คุณพ่อของข้าพเจ้ากับ พระวิหาร

โดย เอ็ลเดอร์เธียร์รี เค. มูทูมโบ

แห่งสาวกเจ็ดสิบ

ภาพ

เอ็ลเดอร์เธียร์รี เค. มูทูมโบ

ความฝันของคุณพ่อเรื่องบ้านสีขาวหลังงามเตือนข้าพเจ้าว่าพระวิหารควรเป็นจุดโฟกัสของชีวิตเราเสมอ

ภาพ

ชายใต้ต้นไม้กำลังมองไปทางพระวิหาร

ภาพประกอบโดย เดวิด กรีน

ครอบครัวข้าพเจ้าเข้าร่วมศาสนจักรเมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก ไม่กี่สัปดาห์หลังจากเรารับบัพติศมา คุณพ่อฝัน ว่าท่านเดินไปตามถนนสวยๆ สายหนึ่ง ท่านเห็นบ้านสีขาวหลังงามแต่ไกล ท่านไม่เคยเห็นอาคารหลังใดน่าประทับใจเท่านี้มาก่อน

ท่านเล่าเรื่องฝันให้ครอบครัวเราฟังตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ท่านเล่าให้ผู้สอนศาสนาอาวุโสคู่สามีภรรยาที่สอนพระกิตติคุณให้กับครอบครัวเราฟังด้วย ผู้สอนศาสนาอาวุโสบอกท่านว่าบ้านในฝันคือสัญลักษณ์ หมายถึงพระวิหาร

พวกเขาให้ท่านดูภาพพระวิหารบางแห่งของศาสนจักรทั่วโลก และบอกว่าวันหนึ่งจะมีพระวิหารสร้างในที่ที่เราอาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก คุณพ่อสวดอ้อนวอนตลอดชีวิตที่เหลือขอให้มีพระวิหารในประเทศของเรา

ความฝันเป็นจริง

ความฝันเป็นจริงหลังจากนั้น 25 ปี ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคมปี 2011 ประธานโธมัส เอส. มอนสันประกาศแผนสร้างพระวิหารกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก คำประกาศนั้นทำให้คุณพ่อข้าพเจ้าเป็นคนมีความสุขมากที่สุดในโลก! ท่านดีใจมากที่ได้อยู่ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เมื่อเอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเป็นประธานควบคุมพิธีเบิกดิน

น่าเสียดายที่คุณพ่อสิ้นชีวิตเมื่อเดือนธันวาคมปี 2016 ก่อนพระวิหารสร้างเสร็จ ในเดือนมิถุนายนปี 2018 ข้าพเจ้าอยู่ในซอลท์เลคซิตี้ ยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ในพระวิหารจอร์แดนริเวอร์ ยูทาห์ ข้าพเจ้าประกอบศาสนพิธีพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์แทนคุณพ่อ คืนนั้นคุณพ่อมาเข้าฝัน ท่านส่องสว่าง ข้าพเจ้าทราบว่าท่านได้ยอมรับสิ่งที่ข้าพเจ้าทำให้ท่านแล้ว

เราคิดถึงคุณพ่อมากเมื่อเอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอุทิศพระวิหารกินชาซาที่เสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2019 ต่อมาไม่นานครอบครัวของข้าพเจ้าประกอบศาสนพิธีผนึกคุณพ่อกับคุณแม่ ตามด้วยลูกๆ ผนึกกับพวกท่าน ครอบครัวเราจะจดจำวันนั้นตลอดไป เราหลั่งน้ำตาแห่งปีติ เรารู้ว่าถ้าเราเชื่อฟังกฎและพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า และดำเนินชีวิตซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของเรา ครอบครัวเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป

ความฝันของคุณพ่อเรื่องบ้านสีขาวหลังงามเตือนข้าพเจ้าว่าพระวิหารควรเป็นจุดโฟกัสของชีวิตเราเสมอ บางคนเดินทางไกลมากและเสียสละมากเพื่อไปพระนิเวศน์ของพระเจ้า แต่ถึงแม้เราจะไปพระวิหารไม่ได้เพราะอยู่ไกล หรือเรากำลังรอพระวิหารที่สร้างอยู่ หรือเราชื่นชมยินดีเพราะพระวิหารอยู่ใกล้เราแล้ว พระวิหารควรอยู่ในความนึกคิดและในใจเราตลอดเวลา

ภาพ

ชายคนหนึ่งฝันเห็นพระวิหารและคนสวมชุดขาว

สาเหตุที่เรามีพระวิหาร

ศาสดาพยากรณ์อิสยาห์สอนว่า “มาเถิด ให้เราขึ้นไปยังภูเขาของพระยาห์เวห์ ไปยังพระนิเวศของพระเจ้าของยาโคบ แล้วพระองค์จะทรงสอนวิถีของพระองค์แก่เรา และเพื่อเราจะเดินในมรรคาของพระองค์” (อิสยาห์ 2:3)

ในฐานะสมาชิกของศาสนจักร เราต้องจำมุมมองนิรันดร์ที่สอนในพระวิหารไว้เสมอ—เราเป็นใครและเราอยู่บนโลกนี้ทำไม เราต้องจำไว้ว่าเป้าหมายของเราคือกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ อยู่กับพระองค์ชั่วนิรันดร นั่นคือเหตุผลที่สร้างพระวิหาร พระวิหารเป็นสถานที่ให้เราเหล่าบุตรธิดาของพระองค์ได้เรียนรู้อย่างเต็มที่มากขึ้นเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์ พระวิหารเป็นสถานที่ที่เราสามารถเรียนรู้ว่าต้องทำอะไรเพื่อจะได้อยู่กับทั้งสองพระองค์อีกครั้ง

การมีพระวิหารเป็นสัญญาณบ่งบอกความรักของพระผู้เป็นเจ้าต่อเรา พระวิหารเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ที่บุคคลและครอบครัวจะได้รับศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระกิตติคุณเพื่อความรอดและความสูงส่งของตนเอง นอกจากนี้พระวิหารยังเป็นสถานที่ที่พวกเขาสามารถประกอบศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ในนามบรรพชนและคนอื่นๆ ผู้เคยมีชีวิตอยู่ที่นี่บนแผ่นดินโลกโดยไม่มีโอกาสได้รับศาสนพิธีเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องให้โอกาสคนอีกด้านหนึ่งของม่านได้รับสิ่งที่พวกเขาไม่ได้รับในชีวิตนี้ (ดู ฮีบรู 11:40; หลักคำสอนและพันธสัญญา 128:15)

พระวิหารและการรวบรวมอิสราเอล

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า

“แน่นอนว่านี่ เป็น ยุคสุดท้าย และพระเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์ในการรวบรวมอิสราเอล การรวบรวมนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกในปัจจุบัน …

“เมื่อเราพูดถึง การรวบรวม เราเพียงแต่กล่าวความจริงพื้นฐานนี้: บุตรธิดาทุกคนของพระบิดาบนสวรรค์ในทั้งสองด้านของม่าน สมควรได้ยินข่าวสารพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ พวกเขาตัดสินใจด้วยตนเองว่าพวกเขาอยากรู้มากขึ้นหรือไม่ …

“บุตรธิดาทุกคนของพระบิดาบนสวรรค์สมควรได้รับโอกาสในการ เลือก ติดตามพระเยซูคริสต์ ยอมรับและรับพระกิตติคุณของพระองค์พร้อมด้วยพรทั้งหมดของพระกิตติคุณ”¹

ในฐานะสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย หรือ ผู้เป็นอิสราเอลในพันธสัญญายุคสุดท้าย เรามีหน้าที่ช่วยเหลือพระบิดาบนสวรรค์ในงานอันสำคัญยิ่งนี้ เราทำงานนั้นอย่างไร?

ประธานเนลสันตอบคำถามนี้เมื่อท่านกล่าวว่า “เมื่อเราพูดถึงการรวบรวมอิสราเอลทั้งสองด้านของม่าน แน่นอนว่าเรากำลังหมายถึงงานสอนศาสนา พระวิหาร และงานประวัติครอบครัว ทั้งยังหมายถึงการสร้างศรัทธาและประจักษ์พยานในใจคนที่อยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน และรับใช้ด้วยกัน เมื่อใดก็ตามที่เราทำสิ่งใดเพื่อช่วยคนอื่นให้ทำและรักษาพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า—ไม่ว่าในด้านใดของม่าน เรากำลังช่วยรวบรวมอิสราเอล”²

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเราค้นหาคนชอบธรรม คนที่จะ “ให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัย”³ ในชีวิตพวกเขาและเราสนับสนุนพวกเขาขณะพระวิญญาณทรงนำทางพวกเขาไปถึงเส้นทางพันธสัญญา ไปถึงพระวิหาร และต่อไปถึงชีวิตนิรันดร์

พระวิหารและการฟื้นฟู

เฉกเช่นโซโลมอนสมัยก่อน “สร้างพระนิเวศสำหรับพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล” (1 พงศ์กษัตริย์ 8:20) สมาชิกของศาสนจักรได้รับบัญชาตั้งแต่เริ่มต้นการฟื้นฟูให้สร้างพระวิหาร (ดูตัวอย่างใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 57:3; 84:3–5; 124:31) นี่คือสัมฤทธิผลส่วนหนึ่งของความฝันที่ดาเนียลแปล ความฝันที่เขาเห็นว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงจัดตั้งอาณาจักรยุคสุดท้ายซึ่งจะไม่มีวันถูกทำลาย อาณาจักรจะเติบโต แผ่ขยาย และรุ่งเรืองจนเต็มทั้งแผ่นดินโลก (ดู ดาเนียล 2:35, 44–45) โจเซฟ สมิธกล่าวว่า “ศาสนจักรนี้จะเต็มอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้—จะเต็มโลก”⁴

พระเจ้าทรงเรียกยุคสมัยของเราว่า “สมัยการประทานแห่งพระกิตติคุณเพื่อเวลาสุดท้าย; และเพื่อความสมบูรณ์แห่งเวลา, ซึ่งในนั้นเราจะรวบรวมสรรพสิ่งทั้งปวงไว้เป็นหนึ่งเดียว, ทั้งที่อยู่ในสวรรค์, และที่อยู่บนแผ่นดินโลก” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 27:13) ส่วนสำคัญของการรวบรวมสรรพสิ่งในสวรรค์และบนแผ่นดินโลกเกิดขึ้นในพระวิหาร

ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายคืออาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลกในปัจจุบัน จุดประสงค์ของศาสนจักรคือเตรียมผู้คนให้พร้อมมีชีวิตตลอดไปในอาณาจักรซีเลสเชียล (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 65) ศาสนจักรได้รับการสถาปนาเมื่อบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าผู้มีประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์:

รับบัพติศมาและการยืนยัน
รับศาสนพิธีพระวิหาร
รักษาพันธสัญญาของพวกเขา
แสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะซื่อสัตย์และเชื่อฟังเสมอภายใต้สภาวการณ์ทั้งหมดและจะมีส่วนร่วมในงานอันสำคัญยิ่งของยุคสุดท้าย (ดู 1 ซามูเอล 13:8–14; หลักคำสอนและพันธสัญญา 98:14–15)

สมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลานี้ได้รับการสถาปนาเพื่อรวบรวมอิสราเอลที่กระจัดกระจายก่อนการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์

ข้าพเจ้ารู้ว่าอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการสถาปนาบนแผ่นดินโลกแล้วเพื่อช่วยให้เราเรียนรู้และเข้าใจแผนอันน่าอัศจรรย์ที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีให้เรา พระกิตติคุณและพระวิหารช่วยให้เราจดจำว่าเราเป็นใคร เราอยู่ในความเป็นมรรตัยทำไม และเราจะไปที่ไหนหลังจากชีวิตนี้ ข้าพเจ้ารู้ว่าศาสนพิธีและพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ของพระวิหารจะช่วยให้เรามีคุณสมบัติคู่ควรรับชีวิตนิรันดร์และความสูงส่งถ้าเรายังคงซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาที่เราทำ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ชีวิตแต่งงานและครอบครัวของเราเป็นปึกแผ่น และจะช่วยให้เราสามารถต่อต้านการโจมตีของปฏิปักษ์ได้ดีขึ้นขณะเราเตรียมทุกวันเพื่อพบพระผู้สร้างของเรา