เซมินารี
เอเฟซัส 2–5


เอเฟซัส 2–5

ค้นหาความจริงนิรันดร์

ภาพ
เยาวชนหญิงนั่งอยู่ในบ้านกำลังเปิดอ่านพระคัมภีร์ที่ขีดเส้นใต้ไว้ (แนวนอน)

ท่านมั่นใจเพียงใดต่อความสามารถของท่านในการค้นหาความจริงในพระคัมภีร์? ศาสดาพยากรณ์สอนความจริงที่มาจากพระบิดาบนสวรรค์เพื่อประโยชน์ของเรา ตัวอย่างเช่น เปาโลสอนความจางแก่วิสุทธิชนในเอเฟซัสเกี่ยวกับการเอาชนะโลกและการเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้น บทเรียนนี้มุ่งหมายจะช่วยให้ท่านเรียนรู้วิธีค้นหาความจริงจากพระคัมภีร์ที่จะช่วยท่านในชีวิตและนำท่านเข้าใกล้พระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น

ค้นหาคุณค่า

วีดิทัศน์เรื่อง “Flecks of Gold” (3:15) เกี่ยวข้องกับชายสองคนที่ค้นหาทองคำ อ่านหรือดูเรื่องนี้ที่ ChurchofJesusChrist.org ตั้งแต่รหัสเวลา 0:00 ถึง 2:26 คิดถึงบทเรียนทางวิญญาณที่ท่านเรียนรู้จากเรื่องนี้

ภาพ
ภาพครึ่งตัวอย่างเป็นทางการของประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ปี 2004

บ่อยครั้งเราเหมือนพ่อค้าวัยหนุ่มจากบอสตันในปี 1849 เรื่องมีอยู่ว่าเขารับรู้เรื่องกระแสตื่นทองทองในแคลิฟอร์เนีย เขาจึงขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วไปแสวงโชคในแม่น้ำแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีคนบอกว่าเต็มไปด้วยทองคำก้อนใหญ่มากจนแทบจะแบกไม่ไหว

วันแล้ววันเล่าไม่สิ้นสุด ชายหนุ่มจุ่มตะแกรงร่อนทองลงไปในน้ำและได้แต่ความว่างเปล่า อย่างเดียวที่เขาได้คือก้อนหินกองโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความท้อแท้ทอดอาลัย เขาจึงคิดจะถอนตัวจนกระทั่งวันหนึ่งนักสำรวจแร่สูงอายุผู้มีประสบการณ์พูดกับเขาว่า “ได้หินกองโตขนาดนั้นเชียวหรือ พ่อหนุ่ม”

ชายหนุ่มตอบว่า “ไม่มีทองเลยครับ ผมกำลังจะกลับบ้าน”

ขณะเดินไปที่หินกองนั้น นักสำรวจแร่พูดว่า “โอ้โห มีทองนี่นา เธอแค่ต้องรู้ว่าจะหาได้ที่ไหน” เขาหยิบหินใส่มือสองก้อนแล้วกระทบกัน หินก้อนหนึ่งแตกออกเผยให้เห็นเกล็ดทองส่องประกายแวววาวในแสงแดด

โดยที่เห็นถุงหนังโป่งพองคาดอยู่ที่เอวนักสำรวจแร่ ชายหนุ่มจึงพูดว่า “ผมกำลังหาทองคำก้อนใหญ่เหมือนที่อยู่ในถุงของคุณน่ะครับ ไม่ใช่เกล็ดเล็กๆ แบบนี้”

นักสำรวจแร่สูงอายุยื่นถุงให้ชายหนุ่มผู้คิดว่าในถุงคงมีทองก้อนโตหลายๆ ก้อน แต่เขาตกใจเมื่อเห็นว่าถุงเต็มไปด้วยเกล็ดทองหลายพันเกล็ด

นักสำรวจแร่สูงอายุบอกว่า “เจ้าลูกชาย ฉันคิดว่าเธอมัวแต่หาทองก้อนใหญ่จนเธอไม่ได้เก็บเกล็ดทองล้ำค่าเหล่านี้ใส่ถุงให้เต็ม การค่อยๆ สะสมเกล็ดเล็กๆ เหล่านี้จะทำให้เธอร่ำรวยมหาศาล”

(เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด, “พบปีติผ่านการรับใช้ด้วยความรัก,” เลียโฮนา, พ.ค. 2011, 58)

  • เรื่องราวนี้เกี่ยวข้องกับการค้นหาความจริงในพระคัมภีร์อย่างไร?

อ่านข้อความต่อไปนี้และจัดอันดับจากหนึ่งถึงห้าว่าเป็นความจริงสำหรับท่านเพียงใด (หนึ่ง = ไม่จริงเลย, ห้า = จริงเสมอ)

  • ฉันเชื่อมั่นว่าตนสามารถค้นหาความจริงนิรันดร์ในพระคัมภีร์ได้ด้วยความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

  • การค้นหาความจริงในพระคัมภีร์เป็นพรในชีวิตของฉันและช่วยให้ฉันรู้สึกใกล้ชิดพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์มากขึ้น

ค้นหาความจริงในพระคัมภีร์

ความจริงบางอย่างในพระคัมภีร์ค้นหายากกว่าความจริงอื่นๆ แสวงหาความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์ผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อช่วยให้ท่านทราบความจริงในข่าวสารของเปาโลถึงวิสุทธิชนในเอเฟซัส พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงช่วยท่านโดยเป็นพยานต่อท่านถึงความจริงเหล่านี้ (ดู โมโรไน 10:5; ยอห์น 16:13)

ขณะที่เปาโลเป็นนักโทษถูกกักตัวอยู่ในบ้านในกรุงโรม เขาเขียนถึงชาวเอเฟซัสเพื่อให้กำลังใจและแนะนำคนเหล่านั้นเกี่ยวกับวิธีเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นและวิธีเอาชนะการโจมตีทางวิญญาณของมาร ฝึกระบุความจริงจากสิ่งที่เปาโลแบ่งปันกับวิสุทธิชนเหล่านี้

ต่อไปนี้เป็นวิธีหนึ่งที่ท่านสามารถมองหาความจริงนิรันดร์ขณะศึกษาพระคัมภีร์ อ่าน เอเฟซัส 2:4–10 และทำขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. มองหาคำ วลี หรือข้อที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ อาจทำเครื่องหมายคำ วลี หรือข้อเหล่านี้ในพระคัมภีร์ของท่าน

  2. สรุปแนวคิดหลักของคำ วลี หรือข้อเหล่านี้ (ตัวอย่างเช่น ท่านสามารถสรุปสิ่งที่เปาโลพูดเกี่ยวกับพระคุณใน ข้อ 8 ได้หรือไม่?)

  3. แต่งประโยคจากสิ่งที่ท่านเรียนรู้ให้เป็นข้อความของความจริงที่ท่านสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิต

1. ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน:

  • ความจริงหนึ่งอย่างที่ท่านพบคืออะไร? ท่านระบุความจริงนั้นว่าอย่างไร?

  • ความจริงนี้จะช่วยให้ท่านรู้สึกถึงความรักที่พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงมีต่อท่านหรือช่วยให้ท่านเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นได้อย่างไร?

  • ท่านประยุกต์ใช้หรือจะประยุกต์ใช้ความจริงนี้ในชีวิตของท่านอย่างไร?

ฝึกระบุความจริง

ใช้ขั้นตอนที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ เลือกชุดข้อพระคัมภีร์หนึ่งหรือสองชุดต่อไปนี้และค้นหาความจริงนิรันดร์ในข้อนั้น

  • เอเฟซัส 3:13–19

  • เอเฟซัส 4:20–32 รวมทั้งงานแปลของโจเซฟ สมิธในเชิงอรรถ 26a (ฉบับภาษาอังกฤษ อาจเป็นประโยชน์ถ้ารู้ว่า “ตัวเก่า” ในข้อเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์แทนวิถีเดิมที่เต็มไปด้วยบาป และ “สภาพใหม่” แทนการดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรมผ่านพระเยซูคริสต์)

  • เอเฟซัส 5:17–21

เลือกหนึ่งในความจริงที่ท่านพบและไตร่ตรองว่าความจริงนี้จะช่วยให้ท่านรู้สึกถึงความรักที่พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงมีต่อท่าน หรือช่วยให้ท่านเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นได้อย่างไร

2. ทำสิ่งต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน:

ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ (กระดาษ ดินสอสี เครื่องมือดิจิทัล และอื่นๆ) สร้างโปสเตอร์ที่จะใส่ไว้ในนิตยสาร เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน ได้ รวมสิ่งต่อไปนี้ไว้ในโปสเตอร์ของท่านด้วย:

  • หลักธรรมที่ท่านระบุและข้อพระคัมภีร์ที่ท่านพบ

  • รูปภาพหรือภาพวาดง่ายๆ ที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจความจริง หรือแสดงตัวอย่างว่าบางคนจะใช้ความจริงนี้ในชีวิตตนอย่างไร

แบ่งปันโปสเตอร์ของท่านกับครอบครัวหรือเพื่อน ถามว่าพวกเขาเรียนรู้อะไรจากโปสเตอร์ แบ่งปันความคิดและความรู้สึกของท่านเกี่ยวกับความจริงที่ถ่ายทอดออกมา

ใคร่ครวญการค้นหาความจริง

3. ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน:

นึกถึงประสบการณ์การค้นหาความจริงนิรันดร์ของท่านในพระคัมภีร์

  • ท่านรู้สึกว่าประสบความสำเร็จในด้านใด?

  • อะไรยาก?

  • การค้นหาความจริงช่วยให้ท่านเห็นความรักที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีต่อท่านอย่างไร?

  • ท่านจะใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้วันนี้ในการศึกษาพระคัมภีร์กับครอบครัวหรือเป็นส่วนตัวอย่างไร?

เลือกได้: ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมหรือไม่?

เอเฟซัส 2:4–9 พระคุณคืออะไรและมีประโยชน์ต่อฉันอย่างไร?

ขณะรับใช้เป็นสมาชิกในฝ่ายประธานสูงสุด ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟได้นิยามพระคุณของพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็น “ความช่วยเหลือจากสวรรค์และการประสาทความเข้มแข็งซึ่งทำให้เราเติบโตจากสัตภาวะที่บกพร่องและมีข้อจำกัดอย่างทุกวันนี้เป็นสัตภาวะอันสูงส่งของ ‘ความจริงและแสงสว่าง, จน [เรา] รุ่งโรจน์ในความจริงและ [รู้] สิ่งทั้งปวง’ [หลักคำสอนและพันธสัญญา 93:28]” (ดู “ของประทานแห่งพระคุณ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 107) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระคุณให้อ่านคำคำพูดทั้งเรื่องที่ ChurchofJesusChrist.org

สำหรับข้อคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอด ให้อ่าน โมไซยาห์ 2:20–24 และ ฟิลิปปี 2:12–13

เอเฟซัส 4:22 การ “ทิ้งตัวเก่า” หมายความว่าอย่างไร?

เปาโลสอนว่าเมื่อเราเลือกยอมรับศาสนพิธีบัพติศมา เราทำพันธสัญญาเพื่อยุติวิถีเก่า (หรือ “ทิ้งตัวเก่า” [เอเฟซัส 4:22]) และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ (ดู โรม 6:1–6; หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37) นี่รวมถึงการทิ้งบาปของเราและสิ่งใดก็ตามที่กันเราไม่ให้มาใกล้พระบิดาบนสวรรค์มากขึ้น เราไม่สามารถทำให้กระบวนการนี้เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเราเอง กระบวนการนี้เกิดขึ้นได้เพราะพระเยซูคริสต์และการชดใช้ของพระองค์ และอิทธิพลการชำระให้บริสุทธิ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น