การจัดหาอาคารประชุมและสถานที่นมัสการแห่งอื่น

หลักธรรมที่เป็นแนวทาง

ขณะพิจารณาพื้นที่อาคารประชุมแห่งใหม่ ผู้นำและลูกจ้างศาสนจักรนำหลักธรรมที่เป็นแนวทางเหล่านี้มาใช้:

1. การพึ่งพาตนเอง—เรามุ่งมั่นสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของศาสนจักร แต่ละภาคของศาสนจักรควรมีเป้าหมายของการพึ่งพาตนเองทางโลก

2. การเข้าถึง—เราทำให้คำสอนพระกิตติคุณ แหล่งช่วย และการรับใช้ที่จำเป็นเข้าถึงทุกคนได้ ภาคที่โตแล้วควรช่วยเหลือภาคที่พึ่งพาตนเองได้น้อย

3. การเป็นผู้พิทักษ์ที่ฉลาด—เราเป็นผู้พิทักษ์ดูแลทรัพยากรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างฉลาด เราพิจารณาว่าการตัดสินใจจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อชีวิตประจำวันและราคาที่จ่ายได้ของสมาชิกในการมีส่วนร่วมกับศาสนจักร

ผู้นำฐานะปุโรหิตระดับภาคและระดับท้องที่มุ่งมั่นนำหลักธรรมที่อธิบายไว้ในเอกสาร หลักธรรมและแนวทางการวางแผนอาคารประชุม มาใช้ก่อนเสนอขอพื้นที่เพิ่ม

ความเหมือนกันและการปรับให้เหมาะสม

อาคารประชุมทุกหลังควรมีลักษณะพิเศษที่สนับสนุนประสบการณ์การนมัสการและโปรแกรมต่างๆ ของศาสนจักร ลักษณะเหล่านี้รวมถึงพื้นที่สำหรับการชุมนุมทั่วไป การสอน และกิจกรรมต่างๆ สภาพท้องที่—รวมถึงขนาดหน่วยและผู้นำหน่วย—อาจต้องปรับให้เหมาะสมเมื่อจัดหาอาคารประชุม

สถานที่ประชุมอาจเป็นบ้านของสมาชิก โรงเรียนหรือศูนย์ชุมชนในท้องที่ พื้นที่เช่า พื้นที่ซึ่งศาสนจักรซื้อหรือสร้างเอง หรือทางเลือกอื่น แต่ละแห่งเหล่านี้อาจเป็นทางออกระยะยาวสำหรับหน่วยทุกขนาดเมื่อฝ่ายประธานภาคอนุมัติ การใช้เทคโนโลยี เช่นโสตทัศนูปกรณ์ อาจทำให้การปรับเปลี่ยนเช่นนั้นง่ายขึ้น

การจัดหาพื้นที่ตามความต้องการ

ผู้นำระดับภาคและระดับท้องที่พยายามขยายการใช้อาคารประชุมอย่างฉลาดก่อนขอพื้นที่เพิ่ม ควรจัดหาพื้นที่หลังจากพิจารณาจำนวนสูงสุดของผู้เข้าร่วมประชุมหรือจำนวนหน่วยในอาคาร และทรัพยากรนอกอาณาเขตวอร์ดหรือสเตคในระยะเวลาเดินทางที่ฝ่ายประธานภาคกำหนด ลูกจ้างศาสนจักรในภาคซึ่งทำงานกับผู้นำระดับท้องที่จะแนะนำให้ใช้ทรัพยากรศาสนจักรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ขึ้นกับอาณาเขตสเตค

ราคาที่จ่ายได้

ผู้นำระดับภาคและระดับท้องที่หาทางออกระยะยาวที่ประหยัดตามสมควรและยั่งยืนต่อความต้องการใช้อาคารประชุม พื้นที่ใหม่ควรแสดงให้เห็นถึงภาพของความคารวะและความสง่างาม เรียบง่าย กลมกลืนกับการออกแบบและลักษณะของสภาวะแวดล้อมในท้องที่ ควรใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องตกแต่งที่หาได้ในท้องที่กรณีเห็นสมควร กระบวนการจัดหาและดำเนินการเรื่องพื้นที่อาคารประชุมควรเพิ่มประสิทธิภาพการพึ่งพาตนเองของศาสนจักรในภาค

การหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน

ผู้นำระดับท้องที่และสมาชิกจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการติดต่อทางธุรกิจเพื่อจัดการทรัพย์สินศาสนจักร ตัวอย่างเช่นพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เจรจาซื้อหรือทำสัญญาเช่าทรัพย์สินหรือทำข้อผูกมัดใดๆ อันเป็นพันธะให้ต้องใช้เงินทุนทั่วไปของศาสนจักร ข้อยกเว้นต้องได้รับอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากสำนักภาคหรือแผนกสิ่งอำนวยความสะดวกอาคารประชุม

การวางแผนแม่บทของอาคารประชุม

ภาคเตรียมแผนแม่บทอาคารประชุมระยะยาวเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สมาชิกของศาสนจักร แผนเหล่านี้รวมถึงการตัดสินใจต่อเติมหรือย้ายพื้นที่อาคารประชุม การวางแผนแม่บทอาคารประชุมระยะยาวจะสนับสนุนแผนภาคเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัว สมาชิก และหน่วยโดยจัดหาอาคารประชุมในแบบที่เรียบง่ายและในราคาที่จ่ายได้ จงวางแผนแม่บทโดยใช้ทรัพยากรอย่างฉลาด พิจารณาผลกระทบของการตัดสินใจเรื่องอาคารประชุมต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สมาชิก และจัดหาพื้นที่ให้เหมาะกับสภาพท้องที่

สาวกเจ็ดสิบภาค ผู้อำนวยการบริหารระดับภาค และคณะทำงานระดับภาคเสนอจดหมายขออาคารประชุมต่อผู้นำฐานะปุโรหิตภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานภาค ทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้นำเหล่านั้นเพื่อไขข้อกังวล และทำแผนเสนอขออาคารประชุมขั้นสุดท้ายที่จะรวมไว้ในแผนแม่บท สามารถทำแผนดังกล่าวในการประชุมสภาประสานงานกับประธานสเตคที่ได้รับมอบหมาย ฝ่ายประธานสเตคอาจต้องให้ข้อมูลแก่ฝ่ายประธานภาคที่จะช่วยผู้อำนวยการบริหารระดับภาคในการเตรียมและปรับแผนแม่บท

ผู้นำฐานะปุโรหิตจะทบทวนจุลสาร แนวทางการวางแผนแม่บทอาคารประชุม เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติม

เงินทุนสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกอาคารประชุม

ศาสนจักรจัดเงินทุนให้พื้นที่อาคารประชุมผ่านแผนประจำปีสิ่งอำนวยความสะดวกอาคารประชุม ฝ่ายประธานภาคส่งแผนประจำปีให้คณะกรรมการงบประมาณและการจัดสรรผ่านฝ่ายอธิการควบคุม

การประเมินความต้องการสถานที่นมัสการแห่งใหม่

ปัจจัยบางอย่างที่ส่งผลต่อการวางแผนอาคารประชุมและสถานที่นมัสการแห่งอื่นในอนาคตได้แก่ลักษณะของหน่วยทั่วไปในภาค อัตราและรูปแบบการเติบโตที่ผ่านมา การเติบโตที่คาดการณ์ไว้ การแบ่งหน่วยที่วางแผนไว้ ขนาด ทำเลที่ตั้ง และขีดจำกัดการใช้อาคารที่มีอยู่

ทางเลือกสำหรับการได้พื้นที่เพิ่ม

สำนักงานภาคพิจารณาทางเลือกหลายทางเพื่อคิดหาวิธีตอบสนองความต้องการสถานที่นมัสการเพิ่มได้เหมาะสมที่สุด ทางเลือกเหล่านั้นได้แก่การปรับเปลี่ยนโปรแกรมหน่วยท้องที่ การใช้พื้นที่ร่วมกับหน่วยอื่นของศาสนจักร การปรับแต่งพื้นที่ที่มีอยู่ การต่อเติมพื้นที่ที่มีอยู่ การทำสัญญาเช่าพื้นที่ การซื้ออาคารที่มีอยู่ หรือการก่อสร้างอาคารประชุมหลังใหม่

การบริจาคอสังหาริมทรัพย์

ศาสนจักรยอมรับการบริจาคอสังหาริมทรัพย์ หากมีคนต้องการบริจาคอสังหาริมทรัพย์ให้ศาสนจักร ผู้นำฐานะปุโรหิตระดับท้องที่จะติดต่อสำนักงานภาค ส่วนผู้นำฐานะปุโรหิตในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดาจะโทรติดต่อ Real Estate Services Division ในแผนกสิ่งอำนวยความสะดวกอาคารประชุมที่ 1-801-240-5685 หรือ 1-800-453-3860

ผู้นำระดับท้องที่ไม่รับหรือออกใบเสร็จสำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่บริจาคให้ศาสนจักร การบริจาคอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินมรดกจะต้องไม่ระบุเงื่อนไขการใช้หรือการจัดการทรัพย์สินเหล่านั้น

แบบแปลนอาคารประชุมแบบมาตรฐาน

ลูกจ้างศาสนจักรระดับภาคได้เตรียมแบบแปลนอาคารประชุมมาตรฐานให้เหมาะกับสภาพและความต้องการในท้องที่ เมื่อจะก่อสร้างอาคารประชุมหลังใหม่ ศาสนจักรจะเลือกใช้แบบแปลนมาตรฐานที่เหมาะสม แบบแปลนดังกล่าววางกรอบนโยบายสำหรับห้องต่างๆ โครงหลัก และอุปกรณ์ที่ติดตั้งในสถานที่นมัสการเหล่านี้

การพัฒนาโครงการก่อสร้างอาคารประชุม

เมื่อเข้าเกณฑ์การสร้างอาคารประชุมหลังใหม่ครบทุกข้อและโครงการก่อสร้างที่เสนอมีเหตุผลสมควร อยู่ในแผนประจำปี มีเงินทุน และกำหนดเวลาแล้ว โครงการดังกล่าวจะเข้าสู่ระยะพัฒนาโครงการ

เมื่อถึงเวลาเหมาะสมระหว่างพัฒนาโครงการ หลังจากหารือกับผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว ผู้จัดการโครงการจะประชุมกับฝ่ายประธานสเตคเพื่อทบทวนและเลือกรูปแบบที่มีให้ในแบบแปลนมาตรฐาน อาจหารือเรื่องทางเลือกของการจัดพิธีเบิกดินด้วย ผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกรายงานความคืบหน้าให้ฝ่ายประธานสเตคทราบเป็นระยะตลอดกระบวนการพัฒนา

การก่อสร้างโครงการ

เมื่อพ้นระยะพัฒนาโครงการแล้ว สำนักงานภาคจะทำสัญญาก่อสร้าง ผู้จัดการโครงการดำเนินการประชุมก่อนก่อสร้างกับผู้นำระดับสเตคและผู้รับเหมาด้วยความช่วยเหลือของผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวก ผู้ร่วมประชุมทบทวนบทบาทของตน สรุปการเลือกแบบและเครื่องตกแต่งตามแปลนมาตรฐานของภาค และทบทวนกำหนดการก่อสร้าง

การส่งมอบอาคารประชุม

เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ผู้จัดการโครงการ “ส่งมอบ” อาคารหรือส่วนต่อเติมให้ผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเป็นทางการ ผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกวางแผนและบริหารจัดการขั้นตอนการทำความสะอาดครั้งใหญ่และการซ่อมบำรุง ตลอดจนงานอื่นทั้งหมดที่จำเป็นต่อการเตรียมอาคารให้พร้อมใช้

ผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกดำเนินการประชุมปฐมนิเทศและเดินสำรวจอาคารกับผู้นำระดับท้องที่ เขาให้คำแนะนำในเบื้องต้นเกี่ยวกับระบบต่างๆ ของอาคารแก่ตัวแทนอาคารสเตคและวอร์ด เขามอบกุญแจให้ผู้นำระดับท้องที่และทบทวนกำหนดการทำความสะอาดและการมีส่วนร่วมของสมาชิก

การทำสัญญาเช่าพื้นที่อาคารประชุม

กรณีทำสัญญาเช่าอาคารประชุมหลังใหม่ผู้นำระดับท้องที่จะปรึกษากับผู้จัดการด้านวางแผนสิ่งอำนวยความสะดวกระดับภาคเพื่อพิจารณาเงื่อนไข ค่าเช่าจ่ายจากงบดำเนินการของกลุ่มบริหารสิ่งอำนวยความสะดวก

กรณีต่อสัญญาเช่าอาคารประชุมผู้นำระดับท้องที่จะปรึกษากับผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกผู้จะอำนวยความสะดวกตามคำขอ อาจเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกชั่วคราวในกรณีอาคารประชุมที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับวอร์ดในช่วงบูรณะอาคารประชุม

สำนักงานภาคเจรจาเงื่อนไขในสัญญาเช่าทั้งหมด

การเช่าพื้นที่ชั่วคราว

ศาสนจักรอาจเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกชั่วคราวเมื่อพื้นที่ที่มีให้ไม่พอรองรับกิจกรรมสเตค เช่น การประชุมใหญ่สเตคและการประชุมใหญ่เขต ไฟร์ไซด์ กีฬาในร่ม หรือกิจกรรมสหวัฒนธรรม ควรพิจารณาทางเลือกอื่นรวมถึงการจัดประชุมหลายภาคหรือการใช้เทคโนโลยี (เช่นการถ่ายทอด) ก่อนจะเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกชั่วคราว

หากจำเป็นต้องเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกชั่วคราว ผู้นำระดับท้องที่ปรึกษากับผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อเตรียมทำสัญญาที่จำเป็น จากนั้นผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกส่งสัญญาและแบบฟอร์ม “Request for Temporary Leased Facility” ให้สำนักงานภาค ควรส่งคำขอล่วงหน้า เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ค่าเช่าจะจ่ายจากเงินทุนทั่วไปของศาสนจักร

หน่วยท้องที่จะจ่ายค่าเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับจัดกิจกรรมกีฬากลางแจ้ง

พิธีเบิกดิน

หลังจากอนุมัติโครงการก่อสร้างใหม่ ฝ่ายประธานภาคอาจให้จัดพิธีเบิกดินในการเตรียมก่อสร้าง จะไม่จัดพิธีนี้ในวันอาทิตย์ ประธานสเตคที่เกี่ยวข้องจะปรึกษากับสาวกเจ็ดสิบภาคเพื่อขอคำแนะนำ

การอุทิศอาคาร

ฝ่ายประธานภาคให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายสำหรับการอุทิศโดยประสานงานกับผู้อำนวยการบริหารระดับภาค ฝ่ายประธานภาคทำงานกับประธานสเตคหรือประธานคณะเผยแผ่และระบุว่าใครรับผิดชอบเรื่องการอุทิศอาคาร

โปรแกรมสำหรับพิธีอุทิศควรสอดคล้องกับจุดประสงค์ของเหตุการณ์ ไม่ควรยืดเยื้อหรือมีการแสดงดนตรีเอิกเกริก ควรมีเวลามากพอให้ผู้นำที่ได้รับมอบหมายพูดและอุทิศอาคาร

หลังจากการสวดอุทิศควรมีเพลงสวดหรือเพลงพิเศษที่เหมาะสมและการสวดอ้อนวอนสั้นๆ เพื่อปิดพิธี

บันทึกเสียงคำสวดอุทิศอาคารได้เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมอนุญาต

อาจอุทิศอาคารเช่าหากเป็นไปตามเงื่อนไขทุกข้อต่อไปนี้

1. ศาสนจักรใช้พื้นที่เช่าทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว ไม่รวมบริเวณที่จำเป็นต้องใช้ร่วมกัน (เช่น ทางเข้า ทางเดิน และห้องน้ำ)

2. ทำสัญญาเช่านานกว่าหนึ่งปี

3. ฝ่ายประธานภาคอนุมัติให้อุทิศอาคารเช่า

หากบรรลุเงื่อนไขเหล่านี้และอุทิศอาคารประชุม คำสวดอุทิศต้องมีคำว่าอุทิศอาคารประชุม “สำหรับใช้ในช่วงทำสัญญาเช่า” ด้วย