ดิจิทัลเท่านั้น: คนหนุ่มสาว
ฉันทําให้พระกิตติคุณซับซ้อนเกินไปหรือไม่M
ฉันเคยไม่เข้าใจว่าทําไมฉันจึงรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน
ตลอดชีวิตฉันพยายามจะเป็นให้ได้อย่างที่ตนเองคิดว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงคาดหวังให้ฉันเป็น แต่ปัญหาคือ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าตัวฉันดีพอหรือยัง
ฉันติดอยู่กับความไม่ดีพร้อมของฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากศึกษาพระคัมภีร์หรือฟังคําปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญ เมื่อได้อ่านสิ่งเหล่านี้ที่ควรเป็นกําลังใจให้ฉัน ฉันกลับจดจ่อแต่กับสิ่งที่ฉันเคยทำผิดพลาด
ฉันใช้ชีวิตแบบนี้มานาน—เศร้าหมองและรู้สึกอ่อนล้าในการเป็นสานุศิษย์
แต่ฉันไม่ได้ตระหนักเลยว่า สิ่งที่ฉันทำได้ไม่ดีพอ จริงๆ แล้ว คือการเชื่ออย่างแท้จริงในพระผู้ช่วยให้รอดและความจริงอันเรียบง่ายและบริสุทธิ์ของพระกิตติคุณของพระองค์
การลืมว่าเหตุใดฉันจึงดําเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ
มุมมองของฉันเปลี่ยนไปขณะที่ฉันฟังการให้ข้อคิดทางวิญญาณเมื่อเร็ว ๆ นี้กับซิสเตอร์แพทริเซีย ที. ฮอลแลนด์ เธอกล่าวว่า “สิ่งที่ดิฉันเสียใจ ที่สุด ในวัยเยาว์คือดิฉันมองไม่เห็นความงามอันเรียบง่ายของพระกิตติคุณ ดิฉันกลับทำให้พระกิตติคุณซับซ้อนเกินไป”1
สิ่งที่เธอพูดสะดุดใจฉัน
ฉันตระหนักว่าบ่อยครั้งฉันทําให้พระกิตติคุณเป็นเรื่องซับซ้อน! ซึ่งเราหลายคนทำ เราคาดหวังให้ตัวเราดีพร้อม โดยเชื่อว่าไม่มีที่สำหรับข้อบกพร่องและความก้าวหน้า และถ้าสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง เราจะกระวนกระวายเกี่ยวกับอนาคต เปรียบเทียบตัวเรากับผู้อื่น สูญเสียความสัมพันธ์กับพระบิดาบนสวรรค์ และถึงกับเริ่มสงสัยว่าการดําเนินชีวิตตามพระกิตติคุณนั้นคุ้มค่าหรือไม่
ฉันจึงตระหนักได้ว่าความวิตกกังวลของฉันไม่ได้เกิดจากการดําเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ ฉันกังวลใจเพราะฉันหยุดจดจ่อกับ เหตุผล ที่ฉันดําเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ ซึ่งนั่นคือ พระเยซูคริสต์
ฉันลืมไปว่าพระองค์และพระบิดาบนสวรรค์ทรงรักฉันด้วยความรักอันสมบูรณ์ (ดู ยอห์น 15:9; 2 นีไฟ 1:15)
ฉันลืมไปว่าตนเองตั้งใจจะมีปีติในการเดินทาง (ดู 2 นีไฟ 2:25)
ฉันลืมไปว่าความเป็นมรรตัยนั้นรวมถึงการมีความไม่ดีพร้อมและการพึ่งพาพระผู้ช่วยให้รอดเพื่อเอาชนะสิ่งเหล่านั้น (ดู อีเธอร์ 12:27)
ฉันลืมไปว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงอยู่ที่นี่เพื่อช่วยฉันเรียนรู้ เติบโต ก้าวหน้า พระองค์ทรงอุทิศความพยายามของฉันระหว่างทาง (ดู 2 นีไฟ 2:1–2; 32:9)
การทําให้ง่ายขึ้น
เราประสบปัญหาเมื่อเราเปลี่ยนให้พระกิตติคุณเป็นกฎเกณฑ์และลืมความจริงอันบริสุทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เมื่อเราเพียรที่จะรักษาพันธสัญญาและพระบัญญัติด้วยเจตนาจะเป็นเหมือนพระองค์ยิ่งขึ้น เมื่อนั้น เราจะดําเนินชีวิตตามพระกิตติคุณอย่างแท้จริง
ดังที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอน นี่คือเวลาที่พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ “เปลี่ยนชีวิตทุกคนที่เข้าใจและหมายมั่นนำหลักคำสอนมาปฏิบัติในชีวิต หลักคำสอนของพระคริสต์ช่วยให้เราพบและอยู่บนเส้นทางแห่งพันธสัญญา”2
พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้เราระลึกเสมอว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงสามารถช่วยให้เราบรรลุศักยภาพอันสูงส่งของเรา แต่เราจะไม่ลืมความจริงที่สําคัญนี้ได้อย่างไร?
ข้อปฏิบัติต่อไปนี้ใช้ได้ผลสำหรับฉัน
-
ฉันสวดอ้อนวอนขอให้พระบิดาบนสวรรค์ทรงช่วยให้ฉันรู้สึกว่าพระองค์ทรงรักฉันและทรงยอมรับความพยายามสุดความสามารถของฉัน
-
ฉันรับศีลระลึก โดยจดจ่อที่การชดใช้ของพระเยซูคริสต์ ฉันเตือนตนเองว่าพระคุณของพระองค์สามารถช่วยฉันได้ในอนาคตและกําลังมีบทบาทในชีวิตของฉันเมื่อฉันพยายามติดตามพระองค์
-
ฉันเปิดพระคัมภีร์เพื่อรับการปลอบโยน ฉันอ่านเรื่องของผู้ที่รู้สึกไม่คู่ควรเช่นกัน และพวกเขาได้รับการเสริมกำลังจากพระเจ้า
-
ฉันไปพระวิหารบ่อย ๆ ทุกสิ่งในพระนิเวศน์ของพระเจ้าเตือนฉันให้นึกถึงพระเมตตาของพระองค์และฉันสามารถก้าวหน้าได้ ที่นั่น ฉันรู้สึกถึงความสงบท่ามกลางความวิตกกังวลมากมาย
การปฏิบัติเหล่านี้ทําให้ฉันซาบซึ้งในสิ่งสําคัญที่สุดของพระกิตติคุณ ซึ่งเตือนฉันว่าอย่าทําให้ความเรียบง่ายของพระกิตติคุณซับซ้อน
พระกิตติคุณมีผล
ถ้าท่านมีปัญหากับความรู้สึกใฝ่หาความสมบูรณ์แบบหรือความรู้สึกไม่ดีพร้อม หรือรู้สึกเหมือนพระกิตติคุณกลายเป็นภาระ จงจดจําถ้อยคําของเอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง
“[พระกิตติคุณ] นี้เรียบง่าย สวยงาม และมีผลดีอย่างยิ่ง
“… ถ้าท่านเคยคิดว่าพระกิตติคุณไม่มีผลดีต่อท่าน ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านถอยกลับไปมองดูชีวิตท่านจากมุมมองที่สูงกว่าและทำให้วิธีสู่การเป็นสานุศิษย์ของท่านเรียบง่าย เน้นหลักคำสอนพื้นฐาน หลักธรรม และการประยุกต์ใช้พระกิตติคุณ ข้าพเจ้าสัญญาว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงนำทางและทรงอวยพรท่านบนเส้นทางสู่ชีวิตที่บรรลุผลสำเร็จ และพระกิตติคุณจะมีผลดีต่อท่านมากยิ่งขึ้น”3
การจดจ่อกับความจริงอันบริสุทธิ์ของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ทําให้ฉันเห็นว่าชีวิตและศรัทธานั้นเรียบง่ายขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ฉันรู้ว่าคุณก็ทำได้เช่นกัน