2018
พรที่สัญญาไว้สำหรับการเข้าพระวิหาร
January 2018


พรที่สัญญาไว้สำหรับการเข้าพระวิหาร

ผู้เขียนอาศัยอยู่ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา

ดิฉันต้องการเข้าพระวิหารมากขึ้น—ดิฉันไม่รู้เลยว่าสิ่งนั้นจะเป็นพรแก่ครอบครัวดิฉันเพียงใด

ภาพ
family walking toward temple

สามสี่ปีก่อน ประธานโอลดรอยด์ สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานสเตคมาเยี่ยมวอร์ดของดิฉันและพูดบางอย่างที่ดิฉันจะไม่มีวันลืม “ผมสัญญากับท่านว่าถ้าท่านเข้าพระวิหาร ชีวิต ทุก ด้านของท่านจะได้รับพร”

ขณะคิดถึงคำพูดนี้ ดิฉันนึกภาพไม่ออกว่าการเข้าพระวิหารจะส่งผลต่อชีวิตทุกด้านของดิฉันได้อย่างไร แต่หลังเลิกโบสถ์ ดิฉันตัดสินใจว่าจะรับคำท้าทายของเขาและเข้าพระวิหารเป็นประจำมากขึ้น ดิฉันต้องการทดสอบสัญญาของเขา สามีดิฉันต้องการไปพระวิหารบ่อยขึ้น แต่ดิฉันอิดออดเพราะเรามีลูกเล็ก เราจะต้องขับรถหนึ่งชั่วโมงครึ่งไปพระวิหารในเมืองแซนแอนโทนีโอ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกาเพื่อทำเอ็นดาวเมนท์แล้วขับรถกลับบ้าน เราขอคนมาดูแลลูกให้เราเจ็ดถึงแปดชั่วโมงไม่ได้

จุดเริ่มต้นของพร

ตอนแรกเราพยายามเปลี่ยนกันดูลูกกับอีกครอบครัวหนึ่ง แต่มีบางคนป่วยกะทันหันหรือไม่ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น เราตัดสินใจว่าเราต้องกำหนดวันสำหรับทั้งปีและ ไป! แล้วเราก็คิดวิธีการ “พิซซาและเล่น” เราจะขับรถไปพระวิหารด้วยกัน เราคนใดคนหนึ่งจะไปเข้าพระวิหารขณะที่อีกคนพาลูกไปกินพิซซ่า จากนั้นเราจะสลับกัน คนหลังจะทำงานพระวิหารส่วนคนแรกเดินเล่นกับลูกๆ บริเวณพระวิหาร ได้ผลดี ลูกๆ ของเรารู้ว่าพระวิหารสำคัญต่อเรา—พวกเขาทุกคนรู้ว่ามีหลายอย่างที่เราทำได้ในวันเสาร์—และเราใช้เวลาด้วยกันเป็นครอบครัว

ดิฉันไม่รู้เลยว่าการไปพระวิหารจะเป็นพรแก่ครอบครัวเราเพียงใด หลังจากเราไปบ่อยขึ้นประมาณปีกว่า ดิฉันกำลังนั่งอยู่ในพระวิหารเมื่อสังเกตเห็นชายคนหนึ่งที่แขนขาเป็นอัมพาต ดิฉันคิดว่าน่าทึ่งมากที่เขาอยู่ในพระวิหาร ระหว่างออกจากพระวิหาร ดิฉันเห็นเขานั่งใกล้ที่จอดรถ ดิฉันกับสามีจึงคิดจะทักทาย

เขาถามดิฉันกับแชดสามีดิฉันว่าเราจะช่วยโทรศัพท์ให้เขาได้ไหม เรายินดีช่วย และเขาบอกแชดว่าโทรศัพท์ของเขาอยู่ที่ไหน แชดกดหมายเลขให้แล้วยื่นโทรศัพท์ให้เขา เขายื่นมือมาหยิบโทรศัพท์ไม่ได้แต่เขายิ้มอย่างใจดี แชดมองดูแขนของเขา ซึ่งรัดติดกับเก้าอี้เข็น และรู้ทันทีว่าต้องถือโทรศัพท์แนบหูเขา บริการรถโดยสารเข้าเมืองที่จะมารับเขาล่าช้ากว่าปกติ เราจึงอยู่คุยกับเขาจนรถโดยสารมารับ เราทึ่งมากที่แม้จะมีความท้าทายแต่เขาก็อยู่ที่พระวิหาร เขามีเจตคติที่ดี เขามีรอยยิ้มสดใส ก่อนเขาไป เราแลกข้อมูลติดต่อกันและทราบว่าเขาชื่อแม็กซ์ พารา

ถ้าบราเดอร์พาราพาตัวเองมาพระวิหารได้ เราก็สามารถพาตัวเราไปพระวิหารได้—ไม่มีข้อแก้ตัว!

แบบอย่างของบราเดอร์พารา

ภาพ
Brother Para with the Evans family

เดือนต่อมาเราตัดสินใจไปเยี่ยมเขาเมื่อเราไปพระวิหาร เราโทรบอกล่วงหน้า และเขาบอกว่าเราเข้าข้างในได้เลยเมื่อมาถึงบ้านของเขา เราขับเข้าไปในเมืองแซนแอนโทนีโอและพบบ้านหลังเล็กของบราเดอร์พารา เขานอนอยู่บนเตียง มีผ้าปูที่นอนสีขาวคลุมตัวขึ้นมาถึงคาง เขาขยับศีรษะมาด้านข้างและพูดคุยกับเรา รอยยิ้มของเขายังคงสดใส เขาบอกเราว่าแขนขาของเขาเป็นอัมพาตหลังจากตกหลังคาเมื่อเขาอายุ 30 เศษ เขาเล่าเรื่องการต่อสู้ดิ้นรนของเขาและแบ่งปันประจักษ์พยานของเขา

การเยี่ยมบราเดอร์พาราครั้งนั้นกลายเป็นการเยี่ยมติดต่อกันหลายปี เขากลายเป็นส่วนพิเศษของชีวิตเรา เราไม่ทราบจะทำอะไรให้เขา—ความท้าทายของเขาใหญ่หลวง สิ่งที่เรารู้คือเราสามารถเป็นเพื่อนกับเขา เราสามารถนำของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไปให้เขา อาทิ ภาพพระผู้ช่วยให้รอด ซีดีพระคัมภีร์มอรมอนในภาษาสเปน ภาพพระวิหาร ส้มสดหนึ่งถุง เราสามารถไปเยี่ยมเขา ร้องเพลงปฐมวัย และฟังเขา นับเป็นประสบการณ์ที่น่ามหัศจรรย์—ท่านถวายขนมปังป่นแด่พระเจ้าโดยไม่ได้รับขนมปังหนึ่งแถวเป็นการตอบแทนไม่ได้1

เขาสอนเราเรื่องความสำนึกคุณ ซึ่งเปลี่ยนชีวิต ทุก ด้านของเรา เราเรียนรู้ที่จะมีความสำนึกคุณต่อความรู้ของเราในพระกิตติคุณ ต่อสัมพันธภาพของเรากับพระผู้เป็นเจ้า ต่อความรู้ของเราเรื่องแผนแห่งความรอด ต่อบ้าน รถยนต์ อาหาร และเครื่องนุ่งห่ม ต่อความสามารถในการใช้ร่างกายของเรา ต่อโอกาสได้ทำประโยชน์เพื่อชุมชนของเรา และต่อคนดีๆ รอบข้างเรา บราเดอร์พาราเปลี่ยนนิยามคำว่า ยาก และ การทดลองของเรา เรามีเหตุผลให้ชื่นชมยินดีในพรมากมายของเราและใช้พรเหล่านั้นหนุนใจผู้อื่น

เรียนรู้การรับใช้

ครั้งหนึ่งเมื่อแชดอยู่ที่พระวิหารกับบราเดอร์กอนซาเลซเพื่อนคนหนึ่งของเขา เขาเห็นบราเดอร์พาราอีกครั้งที่พระวิหารกำลังรอรถตู้มารับ บราเดอร์พารารอนานแล้ว แชดกับบราเดอร์กอนซาเลซจึงตัดสินใจพาบราเดอร์พารากลับบ้าน บราเดอร์กอนซาเลซมีรถกระบะสีดำ ปุโรหิตเต็มคันรถจากสเตคของเรามาถึงพอดี พวกเขาช่วยยกเก้าอี้เข็นคันหนักอึ้งไว้ท้ายรถกระบะ จากนั้นจึงอุ้มบราเดอร์พาราขึ้นรถ รัดเข็มขัดยึดเขาไว้จะได้ไม่หงายหลัง ดิฉันกล้าบอกได้เลยว่าวันนั้นเป็นวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับบราเดอร์พารา—เขาคงนึกไม่ถึงว่าจะได้นั่งรถกระบะในฝันของเขากลับจากพระวิหาร!

ได้รับพรในทุกๆ ด้าน

ครั้งสุดท้ายที่เราไปพระวิหารแซนแอนโทนีโอก่อนเราย้าย เราไปเยี่ยมบราเดอร์พาราด้วย ในการเยี่ยมครั้งพิเศษนี้ บราเดอร์พาราให้เราทั้งครอบครัวมารับประทานอาหารเย็น

ดิฉันซาบซึ้งใจมากที่ดิฉันได้ทดสอบสัญญาของประธานโอลดรอยด์ ครอบครัวของดิฉันคงไม่มีวันได้พบบราเดอร์พาราถ้าเราไม่ได้เข้าพระวิหาร ดิฉันต่างจากเดิม—ดิฉันกลายเป็นคนที่พระเจ้าทรงต้องการให้ดิฉันเป็น เมื่อเราให้พระเจ้ามาก่อนและเข้าพระวิหาร ชีวิตเราจะได้รับพรใน ทุกๆ ด้าน

อ้างอิง

  1. ดู Melvin J. Ballard, in Marion G. Romney, “Welfare Services: The Savior’s Program,” Ensign, Nov. 1980, 93.