2020
ดีพร้อมในพระคริสต์
ธันวาคม 2020


ปัจฉิมวาทะ

ดีพร้อมในพระคริสต์

จากคำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2018

แสงสว่างและชีวิตทางวิญญาณเกิดขึ้นเมื่อการปฏิบัติตามหลักศาสนาเป็นประจำดึงเราเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดของเราพระเยซูคริสต์มากขึ้น เมื่อเราเชื่อฟังทุกวันเราพบคำตอบ ศรัทธา มีพลังเผชิญความท้าทายและโอกาสทุกวันด้วยความอดทน ความหวังใจ และปีติในพระกิตติคุณ

เมื่อเราแสวงหาวิธีใหม่ที่บริสุทธิ์กว่าเพื่อรักพระผู้เป็นเจ้าตลอดจนช่วยเราและผู้อื่นเตรียมพบพระองค์ เราระลึกว่าความดีพร้อมอยู่ในพระคริสต์ ไม่ใช่ในตัวเราหรือในความสมบูรณ์แบบของโลก

พระดำรัสเชื้อเชิญจากพระผู้เป็นเจ้าเต็มไปด้วยความรักและความเป็นไปได้เพราะพระเยซูคริสต์ทรงเป็น “ทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต” (ยอห์น 14:6) ถึงผู้รู้สึกแบกภาระหนัก พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้ “มาหาเรา” และถึงผู้ที่มาหาพระองค์ พระองค์ทรงสัญญาว่า “เราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก” (มัทธิว 11:28) “จงมาหาพระคริสต์, และได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์ … รักพระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดพลัง, ความนึกคิด, และพละกำลังของท่าน, เมื่อนั้นพระคุณของพระองค์จึงเพียงพอสำหรับท่าน, เพื่อโดยพระคุณของพระองค์ท่านจะดีพร้อมในพระคริสต์” (โมโรไน 10:32)

ในการรับรองว่า “โดยพระคุณของพระองค์ท่านจะดีพร้อมในพระคริสต์” เป็นทั้งคำปลอบโยน สันติสุข และคำสัญญาว่าเราสามารถเดินหน้าต่อไปด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่นในพระเจ้าแม้สิ่งต่างๆ ไม่เป็นดังหวัง ดังที่คาดหวัง หรือสมควรได้รับ โดยไม่ใช่ความผิดของเรา แม้หลังจากเราทำสุดความสามารถแล้ว

หลายครั้งและหลายด้าน เราทุกคนจะรู้สึกไม่คู่ควร ไม่มั่นใจ และอาจไม่มีค่าควร แต่เมื่อเราพยายามรักพระผู้เป็นเจ้าและปฏิบัติศาสนกิจต่อเพื่อนบ้าน เราจะรู้สึกถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้าและการดลใจที่จำเป็นต่อชีวิตพวกเขาและชีวิตเรา

พระผู้ช่วยให้รอดของเราทรงเห็นใจเรา ทรงให้กำลังใจและสัญญาว่าเราสามารถ “มุ่งหน้าด้วยความแน่วแน่ในพระคริสต์, โดยมีความเจิดจ้าอันบริบูรณ์แห่งความหวัง, และความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าและต่อมนุษย์ทั้งปวง” (2 นีไฟ 31:20) หลักคำสอนของพระคริสต์ การชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด และการเดินตามเส้นทางพันธสัญญาด้วยสุดจิตของเราจะช่วยให้เรารู้ความจริงของพระองค์และทำให้เราเป็นอิสระ (ดู ยอห์น 8:32)

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าเส้นทางพันธสัญญานำไปสู่ของประทานสำคัญที่สุดที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงสัญญา นั่นคือ “เจ้าจะมีชีวิตนิรันดร์” (2 นีไฟ 31:20)