2 นีไฟ 25

รอดโดยพระเยซูคริสต์

พระเยซูคริสต์

มีใครเคยบรรเทาหรือช่วยท่านจากสถานการณ์ที่ยากลำบากหรือไม่? ท่านรู้สึกอย่างไรกับบุคคลนั้นหลังจากได้รับความช่วยเหลือ? หลังจากเน้นความสำคัญของคำสอนเชิงพยากรณ์ นีไฟเป็นพยานว่ามีเพียงพระเยซูคริสต์เท่านั้นที่ทรงมีเดชานุภาพในการช่วยทุกคนให้รอด บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจว่าท่านได้รับการช่วยให้รอดผ่านพระคุณของพระเยซูคริสต์อย่างไร

ทางเดียวที่เราจะได้รับการช่วยให้รอด

• ท่านนึกออกหรือไม่ว่ามีครั้งใดที่ท่านหรือคนรู้จักได้รับความช่วยเหลือหรือช่วยให้รอด? เกิดอะไรขึ้น? ท่านรู้สึกอย่างไร?

ใน 2 นีไฟ 25 นีไฟเตือนผู้คนของท่านว่าศาสดาพยากรณ์เป็นพยานว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ ซึ่งหมายถึงผู้ได้รับการเจิมหรือพระผู้ปลดปล่อยของคนทั้งปวง (ดู คู่มือพระคัมภีร์ “พระเมสสิยาห์” scriptures.ChurchofJesusChrist.org). นีไฟบันทึกว่าแม้ชาวยิวจะกระจัดกระจายไปเพราะความไม่เชื่อ หากพวกเขาเชื่อในพระเยซูคริสต์ พระเจ้าจะทรงรวบรวมและ “นำ [พวกเขา] กลับคืนจากสภาพที่หลงไปและตก” (2 นีไฟ 25:15–17)

อ่าน 2 นีไฟ 25:18–20 แล้วมองหาสิ่งที่นีไฟสอนเกี่ยวกับวิธีที่ชาวยิว (และบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้า) จะได้รับการช่วยให้รอด ถ้อยคำในพระคัมภีร์อาจช่วยให้ทราบว่าคำว่า ชื่อ ใช้แสดงถึงพลังอำนาจหรือสิทธิอำนาจของบุคคล นี่เป็นความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ้างอิงถึงพระผู้ช่วยให้รอด

• พระเยซูคริสต์ทรงช่วยเราให้รอดจากสิ่งใด?

• จะเป็นอย่างไรหากเราไม่มีพระผู้ช่วยให้รอด?

รอดโดยพระคุณ

อ่าน 2 นีไฟ 25:23 แล้วมองหาว่าพระเยซูคริสต์ทรงช่วยเราให้รอดอย่างไร

• มีคำถามอะไรบ้างที่ท่านอาจถามเพื่อให้เข้าใจคำสอนของนีไฟใน ข้อที่ 23 ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น?

เนื้อหาต่อไปนี้ช่วยตอบคำถามที่ท่านอาจมีเกี่ยวกับ ข้อที่ 23

พระคุณคือความช่วยเหลือหรือความเข้มแข็งจากสวรรค์ที่ประทานแก่เราผ่านการชดใช้ของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ …

พระคุณเป็นของประทานจากพระบิดาบนสวรรค์ที่ประทานผ่านพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ คำว่า พระคุณ ตามที่ใช้ในพระคัมภีร์โดยเบื้องต้นหมายถึงเดชานุภาพอันกอปรด้วยพระปรีชาสามารถและการเยียวยาทางวิญญาณที่ประทานผ่านพระเมตตาและความรักของพระเยซูคริสต์ (Gospel Topics, “Grace,” topics.ChurchofJesusChrist.org)

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ แห่งฝ่ายประธานสูงสุดในขณะนั้นอธิบายว่า:

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ

ข้าพเจ้าสงสัยว่าบางครั้งเราตีความวลีที่ว่า “หลังจากเราทำทุกสิ่งจนสุดความสามารถแล้ว” ผิดไปหรือไม่ เราต้องเข้าใจว่า “หลังจาก” ไม่เหมือนกับ “เพราะ”

เราไม่ได้รอด “เพราะว่า” ทำทุกสิ่งจนสุดความสามารถแล้ว มีใครที่ทำจนสุดความสามารถแล้วบ้าง? พระผู้เป็นเจ้าทรงรอจนเราใช้ความพยายามทุกอย่างก่อนที่จะทรงแทรกเข้ามาในชีวิตเราด้วยพระคุณที่ช่วยให้รอดของพระองค์หรือ?

หลายคนรู้สึกท้อใจเพราะมักจะทำไม่ได้ตามที่คาดหวัง พวกเขารู้ด้วยตนเองว่า “จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง” [มัทธิว 26:41] พวกเขาพร้อมใจกันเปล่งเสียงกับนีไฟในการประกาศว่า “จิตวิญญาณข้าพเจ้าเศร้าโศกเพราะความชั่วช้าสามานย์ของข้าพเจ้า” [2 นีไฟ 4:17]

ข้าพเจ้าแน่ใจว่านีไฟรู้ว่าพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอดช่วยให้และทำให้เราเอาชนะบาปได้ [ดู แอลมา 34:31] นี่คือสาเหตุที่นีไฟทำงานอย่างขยันหมั่นเพียรเพื่อชักชวนลูกหลานและพี่น้อง “ให้เชื่อในพระคริสต์, และให้คืนดีกับพระผู้เป็นเจ้า” [2 นีไฟ 25:23]

สรุปว่า “นั่นคือ สิ่งที่เราสามารถทำได้! และ นั่นคือ งานของเราในความเป็นมรรตัย! …

วันนี้และชั่วนิรันดรพระคุณของพระผู้เป็นเจ้ามีไว้สำหรับทุกคนที่มีใจชอกช้ำและมีวิญญาณที่สำนึกผิด [ดู 3 นีไฟ 9:19–20] (ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “ของประทานแห่งพระคุณ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 110)

ไอคอนบันทึก

1. โปรดตอบคำถามต่อไปนี้:

• ท่านจะอธิบายความรู้สึกที่มีต่อพระผู้ช่วยให้รอดอย่างไรเมื่อทราบถึงพระคุณของพระองค์ที่มีให้ท่านเป็นการส่วนตัว?

• มีวิธีใดบ้างที่ท่านจะเข้าถึงพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอด?

• แง่มุมใดในชีวิตที่อาจแตกต่างออกไปหากรู้สึกถึงพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น? ในรูปแบบใด?

ใช้เวลาสักครู่เพื่อไตร่ตรองสิ่งที่ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับการที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นหนทางเดียวที่ท่านจะได้รับความรอด ข่าวสารหรือความจริงใดสำคัญที่สุดต่อท่านหรือทำให้ท่านต้องการสรรเสริญพระเยซูคริสต์? ท่านรู้สึกได้รับการกระตุ้นเตือนให้ทำอะไรจากสิ่งที่ท่านเรียนรู้และรู้สึก? ท่านอาจบันทึกความคิดเหล่านี้ในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน

ชื่นชมยินดีในพระคริสต์

เพราะนีไฟรู้ถึงพระคุณและเดชานุภาพของพระผู้ช่วยให้รอด ท่านจึงเขียนเพื่อช่วยให้ผู้อื่นเชื่อในพระคริสต์ อ่าน 2 นีไฟ 25:26 แล้วมองหาสิ่งที่เราทำได้เพื่อช่วยให้ผู้อื่นเชื่อในพระเยซูคริสต์ ท่านอาจทำเครื่องหมายตรงคำกริยาต่างๆ ที่ใช้ในพระคัมภีร์ข้อนี้

• ถ้อยคำใดในพระคัมภีร์ข้อนี้ที่โดดเด่นสำหรับท่าน?

• ชีวิตของท่านได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่คนอื่นแบ่งปันเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์อย่างไร?

• ความสัมพันธ์ของท่านกับพระเยซูคริสต์จะเข้มแข็งขึ้นจากการแบ่งปันความรู้สึกส่วนตัวกับผู้อื่นเกี่ยวกับพระองค์อย่างไร?

ไอคอนบันทึก

2. ทำสิ่งต่อไปนี้ให้เสร็จ และบันทึกสิ่งที่ท่านจะแบ่งปันกับคนที่นึกถึงโดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อ

ลองนึกถึงใครสักคนในชีวิตท่านที่อาจได้รับประโยชน์จากการเตือนให้ระลึกถึงความรักและพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอด สร้างข้อความ (เช่น ส่งข้อความ โพสต์ในโซเชียลมีเดีย หรือจดหมายส่วนตัว) ที่ท่านอาจแบ่งปันกับพวกเขาได้

ทางเลือก: ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมใช่หรือไม่?

2 นีไฟ 25:23 ฉันจะมีคุณสมบัติคู่ควรรับพระคุณของพระเจ้าได้อย่างไร?

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเตือนว่า:

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน

เราไม่จำเป็นต้องมีความสามารถหรือความดีในระดับต่ำสุดระดับหนึ่งก่อนที่พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยเหลือ—เรารับความช่วยเหลือจากสวรรค์นั้นได้ทุกโมงยามของทุกวัน ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนบนเส้นทางแห่งการเชื่อฟัง แต่ข้าพเจ้ารู้ว่านอกเหนือจากการปรารถนาความช่วยเหลือของพระองค์ เราต้องออกแรง กลับใจ และเลือกพระผู้เป็นเจ้าเพื่อพระองค์จะทรงสามารถกระทำในชีวิตของเราให้สอดคล้องกับความยุติธรรมและสิทธิ์เสรีทางศีลธรรม คำวิงวอนของข้าพเจ้าคือขอเพียงมีความรับผิดชอบและไปทำงานเพื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงมีบางสิ่งที่จะช่วยเหลือเรา (ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน, “เป็นอิสระตลอดกาล เพื่อกระทำด้วยตนเอง,” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 19)

บทความ “Who Will Be on the Earth during the Millennium, and What Will They Be Doing? [ผู้ใดจะอยู่บนแผ่นดินโลกในยุคมิลเลเนียม และพวกเขาจะทำอะไร?]” (New Era, June 2014, 41) อาจช่วยตอบคำถามอื่นๆ ที่ท่านมีเกี่ยวกับมิลเลเนียม

ฉันจะได้รับพรใดจากการแสวงหาพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอด?

ท่านอาจต้องการดูวีดิทัศน์ “มาหาพระคริสต์: เพลงสาระสำคัญประจำปี 2014” (4:48) ไตร่ตรองว่าพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอดส่งผลต่อท่านอย่างไรในยามที่ท่านยากลำบาก

2 นีไฟ 25:24–25 กฎของโมเสสคืออะไรและเหตุใดนีไฟจึงกล่าวว่ากฎนั้นตายแล้ว?

พระผู้เป็นเจ้าประทานกฎผ่านโมเสส เมื่อพงศ์พันธุ์ของอิสราเอลไม่เชื่อฟังกฎที่สูงกว่าที่พวกเขาได้รับ (ดู อพยพ 32; 34; งานแปลของโจเซฟ สมิธ, อพยพ 34:1–2 [ในภาคผนวกงานแปลของโจเซฟ สมิธ]) กฎนี้เรียกว่ากฎของโมเสส ซึ่งประกอบด้วยกฎระเบียบ พิธี และการพลีบูชามากมายโดยมีเจตนาให้ระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าและหน้าที่ของพวกเขาต่อพระองค์ (ดู โมไซยาห์ 13:30) การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ทำให้กฎระเบียบพิธีเกิดสัมฤทธิผล (ดู แอลมา 34:13–14) เหตุผลหนึ่งที่ถือว่ากฎตายแล้วเพราะไม่อาจนำมาซึ่งความรอดสู่บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าได้ มีเพียงพระเยซูคริสต์เท่านั้นที่ทรงทำได้ (ดู คู่มือพระคัมภีร์, “กฎของโมเสส,” scriptures.ChurchofJesusChrist.org.)