นำทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย

โดย ประธานโธมัส เอส. มอนสัน

ภาพ

เรามองขึ้นฟ้าหาทิศที่ไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อเราจะวางผังไปตามเส้นทางอันปราดเปรื่องและถูกต้อง

พี่น้องครับ เรามาชุมนุมเป็นกลุ่มฐานะปุโรหิตที่มีพลัง ทั้งในศูนย์การประชุมใหญ่และในที่ต่างๆ ทั่วโลก ความรับผิดชอบที่ต้องพูดกับท่านสักเล็กน้อยทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติและอ่อมน้อม ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตกับข้าพเจ้าขณะพูดกับท่าน

เจ็ดสิบห้าปีมาแล้ว วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1939 ในฮัมบูร์ก เยอรมนี มีการฉลองวันหยุดทั่วประเทศ ท่ามกลางสุนทรพจน์ร้อนแรง เสียงไชโยโห่ร้อง และการบรรเลงเพลงชาติ เรือประจัญบาน บิสมาร์ค ลำใหม่ลงสู่ทะเลผ่านทางแม่น้ำเอลเบ เรือประสิทธิภาพสูงสุดลำนี้เป็นยานหุ้มเกราะที่มีระบบปฏิบัติงานน่าทึ่ง ต้องใช้พิมพ์เขียวมากกว่า 57,000 แผ่นสร้างปืนกลคู่บนฐานแบบหมุมขนาด 380 มิลลิเมตรที่ควบคุมด้วยเรดาร์ เรือดังกล่าวมีวงจรไฟฟ้ายาว 28,000 ไมล์ (45,000 กิโลเมตร) มีน้ำหนักมากกว่า 35,000 ตัน และมีเกราะกันกระสุนให้ความปลอดภัยสูงสุด พวกเขาคิดว่าเรือลำมหึมาลักษณะน่าเกรงขามและมีแสนยานุภาพดีเลิศเช่นนี้ไม่มีทางจม

จุดจบของ บิสมาร์ค มาถึงในอีกสองปีต่อมาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1941 เรือรบประสิทธิภาพสูงสุดของกองทัพเรืออังกฤษชื่อ ปรินซ์ออฟเวลส์ กับ ฮู้ด ประจัญบานกับ บิสมาร์ค และเรือลาดตระเวน ปรินส์อูเกน ของเยอรมนี ภายในห้านาที บิสมาร์ค ก็จม ฮู้ด ลงไปอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก พร้อมกับลูกเรือทั้งหมดกว่า 1,400 คนยกเว้นสามคน ปรินซ์ออฟเวลส์ เรือรบอีกลำได้รับความเสียหายอย่างหนักและถอยกลับไป

ในสามวันต่อมา บิสมาร์ค ประจัญบานอีกหลายครั้งกับเรือรบและเครื่องบินรบอังกฤษ โดยรวมแล้วอังกฤษอาศัยกำลังของเรือรบห้าลำ เรือบรรทุกเครื่องบินสองลำ เรือลาดตระเวน 11 ลำ และเรือพิฆาต 21 ลำเพื่อหาทางจมเรือ บิสมาร์ค ลำมหึมา

ระหว่างการรบครั้งเหล่านี้ ขีปนาวุธทั้งหลายก่อความเสียหายให้ บิสมาร์ค เพียงผิวเผินเท่านั้น เรือลำนี้ไม่มีวันจมอย่างนั้นหรือ แต่แล้วตอร์ปิโดลูกหนึ่งก็บังเอิญโชคดียิงถูกหางเสือทำให้เรือ บิสมาร์ค ทรงตัวไม่ได้ งานซ่อมไม่ได้ผล แม้ปืนจะพร้อมยิงและลูกเรือพร้อมแต่ บิสมาร์ค ทำได้เพียงคัดท้ายเป็นวงกว้างเท่านั้น กองทัพอากาศเยอรมันอยู่นอกรัศมี เรือ บิสมาร์ค ไม่อาจไปถึงท่าเรือที่ปลอดภัยได้ ทั้งสองแห่งไม่อาจเป็นที่คุ้มภัยให้ได้เพราะเรือ บิสมาร์ค ไม่สามารถคัดท้ายตามผังเส้นทางได้เลย ไม่มีหางเสือ ไม่มีความช่วยเหลือ ไม่มีท่าเรือ จุดจบใกล้เข้ามาแล้ว ปืนชาวอังกฤษยิงระดมยิงอย่างหนักขณะลูกเรือชาวเยอรมันวิ่งจ้าละหวั่นทำให้เรือที่เคยคิดว่าไม่อาจทำลายได้จมลงทะเล คลื่นที่หิวโหยของแอตแลนติกซัดกราบเรือก่อน จากนั้นก็กลืนความจองหองของกองทัพเรือเยอรมันจนหมด บิสมาร์ค สูญสิ้นแล้ว¹

เช่นเดียวกับ บิสมาร์ค เราแต่ละคนคือปาฏิหาริย์ของวิศวกรรม แต่อัจฉริยภาพของมนุษย์ไม่ได้จำกัดการสร้างของเรา มนุษย์ประดิษฐ์เครื่องยนตร์ซับซ้อนที่สุดได้แต่ให้ชีวิตหรือให้พลังของเหตุผลและวิจารณญาณแก่เครื่องยนต์เหล่านั้นไม่ได้ นี่เป็นของประทานที่พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นมอบให้

เช่นเดียวกับหางเสือของเรือ พระเจ้าทรงเตรียมวิธีกำหนดทิศทางที่เราเดิน ประภาคารของพระเจ้าส่งสัญญาณถึงทุกคนขณะที่เราล่องไปตามทะเลชีวิต จุดประสงค์ของเราคือคัดท้ายไปตามเส้นทางจนถึงเป้าหมายที่เราปรารถนา---แม้อาณาจักรซีเลสเชียลของพระผู้เป็นเจ้า คนไม่มีจุดประสงค์เปรียบเหมือนเรือไม่มีหางเสือ ไม่มีวันถึงท่าเรือ สัญญาณมาถึงเรา บอกเราให้วางผังเส้นทาง กางใบ จัดตำแหน่งหางเสือ และเดินเรือ

บิสมาร์ค ลำมหึมาเป็นฉันใด มนุษย์ก็เป็นฉันนั้น พลังขับดันของเครื่องยนต์และแรงของใบพัดไร้ประโยชน์หากไม่รู้ทิศ ไม่ใช้พลังงานให้เป็นประโยชน์ และไม่มีแรงขับเคลื่อนจากหางเสือที่มองไม่เห็น ขนาดค่อนข้างเล็กแต่จำเป็นยิ่งต่อการเดินเรือ

พระบิดาของเราทรงจัดเตรียมดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว---กาแล็กซี่บนฟ้าเพื่อนำทางกะลาสีที่แล่นไปตามทางเดินเรือ สำหรับเรา ขณะเดินไปตามเส้นทางชีวิต พระองค์ทรงจัดเตรียมแผนที่ชัดเจนและชี้ทางสู่จุดหมายที่เราปรารถนา พระองค์ทรงเตือนเราให้ระวังทางเบี่ยง หลุมพราง และกับดัก จะมีคนชักนำเราให้หลงผิด นักเป่าปี่เจ้าเล่ห์กวักมือเรียกเราให้ไปทำบาปที่นั่นที่นี่ เราต้องไม่ยอมให้พวกเขาหลอก แต่เราจะหยุดพัก สวดอ้อนวอน ฟังสุรเสียงสงบแผ่วเบาซึ่งบอกพระดำรัสเชื้อเชิญที่อ่อนโยนของพระอาจารย์แก่ส่วนลึกของจิตวิญญาณเราว่า “จงตามเรามา”²

กระนั้นก็ยังมีคนที่ไม่ฟัง ไม่เชื่อฟัง ชอบเดินไปตามเส้นทางของตนเอง พวกเขามักจะยอมต่อการล่อลวงซึ่งอยู่รายรอบเราทุกคนและชวนให้หลงใหล

ในฐานะผู้ดำรงฐานะปุโรหิต พระเจ้าทรงวางเราไว้บนโลกในช่วงเวลาที่ยุ่งยาก เราอยู่ในโลกที่ซับซ้อน พบกระแสความขัดแย้งทั่วสารทิศ กลการเมืองทำลายเสถียรภาพของประเทศ ทรราชไขว่คว้าอำนาจ และดูเหมือนสังคมทุกภาคส่วนถูกบดขยี้ สูญเสียโอกาสและถูกทิ้งให้อยู่กับความรู้สึกล้มเหลว ปรัชญาของมนุษย์ดังก้องในหูเรา และบาปห้อมล้อมเรา

ความรับผิดชอบของเราคือมีค่าควรรับพรอันน่ายินดีทั้งหมดที่พระบิดาในสวรรค์ทรงเตรียมไว้ให้เรา ไม่ว่าไปที่ใด ฐานะปุโรหิตไปกับเราด้วย เรากำลังยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ โปรดหยุดคิดพิจารณาผลที่จะเกิดขึ้นก่อนทำให้ตัวท่านและฐานะปุโรหิตอยู่ในอันตรายโดยเสี่ยงเข้าไปในสถานที่หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมซึ่งไม่คู่ควรกับท่านหรือกับฐานะปุโรหิตนั้น

เราผู้ได้รับแต่งตั้งสู่ฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้าสร้างสรรค์สิ่งพิเศษได้ เมื่อเรารักษาความบริสุทธิ์ส่วนตัวและให้เกียรติฐานะปุโรหิต เรากลายเป็นแบบอย่างที่ชอบธรรมให้ผู้อื่นทำตาม อัครสาวกเปาโลเตือนดังนี้ “จงเป็นแบบอย่างแก่บรรดาผู้เชื่อ ทั้งในด้านวาจาและการประพฤติ ทั้งในด้านความรัก ความเชื่อ และความบริสุทธิ์”³ เขาเขียนเช่นกันว่าผู้ติดตามพระคริสต์ควรเป็น “ดวงสว่างต่างๆ ในโลก”⁴ การเป็นแบบอย่างของความชอบธรรมจะช่วยทำให้โลกที่มืดมิดสว่างขึ้น

หลายท่านคงจำประธานเอ็น. เอลดัน แทนเนอร์ผู้รับใช้เป็นที่ปรึกษาของประธานศาสนจักรสี่ท่านได้ ท่านเป็นแบบอย่างของความชอบธรรมตลอดช่วงประกอบอาชีพด้านอุตสาหกรรม ระหว่างรับราชการให้รัฐบาลในแคนาดา และในฐานะอัครสาวกของพระเยซูคริสต์ ท่านให้คำแนะนำที่ได้รับการดลใจดังนี้ “ไม่มีสิ่งใดจะทำให้เกิดปีติและความสำเร็จยิ่งกว่าการดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระกิตติคุณ จงเป็นแบบอย่าง จงเป็นอิทธิพลดี”

ท่านเตือนว่า “เราทุกคนได้รับแต่งตั้งล่วงหน้าให้ทำงานบางอย่างในฐานะผู้รับใช้ที่ [พระผู้เป็นเจ้า] ทรงเลือก ผู้ที่พระองค์ทรงเห็นควรมอบฐานะปุโรหิตและอำนาจให้กระทำในพระนามของพระองค์ จำไว้เสมอว่าคนอื่นกำลังมองการเป็นผู้นำของท่านและท่านกำลังมีอิทธิพลไม่ดีก็เลวต่อชีวิตแต่ละคน ซึ่งคนรุ่นต่อๆ มาจะรู้สึกถึงอิทธิพลนั้น”⁵

เราเข้มแข็งขึ้นด้วยความจริงที่ว่าพลังแรงกล้าที่สุดในโลกทุกวันนี้คือพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าอันเกิดผลผ่านมนุษย์ เพื่อล่องทะเลแห่งมรรตัยอย่างปลอดภัย เราต้องได้รับการนำทางจากกะลาสีนิรันดร์องค์นั้น---แม้พระเยโฮวาห์ผู้ยิ่งใหญ่ เราเอื้อมมือขึ้นไปรับความช่วยเหลือจากสวรรค์

ตัวอย่างที่เรารู้จักดีของคนที่ไม่เอื้อมขึ้นข้างบนคือคาอิน บุตรของอาดัมและเอวา เขามีศักยภาพเต็มเปี่ยมแต่จิตใจอ่อนแอ เขายอมให้ความละโมบ ความอิจฉา การไม่เชื่อฟัง และแม้แต่การฆาตกรรมทำลายหางเสือส่วนตัวซึ่งจะนำทางเขาไปสู่ความปลอดภัยและความสูงส่ง เขาจ้องลงล่างแทนที่จะมองขึ้นข้างบน คาอินจึงตก

ในอีกสมัยหนึ่ง ผู้รับใช้ของพระเจ้าถูกกษัตริย์ชั่วร้ายทดสอบ ดาเนียลแปลข้อเขียนบนผนังให้กษัติรย์ด้วยการดลใจจากสวรรค์ เกี่ยวกับรางวัลที่เสนอ---แม้เสื้อคลุมพระราชทาน สร้อยคอทองคำ และอำนาจทางการเมือง---ดาเนียลกล่าวว่า “ขอทรงเก็บของพระราชทานไว้เป็นของฝ่าพระบาทเถิด และขอประทานรางวัลแก่ผู้อื่น”⁶ กษัตริย์มอบทรัพย์สินเงินทองและอำนาจให้ดาเนียลเป็นรางวัลแทนสิ่งของของโลกไม่ใช่ของพระผู้เป็นเจ้า แต่เขาปฏิเสธและยังคงซื่อสัตย์

ต่อมา เมื่อดาเนียลนมัสการพระผู้เป็นเจ้าทั้งที่มีประกาศห้าม เขาถูกโยนลงในถ้ำสิงโต เรื่องราวในไบเบิลบอกเราว่า เช้าวันรุ่งขึ้น “เขาจึงเอาดาเนียลออกจากถ้ำ ไม่ปรากฏว่ามีอันตรายอย่างใดที่ตัวท่านเลย เพราะท่านได้วางใจใน พระเจ้า”⁷ ในยามวิกฤตเช่นนี้ ความตั้งใจจะแล่นเรือไปตามเส้นทางส่งผลให้ดาเนียลได้รับความคุ้มครองและมีสถานที่หลบภัย ความคุ้มครองและความปลอดภัยเช่นนั้นจะเป็นของเราได้เมื่อเราแล่นเรือไปตามเส้นทางสู่บ้านนิรันดร์ของเรา

นาฬิกาสมัยโบราณ เช่นนาฬิกาทราย บ่งบอกการล่วงเลยของเวลา นักแสดงหน้าใหม่ขึ้นเวทีชีวิต ปัญหาในสมัยของเราปรากฏลางๆ ตรงหน้าเรา ตลอดประวัติศาสตร์ของโลก ซาตานทำงานไม่หยุดเพื่อทำลายผู้ติดตามพระผู้ช่วยให้รอด ถ้าเรายอมต่อการชักจูงของเขา เราจะ—เหมือนเรือ บิสมาร์ค ลำมหึมา—คือสูญเสียหางเสือซึ่งนำเราไปสู่ความปลอดภัย แม้จะมีงานสร้างสรรค์ของมนุษย์ แต่ขอให้เรามองขึ้นฟ้าหาทิศที่ไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อเราจะวางผังไปตามเส้นทางอันปราดเปรื่องและถูกต้อง พระบิดาบนสวรรค์จะไม่ทรงปล่อยให้การวิงวอนอย่างจริงใจของเราไม่ได้รับคำตอบ ขณะแสวงหาความช่วยเหลือจากสวรรค์ หางเสือของเราจะไม่พลั้งพลาดเหมือนหางเสือของ บิสมาร์ค

ขณะที่เราเสี่ยงออกเดินทาง ขอให้เราล่องทะเลชีวิตอย่างปลอดภัย ขอให้เรากล้าหาญเหมือนดาเนียล เพื่อเราจะยังคงแน่วแน่และซื่อสัตย์ทั้งที่มีบาปและการล่อลวงอยู่รายรอบ ขอให้ประจักษ์พยานของเราลึกซึ้งและเข้มแข็งเหมือนประจักษ์พยานของเจคอบน้องชายของนีไฟเมื่อประจันหน้ากับคนที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อทำลายศรัทธาของเขา เขาประกาศว่า “หาได้ทำให้ข้าพเจ้าหวั่นไหวไม่”⁸

พี่น้องทั้งหลาย เนื่องด้วยหางเสือแห่งศรัทธานำทางเรา เราจึงพบทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย—ไปหาพระผู้เป็นเจ้า อยู่กับพระองค์ชั่วนิรันดร์ ขอให้เราแต่ละคนเป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา เอเมน