2020
จุดประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับความสนิทสนมทางเพศ
สิงหาคม 2020


จุดประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับความสนิทสนมทางเพศ

การเข้าใจของประทานเกี่ยวกับเรื่องเพศที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ภายในแผนแห่งความสุขช่วยให้เราเข้าใจความสำคัญของกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ

ภาพ
bride and groom in front of the temple

ภาพถ่ายคู่สามีภรรยาที่พระวิหารบาวติฟูล ยูทาห์ โดย จาเน บิงแฮม

จุดประสงค์ของเราในความเป็นมรรตัยคือการเป็นเหมือนพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ ความเข้าใจของเราในความศักดิ์สิทธิ์และการใช้ความสนิทสนมทางเพศมีความสำคัญยิ่งต่อขั้นตอนของการเป็นเหมือนพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์

กฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศเป็นกฎนิรันดร์ ที่พระบิดาบนสวรรค์ของเราประทานแก่บุตรธิดาทุกคนของพระองค์ในทุกยุค กฎนี้คงมีผลบังคับใช้และใช้ได้กับยุคปัจจุบันเช่นเดียวกับที่เคยใช้มาในประวัติศาสตร์ยุคแรกๆ เช่นเดียวกับพระบัญญัติข้ออื่นๆ พระบิดาบนสวรรค์ประทานกฎนี้เพื่อเป็นพรและช่วยให้บุตรธิดาของพระองค์บรรลุศักยภาพแห่งสวรรค์ของพวกเขา การเชื่อฟังกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศครอบคลุมถึงการละเว้นความสัมพันธ์ทางเพศโดยเด็ดขาดก่อนการแต่งงานและรักษาความซื่อสัตย์ภักดีอย่างสมบูรณ์หลังการแต่งงาน ความสัมพันธ์ทางเพศจำกัดไว้สำหรับการแต่งงานระหว่างชายหญิงเท่านั้น1

พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีพระประสงค์ให้ใช้ความสัมพันธ์ทางเพศในการแต่งงานเพื่อให้กำเนิดบุตรธิดาและเพื่อแสดงความรักและเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ความผูกพันด้านอารมณ์ วิญญาณ และร่างกายระหว่างสามีกับภรรยา ในชีวิตแต่งงาน ความสนิทสนมทางเพศควรทำให้ภรรยาและสามีเป็นหนึ่งเดียวกันในความวางใจ การอุทิศตน และการถนอมน้ำใจกัน2 ความสัมพันธ์ทางเพศในการแต่งงานต้องให้ความเคารพในสิทธิ์เสรีของทั้งสองฝ่ายและไม่ควรใช้ควบคุมหรือครอบงำอีกฝ่าย

แม้เราอาจสงสัยว่า “ทำไมฉันควรเชื่อฟังกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ? เหตุใดพระผู้เป็นเจ้าจึงใส่พระทัยพฤติกรรมมรรตัยของฉัน?” เพื่อตอบคำถามเหล่านี้ พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยหลักธรรมซึ่งหากเราเข้าใจอย่างถูกต้องจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้เรารักษากฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศและเลือกแสดงออกเกี่ยวกับเรื่องทางเพศของเราภายในขอบเขตที่พระองค์ทรงกำหนด3 เช่นเดียวกับพระบัญญัติทั้งหมดของพระผู้เป็นเจ้า เราจะเข้าใจกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศได้ดีที่สุดในบริบทของแผนแห่งความรอดและความสูงส่งของพระบิดาบนสวรรค์ (ดู แอลมา 12:32) การเชื่อฟังกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศจะนำพรพิเศษสุดมาให้

ภาพ
couple with child in front of the temple

ภาพถ่ายครอบครัวที่พระวิหารโคนา ฮาวาย โดย เดนิส เรนี เบิร์ด

คำสัญญาอันล้ำเลิศ

มนุษย์ทุกคนคือปิยบุตรหรือปิยธิดาทางวิญญาณของพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ ผู้มีลักษณะแห่งสวรรค์และมีจุดหมายปลายทางนิรันดร์ เหตุผลที่เรามีร่างกายคือเพื่อสร้างเสริมต่อไปบนลักษณะแห่งสวรรค์นั้นเพื่อที่เราจะสามารถตระหนักได้ในที่สุดถึงจุดหมายปลายทางนิรันดร์ของเรา4 พระบิดาบนสวรรค์ทรงประสงค์ให้เราได้รับประสบการณ์บนแผ่นดินโลก ก้าวหน้าไปสู่ความดีพร้อม และในที่สุดได้ยินดีกับความสุขอันสมบูรณ์ที่พระองค์ทรงยินดี พระองค์ทรงทราบว่าเพื่อเราจะได้รับปีติอันยั่งยืนนี้ เราต้องก้าวหน้าไปตามเส้นทางที่พระองค์ทรงสถาปนาไว้ โดยการเชื่อฟังพระบัญญัติที่พระองค์ประทานให้

การเข้าใจว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวจะมีต่อเนื่องไปตลอดนิรันดรหลังจากชีวิตนี้จึงสำคัญอย่างยิ่ง หลังความเป็นมรรตัย ผู้ซื่อสัตย์ได้รับสัญญาว่า “พวกเขาจะผ่านเหล่าเทพ … ไปสู่ความสูงส่งและรัศมีภาพ … ซึ่งรัศมีภาพนี้จะเป็นความสมบูรณ์และความต่อเนื่องของพงศ์พันธุ์ทั้งหลายตลอดกาลและตลอดไป.

“เมื่อนั้นพวกเขาจะเป็นผู้เป็นเจ้า, เพราะพวกเขาไม่มีที่สิ้นสุด” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 132:19–20)

หลักคำสอนเรื่องครอบครัวนิรันดร์ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวท่ามกลางประเพณีของชาวคริสต์ เราไม่ได้ถูกสร้างมาเพียงเพื่อจะสรรเสริญ บูชา และรับใช้พระผู้เป็นเจ้าที่ไม่อาจเข้าใจได้5 พระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักเราทรงสร้างเราเพื่อเติบโตขึ้นเป็นเหมือนทั้งสองพระองค์6 วิญญาณของชายและหญิงได้รับการสร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมกัน นั่นคือเหตุผลที่เพศไม่ใช่สิ่งที่แปรเปลี่ยนได้ในนิรันดร—เพราะเพศให้พื้นฐานเบื้องต้นแก่ของประทานสูงสุดที่พระบิดาบนสวรรค์ประทานให้ได้ คือพระลักษณะแห่งพระชนม์ชีพของพระองค์7

เพื่อให้เราตระหนักถึงพรนี้ พระบิดาบนสวรรค์ทรงบัญชาว่าความสนิทสนมทางเพศต้องสงวนไว้สำหรับการแต่งงานระหว่างชายกับหญิงเท่านั้น8 พระผู้เป็นเจ้าตั้งพระทัยให้การแต่งงานเป็น “วิธีรวมชายหญิงเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์—ทั้งจิตใจ ความหวัง ชีวิต ความรัก ครอบครัว อนาคต และทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขา … เพื่อเป็น ‘เนื้อเดียวกัน’ ในชีวิตที่อยู่ร่วมกัน”9 เราไม่สามารถบรรลุถึงลักษณะของชีวิตที่พระบิดาบนสวรรค์ของเราทรงมีได้ด้วยตัวเราเองหรือโดยปราศจากคำมั่นสัญญาอันสมบูรณ์แบบต่อความซื่อสัตย์ภักดีในการแต่งงานกับสามีหรือภรรยาของเราตามแผนของพระผู้เป็นเจ้า

พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เราเลือกได้ว่าเราจะดำเนินชีวิตอย่างไร พระองค์จะไม่ทรงบังคับให้เราไปตามเส้นทางที่พระองค์ทรงสถาปนาแม้จะทรงทราบว่าเส้นทางนั้นจะนำเราไปสู่ความสุขอันล้ำเลิศ พระบัญญัติและพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าก่อให้เกิดเส้นทางที่ทำให้เราสามารถเป็นทายาทในอาณาจักรของพระองค์โดยสมบูรณ์ โดยเป็นทายาทร่วมกับพระเยซูคริสต์ (ดู โรม 8:17) โดยผ่านการเลือกที่ชอบธรรม เราพัฒนาลักษณะแห่งสวรรค์ที่อยู่ในตัวเรา ความสัมพันธ์ทางเพศเป็น “การแสดงออกที่ลึกซึ้งอย่างหนึ่งของธรรมชาติอันสูงส่งของเรา”10 การแสดงออกอย่างถูกต้องของเราเกี่ยวกับเรื่องเพศทำให้เป็นไปได้สำหรับการเผยแผนของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลกและในนิรันดร11 ทำให้เรามีค่าสมกับการเป็นเหมือนพระบิดาบนสวรรค์12 พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาชีวิตนิรันดร์สำหรับผู้ซื่อสัตย์ซึ่งรวมถึง การแต่งงานนิรันดร์ บุตรธิดา ตลอดจนพรอื่นๆ ทุกประการของครอบครัวนิรันดร์13

ปรัชญาที่ทำให้สับสนและการหลอกลวงของซาตาน

การให้เหตุผลข้างๆ คูๆ และการหลอกลวงของซาตานก่อให้เกิดปรัชญาเบี่ยงเบนที่อ้างว่าให้ยกเลิกความจำเป็นต้องเชื่อฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ เสียงคัดค้านของซาตานดัง และปรัชญาของเขามักจะชวนหลงใหล ในพระคัมภีร์มอรมอน มีบางคนยึดมั่นในปรัชญาเหล่านี้เพื่อหลอกผู้อื่นและหาประโยชน์จากการหลอกลวง ตัวอย่างเช่น นีฮอร์สอนชาวนีไฟ “ว่ามนุษยชาติทั้งปวงจะได้รับการช่วยให้รอดในวันสุดท้าย, และว่าคนทั้งหลายไม่ต้องเกรงกลัวหรือตัวสั่น, แต่ว่าพวกเขาเงยหน้าและชื่นชมยินดีได้; เพราะพระเจ้า … ทรงไถ่คนทั้งปวงด้วย; และในที่สุดมนุษย์ทั้งปวงจะมีชีวิตนิรันดร์” (แอลมา 1:4)

ถ้าเรารับปรัชญาของนีฮอร์ เราจะไม่มีแรงจูงใจในการหักห้ามความปรารถนาทางเพศของเราเพราะไม่มีผลนิรันดร์ใดๆ และถ้าเราละเมิดกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศเล่า? ไม่ต้องกังวลเนื่องจากผู้ติดตามนีฮอร์ “ไม่เชื่อในการกลับใจจากบาปของตน” (แอลมา 15:15) ปรัชญาล่อใจแบบนี้สามารถเป็นสิ่งยวนใจ และหลายคนพบว่าเป็นสิ่งดึงดูดใจ เราสามารถทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการโดยไม่มีผลนิรันดร์ใดๆ

ผู้สอนเท็จคนอื่นๆ ในพระคัมภีร์มอรมอนสั่งสอนว่าการเชื่อในพระเยซูคริสต์ การชดใช้ของพระองค์ และการรักษาพระบัญญัติของพระองค์เป็นการ “เทียมแอกไว้กับตัว” กับ “เรื่องโง่เขลา” และเกิดจาก “ประเพณี [อันไร้สาระ] ของบรรพบุรุษท่าน” (แอลมา 30:13, 14) โดยแท้แล้ว พวกเขาประกาศด้วยว่า การมองไปข้างหน้าที่ “การปลดบาปของท่าน” เป็นเพียงปัญหาทางจิตใจและอารมณ์ “ผลของจิตใจที่ไร้สติ” (แอลมา 30:16) คำสอนเหล่านี้หนีไม่พ้นข้อสรุปที่ว่า ชายหญิงทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิตนี้ “ตามอัจฉริยะภาพ [ของพวกเขา]” และ “ตามกำลัง” และว่าไม่ว่าชายหรือหญิงจะทำสิ่งใดการกระทำนั้น “ไม่เป็นความผิด” (แอลมา 30:17) คำสอนเท็จเหล่านี้ส่งเสริมการไม่เชื่อฟังกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศด้วยเหตุที่แนวคิดเรื่องถูกและผิดล้าสมัยแล้ว

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ปรัชญาเหล่านี้ยังคงเป็นที่นิยม! ไม่มีภาระรับผิดชอบสำหรับการเลือกใดๆ ที่ฟังดูเหมือนจะให้อิสรภาพอย่างแท้จริง ถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ทางโลกส่วนใหญ่โดยการระมัดระวังและรอบคอบ จะมีอันตรายอะไร? จากมุมมองนี้ ดูเหมือนว่ากฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศจะล้าสมัย เคร่งเกิน หรือไม่จำเป็น

ภาพ
smiling family

ภาพถ่ายโดย เมย์ โบ ฮับบาร์ด

กฎนิรันดร์

กฎของพระผู้เป็นเจ้าไม่อาจเจรจาต่อรอง พระองค์ทรงอนุญาตให้เราไม่สนใจกฎเหล่านั้นได้ แต่เราก็ไม่ได้มีอิสระที่จะสร้างกฎของเราเองเพื่อนิรันดรมากไปกว่าบุคคลหนึ่งมีอิสระที่จะสร้างกฎของตนเองในวิทยาศาสตร์แขนงฟิสิกส์ พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้เราเป็นทายาทผู้มีคุณสมบัติพร้อมในอาณาจักรของพระองค์ การคาดหวังมรดกบนสวรรค์ของพระองค์โดยทำตามเส้นทางต่างไปจากที่พระองค์ทรงกำหนดไว้เป็นความไร้เดียงสา

ก่อนการเรียกให้รับใช้ศาสนจักรเต็มเวลา ข้าพเจ้า (เอ็ลเดอร์เรนลันด์) ดูแลคนไข้ที่มีอาการหัวใจล้มเหลวอย่างรุนแรง ในเรื่องของหัวใจล้มเหลวและเวชศาสตร์ปลูกถ่ายหัวใจ มีแนวทางที่กำหนดไว้ชัดเจนให้ทำตามเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: คือชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพดีขึ้น การรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ที่น่าประหลาดใจคือมีผู้ป่วยบางคนต่อรองแนวทางการรักษา ผู้ป่วยบางคนพูดว่า “คงจะดีกว่าถ้าฉันไม่ต้องกินยาเป็นประจำ” หรือ “ฉันไม่ต้องการให้มีการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจหลังการปลูกถ่าย” แน่นอน ผู้ป่วยมีอิสระที่จะทำตามแนวทางของตนเอง แต่พวกเขาไม่อาจทำตามแนวทางที่ด้อยกว่าแล้วคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สิ่งนี้เป็นจริงสำหรับเราด้วย เรามีอิสระที่จะเลือกแนวทางชีวิตของเราเอง แต่เราไม่มีอิสระที่จะเลือกผลลัพธ์ซึ่งเกิดจากการทำตามกฎของเราเอง ไม่ว่าจะมีคนพูดกี่ครั้งว่าเราทำได้เราไม่อาจโทษพระบิดาบนสวรรค์เมื่อเราไม่ได้รับพรที่เชื่อมโยงกับกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศเนื่องจากการไม่เชื่อฟัง

ในสมัยการประทานนี้ พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนว่ากฎนิรันดร์ไม่อาจผ่อนผันหรือนำมาเปิดอภิปรายได้ พระองค์ตรัสว่า “และอนึ่ง, ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, ว่าสิ่งซึ่งปกครองโดยกฎก็ได้รับการปกปักรักษาโดยกฎด้วยและทำให้ดีพร้อมและชำระให้บริสุทธิ์โดยกฎเดียวกันนั้น.

“สิ่งซึ่งฝ่าฝืนกฎ, และหาปฏิบัติตามกฎไม่, แต่หมายมั่นจะเป็นกฎสำหรับตนเอง, … จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยกฎไม่ได้, ทั้งโดยความเมตตาก็ไม่ได้, ทั้งโดยความยุติธรรม, หรือการพิพากษาก็ไม่ได้” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:34–35; เน้นตัวเอน) เราไม่อาจทดแทนกฎนิรันดร์ด้วยกฎของเราเองไม่มากไม่น้อยไปกว่าชายที่จับถ่านหินร้อนแล้วคิดว่าจะไม่ถูกเผาไหม้ได้

ถ้าเราไม่เชื่อฟัง เราจะได้รับเพียง “สิ่งซึ่งพวก [เรา] เต็มใจจะรับ, เพราะ [พวกเรา] ไม่ได้เต็มใจจะยินดีกับสิ่งซึ่ง [พวกเรา] มีโอกาสได้รับ” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:32) การเชื่อฟังกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศเป็นวิธีเดียวที่เราจะแสดงว่าเราเต็มใจทำทุกสิ่งที่ต้องทำเพื่อรับพรสุดพิเศษทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวนิรันดร์

ภาพ
smiling couple

ภาพถ่ายโดย เดนิส เรนี เบิร์ด

ในที่สุด กฎของพระผู้เป็นเจ้ายุติธรรมเสมอ

ใช่ว่าบุตรธิดาทุกคนของพระบิดาบนสวรรค์จะมีโอกาสในชีวิตนี้ที่จะมีประสบการณ์กับความสนิทสนมทางเพศในความสัมพันธ์ของการแต่งงานตามกฎของพระผู้เป็นเจ้า บางคนจะไม่มีโอกาสแต่งงานเลย บางคนเชื่อว่าด้วยสภาวการณ์เฉพาะตัวของพวกเขาทำให้การดำเนินชีวิตตามกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศเป็นเรื่องท้าทายและไม่ยุติธรรมมากจนพวกเขาเลือกที่จะไม่สนใจกฎนี้ก็ได้

อย่างไรก็ตาม เราต้องตัดสินความยุติธรรมจากมุมมองนิรันดร์ จากมุมมองที่เป็นของพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์14 พระผู้ช่วยให้รอดทรงแนะนำให้ผู้คนของพระองค์ยับยั้งการพิพากษาว่าสิ่งใดยุติธรรมหรือไม่จนกว่าจะถึงวันที่พระองค์ทรงประกอบราชกิจ (ดู มาลาคี 3:17–18) “กิจ” ที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงอ้างถึงคือผู้ที่แม้ได้รับความอยุติธรรมหรืออุปสรรคอื่นๆ ยังคงรักษาพระบัญญัติของพระองค์

เมื่อสภาวการณ์ของเราทำให้รู้สึกไม่ยุติธรรม จะดีที่สุดเมื่อทำตามคำแนะนำของกษัตริย์เบนจามิน ท่านกล่าวว่า “ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านพิจารณาถึงสภาพอันเป็นพรและเป็นสุขของคนที่รักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า. เพราะดูเถิด, พวกเขาได้รับ พรในทุกสิ่ง,ทั้งฝ่ายโลกและฝ่ายวิญญาณ; และหากพวกเขายืนหยัดอย่างซื่อสัตย์จนกว่าชีวิตจะหาไม่แล้วพวกเขาจะได้รับเข้าสู่สวรรค์, เพื่อโดยการนั้น พวกเขาจะพำนักอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าในสภาพแห่งความสุขอันไม่รู้จบ” (โมไซยาห์ 2:41; เน้นตัวเอน)

ในที่สุด ไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับความอยุติธรรมอันไร้ขอบเขตที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงทนรับ กระนั้น หากเราซื่อสัตย์ พระองค์จะทรงชดเชยความอยุติธรรมทุกอย่างที่เราประสบแก่เรา และเราจะบรรลุถึงสภาพแห่งความสุขอันไม่รู้จบ

ขณะเราเลือกรักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า รวมถึงกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ เราจะประสบกับปีติและ “สันติสุขในโลกนี้ และชีวิตนิรันดร์ในโลกที่จะมาถึง” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 59:23)15 เพราะเราจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนิรันดร์ พร้อมบรรพชนและลูกหลานของเรา16 ขณะที่สามีภรรยาผนึกกันชั่วนิรันดร์โดยสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิต พวกเขาจะได้รับความสูงส่งและมีความสมบูรณ์ของรัศมีภาพและลูกหลานนิรันดร์17

ภาพ
bride and groom

ภาพถ่ายโดย เจมี เดล จอห์นสัน

การล่อลวงและการกลับใจ

พระผู้เป็นเจ้าทรงคาดไว้ล่วงหน้าว่าเราจะถูกล่อลวงขณะพยายามดำเนินชีวิตตามกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ นั่นคือเหตุผลที่พระองค์ประทานพระบุตรของพระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา โดยพระเยซูคริสต์และการชดใช้ของพระองค์ เราจะได้รับการเสริมสร้างให้เข้มแข็งขึ้นเพื่อต่อต้านการล่อลวง บุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าที่ประสบกับการล่อลวงไม่ว่าประเภทใดสามารถหันไปขอความช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยให้รอดได้18 พระเยซูคริสต์เข้าพระทัยสิ่งที่เราต้องเผชิญเพราะพระองค์ “ทรงเคยถูกทดลองใจเหมือนเราทุกอย่าง” และเราได้รับการสนับสนุนให้ “มีใจกล้าเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณ เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะได้รับพระคุณที่จะช่วยเราในขณะที่เราต้องการ” (ฮีบรู 4:15, 16)

เมื่อเราสะดุด เราต้องจำไว้ว่าเราสามารถสะอาดได้อีกผ่านศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการกลับใจที่จริงใจ19 การกลับใจทำให้เกิดปีติเพราะ “ถึงบาปของ [เรา] เป็นเหมือนสีแดงเข้มก็จะขาวอย่างหิมะ” (อิสยาห์ 1:18) พระผู้ช่วยให้รอดจะไม่เพียงประทานอภัย พระองค์จะทรงลืมบาปของเราด้วย20 เราจะทูลขอสิ่งใดเพิ่มอีก: ความช่วยเหลือเมื่อถูกล่อลวง การให้อภัยเมื่อเรากลับใจ การกลับใจไม่ควรเป็นสิ่งที่น่ากลัวแม้ซาตานจะพยายามอย่างหนักที่จะ “บังเราไม่ให้มองไปที่พระเยซูคริสต์ ผู้ทรงยืนกางพระพาหุ ทรงหวังและเต็มพระทัยเยียวยา ให้อภัย ชำระล้าง เสริมสร้างความเข้มแข็ง ทำให้บริสุทธิ์ และชำระเราให้บริสุทธิ์”21

ประจักษ์พยาน

กฎของพระผู้เป็นเจ้าออกแบบไว้เพื่อความสุขสูงสุดของเรา พระองค์ทรงต้องการให้เราใช้ร่างกายและเรื่องทางเพศของเราในวิธีที่พระองค์ทรงสถาปนาไว้เพื่อที่เราจะสามารถเป็นเหมือนพระองค์ได้ เราได้รับพรในการแต่งงานของเราโดยต่างวางใจกันเมื่อดำเนินชีวิตตามกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ ความมั่นใจในกันและกันและในพระบิดาบนสวรรค์ของเราเติบโตเมื่อเรารักษาพระบัญญัติข้อนี้ แผนของพระผู้เป็นเจ้าคือเส้นทางเดียวที่ทำให้ระดับของปีติเต็มเปี่ยมได้ เราสัญญาว่าท่านสามารถรู้ได้เช่นกันว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงรักท่านและท่านจะได้รับพรนิรันดร์เมื่อท่านดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติของพระองค์

อ้างอิง

  1. ดู เจคอบ 2:27–30; สั่งสอนกิตติคุณของเรา: แนวทางการรับใช้งานเผยแผ่ศาสนา (2004), “บทที่ 4: พระบัญญัติ” 80

  2. ดู General Handbook: Serving in The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints (2020), 2.1.2, ChurchofJesusChrist.org; เดวิด เอ. เบดนาร์, “เราเชื่อในการเป็นคนบริสุทธิ์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2013, 41–44; รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “บำรุงเลี้ยงชีวิตแต่งงาน, เลียโฮนา, พ.ค. 2006, 36–38; ริชาร์ด จี. สกอตต์, “Making the Right Choices,” Ensign, Nov. 1994, 37–39.

  3. ดู Boyd K. Packer, “Little Children,” Ensign, Nov. 1986, 16–18.

  4. ดู “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 145. ความหมายของเพศตามเจตนารมณ์ในถ้อยแถลงคือเพศที่แท้จริงแต่กำเนิด

  5. ดู Thomas Watson, “Man’s Chief End Is to Glorify God,” in A Body of Practical Divinity (1833), 8; Roger E. Olson, The Story of Christian Theology (1999), 506; The Catechism of Christian Doctrine: Prepared and Enjoined by Order of the Third Plenary Council of Baltimore (1885); all as quoted in Terryl L. Givens, Feeding the Flock: The Foundations of Mormon Thought: Church and Praxis (2017), 1.

  6. ดู Dallin H. Oaks, “Apostasy and Restoration,” Ensign, May 1995, 84–87.

  7. ดู “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก.” ตลอดนิรันดร เราจะไม่ใช่คนไม่มีเพศ ตามที่นักเทววิทยาบางคนแนะนำ ดู Terryl L. Givens, Feeding the Flock: The Foundations of Mormon Thought: Church and Praxis (2017), 188–90.

  8. หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:22-24; ดู “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” ด้วย

  9. Jeffrey R. Holland, “Personal Purity,” Ensign, Nov. 1998, 76.

  10. เดวิด เอ. เบดนาร์, “เราเชื่อในการเป็นคนบริสุทธิ์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2013, 42.

  11. นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “บุตรธิดา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 28–30.

  12. ดู Dallin H. Oaks, “Apostasy and Restoration,” Ensign, May 1995, 84–87.

  13. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 131:1–4; 132:19–20, 24.

  14. ดู ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน, “เหตุผลของชีวิตแต่งงาน เหตุผลที่มีครอบครัว,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 50–53.

  15. ดู โมไซยาห์ 2:41; General Handbook, 2.1.2. ด้วย

  16. ดู มาลาคี 4:1.

  17. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 132:19.

  18. ดู แอลมา 13:28.

  19. ดู อิสยาห์ 1:18; หลักคำสอนและพันธสัญญา 58:42.

  20. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 58:42

  21. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “เราสามารถทำได้ดีขึ้นและเป็นคนดีขึ้น,” เลียโฮนา, พ.ค. 2019, 67.