คู่มือและการเรียก
9. สมาคมสงเคราะห์


“9. สมาคมสงเคราะห์,” คู่มือทั่วไป: การรับใช้ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (2025)

“9. สมาคมสงเคราะห์,” คู่มือทั่วไป

สตรีกำลังศึกษาพระคัมภีร์

9.

สมาคมสงเคราะห์

9.1

จุดประสงค์และโครงสร้างองค์การ

สมาคมสงเคราะห์ช่วยบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าเตรียมกลับไปที่ประทับของพระองค์ ในฐานะธิดาของพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ สมาชิกในสมาคมสงเคราะห์ “อรรถาธิบายพระคัมภีร์” “แนะนำศาสนจักร” หนุนใจ และ “แนบสนิทกับพันธสัญญาซึ่ง [พวกเธอ] ทำไว้” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 25:7, 13)

9.1.1

จุดประสงค์

สมาคมสงเคราะห์เป็นองค์การที่ทรงจัดตั้งให้สตรีผู้ใหญ่ทุกคนในศาสนจักร ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธสอนว่าจุดประสงค์ของสมาคมสงเคราะห์คือช่วยจิตวิญญาณให้รอดและบรรเทาทุกข์ ท่านกล่าวว่าศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ยังจัดตั้งไม่สมบูรณ์จนกว่าจะจัดองค์การให้พี่น้องสตรี

สมาชิกสมาคมสงเคราะห์ช่วยกันทำงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้าให้สำเร็จลุล่วง พวกเธอรับใช้ผู้อื่น ทำหน้าที่รับผิดชอบตามพันธสัญญาให้เกิดสัมฤทธิผล สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน เรียนรู้และดำเนินชีวิตตามหลักคำสอน

คติพจน์ของสมาคมสงเคราะห์คือ “จิตกุศลไม่มีวันสูญสิ้น” (1 โครินธ์ 13:8) คติพจน์ดังกล่าวสะท้อนอยู่ในตราสมาคมสงเคราะห์

ตราสมาคมสงเคราะห์

9.1.2

สมาชิกภาพในสมาคมสงเคราะห์

สมาคมสงเคราะห์คือความเป็นพี่น้องชั่วชีวิต สตรีผู้ใหญ่ทุกคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไปเป็นสมาชิกของสมาคมสงเคราะห์ พวกเธอเป็นสมาชิกแม้ไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมสมาคมสงเคราะห์ได้

เยาวชนหญิงอาจเริ่มเข้าร่วมสมาคมสงเคราะห์เมื่ออายุครบ 18 ปี เธอปรึกษากับบิดามารดาและอธิการเกี่ยวกับเวลาที่เหมาะสมที่สุด เมื่ออายุ 19 ปีหรือเมื่อย้ายออกจากบ้าน เช่น ไปเรียนมหาวิทยาลัยหรือรับใช้งานเผยแผ่ เธอควรเข้าร่วมสมาคมสงเคราะห์

สตรีอายุน้อยกว่า 18 ปีที่แต่งงานแล้วเป็นสมาชิกของสมาคมสงเคราะห์ด้วย

ดูข้อมูลเกี่ยวกับบิดามารดาอายุน้อยกว่า 18 ปีที่ไม่ได้แต่งงานใน 38.1.5

9.1.3

ไอคอน แนวทางการปรับ
การปรับตามความต้องการในท้องที่

บางวอร์ดมีสตรีผู้ใหญ่ที่แข็งขันจำนวนมาก สำหรับวอร์ดเหล่านี้ อธิการและประธานสเตคอาจอนุญาตให้มีสมาคมสงเคราะห์วอร์ดมากกว่าหนึ่ง แต่ละสมาคมสงเคราะห์มีฝ่ายประธานของตน หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ แต่ละสมาคมสงเคราะห์ควรมีสมาชิกหลากหลายอายุและประสบการณ์

9.2

การมีส่วนร่วมในงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้า

3:31

พระผู้เป็นเจ้าทรงเชื้อเชิญให้ทุกคนมาหาพระคริสต์และมีส่วนร่วมในงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระองค์โดย:

  • การดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

  • การดูแลคนขัดสน

  • การเชื้อเชิญให้ทุกคนรับพระกิตติคุณ

  • การทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันชั่วนิรันดร์

ผู้นำสมาคมสงเคราะห์วางแผนการประชุมวันอาทิตย์ กิจกรรม การปฏิบัติศาสนกิจ การรับใช้ และการปฏิสัมพันธ์อื่นเพื่อช่วยให้สตรีมีส่วนร่วมในงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้า สมาชิกของสมาคมสงเคราะห์และโควรัมเอ็ลเดอร์ทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อช่วยให้งานนี้สำเร็จลุล่วง

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้าใน บทที่ 1

9.2.1

การดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

ผู้นำสมาคมสงเคราะห์สนับสนุนให้สมาชิกดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ พวกเธอเน้นให้ใช้ศรัทธา กลับใจ เพิ่มการพึ่งพาตนเอง และทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าโดยการรับศาสนพิธี ศาสนพิธีดังกล่าวรวมถึงเอ็นดาวเม้นท์พระวิหาร ดู 1.2.1

9.2.1.1

การเรียนรู้พระกิตติคุณที่บ้าน

เมื่อสมาชิกเรียนรู้และดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณที่บ้าน การเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ของพวกเขาจะลึกซึ้งขึ้น ผู้นำสมาคมสงเคราะห์กระตุ้นให้พี่น้องสตรีศึกษาพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ ทั้งเป็นส่วนตัวและกับครอบครัวของพวกเธอ จงตามเรามา และแหล่งข้อมูลอื่นสามารถเสริมการศึกษาของพวกเธอ

กิจกรรมยามค่ำที่บ้านเป็นวิธีสำคัญในการเรียนรู้พระกิตติคุณที่บ้าน โดยปกติจะจัดทุกสัปดาห์ในวันอาทิตย์ เย็นวันจันทร์ หรือเวลาอื่น อาจประกอบด้วยการสวดอ้อนวอน การศึกษาพระกิตติคุณ ประจักษ์พยาน การร้องเพลง และกิจกรรมสนุกๆ

9.2.1.2

การเรียนรู้พระกิตติคุณในการประชุมสมาคมสงเคราะห์

สมาคมสงเคราะห์ประชุมกันวันอาทิตย์เพื่อจุดประสงค์ต่อไปนี้:

  • เสริมสร้างศรัทธา

  • สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน

  • เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวและบ้าน

  • ประสานงานเพื่อช่วยพระผู้เป็นเจ้าในงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระองค์ในวอร์ด

การประชุมจัดในวันอาทิตย์ที่สองและสี่ของเดือน ใช้เวลา 50 นาที ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์วางแผนการประชุมเหล่านี้ สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานดำเนินการประชุม

การประชุมเริ่มด้วยการสวดอ้อนวอน จากนั้นสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานนําพี่น้องสตรีในการหารือกันเป็นเวลาห้าถึงสิบนาทีเกี่ยวกับความท้าทาย ความต้องการ และโอกาสที่เกี่ยวข้อง การมุ่งความสําคัญไปที่พระผู้ช่วยให้รอดในการหารือกันนี้จะช่วยพี่น้องสตรีสร้างประจักษ์พยาน รับศาสนพิธีพระวิหาร รักษาพันธสัญญา และเพิ่มพูนความเป็นสานุศิษย์ ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์เลือกหัวข้อเพื่อหารือตามความต้องการของพี่น้องสตรี

จากนั้นควรให้เวลามากพอกับการสอนและการสนทนาพระกิตติคุณอย่างมีความหมาย การประชุมควรเน้นหัวข้อในคำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญครั้งล่าสุดหนึ่งเรื่องหรือมากกว่านั้น ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์เลือกข่าวสารการประชุมใหญ่ร่วมกับการสวดอ้อนวอนให้พี่น้องสตรีสนทนา พวกเธอทําการเลือกเหล่านี้ตามความต้องการของพี่น้องสตรี

อาจร้องเพลงสวดเพื่อยกระดับบทเรียน

การประชุมควรจบด้วยการสวดอ้อนวอน

สมาคมสงเคราะห์และโควรัมเอ็ลเดอร์อาจเรียนบทเรียนวันอาทิตย์รวมกันเป็นครั้งคราว การประชุมเหล่านี้ประสานงานโดยฝ่ายอธิการ ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ และฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์

ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน “To Sit in Council (นั่งในสภา)

9.2.1.3

กิจกรรม

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์อาจวางแผนกิจกรรม ประธานสอดส่องดูแลกิจกรรม เธออาจขอให้ที่ปรึกษาคนหนึ่งหรือพี่น้องสตรีอีกคนหนึ่งเป็นผู้นำในการวางแผนและดำเนินการตามแผน (ดู 9.3.4) ฝ่ายประธานสนทนาเรื่องกิจกรรมกับอธิการอันเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนของพวกเธอ

กิจกรรมควรเสริมสร้างความปรารถนาของพี่น้องสตรีในการทําและรักษาพันธสัญญา ตลอดจนเปิดโอกาสให้พวกเธอได้มาชุมนุมและรับใช้ด้วยกัน กิจกรรมควรช่วยให้บรรลุจุดประสงค์ของสมาคมสงเคราะห์ (ดู 9.1 และ 9.1.1) ดูข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมสมาคมสงเคราะห์สเตคใน 6.7.1

9.2.2

การดูแลคนขัดสน

ในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ พี่น้องสตรีมีความรับผิดชอบในการยื่นมือช่วยเหลือคนขัดสนด้วยความรัก พวกเธอแต่ละคนและกับสมาคมสงเคราะห์หาวิธีรับใช้ผู้อื่นในวอร์ดและชุมชน JustServe.org เสนอโอกาสต่างๆ ให้รับใช้ชุมชน หากมีในภาษาของท่าน

2:46

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่สมาชิกของสมาคมสงเคราะห์และโควรัมเอ็ลเดอร์ดูแลคนขัดสนใน 22.6.2

สตรีกำลังส่งของ

9.2.2.1

การปฏิบัติศาสนกิจ

การปฏิบัติศาสนกิจคือการดูแลผู้อื่นเฉกเช่นพระผู้ช่วยให้รอดจะทรงดูแล พี่น้องสตรีได้รับงานมอบหมายการปฏิบัติศาสนกิจจากฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน บทที่ 21

9.2.2.2

ความต้องการระยะสั้น

ซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจพยายามเข้าใจและดูแลความต้องการของคนที่พวกเธอรับใช้ สมาชิกอาจต้องการความช่วยเหลือระยะสั้นเวลามีคนเจ็บป่วย เกิด ตาย ตกงาน และสภาวการณ์อื่น

ซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจขอความช่วยเหลือจากฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์เมื่อจำเป็น ฝ่ายประธานอาจเสนอให้เรียกผู้ประสานงานการรับใช้เพื่อจัดระบบงานเหล่านี้ (ดู 9.3.4)

สมาคมสงเคราะห์และโควรัมเอ็ลเดอร์ประสานงานกันเพื่อดูแลความต้องการระยะสั้น (ดู 22.3.2) อธิการอาจให้ความช่วยเหลือด้วยเงินบริจาคอดอาหารหากจำเป็น

ในบางแห่ง อธิการมีทางเลือกให้จัดหาอาหารและสิ่งจำเป็นอื่นๆ ให้สมาชิกที่ขัดสนด้วยใบสั่งซื้อของอธิการ โดยทั่วไปอธิการมอบหมายให้ประธานสมาคมสงเคราะห์พบกับสมาชิกและกรอกแบบฟอร์มการสั่งซื้อ แต่เขาอาจมอบหมายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ด้วย ที่ปรึกษาคนหนึ่งในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์หรือฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์อาจได้รับมอบหมายหากประธานไม่อยู่ ผู้นำที่ได้รับมอบหมายส่งแบบฟอร์มที่กรอกครบถ้วนแล้วให้อธิการอนุมัติ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน 22.6.2 และ “แหล่งช่วยด้านสวัสดิการ” ในแหล่งช่วยผู้นำและพนักงาน

9.2.2.3

ความต้องการระยะยาวและการพึ่งพาตนเอง

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์และฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ช่วยสมาชิกเรื่องความต้องการระยะยาวและการพึ่งพาตนเองโดยมีอธิการคอยประสานงาน พวกเขาสอนหลักธรรมของการพึ่งพาตนเองทางวิญญาณและทางโลก ดู บทที่ 22 และ “การพึ่งพาตนเอง” ในแอปพลิเคชันคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ

หากบุคคลหรือครอบครัวต้องการความช่วยเหลือ ประธานสมาคมสงเคราะห์และประธานโควรัมเอ็ลเดอร์หารือกันว่าจะช่วยเหลืออย่างไรโดยมีอธิการคอยประสานงาน (ดู 22.4)

ประธานสมาคมสงเคราะห์ ประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ หรือผู้นำอีกคนหนึ่งช่วยบุคคลหรือครอบครัวนั้นพัฒนา แผนการพึ่งพาตนเอง ซิสเตอร์หรือบราเดอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจจะช่วยวางแผนด้วย บ่อยครั้งสมาชิกคนอื่นของสมาคมสงเคราะห์หรือโควรัมเอ็ลเดอร์มีทักษะหรือประสบการณ์ที่ช่วยได้ ทุกคนที่ช่วยเหลือจะรักษาข้อมูลเป็นความลับ ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน 22.3.3 และ 22.8

9.2.2.4

เมื่อสมาชิกวอร์ดถึงแก่กรรม

เมื่อสมาชิกวอร์ดถึงแก่กรรม ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์และฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ให้การปลอบโยนและความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถช่วยเรื่องพิธีศพภายใต้การนำทางของอธิการ

หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้จะฝังหรือฌาปนกิจสมาชิกที่ถึงแก่กรรมและรับเอ็นดาวเม้นท์แล้วในชุดพระวิหาร สามีของหญิงที่ถึงแก่กรรมหรือสมาชิกสตรีในครอบครัวที่รับเอ็นดาวเม้นท์แล้วจะแต่งชุดให้ร่างของเธอ หากสมาชิกครอบครัวไม่อยู่หรือไม่ต้องการแต่งชุดพระวิหารให้ อธิการอาจขอให้ประธานสมาคมสงเคราะห์เชิญสตรีที่รับเอ็นดาวเม้นท์แล้วแต่งให้หรือสอดส่องดูแลการแต่งชุด ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน 38.5.10

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์และฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ บราเดอร์และซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ และคนอื่นๆ ยังคงให้การปลอบโยนและความช่วยเหลือต่อไปหลังพิธีศพ

9.2.3

การเชื้อเชิญให้ทุกคนรับพระกิตติคุณ

สมาชิกของสมาคมสงเคราะห์มีหน้าที่เชื้อเชิญให้ทุกคนรับพรแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ (ดู โมไซยาห์ 18:9) พวกเธอทำเช่นนี้โดยแบ่งปันพระกิตติคุณ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้สมาชิกใหม่ และยื่นมือช่วยเหลือคนที่แข็งขันน้อย ดู 23.2 และ 23.3

ในการประชุมฝ่ายประธานและการประชุมสมาคมสงเคราะห์ ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สนทนาวิธีที่พี่น้องสตรีสามารถเชื้อเชิญให้ทุกคนรับพรแห่งพระกิตติคุณ ดู 23.1.1, 23.1.2 และ 23.1.3

ประธานสมาคมสงเคราะห์มอบหมายให้สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานให้ช่วยนำงานแบ่งปันพระกิตติคุณในวอร์ด เธอทำงานกับสมาชิกในฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ที่ได้รับมอบหมายเพื่อประสานงานเหล่านี้ (ดู 23.6.2)

สมาชิกในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ที่ได้รับมอบหมายจะเข้าร่วมการประชุมประสานงานประจำสัปดาห์เพื่อประสานงานการเชื้อเชิญให้ทุกคนรับพรแห่งพระกิตติคุณ หัวหน้าเผยแผ่วอร์ดผู้อาจเป็นสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์จะเป็นผู้นำการประชุมเหล่านี้ ผู้สอนศาสนาวอร์ด ผู้ช่วยคนหนึ่งในโควรัมปุโรหิต สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานชั้นเรียนเยาวชนหญิงที่อายุมากที่สุด และผู้สอนศาสนาเต็มเวลาเข้าร่วมด้วย ดู 23.4

9.2.4

การทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันชั่วนิรันดร์

สมาชิกของสมาคมสงเคราะห์สนับสนุนสมาชิกในการทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันชั่วนิรันดร์ รวมถึง:

  • การทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าโดยรับศาสนพิธีต่างๆ รวมทั้งเอ็นดาวเม้นท์พระวิหาร

  • การทำงานพระวิหารและประวัติครอบครัว (ดู 1.2.4)

ในการประชุมฝ่ายประธานและการประชุมสมาคมสงเคราะห์ ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สนทนาวิธีที่พี่น้องสตรีสามารถมีส่วนร่วมในงานเหล่านี้ สมาชิกฝ่ายประธานวางแผนวิธีช่วยให้สมาชิกเพิ่มความเข้าใจและปรารถนาจะรับศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์และทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าในพระวิหารด้วย พวกเธอกระตุ้นให้พี่น้องสตรีนมัสการในพระวิหารเป็นประจําหากอยู่ในวิสัยที่ทําได้

ฝ่ายประธานกระตุ้นให้พี่น้องสตรีเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติครอบครัวของตน พวกเธอช่วยสมาชิกใหม่และสมาชิกที่กลับมา สมาชิกใหม่ของสมาคมสงเคราะห์ และผู้สอนศาสนาที่เพิ่งได้รับเรียกค้นหาและเตรียมรายชื่อบรรพชนสําหรับศาสนพิธีพระวิหาร

ประธานสมาคมสงเคราะห์มอบหมายให้สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานช่วยนำงานพระวิหารและประวัติครอบครัวในวอร์ด เธอทำงานกับสมาชิกในฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ที่ได้รับมอบหมายเพื่อประสานงานเหล่านี้ (ดู 25.2.2)

สมาชิกในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ที่ได้รับมอบหมายเข้าร่วมการประชุมประสานงานเพื่อประสานงานพระวิหารและประวัติครอบครัว การประชุมเหล่านี้จัดเป็นประจำ หัวหน้างานพระวิหารและประวัติครอบครัววอร์ดผู้อาจจะเป็นสมาชิกในฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์จะเป็นผู้นำการประชุมประสานงานพระวิหารและประวัติครอบครัว (ดู 25.2.7) การประชุมเหล่านี้จะมีผู้ช่วยคนหนึ่งในโควรัมปุโรหิต สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานชั้นเรียนเยาวชนหญิงที่อายุมากที่สุด และผู้ให้คำแนะนำด้านพระวิหารและประวัติครอบครัวเข้าร่วมด้วย

2:49

9.3

ผู้นำสมาคมสงเคราะห์

9.3.1

อธิการ

อธิการประชุมกับประธานสมาคมสงเคราะห์อย่างน้อยเดือนละครั้ง พวกเขาสนทนาเรื่องงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้า รวมถึงการรับใช้ของซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ และสนทนาเรื่อง (1) ความก้าวหน้าและความต้องการของพี่น้องสตรีในวอร์ด และ (2) การประชุม การสอน และกิจกรรมสมาคมสงเคราะห์

9.3.2

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์

9.3.2.1

การเรียกฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์

อธิการเรียกสตรีคนหนึ่งให้รับใช้เป็นประธานสมาคมสงเคราะห์ หากหน่วยใหญ่พอ เธอเสนอชื่อสตรีหนึ่งหรือสองคนต่ออธิการเพื่อรับใช้เป็นที่ปรึกษาของเธอ ฝ่ายอธิการพิจารณารายชื่อที่เสนอและให้การเรียก

สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการเสนอชื่อสมาชิกฝ่ายประธานในการประชุมศีลระลึกเพื่อการสนับสนุน อธิการวางมือมอบหน้าที่ให้ประธานสมาคมสงเคราะห์ สมาชิกคนใดก็ได้ในฝ่ายอธิการอาจวางมือมอบหน้าที่ให้ที่ปรึกษาของเธอ

หน่วยเล็กบางหน่วยอาจไม่มีประธานเยาวชนหญิงหรือประธานปฐมวัย ในหน่วยเหล่านี้ ประธานสมาคมสงเคราะห์อาจช่วยบิดามารดาวางแผนการสอนเยาวชนและเด็ก

9.3.2.2

หน้าที่รับผิดชอบ

ประธานสมาคมสงเคราะห์มีหน้าที่รับผิดชอบดังต่อไปนี้ ที่ปรึกษาช่วยเหลือเธอ

  • รับใช้ในสภาวอร์ด เธอรับใช้ในฐานะ (1) สมาชิกของสภาผู้ช่วยดูแลความต้องการในวอร์ดและหาวิธีแก้ไข และ (2) ตัวแทนของสมาคมสงเคราะห์ (ดู 29.2.5)

  • นำสมาคมสงเคราะห์ให้พยายามมีส่วนร่วมในงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้า (ดู บทที่ 1)

  • จัดระบบและสอดส่องดูแลการรับใช้ของซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ ประสานงานมอบหมายการปฏิบัติศาสนกิจกับฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ โดยประชุมกันอย่างน้อยไตรมาสละครั้ง ขอให้อธิการอนุมัติงานมอบหมายการปฏิบัติศาสนกิจ จัดสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจอย่างน้อยไตรมาสละครั้ง ดู บทที่ 21

  • ปรึกษากับสมาชิกผู้ใหญ่ในวอร์ดภายใต้การนำทางของอธิการ (ดู 31.1 และ 31.3) เฉพาะอธิการจะให้คำปรึกษาสมาชิกวอร์ดเกี่ยวกับเรื่องของความมีค่าควร การกระทำทารุณกรรม และการอนุมัติให้ใช้เงินบริจาคอดอาหาร ดู แหล่งช่วยให้คำปรึกษา ดูข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำทารุณกรรมใน 38.6.2

    3:16
  • ร่วมมือกับฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ช่วยนำวอร์ดให้พยายามเชื้อเชิญทุกคนรับพรแห่งพระกิตติคุณ (ดู 8.2.3 และ 9.2.3)

  • ร่วมมือกับฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ช่วยนำงานพระวิหารและประวัติครอบครัวในวอร์ด (ดู 8.2.4 และ 9.2.4)

  • ประสานความพยายามของสมาคมสงเคราะห์เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้พี่น้องสตรีทั้งสาวโสดและแต่งงานแล้ว ที่ปรึกษาหนึ่งคนอาจได้รับมอบหมายให้รับใช้กับหนุ่มสาวโสด (ดู 14.1.2.2)

  • พบกับสมาชิกสมาคมสงเคราะห์เป็นรายบุคคลอย่างน้อยปีละครั้ง สนทนาเรื่องความเป็นอยู่ของพี่น้องสตรีและครอบครัวของเธอ

  • สอนพี่น้องสตรีถึงหน้าที่รับผิดชอบตามพันธสัญญาและพรของพวกเธอ รวมถึงพรที่มาจากอํานาจฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้า (ดู 3.5 และ 3.6) ช่วยให้พวกเธอเข้าใจพลัง ความคุ้มครอง การนําทาง ปีติ และสันติสุขที่มาจากการพัฒนาความสัมพันธ์ตามพันธสัญญากับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์

  • สอดส่องดูแลและช่วยปรับปรุงการสอนในสมาคมสงเคราะห์ (ดู บทที่ 17)

  • วางแผนและดำเนินการประชุมสมาคมสงเคราะห์

  • สอดส่องดูแลกิจกรรมสมาคมสงเคราะห์ (ดู 9.2.1.3)

  • ช่วยเยาวชนหญิงเตรียมเข้าร่วมสมาคมสงเคราะห์ (ดู 9.4)

  • สอดส่องดูแลบันทึก รายงาน และการเงินของสมาคมสงเคราะห์ (ดู LCR.ChurchofJesusChrist.org) เลขานุการจะช่วยเหลือ (ดู 9.3.3)

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สเตคสอนฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์วอร์ดเกี่ยวกับหน้าที่รับผิดชอบเหล่านี้ พวกเธออาจสอนระหว่างการประชุมผู้นําสเตค การประชุมฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์วอร์ด และการเยี่ยมประธานสมาคมสงเคราะห์เป็นการส่วนตัว (ดู 29.3.4)

ประธานสมาคมสงเคราะห์วอร์ดสนับสนุนอธิการในการให้ความเอาใจใส่เยาวชนและหน้าที่รับผิดชอบจำเพาะของอธิการโดยผ่านการรับใช้ของเธอ

การประชุมสภาวอร์ด

9.3.2.3

การประชุมฝ่ายประธาน

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์และเลขานุการประชุมกันเป็นประจำ ประธานดำเนินการประชุมเหล่านี้ วาระการประชุมอาจได้แก่เรื่องต่อไปนี้:

  • วางแผนวิธีเสริมสร้างความเข้มแข็งให้พี่น้องสตรีและครอบครัวของพวกเธอ

  • วางแผนวิธีช่วยทำงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้าให้สำเร็จลุล่วง

  • ประสานงานเผยแผ่ศาสนากับงานพระวิหารและประวัติครอบครัว

  • ตอบรับคำแนะนำและงานมอบหมายจากอธิการ

  • ตอบรับงานมอบหมายจากการประชุมสภาวอร์ด

  • พิจารณางานมอบหมายการปฏิบัติศาสนกิจร่วมกับการสวดอ้อนวอน

  • ทบทวนข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ วางแผนวิธีค้นหาจุดแข็งและช่วยดูแลความต้องการ (ดู บทที่ 21)

  • พิจารณาให้พี่น้องสตรีรับใช้ในการเรียกและงานมอบหมายต่างๆ ของสมาคมสงเคราะห์

  • วางแผนการประชุมและกิจกรรมของสมาคมสงเคราะห์

9.3.3

เลขานุการ

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์อาจเสนอชื่อพี่น้องสตรีคนหนึ่งให้รับใช้เป็นเลขานุการสมาคมสงเคราะห์ สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการเรียกและเสนอชื่อเธอในการประชุมศีลระลึกเพื่อการสนับสนุน และวางมือมอบหน้าที่ให้เธอ

หน้าที่รับผิดชอบของเลขานุการได้แก่:

  • เตรียมวาระการประชุมฝ่ายประธานและการประชุมสมาคมสงเคราะห์

  • จดบันทึกการประชุมและติดตามงานมอบหมาย

  • จัดตารางเวลาการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ (ดู 21.3)

  • เตรียมและส่งรายงานจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมและจำนวนการจัดสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจประจำไตรมาส รายงานการเข้าร่วมควรรวมพี่น้องสตรีที่รับใช้ในปฐมวัยและเยาวชนหญิงด้วย

  • ช่วยเตรียมงบประมาณประจำปีและจดบันทึกค่าใช้จ่าย

9.3.4

การเรียกและงานมอบหมายเพิ่มเติม

การเรียกเพิ่มเติมต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์ อธิการและประธานสมาคมสงเคราะห์สนทนากันว่าจำเป็นต้องมีการเรียกเหล่านี้หรือไม่

  • ครูสมาคมสงเคราะห์เพื่อสอนในการประชุมวันอาทิตย์

  • ผู้ประสานงานการรับใช้เพื่อช่วยวางแผนและดำเนินการรับใช้คนขัดสน (ดู 9.2.2.2) อาจเรียกผู้ช่วยและสมาชิกคณะกรรมการด้วย

  • ผู้ประสานงานกิจกรรมเพื่อช่วยวางแผนและดำเนินกิจกรรมสมาคมสงเคราะห์ (ดู 9.2.1.3) อาจเรียกผู้ช่วยและสมาชิกคณะกรรมการด้วย

  • ผู้ช่วยเลขานุการเพื่อช่วยเลขานุการสมาคมสงเคราะห์

  • เลขานุการด้านการปฏิบัติศาสนกิจเพื่อจัดระบบการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจและช่วยเตรียมรายงานประจำไตรมาส

หากจำเป็นต้องมีการเรียกเหล่านี้หรือการเรียกอื่น ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์เสนอชื่อพี่น้องสตรีให้รับใช้ พวกเธอเสนอชื่อเหล่านี้ต่อฝ่ายอธิการ หากฝ่ายอธิการอนุมัติ สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายอธิการเรียกพวกเธอ เขาเสนอชื่อคนเหล่านั้นเพื่อการสนับสนุนในการประชุมศีลระลึกและวางมือมอบหน้าที่ให้

เมื่อจำเป็น ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์อาจมอบหมายให้พี่น้องสตรีช่วยงานสมาคมสงเคราะห์ในด้านอื่นๆ งานมอบหมายเหล่านี้อาจรวมถึงงานต่อไปนี้:

  • ช่วยให้เยาวชนหญิงก้าวหน้าเข้าสู่สมาคมสงเคราะห์

  • รับใช้เป็นผู้เชี่ยวชาญสําหรับพี่น้องสตรีที่มีสภาวการณ์จําเพาะ เช่น หญิงม่าย คนหนุ่มสาว หรือมารดาที่มีลูกเล็ก

พี่น้องสตรีที่มีงานมอบหมายระยะสั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการเรียกและการวางมือมอบหน้าที่

ชั้นเรียนสมาคมสงเคราะห์

9.4

การช่วยเยาวชนหญิงเตรียมเข้าร่วมสมาคมสงเคราะห์

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ทำงานกับเยาวชนหญิง บิดามารดาของพวกเธอ และผู้นำเยาวชนหญิงเพื่อช่วยเยาวชนหญิงเตรียมเข้าร่วมสมาคมสงเคราะห์

ผู้นำให้โอกาสเยาวชนหญิงและพี่น้องสตรีสมาคมสงเคราะห์ได้พัฒนาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง การรับใช้ด้วยกันในฐานะซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจเป็นวิธีเชื่อมความสัมพันธ์ที่มีค่าวิธีหนึ่ง

ผู้นำช่วยให้เยาวชนหญิงเข้าใจหน้าที่รับผิดชอบตามพันธสัญญาของพวกเธอ เมื่อการให้เยาวชนหญิงปฏิบัติศาสนกิจกับพี่น้องสตรีคนใดคนหนึ่งจะเป็นประโยชน์ เยาวชนหญิงอาจได้รับมอบหมายให้เป็นซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจเมื่อเธอเต็มใจ สามารถทำได้ และมีวุฒิภาวะ เธออาจได้รับมอบหมายตั้งแต่ปีที่อายุครบ 14 ปี เยาวชนหญิงรับใช้เป็นคู่กับพี่น้องสตรีสมาคมสงเคราะห์ (ดู 21.2.2)

เมื่อหญิงสาวเข้าร่วมสมาคมสงเคราะห์ ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์เปิดโอกาสให้พวกเธอรับใช้และแบ่งปันความเข้มแข็งของพวกเธอ ฝ่ายประธานช่วยพวกเธอเตรียมทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ของพระวิหารด้วย (ดู 27.1.1)

9.5

ผู้นำสมาคมสงเคราะห์สเตค

ประธานสเตคเรียกและวางมือมอบหน้าที่ให้พี่น้องสตรีคนหนึ่งรับใช้เป็นประธานสมาคมสงเคราะห์สเตค หากสเตคใหญ่พอ เธอเสนอชื่อสตรีหนึ่งหรือสองคนให้รับใช้เป็นที่ปรึกษาและอีกหนึ่งคนรับใช้เป็นเลขานุการ สตรีเหล่านี้ได้รับการเรียกและการวางมือมอบหน้าที่โดยสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานสเตคหรือสมาชิกสภาสูงที่เขามอบหมาย ดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่รับผิดชอบของฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สเตคและเลขานุการใน 6.7.1 และ 6.7.3

ประธานสเตคประชุมเป็นประจำ (อย่างน้อยเดือนละครั้ง) กับประธานหรือฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สเตค พวกเขาหารือกันเกี่ยวกับงานแห่งความรอดและความสูงส่งของพระผู้เป็นเจ้า นอกจากนี้ยังสนทนาเรื่อง (1) ความก้าวหน้าและความต้องการของพี่น้องสตรีในสเตค และ (2) การประชุม การสอน และกิจกรรมสมาคมสงเคราะห์

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สเตคสอนฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์วอร์ดในหน้าที่รับผิดชอบที่พวกเธอมีต่อการปฏิบัติศาสนกิจ งานเผยแผ่ศาสนา และงานพระวิหารและประวัติครอบครัว พวกเธอสอนภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานสเตค สมาชิกสภาสูงได้รับมอบหมายให้ช่วย ดู 23.1 และ 25.2

หากสเตคมีคณะกรรมการหนุ่มสาวโสด สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายสมาคมสงเคราะห์สเตครับใช้ในคณะกรรมการ และอีกคนหนึ่งรับใช้ในคณะกรรมการผู้ใหญ่โสดหากสเตคมี (ดู 14.1.1.2)

หญิงสองคนยิ้ม

9.6

แนวทางและนโยบายเพิ่มเติม

9.6.1

สมาชิกพิการ

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ดูแลเอาใจใส่สมาชิกพิการเป็นพิเศษ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยสมาชิกเหล่านี้ใน disability.ChurchofJesusChrist.org; ดู 38.8.27 ในคู่มือนี้ด้วย

9.6.2

การอ่านออกเขียนได้

เมื่อจำเป็นฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ทำงานกับอธิการ ฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ และสภาวอร์ดเพื่อช่วยสมาชิกหัดอ่านเขียน