2016
บำรุงเลี้ยงครอบครัวด้วยกัน
สิงหาคม 2016


ข่าวเยี่ยมสอน

บำรุงเลี้ยงครอบครัวด้วยกัน

ศึกษาเนื้อหานี้ร่วมกับการสวดอ้อนวอนและทูลขอให้รู้ว่าจะแบ่งปันอะไร การเข้าใจ “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” จะเพิ่มพูนศรัทธาของท่านในพระผู้เป็นเจ้าและเป็นพรแก่คนที่ท่านดูแลผ่านการเยี่ยมสอนอย่างไร ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ reliefsociety.lds.org

ศรัทธา ครอบครัว การบรรเทาทุกข์

ภาพ
parents carrying children on shoulders

“สามีและภรรยามีความรับผิดชอบสำคัญที่จะรักและดูแลกันรวมทั้งรักและดูแลบุตรธิดาของตน”1 “บ้านต้องเป็นห้องทดลองความรักและการรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า” ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน ประธานโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าว

“พระบิดาบนสวรรค์ของเราทรงต้องการให้สามีภรรยาซื่อสัตย์ต่อกัน ปฏิบัติต่อลูกๆ และถือว่าพวกเขาเป็นมรดกจากพระเจ้า”2

ในพระคัมภีร์มอรมอน เจคอบกล่าวว่าความรักที่สามีมีต่อภรรยา ความรักที่ภรรยามีต่อสามี และความรักที่ทั้งคู่มีต่อบุตรธิดาเป็นเหตุผลหนึ่งที่ชาวเลมันมีความชอบธรรมมากกว่าชาวนีไฟในช่วงเวลาหนึ่ง (ดู เจคอบ 3:7)

วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่จะทำให้เกิดความรักความปรองดองภายในบ้านเราคือพูดจานุ่มนวลกับสมาชิกในครอบครัว การพูดจานุ่มนวลนำมาซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซิสเตอร์ลินดา เค. เบอร์ตัน ประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญขอให้เราพิจารณาว่า “บ่อยเพียงใดที่เรา ‘เอ่ยคำชมเชยสรรเสริญกัน’”3

พระคัมภีร์เพิ่มเติม

โรม 12:10; โมไซยาห์ 4:15; หลักคำสอนและพันธสัญญา 25:5

เรื่องจริง

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองแบ่งปันประสบการณ์วัยเด็กที่ทำให้ท่านจดจำความสำคัญของครอบครัวที่รักกัน เมื่อท่านกับพี่ชายน้องชายยังเด็ก คุณแม่รับการผ่าตัดมะเร็งที่ทำให้เธอปวดมากเมื่อใช้แขนขวา เนื่องจากครอบครัวมีแต่ลูกชาย จึงมีเสื้อผ้ามากมายที่ตัองรีด เวลาคุณแม่รีดผ้า คุณแม่มักจะหยุดพักและเข้าไปร้องไห้ในห้องนอนจนกว่าจะหายปวด

พอคุณพ่อของเอ็ลเดอร์คริสทอฟเฟอร์สันทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านจึงแอบอดอาหารกลางวันนานเกือบปีเพื่อเก็บเงินให้พอซื้อเตารีดที่ช่วยให้รีดผ้าง่ายขึ้น จากความรักที่ท่านมีต่อภรรยา ท่านจึงเป็นแบบอย่างของการบำรุงเลี้ยงภายในครอบครัวสำหรับลูกชายของท่าน เอ็ลเดอร์คริสทอฟเฟอร์สันกล่าวถึงการปฏิบัติที่อ่อนโยนเช่นนี้ว่า “เวลานั้นข้าพเจ้าไม่ทราบเรื่องการเสียสละและการกระทำอันเกิดจากความรักที่คุณพ่อมีต่อคุณแม่ แต่ตอนนี้ข้าพเจ้ารู้แล้วและพูดกับตนเองว่า ‘นี่แหละลูกผู้ชาย’”4

อ้างอิง

  1. “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก,” เลียโฮนา, พ.ย. 2010, 165.

  2. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ความรอดและความสูงส่ง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2008, 9.

  3. ลินดา เค. เบอร์ตัน, “เราจะขึ้นไปด้วยกัน,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 31.

  4. ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน, “ขอให้เราเป็นลูกผู้ชาย,” เลียโฮนา, พ.ย. 2006, 58.