2016
ส่วนที่ยากที่สุดของการเป็นผู้สอนศาสนา
มิถุนายน 2016


ส่วนที่ยากที่สุด ของการเป็น ผู้สอนศาสนา

ผู้เขียนอาศัยอยู่ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา

บางครั้งอุปสรรคใหญ่ที่สุดในงานเผยแผ่ศาสนาไม่ใช่งานเผยแผ่ศาสนา

ภาพ
young man and school images

ภาพประกอบโดย ฮีเธอร์ แลนดิส

ผู้สอนศาสนาคนหนึ่งเคยบอกดิฉันว่า “เมื่อคนพูดว่างานเผยแผ่จะยาก ดิฉันคิดว่านั่นหมายความว่าดิฉันคงจะหนาวหรือประสบสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบากหรือมีปัญหาเรื่องภาษา แต่สำหรับดิฉันส่วนยากที่สุดคือสิ่งที่เกิดขึ้นในความคิด—เช่น รู้สึกท้อหรือโกรธคู่หรือไม่ชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้า—รับมือกับเรื่องดีเรื่องร้ายสารพัด การถูกปฏิเสธ การเปลี่ยนแปลง”

ภาพ
young man ironing

เพื่อเตรียมทำงานเผยแผ่ ท่านสามารถและควร อ่าน สั่งสอนกิตติคุณของเรา ศึกษาพระคัมภีร์ เรียนรู้วิธีทำอาหารและซักรีดเสื้อผ้า แต่ท่านควรมีประสบการณ์จริงในเวลานี้เช่นกันกับทักษะ ทางอารมณ์ สังคม และอื่นๆ ที่ท่านจะต้องมีเมื่อเป็นผู้สอนศาสนา ต่อไปนี้เป็นทักษะบางประการ ท่านสามารถทำเครื่องหมายหนึ่งหรือสองข้อเพื่อเริ่มฝึกตอนนี้

ทักษะของการเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนโดยไม่รู้สึกเสียศักดิ์ศรี

ซิสเตอร์ผู้สอนศาสนาคนหนึ่งในรัฐแอละแบมา สหรัฐอเมริกาบอกดิฉันว่า “ดิฉันคิดว่าเมื่อพวกเขาวางมือมอบหน้าที่ดิฉันคงนึกว่าตนเองจะมีพลังมากเป็นพิเศษ ดิฉันตกใจมากเมื่อไปถึงคณะเผยแผ่และทราบว่าดิฉันยังเหมือนเดิม ดิฉันยังมีความอ่อนแอ ความกลัว และไม่เก่งเหมือนเดิม สิ่งเหล่านั้นไม่ได้หายไปไหน ดิฉันต้องเรียนรู้วิธีรับมือกับการที่ดิฉันไม่เก่งพอจะทำงานของพระเจ้า”

ไม่ว่าท่านจะเข้ามาในคณะเผยแผ่พร้อมความสำเร็จมากมายหรือเล็กน้อย หากท่านอ่อนน้อมถ่อมตน สอนได้ เต็มใจพยายามและทำงานต่อไป พระเจ้าย่อมสามารถทำงานกับท่านได้ แต่ทักษะการเป็นผู้สอนศาสนาของท่านจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อท่านฝึก ถามคำถาม ขอความช่วยเหลือ และพยายามต่อไป หากท่านเชื่อมั่นว่าทุกคนเก่งมาตั้งแต่เกิด (หรือไม่เก่งมาตั้งแต่เกิด) เรื่องงานเผยแผ่ศาสนา ภาษา ประจักษ์พยาน หรือความสัมพันธ์ ท่านจะลำบากกว่าเดิม

ผู้สอนศาสนาคนหนึ่งเคยพูดกับดิฉันว่า “ผมต้องเรียนรู้ว่านั่นเป็นงานของพระเจ้า ไม่ใช่ของผม และผมรับได้ถ้าผมรู้สึกไม่เก่งพอเพราะผม เป็น คนไม่เก่ง ผมไม่มีวันเก่งพอจะทำสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นทรงทำได้ มีมากมายที่ผมสามารถทำให้ดีขึ้นได้ แต่ผมต้องไม่คิดจะทำทั้งหมดด้วยตนเอง ผมพึ่งพาพระองค์ได้”

พยายามทำสิ่งใหม่และยาก จากนั้นท่านจะเรียนรู้ว่าต้องไม่จริงจังเกินไปกับความรู้สึกไม่เก่งพอ ตัวอย่างเช่น:

  • ลองทำสิ่งที่นำท่านออกจากโซนสบายของตนเอง เช่น งานใหม่ กิจกรรมนอกหลักสูตร หรือชั้นเรียนที่ไม่คุ้นเคย ถามคำถาม ขอความช่วยเหลือ วิเคราะห์ข้อผิดพลาด และพยายามต่อไป ยอมรับว่ามีหลายสิ่งที่ท่านต้องฝึกฝนและทำ ด้วยเหตุนี้จึงได้ฝึกวางใจว่าท่าน จะ พยายามทำให้ดีขึ้น

  • แย้งเสียงในความคิดที่บอกท่านว่าคนเราเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ สติปัญญา หรือทักษะทางสังคมหรือพวกเขาไม่ได้เกิดมาพร้อมสิ่งเหล่านั้น นักกีฬา นักดนตรี นักวิชาการ—และผู้สอนศาสนา—ที่เก่งที่สุดของโลกประสบความล้มเหลวมากมายและฝึกหลายชั่วโมงกว่าจะประสบความสำเร็จ

ทักษะการเผชิญหน้ากับการถูกปฏิเสธที่อาจเกิดขึ้น (และเกิดขึ้นจริง)

การถูกปฏิเสธและความผิดหวังเป็นประสบการณ์ประจำวันของผู้สอนศาสนา จงฝึกรับความเสี่ยงและเผชิญหน้ากับการถูกปฏิเสธเพื่อท่านจะรับความรู้สึกเหล่านั้นได้ดีขึ้น

  • สมัครงาน รับการสัมภาษณ์งาน และทำงานนอกเวลาหรืองานเต็มเวลา

  • ลงคัดเลือกเข้าทีมกีฬาหรือการแสดง

  • ขอคนออกเดทหรือไปร่วมกิจกรรม

  • เมื่อสถานการณ์ไม่ราบรื่น ให้สังเกตความคิดและการกระทำที่ช่วยท่านเผชิญและรู้สึกดีขึ้น

  • เรียนรู้จากความล้มเหลวและลองอีกครั้ง

ภาพ
sister missionaries

ทักษะด้านการใช้แรงจูงใจ

เราทุกคนต้องคิดหาวิธีจูงใจตนเองเมื่อเราเบื่อและสงบสติอารมณ์เมื่อเราเครียดเกินไป

  • หากสถานการณ์น่าเบื่อหรือไม่ก้าวหน้า จงสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติและจะแก้อย่างไร คิดหาวิธีแก้ หรือหาให้พบว่าท่านจะเรียนรู้อะไรได้บ้าง

  • สังเกตเวลาที่ท่านเครียดเกินไปและเรียนรู้สิ่งที่ท่านจะยังทำต่อไปได้เพื่อสงบสติอารมณ์ (พูดคุยกับบางคน ผ่อนคลาย เขียน ร้องเพลง เดิน) ถอยมาตั้งหลัก วิเคราะห์ปัญหา ให้คนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป สวดอ้อนวอน และแย้งกับความรู้สึกที่ไม่ดีกับตนเอง

ภาพ
missionaries

ทักษะการจัดการกับความต่าง

คู่ ผู้นำ สมาชิก และผู้สนใจจะดีเยี่ยมแต่บางครั้งจะทดลองความอดทนของท่านเช่นกัน

ฝึกกับพี่น้องและเพื่อนๆ เพื่อสิ่งต่อไปนี้

  • เรียนรู้ว่าต้องเห็นคุณค่าของผู้อื่นโดยถามว่าเหตุใดพวกเขาจึงทำสิ่งที่ทำอยู่

  • รับผิดชอบและขอโทษอย่างจริงใจเมื่อพฤติกรรมของท่านทำร้ายผู้อื่น แม้ท่านจะไม่ตั้งใจก็ตาม

  • มองหาคำอธิบายที่แสดงว่าเห็นใจพฤติกรรมของอีกฝ่าย อย่าอาฆาตแค้น

  • พูดถึงปัญหาและขอให้ช่วยแก้ปัญหาแทนที่จะตำหนิหรือกลัดกลุ้ม

  • เมื่อเกิดความขัดแย้ง ให้ใช้น้ำเสียงนุ่มนวลและเคารพความรู้สึกของผู้อื่น

  • เป็นเพื่อนร่วมห้องกับคนที่ต่างจากท่าน คิดบวกและอยากรู้สิ่งที่พวกเขาชอบ

ทักษะการสนทนา

ไม่ว่าท่านจะเป็นคนเก็บตัว (เขินอาย) หรือคนเปิดตัว (เข้าสังคม) ท่านสามารถเรียนรู้ทักษะการสนทนาที่ดีที่ท่านจะต้องใช้ในงานเผยแผ่และตลอดชีวิต

หากท่านเป็นคนเก็บตัวมากกว่า

  • จงตั้งเป้าหมายพูดคุยกับคนใหม่ๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จัก) เป็นเวลาห้านาทีทุกสัปดาห์

  • ยิ้ม อยากรู้จักผู้คน และฝึกใช้คำถามที่ดีที่ทำให้คนอื่นพูด

  • หาวิธีเริ่มการสนทนาและจบการสนทนาอย่างมีมารยาท

  • สังเกตเมื่อคนอื่นพยายามเริ่มการสนทนาที่ทำให้ท่านเปิดใจและตอบรับ

หากท่านเป็นคนเปิดตัวมากกว่า

  • กระตุ้นให้ผู้อื่นพูดคุยโดยถามคำถาม

  • ฝึกเป็นผู้ฟังที่ดี

  • มองหาสัญญาณบ่งบอกว่าผู้ฟังกำลังเบื่อ ให้ผู้อื่นมีโอกาสพูด

ภาพ
missionary and Book of Mormon

ทักษะด้านความผาสุกทางกาย

ในฐานะประธานคณะเผยแผ่ สามีดิฉันพูดกับผู้สอนศาสนาคนหนึ่งที่ซึมเศร้าและกังวลมาก สามีดิฉันรู้สึกว่าต้องถามเขาว่า “เอ็ลเดอร์ คุณกินอะไรเป็นอาหารเช้า

“ไอศกรีมครับ”

“คุณกินอะไรเป็นอาหารกลางวัน”

“มันฝรั่งทอดครับ”

“คุณกินอะไรเป็นอาหารเย็น”

“มันฝรั่งทอดกับไอศกรีมครับ”

“คุณกินมันฝรั่งทอดกับไอศกรีมมานานเท่าไรแล้ว”

“ประมาณหนึ่งเดือนครับ”

“นี่เป็นงานมอบหมายของคุณนะ กลับบ้านไปกินอะไรก็ได้ที่เขียวๆ—แต่ไม่ใช่ไอศกรีมรสมินท์”

อาหารและการออกกำลังกายมีผลอย่างมากต่อความรู้สึกของเราเกี่ยวกับชีวิต เริ่มเดี๋ยวนี้

  • เรียนรู้เรื่องโภชนาการที่ดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ถ้าท่านเป็นคนเลือกกิน ให้เริ่มลองกินอาหารใหม่ๆ สักสองสามอย่าง

  • ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้ทุกคนจัดการกับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้ดีขึ้น เริ่มทีละนิดและค่อยๆ เพิ่ม เช่น เดินตอนกลางคืน (อาจจะเดินกับเพื่อนหรือเปิดเพลงเดิน) เดินย่ำอยู่กับที่ระหว่างดูทีวี หรือวิดพื้นสองสามครั้ง

  • ฝึกดูแลข้าวของ เสื้อผ้า เงิน และเวลาของท่านให้ดี

  • บริหารการนอน หากท่านนอนหลับยากหรือตื่นยาก ให้ขอความเห็นจากคนอื่น เข้านอนและตื่นตามเวลาที่ท่านจะใช้เมื่อเป็นผู้สอนศาสนา

ทักษะการคิดบวก

  • พัฒนาอารมณ์ขัน หัวเราะตนเอง ไม่ใช่หัวเราะคนอื่น อย่าจริงจังกับทุกเรื่องที่ทำให้ท่านเครียด

  • ขอให้อดีตผู้สอนศาสนาบอกท่านบางอย่างที่ยากสำหรับพวกเขาและวิธีจัดการ หาแนวคิดที่ท่านจะใช้ได้

  • เขียนรายการพระคัมภีร์และเพลงสวดที่หนุนใจท่านและทำให้ท่านเปี่ยมด้วยศรัทธา

  • แย้งเสียงลบในความคิดท่านด้วยความคิดบวก หากเสียงนั้นเสียดสี ดูแคลน ทำให้อาย โกรธ โหดร้าย หรือทำให้ท่านรู้สึกสิ้นหวังหรือหมดหนทาง นั่นไม่ได้มาจากพระเจ้า เสียงของพระองค์จะให้ความหวัง ให้กำลังใจ และเห็นใจเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านพยายาม

ทักษะด้านความผาสุกทางวิญญาณ

  • สวดอ้อนวอนอย่างจริงจัง อัญเชิญพระบิดาบนสวรรค์มานั่งใกล้ท่าน และพูดคุยกับพระองค์อย่างเปิดเผยเกี่ยวกับปัญหา ความปรารถนา และความสำนึกคุณของท่าน ลองสวดอ้อนวอนออกเสียง สวดอ้อนวอนโดยมีกระดาษและปากกาไว้บันทึกความประทับใจ หรือสวดอ้อนวอนเพื่อขอบพระทัยเท่านั้น

  • ศึกษาพระคัมภีร์ มองหาและคาดหวังคำตอบเพื่อไขข้อกังวลของท่าน

  • เป็นผู้สอนศาสนาเดี๋ยวนี้ ออกไปรับใช้กับผู้สอนศาสนาเต็มเวลา ให้พระกิตติคุณเป็นหัวข้อสนทนาในทุกๆ วันกับเพื่อนท่าน และแสดงประจักษ์พยานอย่างซื่อสัตย์ที่โบสถ์ ท่านจะตื่นเต้นมากขึ้นกับงานเผยแผ่ศาสนาเมื่อท่านทำเช่นนั้น