดินโลกหมายความว่าอย่างไร?

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนดังนี้

พระคัมภีร์มอรมอนเป็นหนังสือที่ถูกต้องยิ่งกว่าหนังสือใดๆ บนแผ่นดินโลกเนื่องจากมีศูนย์กลางอยู่ที่ความจริง (ดู ยอห์น 14:6; 1 นีไฟ 13:40) แม้พระเยซูคริสต์ และฟื้นฟูสิ่งต่างๆ ที่แจ้งชัดและมีค่าซึ่งถูกนำไปจากพระกิตติคุณที่แท้จริง (ดู 1 นีไฟ 13:26, 28–29, 32, 34–35, 40) ปัจจัยทั้งสองอย่างที่ประกอบกันขึ้นอย่างเป็นเอกลักษณ์นี้—มุ่งเน้นไปที่พระผู้ช่วยให้รอดและความแจ้งชัดของคำสอน—ซึ่งอัญเชิญการเป็นพยานยืนยันอันทรงพลังจากสมาชิกองค์ที่สามในพระผู้เป็นเจ้าสามพระองค์ แม้พระวิญญาณบริสุทธิ์ ด้วยเหตุนี้ พระคัมภีร์มอรมอนจึงพูดกับวิญญาณและจิตใจผู้อ่านแบบที่ไม่มีพระคัมภีร์เล่มอื่นใดทำได้ (เดวิด เอ. เบดนาร์ “จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่างเลียโฮนา พ.ค. 2010 หน้า 51)

ภาพ
ไอคอน ไตร่ตรอง

ไตร่ตรองเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

ความจริงใดจากพระคัมภีร์มอรมอนได้เสริมสร้างศรัทธาของท่านในพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์?

หัวข้อ 3

พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเราอย่างไร?

เมื่อก่อประตูโค้งต้องมีเสาค้ำด้านนอกเพื่อสร้างสองด้านให้ตั้งตรง จากนั้นจะวัดช่องบนสุดของประตูโค้งอย่างละเอียด แล้วตัดศิลาหลักให้พอดีกับช่อง เมื่อนำเอาศิลาหลักใส่ถูกตำแหน่งและศิลาก้อนอื่นดันศิลาหลักให้อยู่กับที่แล้ว ประตูโค้งจะตั้งมั่นอยู่ได้โดยไม่ต้องมีเสาค้ำ

ภาพ
ภาพกราฟิกศิลาหลัก

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันอธิบายว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเราอย่างไร

พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเราสามด้านด้วยกัน เป็นศิลาหลักในพยานของเราถึงพระคริสต์ เป็นศิลาหลักแห่งหลักคำสอนของเรา เป็นศิลาหลักแห่งประจักษ์พยานของเรา

พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักในพยานของเราถึงพระเยซูคริสต์ … โลกชาวคริสต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของพระผู้ช่วยให้รอด พวกเขาสงสัยการประสูติอันน่าอัศจรรย์ของพระองค์ พระชนม์ชีพที่ดีพร้อมของพระองค์ และความเป็นจริงของการฟื้นคืนพระชนม์อันรุ่งโรจน์ของพระองค์ พระคัมภีร์มอรมอนสอนด้วยถ้อยคำที่แจ้งชัดและชัดเจนเกี่ยวกับความจริงทั้งหมดนั้น อีกทั้งให้คำอธิบายครบถ้วนที่สุดเกี่ยวกับหลักคำสอนเรื่องการชดใช้ด้วย …

พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งหลักคำสอนเรื่องการฟื้นคืนชีวิตเช่นกัน … พระคัมภีร์มอรมอนให้มากมายจนขยายความเข้าใจของเราในหลักคำสอนแห่งความรอด หากไม่มีพระคัมภีร์มอรมอน ส่วนใหญ่ที่สอนไว้ในพระคัมภีร์เล่มอื่นแทบจะไม่มีค่าและไม่ชัดเจน …

… พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งประจักษ์พยาน ประตูโค้งพังลงมาถ้าเอาศิลาหลักออกฉันใด ทั้งศาสนจักรจะตั้งมั่นหรือล้มลงก็ด้วยความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนฉันนั้น … ถ้าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง … คนต้องยอมรับคำกล่าวอ้างเรื่องการฟื้นฟูและทั้งหมดที่มาด้วยกัน (เอสรา แทฟท์ เบ็นสัน “The Book of Mormon—Keystone of Our Religion,” Ensign, Nov. 1986, 5–6; เน้นตัวเอน)

ภาพ
ไอคอน ไตร่ตรอง

ไตร่ตรองเพื่อเตรียมมาเรียน

ศาสนจักรตั้งมั่นหรือล้มลงด้วยความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนในด้านใด? พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งประจักษ์พยานส่วนตัวของท่านอย่างไร?

หัวข้อ 4

พระคัมภีร์มอรมอนช่วยให้เราเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นอย่างไร?

ท่านอาจจะทำเครื่องหมายคำหรือวลีในคำกล่าวต่อไปนี้ที่สอนว่าพระคัมภีร์มอรมอนช่วยให้เราเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นและเป็นพรแก่ชีวิตเราอย่างไร

ภาพ
เยาวชนชายกำลังอ่านพระคัมภีร์มอรมอน

ประธานเบ็นสันสอนว่า:

มีพลังใน [พระคัมภีร์มอรมอน] ซึ่งจะเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในชีวิตท่านทันทีที่ท่านเริ่มศึกษาพระคัมภีร์เล่มนี้อย่างจริงจัง ท่านจะพบพลังต่อต้านการล่อลวงมากขึ้น ท่านจะพบพลังหลีกเลี่ยงการหลอกลวง ท่านจะพบพลังอยู่บนทางคับแคบและแคบ พระคัมภีร์ได้ชื่อว่าเป็น ‘ถ้อยคำแห่งชีวิต’ (หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:85) และไม่มีหนังสือเล่มใดเป็นถ้อยคำแห่งชีวิตมากไปกว่าพระคัมภีร์มอรมอน เมื่อท่านเริ่มหิวกระหายถ้อยคำเหล่านี้ ชีวิตท่านจะอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น (เอสรา แทฟท์ เบ็นสัน, “The Book of Mormon—Keystone of Our Religion,” 7)

ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์แห่งฝ่ายประธานสูงสุดเป็นพยานเช่นกันว่า:

ประสิทธิผลของพระคัมภีร์มอรมอนต่ออุปนิสัย พลังอำนาจ และความกล้าหาญของท่านในการเป็นพยานสำหรับพระผู้เป็นเจ้านั้นแน่นอน หลักคำสอนและแบบอย่างที่กล้าหาญในหนังสือเล่มนั้นจะหนุนใจ นำทาง และทำให้ท่านกล้า … การศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนร่วมกับการสวดอ้อนวอนจะสร้างศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าพระบิดา ในพระบุตรที่รักของพระองค์ และในพระกิตติคุณของพระองค์ จะสร้างศรัทธาของท่านในศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ทั้งอดีตและปัจจุบัน พระคัมภีร์มอรมอนจะดึงท่านให้ใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้ามากกว่าหนังสือเล่มอื่นใด จะเปลี่ยนชีวิตท่านให้ดีขึ้น ข้าพเจ้าขอร้องท่านให้ศึกษาพระคัมภีร์เล่มนี้บ่อยๆ (เฮนรีย์ บี. อายริงก์ “พยานเลียโฮนา พ.ย. 2011 หน้า 88, 89–90)

และดังที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสัญญาไว้:

ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อท่านศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนร่วมกับการสวดอ้อนวอน ทุกวัน ท่านจะตัดสินใจได้ดีขึ้น—ทุกวัน ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อท่านไตร่ตรองสิ่งที่ศึกษา หน้าต่างฟ้าสวรรค์จะเปิด และท่านจะได้รับคำตอบให้คำถามของท่านและการนำทางในชีวิตท่าน ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อท่านใฝ่ใจศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน ท่านจะมีภูมิคุ้มกันความชั่วของยุคสมัย รวมไปถึงโรคระบาดของสื่อลามกและการเสพติดอื่นๆ ที่ทำให้ความคิดด้านชา (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน “พระคัมภีร์มอรมอน: ชีวิตท่านจะเป็นอย่างไรหากปราศจากพระคัมภีร์เล่มนี้เลียโฮนา พ.ย. 2017 หน้า 62–63)

ภาพ
เยาวชนชายอ่านหนังสือ
ภาพ
ไอคอน บันทึก

บันทึกสิ่งที่ท่านคิด

การศึกษาและดำเนินชีวิตตามคำสอนที่พบในพระคัมภีร์มอรมอนได้ช่วยให้ท่านเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นอย่างไร? พระคัมภีร์ข้อใดบ้างจากพระคัมภีร์มอรมอนที่ช่วยให้ท่านเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น? บันทึกคำตอบของคำถามเหล่านี้ลงในช่องว่างที่กำหนดไว้ เตรียมมาแบ่งปันสิ่งที่ท่านคิดกับชั้นเรียน