คู่มือและการเรียก
20. กิจกรรม


“20. กิจกรรม” คู่มือทั่วไป: การรับใช้ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (2020)

“20. กิจกรรม” คู่มือทั่วไป

ภาพ
เยาวชนหญิงกับเครื่องฉีดน้ำ

20.

กิจกรรม

20.1

จุดประสงค์

กิจกรรมศาสนจักรนำสมาชิกศาสนจักรและคนอื่นๆ มารวมกลุ่มกันในฐานะ “พลเมืองเดียวกันกับบรรดาธรรมิกชน” (เอเฟซัส 2:19) จุดประสงค์สำหรับกิจกรรมอาจได้แก่:

  • สร้างศรัทธาในพระเยซูคริสต์

  • ให้ความสนุกสนานและส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวกัน

  • ให้โอกาสแต่ละคนเติบโต

  • เสริมสร้างความเข้มแข็งให้บุคคลและครอบครัว

  • ช่วยให้สมาชิกมีส่วนในงานแห่งความรอดและความสูงส่ง (ดู 1.2)

ตัวอย่างกิจกรรมศาสนจักรมีดังนี้:

  • การรับใช้ที่เป็นพรแก่ผู้อื่นและสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน

  • งานเผยแผ่ศาสนา งานพระวิหาร และงานประวัติครอบครัว

  • โอกาสพัฒนาการพึ่งพาตนเองและทักษะการเป็นผู้นำ

  • การศึกษาและการฝึกอาชีพ

  • กิจกรรมกลางแจ้ง

  • โอกาสพัฒนาพรสวรรค์และความนิยมชมชอบในศิลปวัฒนธรรม

  • กีฬาและสมรรถภาพทางกาย

  • งานฉลองโอกาสพิเศษต่างๆ เช่นวันหยุดนักขัตฤกษ์หรืองานประวัติศาสตร์ของศาสนจักรและระดับท้องที่

ตามที่ใช้ในคู่มือนี้ คำว่า กิจกรรมศาสนจักร หมายถึงกิจกรรมที่หน่วย โควรัม หรือองค์การของศาสนจักรอุปถัมภ์

20.2

การวางแผนกิจกรรม

ก่อนวางแผนกิจกรรม ผู้นำพึงพิจารณาความต้องการทางวิญญาณและทางโลกของสมาชิก ผู้นำแสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณเมื่อตัดสินใจว่ากิจกรรมแบบใดจะช่วยตอบสนองความต้องการเหล่านั้น

20.2.1

หน้าที่รับผิดชอบด้านการวางแผนกิจกรรม

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนกิจกรรมสเตคและพหุสเตคใน 20.3

วอร์ดสามารถวางแผนกิจกรรมในวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้ตามความต้องการในท้องที่:

  • สภาวอร์ดอาจสอดส่องดูแลการวางแผน

  • สภาวอร์ดอาจมอบหมายให้องค์การใดองค์การหนึ่งช่วยวางแผนกิจกรรมหนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้น

  • เมื่อจำเป็นและหากมีสมาชิกมากพอ ฝ่ายอธิการจะจัดตั้งคณะกรรมการกิจกรรมวอร์ด และอาจเรียกเยาวชนเป็นสมาชิกคณะกรรมการ คณะกรรมการชุดนี้ทำงานภายใต้การกำกับดูแลของสภาวอร์ด สภาวอร์ดมอบหมายให้สมาชิกสภาหนึ่งคนติดต่อกับคณะกรรมการกิจกรรมเป็นประจำ

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนกิจกรรมเยาวชนวอร์ดใน 10.2.1.3 และ 11.2.1.3

20.2.2

การเชื้อเชิญให้ทุกคนมีส่วนร่วม

คนวางแผนกิจกรรมควรติดต่อทุกคนโดยเฉพาะสมาชิกใหม่ สมาชิกแข็งขันน้อย เยาวชน คนโสด คนพิการ และคนที่นับถือศาสนาอื่น คนวางแผนควรรับรู้ขีดจำกัดทางกายของผู้เข้าร่วม อีกทั้งรับรู้ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและภาษาด้วย

คนวางแผนกิจกรรมหาวิธีให้ผู้เข้าร่วมได้มีส่วนร่วม ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจเชิญสมาชิกและคนอื่นๆ ให้ใช้ทักษะและพรสวรรค์ในกิจกรรม

แม้การเข้าร่วมกิจกรรมจะเป็นพรแต่ไม่ควรทำให้สมาชิกรู้สึกถูกบังคับให้เข้าร่วมทุกกิจกรรม กิจกรรมไม่ควรสร้างภาระให้กับผู้นำและสมาชิกมากเกินควร

20.2.3

มาตรฐาน

กิจกรรมศาสนจักรควรยกระดับจิตใจและเน้นสิ่งที่เป็น “คุณธรรม, งดงาม, หรือกล่าวขวัญกันว่าดี หรือควรค่าแก่การสรรเสริญ” (หลักแห่งความเชื่อ 1:13) กิจกรรมจะไม่มีสิ่งใดขัดกับคำสอนของศาสนจักร และจะไม่มีสื่อหรือความบันเทิงอื่นที่ทำให้ดูเหมือนศาสนจักรยอมรับสิ่งที่ไม่เหมาะสมได้

ไม่อนุญาตให้ใช้สารผิดกฎพระคำแห่งปัญญาที่กิจกรรมศาสนจักรหรืออาณาบริเวณศาสนจักร คนที่เมาสุราหรือยาเสพติดจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมศาสนจักร หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ให้ผู้นำตอบสนองอย่างเห็นอกเห็นใจ

20.2.4

ความสมดุลและความหลากหลาย

ผู้นำวางแผนกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการรับใช้ ศิลปวัฒนธรรม และกิจกรรมทางกายให้สมดุล (ดู 20.1) สมาชิกควรมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมที่ตนสนใจ ทั้งควรสนับสนุนกิจกรรมที่คนอื่นๆ สนใจด้วย

หมวดต่อไปนี้ให้ตัวอย่างของกิจกรรมที่ดี

20.2.4.1

การรับใช้

กิจกรรมการรับใช้เปิดโอกาสให้แสดงความรักต่อผู้อื่น รู้สึกปีติยินดีที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น และทำให้ชุมชนน่าอยู่ขึ้น

กิจกรรมเหล่านี้จะรวมถึงการไปเยี่ยมคนเจ็บป่วยหรือคนโดดเดี่ยว การทำให้อาคารศาสนจักรและบริเวณรอบอาคารสวยงาม และการมีส่วนร่วมในโครงการต่างๆ ของชุมชน หากมี JustServe.org เสนอโอกาสให้รับใช้ชุมชน

กิจกรรมการรับใช้ควรทำตามแนวทางความปลอดภัย (ดู 20.7.6.1)

20.2.4.2

ศิลปวัฒนธรรม

กิจกรรมศิลปวัฒนธรรมเปิดโอกาสให้สมาชิกได้พัฒนาและแบ่งปันพรสวรรค์ของตน กิจกรรมเหล่านี้บ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ ความมั่นใจ และความร่วมแรงร่วมใจ กิจกรรมอาจได้แก่การแสดงงานศิลปะและงานฝีมือ การแสดงพรสวรรค์ หรือการเต้นรำ ดนตรี และละคร รวมถึงงานฉลองทางวัฒนธรรม วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือประวัติศาสนจักรโดยรวมหรือระดับท้องที่ด้วย

ภาพ
ผู้หญิงกำลังเย็บผ้า

20.2.4.3

นันทนาการ สุขภาพ สมรรถภาพทางกาย และกีฬา

ศาสนจักรสนับสนุนสมาชิกแต่ละคน ครอบครัว และกลุ่มให้เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและสมรรถภาพทางกาย ผู้นำสามารถวางแผนกิจกรรมนันทนาการบางอย่างของศาสนจักรให้ครอบครัวเข้าร่วมด้วยกันได้

ดูข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมกีฬาใน 20.5.9

20.2.5

การจัดเวลากิจกรรม

ผู้นำควรวางแผนกิจกรรมศาสนจักรล่วงหน้านานพอสมควร และควรแจ้งบิดามารดาทุกครั้งที่จัดกิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน

ควรจัดกิจกรรมในเวลาที่เหมาะสม และจบเร็วพอที่ผู้เข้าร่วมจะเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย

หากจะจัดกิจกรรมที่อาคารประชุมหรือสถานที่อีกแห่งของศาสนจักร ควรจองสถานที่ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้ตรงกับกิจกรรมหรือการประชุมอื่น

คืนวันจันทร์สงวนไว้สำหรับกิจกรรมครอบครัว (ดู 20.5.3)

20.2.6

เงินทุนสำหรับกิจกรรม

กิจกรรมส่วนใหญ่ควรเรียบง่ายและมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ฝ่ายอธิการหรือฝ่ายประธานสเตคต้องอนุมัติค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

โดยปกติสมาชิกจะไม่จ่ายเงินเข้าร่วมกิจกรรม ดูนโยบายและแนวทางเกี่ยวกับเงินทุนกิจกรรมใน 20.6

20.3

กิจกรรมสเตค พหุสเตค และภาค

20.3.1

แนวทางทั่วไป

กิจกรรมศาสนจักรส่วนใหญ่จัดในระดับวอร์ด แต่สนับสนุนผู้นำให้จัดกิจกรรมสเตคและพหุสเตคเป็นช่วงๆ ด้วยเมื่อกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยให้บรรลุจุดประสงค์ใน 20.1

กิจกรรมสเตคและพหุสเตคเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเยาวชน สมาชิกโสด และสตรี โดยเฉพาะในภาคที่มีสมาชิกไม่มาก กิจกรรมสเตคและพหุสเตคที่วางแผนอย่างดีจะทำให้สมาชิกมีแวดวงมิตรสหายกว้างขึ้น ผู้นำค้นหาความต้องการของคนที่พวกเขารับใช้และพิจารณาว่ากิจกรรมดังกล่าวจะช่วยตอบสนองความต้องการเหล่านั้นหรือไม่ จากนั้นผู้นำเหล่านี้เสนอกิจกรรมต่อฝ่ายประธานสเตค

20.3.2

กิจกรรมสเตค

ฝ่ายประธานของเยาวชนชาย เยาวชนหญิง สมาคมสงเคราะห์ และปฐมวัยสเตคเริ่มกระบวนการวางแผนกิจกรรมสเตคสำหรับองค์การของตน

คณะกรรมการหนุ่มสาวโสดสเตคเริ่มกระบวนการวางแผนกิจกรรมสเตคสำหรับหนุ่มสาวโสด

หากจัดตั้งคณะกรรมการผู้ใหญ่โสดสเตค สมาชิกคณะกรรมการเริ่มกระบวนการวางแผนกิจกรรมสำหรับผู้ใหญ่โสด

หากจัดตั้งคณะกรรมการกิจกรรมสเตค คณะกรรมการสามารถวางแผนกิจกรรมสเตคและทำหน้าที่เป็นแหล่งช่วยให้องค์การต่างๆ ในสเตควางแผนกิจกรรมของตนตามแนวทางใน 20.3.2.1

กิจกรรมทั้งหมดของสเตคต้องได้รับอนุมัติจากฝ่ายประธานสเตค และต้องประสานงานในการประชุมสภาสเตค

ผู้นำสเตคแจ้งผู้นำวอร์ดล่วงหน้าเมื่อจะจัดกิจกรรมสเตค และต้องแน่ใจด้วยว่ากิจกรรมสเตคเสริมกิจกรรมวอร์ดไม่ใช่แข่งขันกัน

20.3.2.1

คณะกรรมการกิจกรรมสเตค

ฝ่ายประธานสเตคอาจจัดตั้งคณะกรรมการกิจกรรมสเตคมาช่วยสภาสเตควางแผนกิจกรรมสเตค คณะกรรมการชุดนี้ประกอบด้วยประธาน (สมาชิกสภาสูงคนหนึ่ง) และสมาชิกคณะกรรมการ (ดู 20.3.2.2 และ 20.3.2.3) ฝ่ายประธานสเตคอาจเชิญสมาชิกคนอื่นๆ มาช่วยวางแผนกิจกรรมหนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้น

20.3.2.2

ประธานคณะกรรมการกิจกรรมสเตค

หากฝ่ายประธานสเตคจัดตั้งคณะกรรมการกิจกรรมสเตค ฝ่ายประธานสเตคมอบหมายให้สมาชิกสภาสูงคนหนึ่งเป็นประธานคณะกรรมการ หน้าที่รับผิดชอบของเขาได้แก่:

  • คงกำหนดการเดิมในปฏิทินกิจกรรมสเตคเอาไว้

  • สอดส่องดูแลสมาชิกคณะกรรมการในการวางแผนกิจกรรมสเตค

  • เสนองบประมาณกิจกรรมสเตคโดยละเอียดต่อฝ่ายประธานสเตคก่อนต้นปีของแต่ละปี งบประมาณดังกล่าวไม่รวมกิจกรรมสำหรับแต่ละองค์การในสเตค

  • ทำหน้าที่เป็นแหล่งช่วยให้ผู้นำองค์การสเตคเมื่อผู้นำวางแผนกิจกรรม

20.3.2.3

สมาชิกคณะกรรมการกิจกรรมสเตค

สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานสเตคหรือสมาชิกสภาสูงที่ได้รับมอบหมายจะเรียกสมาชิกให้รับใช้ในคณะกรรมการกิจกรรมสเตค พวกเขารับใช้ภายใต้การกำกับดูแลของประธานคณะกรรมการ สมาชิกคณะกรรมการช่วยวางแผนและจัดกิจกรรมในสเตค

20.3.3

กิจกรรมพหุสเตคและกิจกรรมภาค

ในภาคที่มีเยาวชนไม่มากผู้นำควรจัดกิจกรรมพหุสเตคเป็นช่วงๆ เพื่อให้เยาวชนได้ประโยชน์จากการสมาคมกับเยาวชนกลุ่มใหญ่ขึ้น อาจจัดกิจกรรมภาคสำหรับเยาวชนเป็นครั้งคราว

ควรจัดกิจกรรมพหุสเตคสำหรับหนุ่มสาวโสดบ่อยๆ ที่ซึ่งการรวมกลุ่มกันไม่ใช้เวลามากหรือเสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป และอาจจะจัดกิจกรรมภาคสำหรับหนุ่มสาวโสดเป็นครั้งคราวด้วย

ดูข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมพหุสเตคสำหรับสมาชิกโสดใน 14.2.1.3

กิจกรรมพหุสเตคควรเรียบง่ายและหลากหลาย

หากประธานสเตครู้สึกว่ากิจกรรมพหุสเตคจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกในสเตค ประธานสเตคจะขออนุญาตจากฝ่ายประธานภาค ก่อนเสนอจัดกิจกรรมพหุสเตค ประธานสเตคพึงพิจารณาว่ากิจกรรมนั้นๆ เป็นวิธีตอบสนองความต้องการที่พวกเขาระบุไว้ได้ดีที่สุดหรือไม่ ประธานสเตคคำนึงถึงค่าใช้จ่าย เวลา และการเดินทางที่กิจกรรมจะต้องใช้ และความปลอดภัยด้วย (ดู 20.7.6)

อาจจัดการประชุมเพื่อประสานการวางแผนกิจกรรมพหุสเตคก่อนหรือหลังการประชุมสภาภาคและการประชุมสภาประสานงาน (ดู 5.2.3 และ 5.2.4) เมื่อจำเป็นอาจเชิญผู้นำเข้าร่วมเพิ่ม—รวมทั้งประธานของสมาคมสงเคราะห์ เยาวชนชาย และเยาวชนหญิงสเตค

ฝ่ายประธานภาคอาจมอบหมายให้ประธานสเตคหรือสาวกเจ็ดสิบภาคนำคณะกรรมการที่วางแผนและดำเนินกิจกรรมพหุสเตคหรือกิจกรรมภาค ฝ่ายประธานสเตคอาจเรียกสมาชิกในสเตคให้รับใช้ในคณะกรรมการเหล่านี้

เงินทุนสำหรับกิจกรรมพหุสเตคส่วนใหญ่มาจากเงินทุนงบประมาณของสเตคที่เข้าร่วม เงินทุนสำหรับกิจกรรมภาคจะมาจากงบประมาณภาคหรืองบประมาณสำนักงานใหญ่ของศาสนจักรเมื่อได้รับอนุมัติ

20.3.4

การปฏิบัติตามนโยบายการเดินทางของศาสนจักร

กิจกรรมของสเตค พหุสเตค และภาคควรปฏิบัติตามนโยบายการเดินทางของศาสนจักร (ดู 20.7.7) การเดินทางสำหรับการประชุมเอฟเอสวาย ควรปฏิบัติตามนโยบายการเดินทางของศาสนจักรเว้นแต่ผู้บริหารเอฟเอสวาย ให้คำแนะนำอื่นแก่ผู้นำระดับท้องที่

ภาพ
คนพูดคุยกัน

20.4

การประชุมเยาวชน

เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมของปีที่เยาวชนชายและเยาวชนหญิงอายุครบ 14 ปี ผู้นำจะเชื้อเชิญให้พวกเขาเข้าร่วมการประชุมเยาวชนด้วยกัน โดยปกติการประชุมเยาวชนจัดปีละครั้งในระดับวอร์ดหรือระดับสเตค อาจจัดในระดับพหุสเตคหรือระดับภาคได้เช่นกัน ในปีที่เยาวชนได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมการประชุมเอฟเอสวาย สเตคและวอร์ดจะไม่จัดการประชุมเยาวชน

จุดประสงค์ของการประชุมเยาวชนคือเพื่อช่วยเยาวชน:

  • สร้างศรัทธาในพระเยซูคริสต์

  • เสริมสร้างประจักษ์พยาน

  • พัฒนาพรสวรรค์

  • ผูกมิตรเพื่อนใหม่

  • สนุกสนานกับเยาวชนที่มีความเชื่อและมาตรฐานเดียวกัน

เยาวชนจะได้เรียนรู้ทักษะการเป็นผู้นำขณะช่วยวางแผนการประชุมเยาวชนด้วย

สภาเยาวชนวอร์ดวางแผนและดำเนินการประชุมเยาวชนวอร์ดภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายอธิการ (ดู 29.2.6) ฝ่ายอธิการขออนุมัติแผนสำหรับการประชุมเยาวชนวอร์ดจากฝ่ายประธานสเตค

คณะกรรมการผู้นำเยาวชนสเตควางแผนและดำเนินการการประชุมเยาวชนสเตค (ดู 29.3.10) ควรเชิญเยาวชนมาช่วยงานคณะกรรมการให้มากเท่าที่จะมากได้

การประชุมเยาวชนได้เงินทุนจากงบประมาณสเตคหรืองบประมาณวอร์ด ไม่ควรขอให้สมาชิกจ่ายค่าประชุมเยาวชน (ดู 20.6)

เมื่อผู้นำและเยาวชนวางแผนการประชุมเยาวชน พวกเขาควรปฏิบัติตามนโยบายในบทนี้และแนวทางต่อไปนี้:

  • เลือกหัวข้อพระกิตติคุณเช่นพระคัมภีร์ข้อหนึ่งที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนและช่วยให้เยาวชนเข้าใจความคาดหวังของการประชุม หรือจะใช้สาระสำคัญของเยาวชนประจำปีของศาสนจักรเป็นหัวข้อการประชุมเยาวชนก็ได้ ฝ่ายอธิการหรือฝ่ายประธานสเตคจะอนุมัติหัวข้อ

  • วางแผนกิจกรรมให้สอดคล้องกับหัวข้อ

  • ขออนุมัติเรื่องผู้พูดและกิจกรรมทุกอย่างจากฝ่ายอธิการหรือฝ่ายประธานสเตค ผู้พูดควรเป็นสมาชิกศาสนจักรที่สอนโดยพระวิญญาณ ดูแนวทางอื่นเกี่ยวกับผู้พูดใน 38.8.18

  • หากวางแผนจัดงานวันอาทิตย์ งานนั้นควรเหมาะสมกับวันสะบาโต อนุญาตให้จัดการประชุมแสดงประจักษ์พยาน การสนทนากับฝ่ายอธิการ หรือการประชุมคล้ายๆ กัน แต่จะไม่จัดการประชุมศีลระลึก—และไม่ปฏิบัติศีลระลึก—นอกอาคารประชุมในวอร์ดหรือสเตค หากจะจัดกิจกรรมที่ศาสนจักรอุปถัมภ์นอกเหนือจากแนวทางดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากฝ่ายประธานภาค กลุ่มจะไม่เดินทางไปหรือกลับจากการประชุมเยาวชนในวันอาทิตย์

  • ต้องแน่ใจว่าการดูแลจากผู้ใหญ่ที่เพียงพอตลอดเวลา (ดู 20.7.1)

  • ทำตามแนวทางความปลอดภัยทั้งหมดใน 20.7.6

เชิญผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่เข้าร่วมการประชุมเยาวชนให้มากเท่าที่จะมากได้ ผู้นำเหล่านี้ได้แก่สมาชิกในฝ่ายอธิการหรือฝ่ายประธานสเตค ฝ่ายประธานเยาวชนหญิงวอร์ดหรือสเตค และฝ่ายประธานเยาวชนชายสเตค อาจเชิญผู้ให้คำปรึกษาเยาวชนชายและเยาวชนหญิงวอร์ดเข้าร่วมด้วย

20.5

นโยบายและแนวทางการคัดเลือกและวางแผนกิจกรรม

ผู้นำต้องแน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางต่อไปนี้ในการคัดเลือกและวางแผนกิจกรรมศาสนจักร

20.5.1

กิจกรรมเชิงพาณิชย์หรือการเมือง

ไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรมเพื่อการพาณิชย์หรือการเมือง (ดู 35.5.2)

20.5.2

งานเต้นรำและดนตรี

ในงานเต้นรำทุกครั้ง เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย แสงไฟ ท่าเต้น เนื้อร้อง และทำนองเพลงควรช่วยสร้างบรรยากาศที่พระวิญญาณของพระเจ้าจะสถิตที่นั่นได้ (ดูจุลสาร เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน )

ผู้นำใช้แบบฟอร์ม สัญญาการแสดง เมื่อว่าจ้างวงดนตรี ออเคสตรา หรือผู้คุมเพลง (ดีเจ) สัญญาฉบับนี้ช่วยให้แน่ใจว่าความประพฤติและดนตรีเหมาะสมกับงานเต้นรำของศาสนจักร ผู้นำทำข้อตกลงชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรให้บุคคลที่จัดเพลงสัญญาว่าจะทำตามมาตรฐานศาสนจักรที่กิจกรรมศาสนจักร

20.5.3

คืนวันจันทร์

ศาสนจักรสนับสนุนสมาชิกให้จัดกิจกรรมครอบครัวในวันจันทร์หรือเวลาอื่น จะไม่จัดกิจกรรมศาสนจักร การประชุม หรือพิธีบัพติศมาหลัง 18:00 น. ของวันจันทร์

ผู้นำต้องแน่ใจว่าอาคารและสถานที่อำนวยความสะดวกอื่นของศาสนจักรปิดคืนวันจันทร์ จะไม่จัดงานเลี้ยงรับรองและกิจกรรมคล้ายๆ กันในสถานที่อำนวยความสะดวกของศาสนจักรในคืนวันจันทร์

ข้อยกเว้นคือวอร์ดหนุ่มสาวโสดและวอร์ดผู้ใหญ่โสดอาจจัดกิจกรรมในคืนวันจันทร์ รวมทั้งในอาคารศาสนจักร และอาจมีข้อยกเว้นเมื่อคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตรงกับวันจันทร์ (ดู 20.5.4)

20.5.4

กิจกรรมในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

หากวอร์ดหรือสเตควางแผนกิจกรรมในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และหากคืนนั้นตรงกับวันเสาร์ วันอาทิตย์ หรือวันจันทร์ ผู้นำจะปฏิบัติตามแนวทางต่อไปนี้

วันเสาร์ ประธานสเตคจะกำหนดให้วันอาทิตย์อื่นเป็นวันอดอาหาร กิจกรรมอาจเลยเที่ยงคืน แต่ควรสิ้นสุดหลังจากนั้นไม่นานเพื่อผู้เข้าร่วมจะสามารถเข้าร่วมการประชุมวันอาทิตย์ได้

วันอาทิตย์ ผู้นำอาจวางแผนจัดกิจกรรมศาสนจักรในวันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม พึงใช้แนวทางในย่อหน้าก่อน ศาสนจักรสนับสนุนให้ครอบครัวฉลองคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในบ้านของพวกเขา กิจกรรมควรเหมาะสมกับวันสะบาโต

วันจันทร์ ประธานสเตคหรืออธิการอาจอนุญาตให้ใช้อาคารศาสนจักรตอนค่ำวันจันทร์

20.5.5

กิจกรรมค้างคืน

กิจกรรมค้างคืนทั้งหมดของศาสนจักรที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนต้องได้รับอนุญาตจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง (ดู 20.7.4)

กิจกรรมค้างคืนของศาสนจักรแบบรวมกลุ่มเยาวชนชายกับเยาวชนหญิงต้องได้รับอนุมัติจากอธิการและประธานสเตค เช่นเดียวกับกิจกรรมแบบรวมกลุ่มสมาชิกโสดชายกับหญิง กิจกรรมดังกล่าวควรจัดนานๆ ครั้ง ตัวอย่างได้แก่การประชุมเยาวชน การประชุมเอฟเอสวาย หรือการไปพระวิหารที่ต้องเดินทางไกล

ผู้เข้าร่วมและผู้นำชายและหญิงต้องนอนแยกกันคนละที่ แต่คู่สมรสอาจนอนห้องเดียวกันหรือเต็นท์เดียวกัน เยาวชนแต่ละคนควรมีเตียงหรือถุงนอนของตัวเอง

ในกรณีส่วนใหญ่เยาวชนจะไม่พักในเต็นท์หรือห้องเดียวกับผู้ใหญ่เว้นแต่ผู้ใหญ่คนนั้นเป็นบิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองของเยาวชน อาจมีข้อยกเว้นหากผู้ใหญ่เพศเดียวกับเยาวชนอย่างน้อยสองคนอยู่ในเต็นท์และห้องนั้น

หากผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่และเยาวชนนอนค้างคืนที่อื่นด้วยกัน เช่น กระท่อม ต้องมีผู้ใหญ่อย่างน้อยสองคนอยู่ที่นั่นด้วยและต้องเป็นเพศเดียวกับเยาวชน

กิจกรรมค้างคืนทุกอย่างของศาสนจักรต้องมีผู้นำที่เป็นผู้ใหญ่อย่างน้อยสองคน

ต้องมีผู้ใหญ่ที่ดำรงฐานะปุโรหิตจำนวนมากพออยู่ตลอดช่วงกิจกรรมค้างคืนเพื่อคอยให้การสนับสนุนและความคุ้มครอง สำหรับกิจกรรมเยาวชนหญิง ผู้ดำรงฐานะปุโรหิตต้องพักในอาคารแยกจากเยาวชนหญิง

ผู้นำกรอก แบบฟอร์มแผนกิจกรรมและเหตุการณ์ สำหรับกิจกรรมค้างคืนทุกครั้ง

ไม่อนุมัติให้จัดกิจกรรมค้างคืนที่อาคารประชุมของศาสนจักรหรือบริเวณสนาม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน “FAQs—What Should I Do?” บน ChurchofJesusChrist.org.

20.5.6

การแสดงเป็นพระผู้เป็นเจ้า

ไม่มีการแสดงเป็นพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการประชุม ละคร หรือละครเพลง

หากแสดงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ต้องแสดงด้วยความคารวะและสมพระเกียรติ และผู้แสดงบทนี้ควรเป็นชายที่มีอุปนิสัยดีงามเท่านั้น บุคคลที่แสดงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดจะไม่ร้องเพลงหรือเต้นรำ เมื่อพูดเขาจะใช้เฉพาะพระดำรัสของพระผู้ช่วยให้รอดที่อ้างจากพระคัมภีร์โดยตรงเท่านั้น เมื่อจบการแสดงเขาจะเปลี่ยนชุดทันที

ไม่ควรให้เด็กแสดงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดในการแสดงละครยกเว้นในฉากการประสูติ

20.5.7

การสวดอ้อนวอนและการให้ข้อคิดทางวิญญาณที่กิจกรรม

ทุกกิจกรรมควรเปิดด้วยการสวดอ้อนวอนและเมื่อเห็นเหมาะสมจะปิดด้วยการสวดอ้อนวอน อาจมีเพลงสวด ข้อคิดทางวิญญาณ หรือคำพูดโดยผู้นำหรือผู้เข้าร่วม

20.5.8

การถือปฏิบัติวันสะบาโต

จะไม่จัดค่าย กีฬา งาน หรือกิจกรรมนันทนาการใดๆ ของศาสนจักรในวันอาทิตย์ กลุ่มเยาวชนและคนอื่นๆ จะไม่เดินทางไปหรือกลับจากค่ายหรือการประชุมเยาวชนในวันอาทิตย์

เว้นแต่เมื่อความปลอดภัยหรือค่าใช้จ่ายในการเดินทางเป็นเรื่องน่ากังวลยิ่ง กิจกรรมเยาวชนบางอย่างจึงอาจมีกำหนดการให้เดินทางหลังการประชุมนมัสการวันอาทิตย์ทันที กิจกรรมเหล่านี้ควรแยกจากกำหนดการประชุมวันอาทิตย์ สอดคล้องกับวิญญาณของวันสะบาโต และต้องได้รับอนุมัติจากอธิการและประธานสเตค

20.5.9

กีฬา

กิจกรรมกีฬาของศาสนจักรเปิดโอกาสให้ทำกิจกรรมทางกายและการผูกมิตร เน้นการมีส่วนร่วม การมีน้ำใจนักกีฬา และการพัฒนาทักษะ เมื่อกิจกรรมเกี่ยวข้องกับการแข่งขัน ควรทำทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง สมาชิกทุกทีมควรมีโอกาสได้เล่นเท่าเทียมกันไม่ว่าจะมีทักษะระดับใดก็ตาม

ฝ่ายประธานสเตคสอดส่องดูแลกิจกรรมกีฬาที่จัดในสเตคของตน อีกทั้งวางแนวทางที่ (1) ระบุอายุผู้เล่นที่จะเข้าร่วมกีฬาศาสนจักร และ (2) กำหนดคุณสมบัติผู้เล่น ควรทำการตัดสินใจดังกล่าวก่อนเริ่มฤดูกาลแข่งขัน

หากจัดกิจกรรมกีฬาพหุสเตค ฝ่ายประธานภาคหรือสาวกเจ็ดสิบภาคที่ได้รับมอบหมายจะสอดส่องดูแลกิจกรรม ผู้บริหารกิจกรรมเหล่านี้คือผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาที่เรียกโดยประธานสเตคตัวแทนที่ฝ่ายประธานภาคกำหนด ไม่อนุมัติให้จัดแข่งกีฬาระดับภาค

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกีฬาของศาสนจักรไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกศาสนจักร แต่ควรอาศัยอยู่ในอาณาเขตของหน่วยและยินดีทำตามมาตรฐานและนโยบายศาสนจักรระหว่างกิจกรรม

หากใช้ชุดประจำทีม ชุดควรเรียบง่าย ราคาไม่แพง และเหมาะกับกิจกรรม โดยปกติเสื้อยืดสีต่างๆ หรือเสื้อแบบสวมศีรษะก็เพียงพอแล้ว ค่าชุดจ่ายจากงบประมาณสเตคหรืองบประมาณวอร์ด

ไม่สนับสนุนให้มีการมอบรางวัลหรือถ้วยรางวัลให้แต่ละคนหรือทีม

ภาพ
ผู้ชายกำลังเล่นฟุตบอล

20.5.10

การไปพระวิหาร

การไปพระวิหารจัดในระดับวอร์ดหรือสเตคภายในท้องถิ่นพระวิหารที่กำหนด

ศาสนจักรไม่สนับสนุนให้วอร์ดหรือสเตคจัดไปพระวิหารนอกท้องถิ่นพระวิหารที่กำหนด การไปพระวิหารนอกเขตจะต้องได้รับอนุมัติจากฝ่ายประธานสเตค การไปพระวิหารแบบค้างคืนต้องได้รับอนุมัติจากฝ่ายประธานสเตคด้วย

การไปพระวิหารต้องปฏิบัติตามนโยบายการเดินทางใน 20.7.7 การไปพระวิหารแบบค้างคืนต้องปฏิบัติตามนโยบายใน 20.5.5 ด้วย

20.5.11

กิจกรรมที่ไม่อนุมัติ

หน่วยต่างๆ ของศาสนจักรจะไม่อุปถัมภ์กิจกรรมที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางในบทนี้ กิจกรรมเหล่านี้ได้แก่:

  • กิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยสูง (ดู 20.7.6)

  • กิจกรรมที่ต้องเดินทางหรือเสียค่าใช้จ่ายมากผิดปกติ (ดู 20.7.7)

  • โปรแกรมการออกกำลังกายที่มีทำนองเพลง เนื้อร้อง เครื่องแต่งกาย หรือองค์ประกอบอื่นไม่สอดคล้องกับมาตรฐานศาสนจักร

หากอธิการมีข้อสงสัยว่ากิจกรรมนั้นเหมาะสมหรือไม่ อธิการสอบถามประธานสเตค ประธานสเตคจะสอบถามฝ่ายประธานภาค

20.6

นโยบายและแนวทางการจัดหาเงินทุนให้กิจกรรม

ผู้นำต้องแน่ใจว่าการจัดหาเงินทุนให้กิจกรรมศาสนจักรทั้งหมดเป็นไปตามนโยบายและแนวทางต่อไปนี้

20.6.1

กิจกรรมจ่ายด้วยเงินทุนงบประมาณวอร์ดหรือสเตค

จะใช้เงินทุนงบประมาณวอร์ดหรือสเตคจ่ายค่ากิจกรรม—โดยอาจมีข้อยกเว้นที่ระบุไว้ใน 20.6.2

สมาชิกจะไม่จ่ายค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าเช่าหรือค่าเข้าร่วมกิจกรรม หรือค่าขนส่งทางไกล สมาชิกอาจจัดเตรียมอาหารหากการทำเช่นนั้นไม่เป็นภาระ

20.6.2

เงินทุนสำหรับค่ายเยาวชน

หากงบประมาณวอร์ดหรือสเตคมีไม่พอจ่ายค่ากิจกรรมต่อไปนี้ ผู้นำอาจขอให้ผู้เข้าร่วมจ่ายบางส่วนหรือทั้งหมด:

  • ค่ายฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนเพิ่มพิเศษประจำปีหรือกิจกรรมคล้ายกันหนึ่งครั้ง

  • ค่ายเยาวชนหญิงเพิ่มพิเศษประจำปีหรือกิจกรรมคล้ายกันหนึ่งครั้ง

  • ค่ายกลางวันประจำปีหรือกิจกรรมคล้ายกันหนึ่งครั้งสำหรับเด็กปฐมวัยอายุ 8 ถึง 11 ขวบ

ค่าใช้จ่ายหรือค่าเดินทางสำหรับค่ายประจำปีไม่ควรมากเกินไป ไม่ควรกีดกันสมาชิกที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ไม่ให้เข้าร่วม

หากเงินทุนจากงบประมาณวอร์ดและสเตคและจากผู้เข้าร่วมไม่พอสำหรับค่าย อธิการอาจอนุญาตให้วอร์ดจัดงานระดมทุนปีละครั้ง งานนี้ต้องสอดคล้องกับแนวทางใน 20.6.5

ดูข้อมูลเกี่ยวกับเงินทุนจัดงานใหญ่ระดับพหุสเตคหรือภาคสำหรับหนุ่มสาวโสดใน 14.2.1.3

20.6.3

เงินทุนสำหรับการประชุมเอฟเอสวาย

อาจขอให้เยาวชนจ่ายค่าเข้าร่วมการประชุมเพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน (เอฟเอสวาย) หากเยาวชนไม่มีเงินจ่าย อธิการจะใช้เงินทุนงบประมาณวอร์ดจ่ายบางส่วนหรือทั้งหมด ดู FSY.ChurchofJesusChrist.org.

20.6.4

เงินทุนสำหรับอุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ

หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้จะใช้เงินทุนงบประมาณวอร์ดจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ ที่วอร์ดต้องใช้สำหรับค่ายเยาวชนประจำปี หากเงินทุนเหล่านี้ไม่พอ อธิการจะอนุญาตให้จัดงานระดมทุนปีละครั้ง กิจกรรมนี้ต้องปฏิบัติตามแนวทางใน 20.6.5

อุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ ที่ซื้อด้วยเงินทุนงบประมาณวอร์ดหรือเงินที่ได้จากงานระดมทุนมีไว้ให้ศาสนจักรใช้เท่านั้น จะไม่นำไปใช้ส่วนตัว

20.6.5

งานระดมทุน

โดยปกติค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมสเตคและวอร์ดจ่ายด้วยเงินทุนงบประมาณ แต่ประธานสเตคหรืออธิการอาจอนุญาตให้จัดงานระดมทุนปีละครั้งเพื่อจุดประสงค์ต่อไปนี้เท่านั้น:

  • ช่วยจ่ายค่ากิจกรรมที่ระบุไว้ใน 20.6.2

  • ช่วยซื้ออุปกรณ์ที่หน่วยต้องใช้สำหรับค่ายประจำปีตามแนวทางใน 20.6.4

หากจัดการระดมทุน งานนั้นควรให้คุณค่าหรือการรับใช้ที่มีความหมาย

ผู้นำต้องแน่ใจว่าได้กระจายเงินระดมทุนอย่างเท่าเทียมกัน งบประมาณสำหรับโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนขึ้นอยู่กับจำนวนเยาวชนชายในวอร์ด งบประมาณสำหรับเยาวชนหญิงขึ้นอยู่กับจำนวนเยาวชนหญิงในวอร์ด

การบริจาคให้งานระดมทุนเป็นเรื่องของความสมัครใจ ผู้นำต้องแน่ใจว่าสมาชิกไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้บริจาค

หน่วยที่อุปถัมภ์การระดมทุนจะไม่โฆษณาหรือขอบริจาคนอกอาณาเขตหน่วยของตน และจะไม่ขายผลิตภัณฑ์หรืองานบริการตามบ้าน

ตัวอย่างกิจกรรมระดมทุนที่ไม่อนุมัติ ได้แก่:

  • กิจกรรมที่ต้องเสียภาษี

  • กิจกรรมที่ต้องจ่ายค่าแรงให้ผู้รับจ้างหรือผู้รับเหมา

  • ความบันเทิงที่สเตคหรือวอร์ดจ่ายเงินให้นักแสดง

  • การขายสินค้าหรือบริการจากธุรกิจการค้า

  • เกมเสี่ยงโชค เช่น การออกสลากรางวัล ลอตเตอรี่ และบิงโก

  • กิจกรรมที่ไม่ปลอดภัย

กิจกรรมนอกเหนือจากคำแนะนำเหล่านี้ต้องได้รับอนุมัติจากฝ่ายประธานภาค

20.7

นโยบายและแนวทางความปลอดภัยสำหรับกิจกรรม

ผู้นำต้องแน่ใจว่ากิจกรรมศาสนจักรทั้งหมดปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางความปลอดภัยต่อไปนี้

20.7.1

การอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่

กิจกรรมศาสนจักรทั้งหมดที่เยาวชนหรือเด็กเข้าร่วมต้องมีผู้ใหญ่อย่างน้อยสองคนอยู่ดูแล อาจต้องมีผู้ใหญ่เพิ่มตามขนาดของกลุ่ม ทักษะที่ต้องใช้ทำกิจกรรม หรือปัจจัยอื่น ศาสนจักรสนับสนุนให้บิดามารดาช่วยเหลือ

ทุกคนที่ทำงานกับเด็กหรือเยาวชนต้องรับการอบรมเรื่องการคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้ครบ ดู ProtectingChildren.ChurchofJesusChrist.org.

20.7.2

ข้อกำหนดด้านอายุสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเยาวชน

เมื่อบิดามารดาอนุมัติ เยาวชนจะเริ่มเข้าค่ายพักแรมในเดือนมกราคมของปีที่พวกเขาอายุครบ 12 ปี พวกเขาจะเริ่มเข้าร่วมงานเต้นรำ การประชุมเยาวชน และการประชุมเอฟเอสวายในเดือนมกราคมของปีที่พวกขาอายุครบ 14 ปี

20.7.3

ประกันภัย

20.7.3.1

ประกันภัยรถยนต์ส่วนบุคคล

ดู 20.7.7

20.7.3.2

ประกันสุขภาพส่วนบุคคลและอุบัติเหตุ

ในหลายภูมิภาคของโลกมีประกันสุขภาพและอุบัติเหตุคุ้มครองผ่านนายจ้างหรือโครงการรัฐ สมาชิกผู้มีความคุ้มครองนี้ควรใช้สิทธิประโยชน์ที่มีให้ทั้งหมดหากพวกเขาเกิดการบาดเจ็บระหว่างกิจกรรมศาสนจักรก่อนจะขอความช่วยเหลือจากประกันภัยกิจกรรมของศาสนจักร (ดู 20.7.3.4)

20.7.3.3

ประกันภัยความรับผิดส่วนบุคคล

ศาสนจักรแนะนำสมาชิกและผู้นำที่สอดส่องดูแลกิจกรรมศาสนจักรให้คุ้มครองตนเองหากทำได้โดยทำประกันภัยความรับผิดที่มีวงเงินคุ้มครองที่เหมาะสม ประกันภัยดังกล่าวอาจมีอยู่แล้วในประกันภัยเจ้าของบ้านหรือกรมธรรม์อื่นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน “FAQs—What Should I Do?” บน ChurchofJesusChrist.org.

20.7.3.4

โปรแกรมช่วยเหลือทางการแพทย์ที่กิจกรรมศาสนจักร

ในสหรัฐและแคนาดา โปรแกรมความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่กิจกรรมศาสนจักร (CAMA) ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์และทันตกรรมกรณีเกิดการบาดเจ็บขณะเข้าร่วมกิจกรรมศาสนจักร และให้ความช่วยเหลือเรื่องงานศพด้วยหากจำเป็น โปรแกรมนี้ออกแบบไว้เสริมไม่ใช่ใช้แทนประกันสุขภาพและอุบัติเหตุของบุคคล ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน “FAQs—What Should I Do?” บน ChurchofJesusChrist.org.

หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างกิจกรรมที่ศาสนจักรอุปถัมภ์ ผู้นำพิจารณาว่าต้องใช้ CAMA หรือไม่ ผู้นำคนใดคนหนึ่งจะรายงานอุบัติเหตุในระบบ Global Incident Reporting ที่ incidents.ChurchofJesusChrist.org. หากผู้นำระบุว่าต้องได้รับการรักษานอกเหนือจากการปฐมพยาบาล อธิการจะได้รับแจ้งและจะได้รับข้อมูลการลงทะเบียน อธิการพิจารณาความสามารถของบุคคลในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยวิธีอื่น เช่น วงเงินประกันภัยส่วนตัวหรือแหล่งช่วยอื่น อธิการอาจอนุญาตให้ใช้เงิน CAMA หากรู้สึกว่าเหมาะสม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน Church Activity Medical Assistance Handbook ติดต่อขอรับคู่มือนี้ที่:

Deseret Mutual Benefit Administrators

P.O. Box 45530

Salt Lake City, UT 84145-0530

โทรศัพท์: 1-801-578-5650 หรือ 1-800-777-1647

อีเมล: churchactivity@dmba.com

เว็บไซต์: dmba.com/churchactivity

20.7.3.5

หนังสือรับรองการประกันภัย

ศาสนจักรมักได้รับคำขอให้แสดงหลักฐานการประกันภัยสำหรับกิจกรรมต่างๆ คำขอเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากสัญญาเช่า ข้อตกลง หรือใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม

ในสหรัฐและแคนาดา ผู้นำจะขอหนังสือรับรองแสดงหลักฐานการประกันภัยได้ที่ InsuranceCertificates.ChurchofJesusChrist.org. นอกสหรัฐและแคนาดาผู้นำจะติดต่อสำนักงานภาค คำขอควรระบุ:

  • ชื่อและที่อยู่ขององค์การที่ขอหลักฐานการประกันภัย

  • คำอธิบายและที่ตั้งของสถานที่หากเช่าสถานที่

  • ต้องระบุข้อจำกัดความรับผิด

  • ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เกี่ยวกับกิจกรรม

ผู้นำควรวางแผนล่วงหน้าให้ดีเพื่อจะมีเวลาเตรียมหนังสือรับรอง

20.7.4

การขออนุญาตจากบิดามารดา

เด็กและเยาวชนจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมศาสนจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง สำหรับกิจกรรมศาสนจักรที่ต้องพักค้างคืน เดินทางไกล หรือมีความเสี่ยงสูงกว่าปกติ จำเป็นต้องมีความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร บางกิจกรรมอาจต้องวางแผนเพิ่มเพื่อลดความเสี่ยง ความปลอดภัยควรเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาเสมอ ดู 20.7.6.1

บิดามารดาและผู้ปกครองให้ความยินยอมโดยเซ็น Permission and Medical Release form (แบบฟอร์มอนุญาตและให้สิทธิ์ในการรักษาพยาบาล) คนที่นำกิจกรรมควรมีแบบฟอร์มที่เซ็นแล้วของผู้เข้าร่วมแต่ละคน

20.7.5

รายงานเรื่องการกระทำทารุณกรรม

จะต้องรายงานการกระทำทารุณกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างกิจกรรมศาสนจักรต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมือง และติดต่ออธิการทันที คำแนะนำสำหรับสมาชิกอยู่ใน 38.6.2.7 คำแนะนำสำหรับอธิการอยู่ใน 38.6.2.1

ดูนิยามของการกระทำทารุณกรรมใน 38.6.2.3 และ 38.6.2.4

20.7.6

มาตรการความปลอดภัย การรับมือกับอุบัติเหตุ และการรายงานอุบัติเหตุ

20.7.6.1

มาตรการความปลอดภัย

ผู้นำและผู้เข้าร่วมประเมินกิจกรรมอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยน้อยที่สุด กิจกรรมควรเสี่ยงต่อการทำให้ทรัพย์สินเสียหายน้อยที่สุดด้วย ระหว่างกิจกรรมผู้นำพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย การวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพและการทำตามมาตรการความปลอดภัยจะช่วยให้ผู้นำลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้

กิจกรรมควรมีการฝึกอบรมและการดูแลอย่างเหมาะสม อีกทั้งควรเหมาะกับวัย ความสามารถ และวุฒิภาวะของผู้เข้าร่วมด้วย

ผู้นำสอนผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนให้รู้แนวทางปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยสำหรับกิจกรรมนั้น เมื่อกิจกรรมต้องใช้ทักษะหรือประสบการณ์เฉพาะด้าน อาจจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางหรือใช้คนนำทางมืออาชีพ

ผู้นำควรพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน และควรรู้ล่วงหน้าด้วยว่าจะติดต่อตำรวจท้องที่และหน่วยบริการฉุกเฉินอย่างไร ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน “FAQs—What Should I Do?” บน ChurchofJesusChrist.org.

ภาพ
คนกลุ่มหนึ่งกำลังขุดดิน

20.7.6.2

การรับมือกับอุบัติเหตุ

หากอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บเกิดขึ้นบริเวณทรัพย์สินศาสนจักรหรือระหว่างกิจกรรมศาสนจักร ผู้นำปฏิบัติตามแนวทางต่อไปนี้เท่าที่ทำได้:

  • ให้การปฐมพยาบาล หากบุคคลต้องรับการรักษาพยาบาลเพิ่ม ให้ติดต่อหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน ติดต่อบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือญาติคนอื่นๆ และอธิการหรือประธานสเตคด้วย

  • หากมีคนสูญหายหรือเสียชีวิต ให้แจ้งตำรวจท้องที่ทันที ให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่

  • ให้การประคับประคองทางอารมณ์

  • ไม่สนับสนุนหรือไม่กีดกันการดำเนินการทางกฎหมาย อย่าทำสัญญาผูกมัดในนามศาสนจักร

  • เก็บรวบรวมรายชื่อพยาน ข้อมูลติดต่อพวกเขา เรื่องราวที่เกิดขึ้น และภาพถ่าย

  • รายงานอุบัติเหตุ (ดู 20.7.6.3)

20.7.6.3

การรายงานอุบัติเหตุ

ควรรายงานสถานการณ์ต่อไปนี้ทางออนไลน์ที่ incidents.ChurchofJesusChrist.org. อธิการ ประธานสเตค หรือสมาชิกที่เขากำหนดผู้รู้เหตุการณ์จะรายงานทันที

  • อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บเกิดขึ้นบริเวณทรัพย์สินศาสนจักรหรือระหว่างกิจกรรมศาสนจักร

  • คนที่เข้าร่วมกิจกรรมศาสนจักรสูญหาย

  • ทรัพย์สินส่วนตัว ทรัพย์สินส่วนรวม หรือทรัพย์สินศาสนจักรเสียหายระหว่างกิจกรรมศาสนจักร

  • ถูกขู่ดำเนินการทางกฎหมายว่าจะหรือคาดว่าจะถูกดำเนินการทางกฎหมาย

หากกิจกรรมส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง เสียชีวิต หรือสูญหาย ประธานสเตค อธิการ หรือสมาชิกที่เขากำหนดจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ทันที:

  • ในสหรัฐหรือแคนาดา แจ้ง Risk Management Division ที่สำนักงานใหญ่ของศาสนจักรก่อน (1-801-240-4049 หรือ 1-800-453-3860 ต่อ 2-4049; หลังเวลาทำการหรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ให้โทร 1-801-240-1000 หรือ 1-800-453-3860 พนักงานรับโทรศัพท์จะติดต่อผู้เกี่ยวข้องทันที) จากนั้นให้ติดต่อฝ่ายประธานภาค

  • นอกสหรัฐและแคนาดาให้แจ้งสำนักงานภาค

ประธานสเตคหรืออธิการรายงานการบาดเจ็บและความเสียหายอันเกิดแก่สิ่งอำนวยความสะดวกหรือทรัพย์สินศาสนจักรต่อผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน “FAQs—What Should I Do?” บน ChurchofJesusChrist.org.

20.7.6.4

ประกันภัยและคำถาม

หากเกิดการบาดเจ็บระหว่างกิจกรรมศาสนจักร ผู้นำพิจารณาว่าจะใช้โปรแกรม Church Activity Medical Assistance (ความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่กิจกรรมศาสนจักร) หรือไม่ (ดู 20.7.3.4)

ในบางกรณีประธานสเตคหรืออธิการอาจมีคำถามเกี่ยวกับประเด็นความปลอดภัยและการเรียกร้องให้จ่ายจากศาสนจักร ประธานสเตค (หรืออธิการภายใต้การกำกับดูแลของประธานสเตค) สอบถามเรื่องดังกล่าวกับ Risk Management Division หรือสำนักงานภาค

20.7.7

การเดินทาง

การเดินทางไปร่วมกิจกรรมศาสนจักรควรได้รับอนุมัติจากอธิการหรือประธานสเตค การเดินทางดังกล่าวไม่ควรเป็นภาระกับสมาชิกมากเกินไป ศาสนจักรไม่สนับสนุนกิจกรรมที่ต้องเดินทางไกล

ในสถานการณ์พิเศษบางสถานการณ์ ประธานสเตคหรืออธิการอาจรู้สึกว่าควรจัดกิจกรรมที่ต้องเดินทางไกล เขาพิจารณาประโยชน์ทางวิญญาณที่อาจจะได้จากกิจกรรม ค่าใช้จ่าย และผลกระทบต่อครอบครัวร่วมกับการสวดอ้อนวอน หากเขาอนุมัติการเดินทางเช่นนั้น สมาชิกจะไม่จ่ายค่าเดินทางเอง

แนวทางปฏิบัติเรื่องการเดินทางและการใช้แนวทางในหมวดนี้ควรสอดคล้องกันในหน่วยที่อยู่ในภาคเดียวกันหรือสภาประสานงานเดียวกัน ประธานสเตคจะสนทนาและตกลงเรื่องแนวทางปฏิบัติดังกล่าวระหว่างการประชุมสภาประสานงาน

ผู้นำกรอก แบบฟอร์มแผนกิจกรรมและเหตุการณ์ สำหรับกิจกรรมที่ต้องเดินทางไกล

เมื่อกิจกรรมศาสนจักรสำหรับเยาวชนเกี่ยวข้องกับการเดินทางไกลหรือพักค้างคืน บิดามารดาหรือผู้ปกครองต้องอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรให้บุตรธิดาเข้าร่วม (ดู 20.7.4) และต้องให้อยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่ที่เชื่อถือได้ (ดู 20.7.1)

เมื่อทำได้ กลุ่มต่างๆ ของศาสนจักรควรใช้การขนส่งพาณิชย์เพื่อเดินทางไกล ขนส่งควรมีใบอนุญาตและมีประกันความรับผิดคุ้มครอง

เมื่อกลุ่มต่างๆ ของศาสนจักรเดินทางด้วยพาหนะส่วนตัว รถทุกคันต้องอยู่ในสภาพปลอดภัย แต่ละคนจะคาดเข็มขัดนิรภัย คนขับทุกคนต้องเป็นผู้ใหญ่ที่มีใบอนุญาตขับขี่และเชื่อถือได้ ยานพาหนะทุกคันและคนขับทุกคนควรมีประกันภัยรถยนต์คุ้มครองความเสียหายในวงเงินที่มากพอสมควร ควรวางแผนให้แน่ใจว่าคนขับระแวดระวังและตื่นตัวอยู่เสมอ เมื่อเป็นไปได้ ผู้ใหญ่จะไม่อยู่ลำพังกับเยาวชนในยานพาหนะเว้นแต่เยาวชนเป็นบุตรของเขา

องค์การต่างๆ ของศาสนจักรจะไม่เป็นเจ้าของหรือซื้อรถยนต์หรือรถโดยสารไว้เดินทางเป็นกลุ่ม

ชายและหญิงจะไม่เดินทางไปร่วมกิจกรรม การประชุม หรืองานมอบหมายของศาสนจักรด้วยกันตามลำพังเว้นแต่แต่งงานกันแล้วหรือเป็นโสดทั้งคู่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน “FAQs—What Should I Do?” บน ChurchofJesusChrist.org.

20.8

นโยบายการบริหารกิจกรรม

ผู้นำต้องปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางต่อไปนี้เมื่อบริหารกิจกรรมทั้งหมดของศาสนจักร

20.8.1

อุปกรณ์ลิขสิทธิ์

ดู 38.8.11

20.8.2

การเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ใช่ของศาสนจักรจัดกิจกรรม

เมื่อสถานที่ของศาสนจักรไม่พอจัดกิจกรรมสเตคหรือพหุสเตค อาจเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยการอนุมัติจากประธานสเตค ผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกของศาสนจักรเป็นผู้ยื่นคำขอดังกล่าว

หน่วยท้องที่อาจได้รับคำขอให้แสดงหลักฐานประกันภัยความรับผิดเมื่อเช่าหรือใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ใช่ของศาสนจักร ดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีขอหนังสือรับรองการประกันภัยใน 20.7.3.5

20.8.3

กิจกรรมที่ต้องเสียภาษี

ผู้นำต้องแน่ใจว่ากิจกรรมไม่เสี่ยงต่อสถานะได้รับยกเว้นภาษีของศาสนจักร ดูแนวทางใน 34.8.1