พระคริสต์ทรงสถาปนาศีลระลึกท่ามกลางชาวนีไฟ โดย แอนดรูว์ บอสลีย์

เหตุใดจึงศึกษาพระคัมภีร์?

เมื่อเราพากเพียรศึกษาพระคัมภีร์ เราเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นและเข้าใจพระกิตติคุณและการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระองค์ดีขึ้น ศาสดาพยากรณ์นีไฟกระตุ้นเราด้วยวิธีนี้:

“ดังนั้น, ท่านต้องมุ่งหน้าด้วยความแน่วแน่ในพระคริสต์, โดยมีความเจิดจ้าอันบริบูรณ์แห่งความหวัง, และความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าและต่อมนุษย์ทั้งปวง. ดังนั้น, หากท่านจะมุ่งหน้า, ดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์, และอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่แล้ว, ดูเถิด, พระบิดาตรัสดังนี้: เจ้าจะมีชีวิตนิรันดร์” (2 นีไฟ 31:20)

ครอบครัวกำลังอ่านพระคัมภีร์

คำสอนจากพระคัมภีร์จะช่วยให้เรากลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ ศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้ายของเราขอให้เราศึกษาพระคัมภีร์เป็นประจำทั้งเป็นรายบุคคลและศึกษาเป็นครอบครัวด้วยหากทำได้ พวกท่านเชิญให้เราเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้คนในพระคัมภีร์และประยุกต์ใช้เรื่องราวและคำสอนในพระคัมภีร์กับชีวิตในยุคนี้ของเรา ดังที่นีไฟแนะนำไว้ใน 1 นีไฟ 19:23 ศาสดาพยากรณ์ทั้งในยุคโบราณและยุคปัจจุบันเชิญให้เราศึกษาพระคัมภีร์และ “ดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์” (2 นีไฟ 32:3)

ชายคนหนึ่งอ่านพระคัมภีร์

นอกจากนี้ ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันยังสอนความจริงที่สำคัญนี้เกี่ยวกับ “การดื่มด่ำ” ในพระคัมภีร์:

“ดื่มด่ำมีความหมายมากกว่าชิม ดื่มด่ำหมายถึงลิ้มรสด้วยความอร่อย เราลิ้มรสพระคัมภีร์ด้วยความอร่อยโดยศึกษาพระคัมภีร์ด้วยเจตนาจะค้นพบอย่างเบิกบานใจและเชื่อฟังอย่างซื่อสัตย์ เมื่อเราดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์ พระวจนะย่อมถูกฝังลง ‘ในแผ่นดวงใจมนุษย์’ [2 โครินธ์ 3:3] พระวจนะกลายเป็นส่วนสำคัญของธรรมชาติวิสัยของเรา” (“ให้พระคัมภีร์นำทางชีวิตท่าน,” เลียโฮนา, ม.ค. 2001, 23)

เมื่อเรามีส่วนในการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัวและเป็นครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ เราและครอบครัวจะได้รับการนำทาง การปกป้องและทำให้เข้มแข็งเพื่อต้านทานเรื่องท้าทายมากมายในยุคของเรา