เยาวชนชายพูดคุยกับผู้นำ

แหล่งช่วย

บทบาทของผู้นำวอร์ดและสเตค

ผู้นำวอร์ด

ในฐานะประธานของฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนในวอร์ด อธิการและที่ปรึกษาของเขาดูแลงานของโควรัม พวกเขาดูแลและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เยาวชนชายเป็นรายบุคคล ทำงานอย่างใกล้ชิดกับบิดามารดาและผู้นำคนอื่นๆ (ดู General Handbook: Serving in The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints, 10.3, ChurchofJesusChrist.org)

ฝ่ายอธิการอนุมัติแผนทั้งหมดสำหรับค่ายของวอร์ด ผู้นำโควรัม ผู้ให้คำปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญควรกรอกข้อมูลในแผนกิจกรรมและหารือกับฝ่ายอธิการเกี่ยวกับจุดประสงค์ เป้าหมาย สถานที่ รายละเอียดกิจกรรม และกำหนดการของค่าย

ฝ่ายอธิการอนุมัติงบประมาณและแผนสำหรับความปลอดภัยของค่ายด้วย ซึ่งรวมถึงการเลือกผู้นำผู้ใหญ่ที่เหมาะสมและกำหนดมาตรฐานความประพฤติและการแต่งกายของค่าย ฝ่ายอธิการอาจเชิญผู้ชายจากวอร์ดเช่นกัน รวมถึงบิดาของเยาวชนชายเพื่อช่วยสนับสนุนค่ายโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน

ผู้นำสเตค

ผู้นำฐานะปุโรหิตสเตคอนุมัติแผนทั้งหมดสำหรับค่ายฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนสเตค คณะกรรมการฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนสเตคและคณะกรรมการฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน–เยาวชนหญิงสเตคสามารถช่วยในการวางแผนกิจกรรมเหล่านี้ (ดู General Handbook, 29.3.9)

เยาวชนชายจากสเตคควรมีส่วนร่วมในการวางแผนและการเป็นผู้นำค่ายสเตคมากเท่าที่เป็นได้ ผู้นำฐานะปุโรหิตสเตคอาจเชื้อเชิญผู้ชายจากสเตค รวมถึงบิดาของเยาวชนชายเพื่อช่วยวางแผนและสนับสนุนค่ายฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนสเตค

เยาวชนชายรอบกองไฟ

การประเมินค่าย

การประเมินค่ายเป็นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคต ผู้นำโควรัมและผู้ให้คำปรึกษาโควรัมควรประชุมเมื่อจบค่ายเพื่อประเมินกิจกรรมค่าย การประเมินเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การบรรลุวัตถุประสงค์ค่ายและวิธีปรับปรุงคุณภาพของประสบการณ์ในอนาคต

พิจารณาคำถามเหล่านี้ระหว่างการประเมิน:

• เยาวชนชายรู้สึกถึงพระวิญญาณหรือไม่? ที่ไหน? เมื่อไร?

• กิจกรรมของเราเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่? เหตุใดจึงเป็นไปตามแผนหรือเหตุใดจึงไม่?

• จะทำอะไรให้ดีขึ้นได้บ้าง?

• มีปัญหาใดที่เราต้องแก้ไขหรือไม่?

• เยาวชนชายทำเป้าหมายของพวกเขาสำเร็จหรือไม่? เหตุใดจึงสำเร็จหรือเหตุใดจึงไม่?

• เกิดอะไรขึ้นในชีวิตเยาวชนชายของเราอันเป็นผลสืบเนื่องจากค่ายนี้?

• เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเสริมประสบการณ์ด้านบวกที่เรามีอยู่แล้วต่อไป?

ท่านอาจจะเชิญสมาชิกโควรัมให้ไตร่ตรองประสบการณ์ของพวกเขา กระตุ้นให้พวกเขาแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้กับครอบครัวและเพื่อนๆ ท่านอาจเพิ่มทักษะที่เยาวชนชายเรียนรู้ที่ค่ายต่อไปโดยผ่านกิจกรรมเยาวชน ท่านอาจจะสนทนาหลักคำสอนที่สอนที่ค่ายในการประชุมโควรัมวันอาทิตย์ได้เช่นกัน หากกิจกรรมของท่านประสบผลสำเร็จ ท่านอาจจะแบ่งปันให้คนอื่นๆ

ใช้สิ่งที่ท่านเรียนรู้ผ่านการประเมินเพื่อปรับปรุงค่ายต่อไปของท่าน

เยาวชนชายทำความสะอาดค่าย

การเข้าค่ายพักแรมฐานะปุโรหิตสเตค

มีการวางแผนการเข้าค่ายพักแรมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนสเตคภายใต้การนำของฝ่ายประธานสเตคและดำเนินการโดยฝ่ายประธานเยาวชนชายสเตคหรือคนอื่นที่ได้รับเรียกให้ช่วยเหลือ

การเข้าค่ายพักแรมฐานะปุโรหิตอาจเป็นค่ายกลางวัน ค่ายค้างหนึ่งคืน หรือค่ายที่ครอบคลุมเวลาหลายวันและอาจมีการตั้งชื่อค่ายที่เกี่ยวข้องกับพระคัมภีร์ เช่นค่ายฮีลามัน ค่ายไซอัน เป็นต้น

พึงแน่ใจว่าเยาวชนชายนำ วางแผน และกำกับดูแลการเข้าค่ายพักแรมฐานะปุโรหิต หลังจากประสานงานกับสาวกเจ็ดสิบภาคในพื้นที่ของพวกเขาแล้ว หลายๆ สเตคอาจมารวมกันเข้าค่ายพักแรม ให้รวมกิจกรรมให้สมดุลกันทั้งทางวิญญาณ สังคม ร่างกาย และสติปัญญา และการรับใช้ในการเข้าค่ายพักแรมเหล่านี้

ตัวอย่างเช่น:

• กิจกรรมทางวิญญาณอาจได้แก่ การศึกษาพระคัมภีร์ การเรียนรู้จาก สั่งสอนกิตติคุณของเรา การท่องจำข้อพระคัมภีร์ การสนทนากลุ่มเล็ก การประชุมเพิ่มประจักษ์พยาน การประชุมแสดงประจักษ์พยาน หรือโอกาสให้เยาวชนชายสอน

• กิจกรรมทางสติปัญญาอาจได้แก่ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เทคนิคการเอาตัวรอด พฤกษศาสตร์ การผูกเงื่อน หรือทักษะอื่นๆ

• กิจกรรมทางร่างกายอาจได้แก่ การว่ายน้ำ กีฬา ปีนเขา ยิงธนู หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เยาวชนชายอาจสนใจ

• กิจกรรมทางสังคมอาจได้แก่ การเรียนรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ต การอบรมผู้นำ การทำดีต่อผู้อื่น หรือทักษะการสื่อสาร

• กิจกรรมรับใช้อาจได้แก่ การตกแต่งสถานที่ตั้งค่ายหรืออาคาร การประกอบชุดช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม หรือการเรียนรู้ทักษะต่างๆ เพื่อใช้ในการรับใช้ผู้อื่น

แต่ละวอร์ดอาจได้รับมอบหมายให้วางแผนและดูแลกิจกรรมจำนวนหนึ่ง เลือกที่ตั้งค่ายหรือสิ่งอำนวยสะดวกที่จะเอื้อต่อประเภทของกิจกรรมที่ท่านได้วางแผน กิจกรรมสนทนากลุ่มเล็กสามารถเปิดโอกาสให้อธิการปฏิสัมพันธ์กับเยาวชนชายจากวอร์ดของตนได้

ระบุเป้าหมายสำหรับการเข้าค่ายพักแรม

เมื่อท่านหารือกับผู้นำคนอื่นๆ และเลือกเป้าหมายให้การเข้าค่ายพักแรม จงถามตัวท่านร่วมกับการสวดอ้อนวอนว่า “พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้เกิดอะไรขึ้นในชีวิตเยาวชนชายอันเนื่องจากการเข้าค่ายพักแรมนี้?” คำตอบควรกลายเป็นเป้าหมายของท่านและแนวทางสำหรับการตัดสินใจอื่นๆ

การเข้าค่ายพักแรมฐานะปุโรหิตมีไว้เพื่อช่วยเยาวชนชายสร้างประจักษ์พยานที่เข้มแข็งเกี่ยวกับพระเจ้าพระเยซูคริสต์และขยายหน้าที่ฐานะปุโรหิตของพวกเขา ท่านควรให้เยาวชนมีโอกาสที่สมดุลเพื่อรับใช้ผู้อื่นและพัฒนาตนเองทางวิญญาณ สังคม ร่างกาย และสติปัญญา (ดู ลูกา 2:52; General Handbook, 10.2.1.3; 20.2.6)

มองหาวิธีให้เยาวชนชายทุกคนมีส่วนในความรับผิดชอบและงานมอบหมายของค่ายพักแรม (ดู General Handbook, 4.2.6)

หาโอกาสที่มีความหมายซึ่งจะสร้างความเป็นพี่น้องและความเป็นหนึ่งเดียว เยาวชนชายแต่ละคนควรรู้สึกว่าเป็นที่ต้องการและมีประโยชน์

จุดประสงค์ของการเข้าค่ายพักแรมของท่านอาจได้รับการดลใจจาก:

• สาระสำคัญโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน

• หน้าที่และความรับผิดชอบของฐานะปุโรหิต

• สาระสำคัญเยาวชนประจำปี

• พระคัมภีร์ข้อหนึ่ง

• ข้อความจากศาสดาพยากรณ์หรืออัครสาวก

• หนังสือ เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน

• โปรแกรมเด็กและเยาวชน

กิจกรรมเตรียมความพร้อม

กิจกรรมสำหรับค่ายอาจเริ่มก่อนท่านออกเดินทางไปค่าย ท่านอาจวางแผนกิจกรรมที่จะเสริมความพร้อม เพิ่มการเรียนรู้ และสร้างความคาดหวังสำหรับค่าย

ท่านอาจ:

• จัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมสำหรับเยาวชนชายและครอบครัวของพวกเขาซึ่งผู้นำโควรัมจะแบ่งปันสาระสำคัญและรายละเอียดของค่าย

• มีกิจกรรมเพื่อวางแผนและจัดระเบียบค่ายของท่าน

• คิดเมนูอาหารค่ายภายในงบประมาณรวมถึงวิธีปรุงอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ

• เรียนรู้วิธีรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการของเสีย การดูแลรักษาแหล่งน้ำ และการอนุรักษ์พื้นที่ธรรมชาติ เมื่อเดินทางกลับ ให้บริเวณค่ายสะอาดกว่าเมื่อท่านมาถึง

• ฝึกใช้อุปกรณ์ค่ายและทำอาหารกลางแจ้ง

• เรียนรู้ทักษะการเอาตัวรอดในที่ทุรกันดาร

• ทำแผนออกกำลังกายที่จะช่วยท่านเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับค่าย นี่อาจรวมถึงกิจกรรมเช่น การเดินป่า ปั่นจักรยาน หรือกิจกรรมเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายอื่นๆ

เยาวชนชายกำลังปิดแผลให้เยาวชนชายอีกคน

การเตรียมพร้อมความปลอดภัยและสถานการณ์ฉุกเฉิน

“และเมื่อเราได้รับพรประการใดจากพระผู้เป็นเจ้า, ย่อมเป็นไปเนื่องจากการเชื่อฟังกฎนั้นซึ่งในนั้นทรงกำหนดพรไว้” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 130:21)

ความรับผิดชอบสำคัญที่สุดประการหนึ่งของท่านที่ค่ายคือคุ้มครองเยาวชนชายให้ปลอดภัยทางวิญญาณ ศีลธรรม อารมณ์ และร่างกาย ความประพฤติและการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดควรสอดคล้องกับมาตรฐานศาสนจักร (ดู เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน และจดหมายเรื่องความปลอดภัยประจำปีจากฝ่ายประธานสูงสุด) และเป็นตัวอย่างของความประพฤติเหมือนพระคริสต์

นอกจากนี้ ผู้นำอาจกำหนดมาตรฐานและแนวทางเฉพาะค่ายนั้นเพื่อความปลอดภัยและสร้างสภาพแวดล้อมที่จำเป็นต่อการทำให้บรรลุเป้าหมายของค่าย เยาวชนควรเข้าใจว่าการเข้าร่วมกิจกรรมไม่ใช่สิทธิ์แต่เป็นสิทธิพิเศษที่ถูกเพิกถอนได้หากพวกเขามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือหากพวกเขาเป็นเหตุให้ตนเองหรือผู้อื่นเกิดอันตราย ผู้นำและผู้ให้คำปรึกษาควรสื่อสารความคาดหวังเหล่านี้กับบิดามารดาและผู้เข้าร่วม และควรหารือกันเกี่ยวกับวิธีแก้ไขข้อกังวลที่อาจเกิดขึ้น

ต้องมีผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่จำนวนมากพอสำหรับแต่ละค่าย อย่างน้อยควรมีผู้ใหญ่สองคนอยู่ที่กิจกรรมแต่ละอย่าง กิจกรรมที่ใหญ่ขึ้นอาจต้องมีผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่เพิ่มขึ้น ผู้นำทุกคนควรหลีกเลี่ยงการอยู่สองต่อสองกับเยาวชนเว้นแต่อยู่ในระยะที่ผู้นำซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในบริเวณนั้นมองเห็นได้ชัดเจน

เมื่อวางแผนกิจกรรมค่าย พึงจำไว้ว่าความปลอดภัยของทุกคนจะมีมากขึ้นเมื่อมีผู้นำผู้ใหญ่อย่างน้อยหนึ่งคนมีประสบการณ์กับกิจกรรมจำเพาะนั้น

รายงานต่อผู้นำฐานะปุโรหิตทันทีหากเกิดอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บร้ายแรงเกินกว่าจะปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานได้ ทุกคนที่เข้าค่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่ ต้องเตรียมรับมือกับสัญญาณบ่งบอกว่ามีการกระทำทารุณกรรมและการปล่อยปละละเลย คนที่ทราบเรื่องการกระทำทารุณกรรมทางกาย ทางเพศ หรืออารมณ์ควรรายงานเรื่องนี้ต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายและติดต่ออธิการทันที

เยาวชนชายและผู้นำผู้ใหญ่ควรพร้อมรับข้อเรียกร้องทางกายภาพของค่าย ลดอันตรายให้เหลือน้อยที่สุดโดยปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมายทุกข้อของท้องที่ พึงแน่ใจว่าการเดินทางและการสื่อสารมีความสะดวกตลอดเวลา หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ ให้เชิญพยาบาล แพทย์ หรือผู้มีประสบการณ์ด้านการปฐมพยาบาลมาเข้าค่าย นำอุปกรณ์ปฐมพยาบาลมาด้วย มีที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของบิดามารดาหรือผู้ปกครองของเยาวชนชายแต่ละคน สถานพยาบาลใกล้เคียง และหมายเลขติดต่อฉุกเฉิน เช่น หน่วยบังคับใช้กฎหมาย หน่วยดับเพลิง หรือหน่วยบริการรถพยาบาลท้องที่

ก่อนเข้าค่าย ให้พูดคุยกับผู้บิดามารดาของเยาวชนชายเพื่อให้ทราบความต้องการเฉพาะด้านของเยาวชนชายแต่ละคน—รวมถึงความต้องการด้านอาหาร การรักษาพยาบาล และอารมณ์ด้วย ตรวจสอบความประพฤติของเยาวชนอยู่เสมอและแทรกแซงเมื่อจำเป็น การยั่วเย้า กลั่นแกล้ง ความคึกคะนอง การสนทนาและพฤติกรรมที่ขาดความเคารพ ไร้ศีลธรรม หรือไร้เมตตาอื่นๆ ล้วนเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ เข้าใจและยอมรับความรับผิดชอบในการวางแผนเพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของท่าน ระบุ พูดถึง และเตรียมวิธีลดความเสี่ยงที่ค่าย ทบทวนหมวดจาก General Handbook ที่เขียนไว้ด้านล่าง จดหมายเรื่องความปลอดภัยประจำปีจากฝ่ายประธานสูงสุด คำแนะนำเรื่องการคุ้มครองเยาวชน และ safety.ChurchofJesusChrist.org เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้นำผู้ใหญ่และผู้นำเยาวชนควรวางแผนอย่างระมัดระวังเพื่อว่าทุกค่ายจะสอดคล้องกับนโยบายศาสนจักร ศึกษาคำแนะนำที่ safety.ChurchofJesusChrist.org และทำตามหมวดต่างๆ ใน General Handbook:

• 20.2.8, “Funding for Activities”; 20.2.9, “Funding for Equipment and Supplies”; 20.6.8, “Fund-Raising Activities”

• 20.2.4, “Standards”

• 20.6.9, “Insurance”

• 20.6.12, “Overnight Activities”

• 20.6.13, “Parental Permission”

• 20.6.17, “Renting Non-Church Facilities for Activities”

• 20.6.20, “Safety Precautions and Accident Response and Reporting”

• 20.6.24, “Travel”

เยาวชนชายอ่านพระคัมภีร์

แจ้งและรวมผู้ปกครองไว้ในกลุ่ม

สิ่งที่เยาวชนชายเรียนรู้ที่ค่ายควรทำให้เขาเข้มแข็งขึ้นและเป็นพรแก่ครอบครัวเขา ขณะที่ท่านเตรียมค่าย ท่านอาจเชิญบิดามารดามาแบ่งปันว่าพวกเขามีความต้องการและความหวังทางวิญญาณอะไรบ้างสำหรับบุตรชายของตน สอบถามให้รู้ความคิดเห็นของพวกเขาสำหรับกิจกรรมตลอดจนทักษะที่จะเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวของพวกเขา ผู้ปกครองบางคนอาจมีความเชี่ยวชาญและทักษะบางอย่างที่แบ่งปันได้ แจ้งผู้ปกครองเรื่องวันที่ สถานที่ ค่าใช้จ่าย หัวข้อ และกิจกรรมสำหรับค่าย ชี้แจงผู้ปกครองและเยาวชนชายเรื่องมาตรฐานการแต่งกายและความประพฤติที่ต้องปฏิบัติ (ดู 1 ทิโมธี 4:12)

ก่อนไปค่าย ขอให้บิดามารดาหรือผู้ปกครองของผู้เข้าร่วมแต่ละคนกรอกแบบฟอร์มการอนุญาตจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองและการให้สิทธิ์รักษาพยาบาลสำหรับสำหรับเยาวชนชายและส่งคืน แบบฟอร์มอยู่ที่ safety.ChurchofJesusChrist.org ท่านควรให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับค่ายและกิจกรรมเพื่อบิดามารดาจะอนุญาตให้บุตรชายเข้าร่วมได้ (ดู General Handbook, 20.6.13)

เยาวชนชายทำอาหาร

แนวคิดสำหรับกิจกรรมค่าย

กิจกรรมทางวิญญาณ สังคม กายภาพ และสติปัญญาที่พึงพิจารณาขณะท่านวางแผนค่าย

ทางวิญญาณ:

• การใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือเผยแผ่ศาสนา

• การหยุดใช้โซเชียลมีเดียชั่วคราว

• คำถามพระคัมภีร์มอรมอน

• เกมเกี่ยวกับมาตรฐาน

• การให้ข้อคิดทางวิญญาณเพิ่มประจักษ์พยาน

• การให้ข้อคิดทางวิญญาณตอนเช้า

• การประชุมแสดงประจักษ์พยาน

• การเตรียมสำหรับงานเผยแผ่

• นิสัยประจำวัน

สังคม

• ความสัมพันธ์ในครอบครัว

• การสื่อสารกับคนอื่นๆ

• ความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ต

• โครงการรับใช้

• การทำความดีต่อผู้อื่นและการรับใช้

• การอบรมผู้นำ

ทางกาย

• คิกบอล

• การปีนหน้าผาและการโรยตัว

• การปั่นจักรยานภูเขา

• ไตรกีฬา

• ฐานอุปสรรค

• เกมแข่งจานร่อน

• วอลเลย์บอล

• ฟุตบอล

• กีฬาทางน้ำ

• ว่ายน้ำ

• การพายเรือแคนู

• การพายเรือ

• การล่องแก่ง

• ล่องเรือเล็ก

• การเดินเท้าระยะไกล

• การเดินทางแบบสะพายเป้

• การเดินทางแบบสะพายเป้ 80 กิโลเมตร

• สำรวจบุกเบิก

• ปั่นจักรยานไปเข้าค่าย

• กีฬาฤดูหนาว

• การดำน้ำตื้น

• การตกปลา

• การเดินด้วยรองเท้าลุยหิมะ

• เข้าค่ายฤดูหนาว

ทางสติปัญญา

• ทักษะการเอาตัวรอด

• ทักษะการเอาตัวรอดกลางแจ้ง

• การแข่งหาทาง

• การตัดไม้

• การทำอาหารด้วยหม้ออบดัตช์

• การก่อไฟ

• การผูกเงื่อน

• การป้องกันอันตรายจากไฟ

• การช่วยชีวิต

• เอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน

• อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

• พฤกษศาสตร์

• จีโอแคชชิ่ง (เกมล่าสมบัติด้วย GPS)

• ล่องเรือบนผืนน้ำ

• ถ่ายรูปกลางแจ้ง

• งานเครื่องหนัง

• การแกะสลักไม้

• การทำอาหารกลางแจ้ง

• เอาตัวรอดในที่ทุรกันดาร

• ยิงเป้า

• ปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ท่านสามารถหาแนวคิดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ ChurchofJesusChrist.org/youth/activities แนวคิดที่เน้นในหมวดนี้มีบัตรกิจกรรมอยู่ในเว็บไซต์กิจกรรมเยาวชน