คู่มือและการเรียก
5. การเป็นผู้นำระดับสามัญและระดับภาค


“5. การเป็นผู้นำระดับสามัญและระดับภาค” คู่มือทั่วไป: การรับใช้ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (2021)

“5. การเป็นผู้นำระดับสามัญและระดับภาค” คู่มือทั่วไป: การรับใช้ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย

ภาพ
ฝ่ายประธานสูงสุด

5.

การเป็นผู้นำระดับสามัญและระดับภาค

5.0

บทนำ

พระเยซูคริสต์ทรงเป็น “ศิลาหัวมุม” ของศาสนจักรของพระองค์ (เอเฟซัส 2:20) พระองค์ทรงถือกุญแจฐานะปุโรหิตทั้งหมด ทรงเรียกอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ให้ช่วยเหลือพระองค์ในงานแห่งความรอดและความสูงส่ง พระองค์ทรงประสาทกุญแจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลกในปัจจุบันให้ผู้รับใช้ที่พระองค์ทรงเลือก (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:12–13; ดู 3.4.1 ในคู่มือนี้ด้วย)

พระเจ้าทรงเรียกชายสู่ตำแหน่งสาวกเจ็ดสิบให้ช่วยเหลืองานของพระองค์ทั่วโลกโดยผ่านศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:38) นอกจากนี้ฝ่ายอธิการควบคุม เจ้าหน้าที่ระดับสามัญ และผู้นำชายหญิงคนอื่นๆ ยังได้รับหน้าที่รับผิดชอบสำคัญๆ ให้ช่วยงานเช่นกัน

บทนี้พูดถึงบทบาทของผู้นำระดับสามัญและระดับภาคในศาสนจักร

5.1

การเป็นผู้นำศาสนจักรระดับสามัญ

การเป็นผู้นำระดับสามัญของศาสนจักรครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่และเจ้าหน้าที่ระดับสามัญทั้งหมด คำว่า สามัญ บ่งบอกว่าสิทธิอำนาจและหน้าที่รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการเรียกไม่จำกัดตามอาณาเขตภูมิศาสตร์ ผู้ดำรงการเรียกเหล่านี้นำ สอน และปฏิบัติศาสนกิจต่อสมาชิกศาสนจักรทั่วโลก

หมวดนี้สรุปบทบาทของเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ เจ้าหน้าที่ระดับสามัญ สภาและคณะกรรมการที่พวกท่านรับใช้

5.1.1

เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่

5.1.1.1

ฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสอง

ประธานศาสนจักร ตั้งแต่โบราณกาลพระเจ้าทรงนำผู้คนของพระองค์ผ่านศาสดาพยากรณ์ (ดู อาโมส 3:7; เอเฟซัส 4:11–13) ประธานศาสนจักรคือศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผย ท่านเป็นอัครสาวกอาวุโสเช่นกัน ท่านเป็นประธานควบคุมศาสนจักรภายใต้การกำกับดูแลของพระเจ้าและเป็นคนเดียวบนแผ่นดินโลกที่ได้รับมอบอำนาจให้ใช้กุญแจฐานะปุโรหิตทั้งหมด (ดู มัทธิว 16:16–19; ดู 3.4.1.1 ในคู่มือนี้ด้วย) ท่านมีสิทธิอำนาจที่จะรับการเปิดเผยและประกาศพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับทั้งศาสนจักร (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 43:2–3; 107:91–92; 128:11)

ฝ่ายประธานสูงสุด พระเจ้าทรงเรียกที่ปรึกษาผ่านประธานศาสนจักรให้ช่วยเหลืองาน ประธานและที่ปรึกษาเป็น “มหาปุโรหิตควบคุมสามคน … [ผู้] ประกอบเป็นโควรัมฝ่ายประธานสูงสุดของศาสนจักร” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:22) โควรัมนี้เรียกว่าฝ่ายประธานสูงสุด สมาชิกในฝ่ายประธานสูงสุดคืออัครสาวกและเป็น “พยานพิเศษ” ถึงพระนามของพระเยซูคริสต์เช่นกัน (หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:23) ฝ่ายประธานสูงสุดควบคุมและกำกับดูแลกิจจานุกิจทั้งหมดของศาสนจักร

เปโตร ยากอบ และยอห์นรับบทบาทนี้ในศาสนจักรสมัยโบราณ พวกท่านอยู่กับพระผู้ช่วยให้รอดในโอกาสศักดิ์สิทธิ์หลายครั้งและได้รับกุญแจของอาณาจักร (ดู มัทธิว 16:18–19; 17:1–5; มาระโก 14:32–42; หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:12–13; 81:1–2)

เมื่อประธานศาสนจักรถึงแก่กรรม ฝ่ายประธานสูงสุดจะถูกยุบ ที่ปรึกษากลับสู่ตำแหน่งตามลำดับอาวุโสในโควรัมอัครสาวกสิบสอง โควรัมอัครสาวกสิบสองนำศาสนจักรภายใต้การกำกับดูแลของอัครสาวกอาวุโสสูงสุด ในฐานะโควรัมพวกท่านพิจารณาว่าควรจัดตั้งฝ่ายประธานสูงสุดชุดใหม่เมื่อใด หลังจากลงมติเป็นเอกฉันท์แล้ว อัครสาวกอาวุโสสูงสุดจะได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศาสนจักรคนใหม่และเรียกที่ปรึกษาของท่าน

โควรัมอัครสาวกสิบสอง ในสมัยโบราณพระเยซูคริสต์ทรงเรียกอัครสาวกสิบสองให้ช่วยนำศาสนจักรของพระองค์ (ดู ลูกา 6:12–13; เอเฟซัส 4:11–13; 1 นีไฟ 13:40) ในปัจจุบันพระเจ้าทรงเรียกชายหลายคนผ่านประธานศาสนจักรให้รับการแต่งตั้งเป็นอัครสาวกและรับใช้ในโควรัมอัครสาวกสิบสอง (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:26–28) โควรัมนี้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานสูงสุดเพื่อเสริมสร้างและดูแลศาสนจักรในประชาชาติทั้งปวง (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:33) สมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองประกาศพระกิตติคุณไปทั่วโลก (ดู มัทธิว 28:19–20; หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:35)

อัครสาวกแต่ละท่านถือกุญแจทั้งหมดของอาณาจักรและใช้กุญแจเหล่านั้นภายใต้การกำกับดูแลของประธานศาสนจักร (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 112:30–32) อัครสาวกสิบสองเป็น “พยานพิเศษ” ถึงพระนามของพระเยซูคริสต์ (หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:23; ดู 27:12 ด้วย) พวกท่านเป็นพยานต่อคนทั้งโลกถึงความเป็นพระเจ้าของพระองค์และความเป็นจริงของการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ (ดู กิจการ 1:8, 22; 4:33; หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:22–24)

อัครสาวกรับใช้เต็มเวลาในศาสนจักรตลอดชีวิตที่เหลือ (ดู มัทธิว 4:18–22)

สภาของฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสอง สมาชิกทุกท่านในฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองคือศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผย พวกท่านประกอบกันเป็นสภาของฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสอง สภานี้มีสิทธิอำนาจในการประกาศและตีความหลักคำสอนและวางนโยบายสำหรับศาสนจักรภายใต้การทรงนำของพระเจ้าและโดยเสียงเอกฉันท์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:38; 107:27–31)

ภาพ
ฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสอง

5.1.1.2

สาวกเจ็ดสิบ

ตำแหน่งสาวกเจ็ดสิบในฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเด็คถูกกล่าวถึงทั้งในพันธสัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่ (ดู อพยพ 24:1, 9–10; กันดารวิถี 11:16–17, 24–25; ลูกา 10:1, 17) ปัจจุบันมีสาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่และสาวกเจ็ดสิบภาค (ดู 6.2.2) พวกท่านปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กุญแจและการกำกับดูแลของโควรัมอัครสาวกสิบสอง และช่วยเหลืออัครสาวกสิบสองในการเสริมสร้างและดูแลศาสนจักรในประชาชาติทั้งปวง (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:34–35, 38)

ฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบ สมาชิกเจ็ดท่านในสาวกเจ็ดสิบได้รับเรียกให้เป็นประธานเหนือสมาชิกทั้งหมดของโควรัมสาวกเจ็ดสิบ หนึ่งในประธานเจ็ดท่านได้รับเลือกเป็นประธานควบคุมอีกหกท่าน ทั้งเจ็ดท่านประกอบเป็นฝ่ายประธานสาวกเจ็ดสิบ (ดู กิจการ 6:2–6; หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:93–94; 124:138)

สาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ สาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ได้รับเรียกโดยฝ่ายประธานสูงสุดให้เป็นพยานพิเศษผู้กล่าวคำพยานถึงพระนามของพระเยซูคริสต์และสอนพระกิตติคุณไปทั่วโลก (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:25; 124:139)

สาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่รับใช้เต็มเวลาในศาสนจักร โดยปกติจะพ้นจากหน้าที่ในปีที่พวกท่านอายุครบ 70 ปีและได้รับสถานะเกียรติคุณ แม้พวกท่านยังอยู่ในตำแหน่งสาวกเจ็ดสิบแต่จะไม่เป็นประธานในการประชุมอีกต่อไป

โควรัมสาวกเจ็ดสิบ สมาชิกโควรัมสาวกเจ็ดสิบ รวมทั้งสาวกเจ็ดสิบภาค ได้รับการจัดกลุ่มเป็นโควรัม ฝ่ายประธานสาวกเจ็ดสิบเป็นประธานเหนือโควรัมเหล่านี้ จำนวนสมาชิกของสาวกเจ็ดสิบและโควรัมสาวกเจ็ดสิบจะเพิ่มตามการเติบโตของศาสนจักร (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:95–96; 124:138–139)

5.1.1.3

ฝ่ายอธิการควบคุม

ฝ่ายอธิการควบคุมประกอบด้วยอธิการควบคุมและที่ปรึกษาสองท่าน สมาชิกแต่ละท่านในฝ่ายอธิการควบคุมเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่และดำรงตำแหน่งอธิการ พวกท่านได้รับเรียกโดยฝ่ายประธานสูงสุดและทำงานภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานสูงสุด

ฝ่ายอธิการควบคุมบริหารเรื่องทางโลกเช่นสวัสดิการ การเงิน สิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพ และงานมนุษยธรรมสำหรับทั้งศาสนจักร (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:68) อีกทั้งสอนพระกิตติคุณและเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าทั่วโลกด้วย

5.1.2

เจ้าหน้าที่ระดับสามัญ

ฝ่ายประธานสูงสุดเรียกหญิงและชายเพื่อตั้งเป็นฝ่ายประธานระดับสามัญขององค์การศาสนจักรต่อไปนี้:

  • สมาคมสงเคราะห์

  • เยาวชนชาย

  • เยาวชนหญิง

  • ปฐมวัย

  • โรงเรียนวันอาทิตย์

เจ้าหน้าที่ระดับสามัญเหล่านี้รับใช้ภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานสูงสุด โควรัมอัครสาวกสิบสอง และสาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับมอบหมาย และปกติรับใช้นานห้าปี

เจ้าหน้าที่ระดับสามัญจะมีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้:

  • สอนและเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์

  • รับใช้เป็นสมาชิกของสภาและคณะกรรมการระดับสามัญของศาสนจักรตามที่ได้รับมอบหมาย (ดู 5.1.3)

  • ทำงานมอบหมายให้ปฏิบัติศาสนกิจต่อสมาชิกทั่วโลก

  • ให้แนวทางสำหรับหลักสูตร โปรแกรม และแหล่งช่วยสำหรับองค์การของพวกเขา

  • ให้แนวทางแก่สภาองค์การระดับสามัญของพวกเขา (ดูย่อหน้าถัดไป)

  • สอนหน้าที่และสนับสนุนผู้ให้คำปรึกษาองค์การระดับภาคที่รับใช้ภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานภาค (ดู 5.2.5.1)

องค์การระดับสามัญแต่ละองค์การจะมีสภาคอยช่วยเหลือฝ่ายประธาน สมาชิกของสภาเหล่านี้ได้รับเรียกโดยเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ ในสหรัฐและแคนาดา สมาชิกสภาเหล่านี้จะช่วยปฐมนิเทศฝ่ายประธานองค์การระดับสเตคชุดใหม่ (ดู 6.2.1.6) นอกสหรัฐและแคนาดา ผู้ให้คำปรึกษาองค์การระดับภาคจะช่วยให้การปฐมนิเทศดังกล่าว (ดู 5.2.5.1)

ภาพ
ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญ

5.1.3

สภาและคณะกรรมการระดับสามัญของศาสนจักร

สภาและคณะกรรมการระดับสามัญของศาสนจักรให้การนำและการกำกับดูแลงานแห่งความรอดและความสูงส่งเฉพาะส่วน ตัวอย่างของสภาและคณะกรรมการเหล่านี้มีดังต่อไปนี้:

  • สภาบริหารฐานะปุโรหิตและครอบครัว

  • คณะกรรมการบริหารสวัสดิการและการพึ่งพาตนเอง

  • สภาบริหารผู้สอนศาสนา

  • สภาบริหารพระวิหารและประวัติครอบครัว

สมาชิกของสภาและคณะกรรมการเหล่านี้ได้รับมอบหมายจากฝ่ายประธานสูงสุด ซึ่งอาจรวมถึง:

  • สมาชิกในโควรัมอัครสาวกสิบสอง

  • สาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่

  • สมาชิกในฝ่ายอธิการควบคุม

  • สมาชิกในฝ่ายประธานสามัญของสมาคมสงเคราะห์ เยาวชนหญิง หรือปฐมวัย

5.2

การเป็นผู้นำระดับภาค

ศาสนจักรจัดตั้งตามภาคพื้นภูมิศาสตร์ครอบคลุมทั้งโลก หมวดนี้สรุปการเป็นผู้นำของศาสนจักรในภาคต่อไปนี้

5.2.1

ฝ่ายประธานภาค

ในแต่ละภาค สาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้รับมอบหมายจากฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองให้รับใช้เป็นประธานภาค ที่ปรึกษาสองท่านผู้เป็นสาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่หรือสาวกเจ็ดสิบภาคได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือประธาน

ฝ่ายประธานภาคเป็นประธานเหนือประธานสเตคและประธานคณะเผยแผ่ในภาคและปรึกษากับประธานเหล่านั้น ตลอดจนสนับสนุนประธานพระวิหารและภรรยาด้วย ในการหารือกับสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองและฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบผู้รับรายงาน ฝ่ายประธานภาคคิดหาวิธีนำนโยบายทั่วไปและคำแนะนำของศาสนจักรมาใช้ตอบสนองความต้องการในภาคของพวกเขา

สมาชิกในฝ่ายประธานภาคเดินทางภายในภาคที่มอบหมายเพื่อปฏิบัติศาสนกิจ สอน และให้กำลังใจผู้นำระดับท้องที่ ผู้สอนศาสนา และสมาชิกศาสนจักร พวกท่านได้รับมอบหมายจากโควรัมอัครสาวกสิบสองให้เป็นประธานที่การประชุมใหญ่สเตคและการประชุมอื่นๆ ด้วย

5.2.2

สาวกเจ็ดสิบภาค

สาวกเจ็ดสิบภาคได้รับเรียกโดยฝ่ายประธานสูงสุดให้เป็นพยานพิเศษผู้กล่าวคำพยานถึงพระนามของพระเยซูคริสต์และสอนพระกิตติคุณในภาคที่มอบหมาย (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:25; 124:139) สาวกเจ็ดสิบภาคทำงานภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานภาค เพื่อช่วยเหลืออัครสาวกสิบสองในการเสริมสร้างและดูแลศาสนจักรในภาคของพวกเขา

สาวกเจ็ดสิบภาคจะไม่ได้รับเรียกให้รับใช้เต็มเวลา ปกติจะรับใช้นานห้าปี และมักจะได้รับมอบหมายให้รับใช้ในภาคพื้นภูมิศาสตร์ที่ตนอาศัยอยู่ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:38, 98) สาวกเจ็ดสิบภาคได้รับการสนับสนุนในการประชุมใหญ่สามัญ

แต่ละท่านเป็นสมาชิกในโควรัมหนึ่งของสาวกเจ็ดสิบ โควรัมเหล่านี้จัดกลุ่มตามภูมิศาสตร์ ในฐานะสมาชิกของโควรัมเหล่านี้ สาวกเจ็ดสิบภาคจึงมีฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบเป็นประธานเหนือพวกเขา

สาวกเจ็ดสิบภาคทำงานและปรึกษากับผู้นำระดับท้องที่เพื่อช่วยผู้นำเหล่านี้ทำหน้าที่รับผิดชอบให้ลุล่วง สาวกเจ็ดสิบภาคอาจได้รับมอบหมายให้:

  • รับใช้ในสภาภาค (ดู 5.2.3)

  • เป็นประธานที่การประชุมสภาประสานงาน (ดู 5.2.4)

  • เป็นประธานที่การประชุมใหญ่สเตคและสอนหน้าที่ให้ผู้นำระดับสเตค

  • ก่อตั้งหรือจัดตั้งสเตคใหม่ วางมือมอบหน้าที่ให้ฝ่ายประธานสเตคชุดใหม่ และประสาทกุญแจให้ประธานสเตค

  • ประสานหน้าที่รับผิดชอบทั่วภาค รวมทั้งกิจกรรม (ดู 20.3.3), JustServe.org (หากมี) การฟื้นฟูภัยพิบัติ หรืองานมอบหมายอื่นๆ

  • เดินทางไปคณะเผยแผ่ต่างๆ และสอนหน้าที่ให้ผู้นำคณะเผยแผ่และผู้สอนศาสนา

  • รับใช้เป็นที่ปรึกษาในฝ่ายประธานภาค

สาวกเจ็ดสิบภาคเป็นประธานที่การประชุมทั้งหมดของศาสนจักรที่พวกเขาเข้าร่วมภายในภาคเว้นแต่เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่อยู่ แต่จะไม่ควบคุมงานวันต่อวันของประธานพระวิหาร ประธานคณะเผยแผ่ หรือประธานสเตค ประธานเหล่านี้รับใช้ภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานภาค

5.2.3

สภาภาค

ในแต่ละภาค สภาภาคประชุมตามต้องการ (ปกติไตรมาสละครั้ง) เพื่อประสานงานแห่งความรอดและความสูงส่งในภาค ฝ่ายประธานภาคเป็นประธานควบคุมสภาภาค สภานี้ประกอบด้วยฝ่ายประธานภาคและสาวกเจ็ดสิบภาคที่รับใช้ในภาค คนอื่นๆ อาจเข้าร่วมการประชุมสภาบางส่วนหรือทั้งหมดเมื่อจำเป็นหรือเมื่อฝ่ายประธานภาคเชิญ

จุดประสงค์ของการประชุมสภาภาคได้แก่:

  • ทบทวนและปรึกษากันเกี่ยวกับวิธีทำให้คำแนะนำจากผู้นำศาสนจักรเกิดผลตามความต้องการและสภาวการณ์ของภาค

  • ปรึกษากันเกี่ยวกับความก้าวหน้าของงานแห่งความรอดและความสูงส่งในภาค

  • ประเมินความก้าวหน้าของโครงการเฉพาะภาค

  • ดูแลเรื่องอื่นๆ ในภาค

5.2.4

สภาประสานงาน

ฝ่ายประธานภาคจัดตั้งสภาประสานงาน แต่ละสภาประกอบด้วยสเตคและคณะเผยแผ่ที่กำหนดให้ในภาค ฝ่ายประธานภาคมอบหมายให้สาวกเจ็ดสิบภาคคนหนึ่งนำแต่ละสภา

ประธานสเตคและประธานคณะเผยแผ่เข้าร่วมการประชุมสภาประสานงาน ประธานพระวิหารที่ท้องถิ่นพระวิหารอยู่ภายในอาณาเขตของสภาประสานงานได้รับเชิญให้เข้าร่วมเมื่อมาร่วมได้

คนอื่นๆ อาจเข้าร่วมการประชุมบางส่วนหรือทั้งหมดเมื่อจำเป็นหรือเมื่อสาวกเจ็ดสิบภาคเชิญ สาวกเจ็ดสิบภาคคำนึงถึงระยะทาง สภาวการณ์ครอบครัว และการเดินทางเมื่อทำการเชื้อเชิญเหล่านี้

จุดประสงค์ของการประชุมสภาประสานงานคือช่วยเหลือประธานสเตค ประธานคณะเผยแผ่ และประธานพระวิหารใช้กุญแจฐานะปุโรหิตในความเป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเขาปรึกษากันเกี่ยวกับงานต่างๆ และประสานงานเพื่อช่วยเหลือสมาชิกทำหน้าที่รับผิดชอบต่องานแห่งความรอดและความสูงส่ง

สาวกเจ็ดสิบภาคเรียกประชุมสภาประสานงานทันทีหลังการประชุมสภาภาคประจำไตรมาสแต่ละครั้ง อาจจัดการประชุมเพิ่มเติมเมื่อจำเป็น

สาวกเจ็ดสิบภาคกำกับดูแลการประชุมและอำนวยความสะดวกในการสนทนา ทุกคนที่เข้าร่วมปรึกษากันในฐานะผู้เข้าร่วมที่เท่าเทียมกัน

ในการประชุมเหล่านี้ ผู้เข้าร่วม:

  • แสวงหาการเปิดเผยว่าจะทำให้คำสอนและคำแนะนำของฝ่ายประธานสูงสุด โควรัมอัครสาวกสิบสอง และฝ่ายประธานภาคเกิดผลดีที่สุดได้อย่างไร

  • ประสานงานแห่งความรอดและความสูงส่ง

  • ปรึกษากันเกี่ยวกับสวัสดิภาพทางโลกและทางวิญญาณของสมาชิกและวิธีช่วยให้สมาชิกเป็นผู้ติดตามที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์

  • สอนหน้าที่และจรรโลงใจกัน

  • ประสานงานเรื่องต่างๆ ระดับพหุสเตค เรื่องเหล่านี้อาจได้แก่ กิจกรรมต่างๆ (ดู 20.3.3) การพยายามสร้างการพึ่งพาตนเองและรับใช้ชุมชน (ดู 22.10.1) การพยายามรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน (ดู 22.9.1.3) การเงินและการตรวจสอบบัญชี (ดู 34.7)

5.2.5

การเรียกระดับภาค

ฝ่ายประธานภาคจะเรียกสมาชิกให้รับใช้ในการเรียกต่างๆ ระดับภาคเพื่อช่วยเหลือฝ่ายประธานภาคในหน้าที่รับผิดชอบของตน คนที่รับใช้ในตำแหน่งเหล่านี้ได้รับเรียกและวางมือมอบหน้าที่โดยสมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานภาคหรือสาวกเจ็ดสิบภาคที่ได้รับมอบหมาย พวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุน

ตัวอย่างการเรียกระดับภาคอาจได้แก่ เลขาธิการภาค ผู้ตรวจสอบบัญชีภาค ผู้อำนวยการสื่อสารภาค ผู้ให้คำปรึกษาพระวิหารและประวัติครอบครัวภาค และผู้ให้คำปรึกษาองค์การระดับภาค

5.2.5.1

ผู้ให้คำปรึกษาองค์การระดับภาค

นอกสหรัฐและแคนาดา ฝ่ายประธานภาคอาจเรียกสตรีให้รับใช้เป็นผู้ให้คำปรึกษาองค์การระดับภาค ผู้ให้คำปรึกษาเหล่านี้จะช่วยปฐมนิเทศและสอนหน้าที่ให้ฝ่ายประธานชุดใหม่ของสมาคมสงเคราะห์ เยาวชนหญิง และปฐมวัยสเตคภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานสเตคของผู้นำเหล่านี้ (ดู 6.2.1.6) สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานสเตคหรือสมาชิกสภาสูงที่ได้รับมอบหมายเข้าร่วมในการปฐมนิเทศนี้

ผู้ให้คำปรึกษาระดับภาครับใช้ภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานภาค อีกทั้งรับการสอนหน้าที่เป็นประจำจากฝ่ายประธานองค์การระดับสามัญด้วย ปกติจะรับใช้นานสามถึงห้าปี