พระคัมภีร์
แอลมา 20


บทที่ ๒๐

พระเจ้าทรงส่งแอมันไปมิดโดไนเพื่อปลดปล่อยพี่น้องที่ถูกคุมขัง—แอมันกับลาโมไนพบบิดาของลาโมไน, ผู้เป็นกษัตริย์ปกครองทั้งแผ่นดิน—แอมันบีบคั้นให้กษัตริย์ผู้ชราอนุญาตการปลดปล่อยพี่น้องท่าน. ประมาณ ๙๐ ปีก่อนคริสตกาล.

และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือเมื่อพวกท่านสถาปนาศาสนจักรขึ้นในแผ่นดินนั้นแล้ว, คือกษัตริย์ลาโมไนปรารถนาให้แอมันไปแผ่นดินแห่งนีไฟกับเขา, เพื่อจะได้แนะนำท่านให้แก่บิดาตน.

และสุรเสียงของพระเจ้ามาถึงแอมัน, โดยตรัสว่า : เจ้าจะไม่ขึ้นไปแผ่นดินแห่งนีไฟ, เพราะดูเถิด, กษัตริย์จะหมายมั่นเอาชีวิตเจ้า; แต่เจ้าจงไปแผ่นดินแห่งมิดโดไน; เพราะดูเถิด, แอรันพี่ชายของเจ้า, และมิวโลไคกับแอมาห์ด้วยอยู่ในเรือนจำ.

บัดนี้เหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือเมื่อแอมันได้ยินเรื่องนี้, ท่านกล่าวแก่ลาโมไน : ดูเถิด, พี่ชายข้าพเจ้าและพี่น้องข้าพเจ้าอยู่ในเรือนจำที่มิดโดไน, และข้าพเจ้าจะไปปลดปล่อยพวกเขา.

บัดนี้ลาโมไนกล่าวแก่แอมัน : ข้าพเจ้ารู้, ในกำลังของพระเจ้าท่านทำทุกสิ่งได้. แต่ดูเถิด, ข้าพเจ้าจะไปกับท่านยังแผ่นดินแห่งมิดโดไน; เพราะกษัตริย์ของแผ่นดินแห่งมิดโดไน, ที่ชื่อแอนทิออมโน, เป็นเพื่อนกับข้าพเจ้า; ฉะนั้นข้าพเจ้าไปแผ่นดินแห่งมิดโดไน, เพื่อจะหว่านล้อมกษัตริย์ของแผ่นดิน, และเขาจะปล่อยพี่น้องท่านออกจากเรือนจำ. บัดนี้ลาโมไนกล่าวแก่ท่าน : ใครบอกท่านเล่าว่าพี่น้องท่านอยู่ในเรือนจำ ?

และแอมันกล่าวแก่เขา : ไม่มีใครบอกข้าพเจ้า, นอกจากพระผู้เป็นเจ้า; และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้า—จงไปปลดปล่อยพี่น้องเจ้า, เพราะพวกเขาถูกจองจำอยู่ในแผ่นดินแห่งมิดโดไน.

บัดนี้เมื่อลาโมไนได้ยินเรื่องนี้เขาจึงให้ผู้รับใช้ของเขาเตรียมม้าและรถศึกของเขาพร้อมไว้.

และเขากล่าวแก่แอมัน : มาเถิด, ข้าพเจ้าจะไปกับท่านลงไปยังแผ่นดินแห่งมิดโดไน, และที่นั่นข้าพเจ้าจะวิงวอนกับกษัตริย์เพื่อเขาจะปล่อยพี่น้องท่านออกจากเรือนจำ.

และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือขณะที่แอมันกับลาโมไนกำลังเดินทางไปที่นั่น, พวกท่านพบบิดาของลาโมไน, ผู้เป็นกษัตริย์ปกครองทั่วแผ่นดิน.

และดูเถิด, บิดาของลาโมไนกล่าวแก่เขา : เหตุใดลูกจึงไม่มางานฉลองในวันสำคัญนั้นเมื่อพ่อจัดงานฉลองให้บรรดาลูกของพ่อ, และให้ผู้คนของพ่อ ?

๑๐ และเขากล่าวด้วยว่า : ลูกกำลังจะไปไหนกับชาวนีไฟผู้นี้, ซึ่งเป็นลูกหลานคนหนึ่งของคนพูดเท็จ ?

๑๑ และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือลาโมไนเล่าให้บิดาฟังว่าเขาจะไปไหน, เพราะเขาเกรงว่าจะทำให้บิดาขุ่นเคือง.

๑๒ และเขาบอกบิดาด้วยถึงสาเหตุทั้งหมดของการที่เขาต้องคงอยู่ในอาณาจักรของตนเอง, ที่เขาไม่ได้ไปหาบิดาที่งานฉลองซึ่งบิดาเตรียมไว้.

๑๓ และบัดนี้เมื่อลาโมไนเล่าเรื่องทั้งหมดนี้แก่บิดาแล้ว, ดูเถิด, ยังความฉงนแก่เขา, บิดาโกรธเขา, และกล่าวว่า : ลาโมไน, ลูกกำลังจะไปปลดปล่อยชาวนีไฟเหล่านี้, ซึ่งเป็นบุตรของคนพูดเท็จ. ดูเถิด, เขาปล้นบรรพบุรุษเรา; และบัดนี้ลูกหลานของเขามาอยู่ในบรรดาเราด้วย, เพื่อด้วยอุบายของพวกเขาและการพูดเท็จของพวกเขา, พวกเขาจะได้หลอกลวงเรา, เพื่อพวกเขาจะขโมยทรัพย์สมบัติของเราอีก.

๑๔ บัดนี้บิดาของลาโมไนสั่งให้เขาสังหารแอมันด้วยดาบ. และสั่งห้ามเขาไปแผ่นดินแห่งมิดโดไนด้วย, แต่ให้กลับไปแผ่นดินอิชมาเอลกับตน.

๑๕ แต่ลาโมไนกล่าวแก่เขาว่า : ลูกจะไม่สังหารแอมัน, ทั้งจะไม่กลับไปแผ่นดินแห่งอิชมาเอล, แต่ลูกจะไปแผ่นดินแห่งมิดโดไนเพื่อจะได้ปล่อยพี่น้องของแอมัน, เพราะลูกรู้ว่าพวกเขาเป็นคนเที่ยงธรรมและเป็นศาสดาพยากรณ์ผู้บริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าองค์จริง.

๑๖ บัดนี้เมื่อบิดาของเขาได้ยินถ้อยคำเหล่านี้, ก็โกรธเขา, และเขาชักดาบของตนหมายจะฟันลูกลงกับพื้นดิน.

๑๗ แต่แอมันก้าวออกไปและกล่าวแก่เขาว่า : ดูเถิด, ท่านจะไม่สังหารบุตรของท่าน; กระนั้นก็ตาม, เป็นการดีกว่าที่เขาจะล้มตายแทนที่จะเป็นท่าน, เพราะดูเถิด, เขากลับใจจากบาปของเขาแล้ว; แต่หากท่านจะล้มตายในเวลานี้, ในความโกรธของท่าน, จิตวิญญาณท่านไม่อาจรับการช่วยให้รอดได้.

๑๘ และอนึ่ง, สมควรที่ท่านจะยั้งใจไว้ก่อน; เพราะหากท่านสังหารบุตรของท่าน, โดยที่เขาเป็นคนบริสุทธิ์, เลือดของเขาจะร้องจากพื้นดินทูลพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าของเขา, เพื่อการแก้แค้นจะมาถึงท่าน; และท่านอาจจะสูญเสียจิตวิญญาณ.

๑๙ บัดนี้เมื่อแอมันกล่าวถ้อยคำเหล่านี้แก่เขาแล้ว, เขาตอบท่าน, มีความว่า : ข้าพเจ้ารู้ว่าหากข้าพเจ้าจะสังหารลูกข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าก็ทำให้เลือดบริสุทธิ์ต้องหลั่ง; เพราะท่านนั่นเองที่หมายมั่นจะทำลายเขา.

๒๐ และเขาเงื้อมือหมายสังหารแอมัน. แต่แอมันต้านแรงดาบของเขาไว้, และฟาดแขนของเขาด้วยเพื่อเขาจะใช้มันไม่ได้.

๒๑ บัดนี้เมื่อกษัตริย์เห็นว่าแอมันจะสังหารเขาได้, เขาเริ่มวิงวอนแอมันให้ไว้ชีวิตตน.

๒๒ แต่แอมันเงื้อดาบของท่านขึ้น, พลางกล่าวแก่เขาว่า : ดูเถิด, ข้าพเจ้าจะฟันท่านเสียเว้นแต่ท่านจะยอมให้พี่น้องข้าพเจ้าได้รับการปลดปล่อยออกจากเรือนจำ.

๒๓ บัดนี้กษัตริย์, โดยที่กลัวจะสูญเสียชีวิตตน, จึงกล่าวว่า : หากท่านจะละเว้นข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้ท่านไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่ท่านจะขอ, แม้ถึงครึ่งหนึ่งของอาณาจักร.

๒๔ บัดนี้เมื่อแอมันเห็นว่าสิ่งที่ท่านกระทำกับกษัตริย์ผู้ชราได้บังเกิดผลตามความปรารถนาของท่านแล้ว, จึงกล่าวแก่เขาว่า : หากท่านจะยอมให้พี่น้องข้าพเจ้าได้รับการปลดปล่อยออกจากเรือนจำ, และให้ลาโมไนยังคงปกครองอาณาจักรของเขาด้วย, และว่าท่านจะไม่โกรธเขา, แต่ยอมให้เขาทำตามความปรารถนาของเขาเองในเรื่องใดก็ตามที่เขาคิด, เมื่อนั้นข้าพเจ้าจะละเว้นท่าน; หาไม่แล้วข้าพเจ้าจะฟันท่านลงสู่พื้นดิน.

๒๕ บัดนี้เมื่อแอมันกล่าวถ้อยคำเหล่านี้, กษัตริย์เริ่มชื่นชมยินดีเพราะชีวิตของตน.

๒๖ และเมื่อเห็นว่าแอมันไม่มีความปรารถนาจะทำลายเขา, และเมื่อเห็นความรักอันบริสุทธิ์ใจที่ท่านมีต่อลาโมไนบุตรของเขาด้วย, เขาฉงนยิ่ง, และกล่าวว่า : ด้วยเหตุที่ท่านปรารถนาเพียงเท่านี้, คือให้ข้าพเจ้าปล่อยพี่น้องท่าน, และยอมให้ลาโมไนบุตรข้าพเจ้ายังคงปกครองอาณาจักรของเขา, ดูเถิด, ข้าพเจ้าจะอนุญาตท่านว่าให้บุตรข้าพเจ้ายังคงปกครองอาณาจักรของเขานับจากเวลานี้ไปและตลอดกาล; และข้าพเจ้าจะไม่ปกครองเขาอีกต่อไป—

๒๗ และข้าพเจ้าจะอนุญาตด้วยว่าให้พี่น้องท่านได้รับการปลดปล่อยออกจากเรือนจำ, และให้ท่านกับพี่น้องท่านมาหาข้าพเจ้า, ในอาณาจักรของข้าพเจ้า; เพราะข้าพเจ้าปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเห็นท่าน. เพราะกษัตริย์สนเท่ห์นักในถ้อยคำที่ท่านพูด, และถ้อยคำที่พูดโดยลาโมไนบุตรของเขาด้วย, ฉะนั้นเขาปรารถนาจะเรียนรู้สิ่งนี้.

๒๘ และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือแอมันและลาโมไนเดินทางต่อไปยังแผ่นดินแห่งมิดโดไน. และลาโมไนจึงเป็นที่โปรดปรานในสายตากษัตริย์ของแผ่นดิน; ฉะนั้นจึงนำพี่น้องของแอมันออกจากเรือนจำ.

๒๙ และเมื่อแอมันได้พบคนเหล่านั้นท่านโทมนัสยิ่ง, เพราะดูเถิดพวกท่านเปลือยเปล่า, และผิวกายของพวกท่านล้วนเต็มไปด้วยริ้วรอยเพราะถูกมัดด้วยเชือกแน่นหนา. และพวกท่านต้องทนความหิวโหย, ความกระหาย, และความทุกข์นานัปการด้วย; กระนั้นก็ตามพวกท่านยังอดทนความทุกขเวทนาทั้งหลายทั้งปวงของพวกท่าน.

๓๐ และ, ตามที่มันเกิดขึ้น, มันเป็นคราวเคราะห์ของพวกท่านที่มาตกอยู่ในเงื้อมมือผู้คนที่มีใจแข็งกระด้างยิ่งและดื้อรั้นยิ่ง; ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่ยอมสดับฟังถ้อยคำของพวกท่าน, และพวกเขาขับไล่พวกท่านไป, และโบยตีพวกท่าน, และต้อนพวกท่านจากบ้านหนึ่งไปอีกบ้านหนึ่ง, และจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง, แม้จนพวกท่านมาถึงแผ่นดินแห่งมิดโดไน; และที่นั่นพวกท่านถูกจับโยนเข้าเรือนจำ, และถูกมัดด้วยเชือกแน่นหนา, และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำหลายวัน, และได้รับการปลดปล่อยโดยลาโมไนและแอมัน.