2010–2019
เลือกอย่างฉลาด
ตุลาคม 2014


เลือกอย่างฉลาด

“ปฏิเสธความชั่วและเลือกความดี” (อิสยาห์ 7:15)

พี่น้องชายที่รัก ความปรารถนาของข้าพเจ้าในค่ำคืนนี้คือแบ่งปันคำแนะนำบางอย่างเกี่ยวกับการตัดสินใจและการเลือก

สมัยที่ข้าพเจ้าเป็นทนายความหนุ่มในย่านอ่าวซานฟรานซิสโก บริษัทของเราทำงานด้านกฎหมายให้บริษัทที่ผลิต ชาร์ลี บราวน์ รายการพิเศษทางทีวีในวันหยุด1 ข้าพเจ้ากลายเป็นแฟนของชาร์ลส์ ชูลส์และผลงานของเขา —พีนัทส์ กับชาร์ลี บราวน์ ลูซี สนูปี้ ตลอดจนตัวละครอื่นๆ ที่แสนอัศจรรย์

การ์ตูนโปรดเรื่องหนึ่งของข้าพเจ้าเกี่ยวข้องกับลูซี เท่าที่ข้าพเจ้าจำได้ ทีมเบสบอลของชาร์ลี บราวน์กำลังแข่งเกมสำคัญ —ลูซีเล่นอยู่ในสนามทางขวา และมีลูกบอลตีโด่งลอยมาที่เธอ ทุกเบสมีคนอยู่แล้วและเป็นช่วงสุดท้ายของการทำแต้มที่เก้า ถ้าลูซีรับลูกได้ทีมของเธอจะชนะ ถ้าลูซีรับลูกพลาดอีกทีมก็จะชนะ

ดังที่เกิดขึ้นเฉพาะในการ์ตูนเท่านั้น คนทั้งทีมมายืนล้อมลูซีขณะลูกบอลลอยลงมา ลูซีคิดว่า “ถ้าฉันรับลูกได้ ฉันจะเป็นฮีโร ถ้ารับไม่ได้ ฉันจะเป็นแพะ”

บอลกำลังลอยลงมา ขณะที่เพื่อนร่วมทีมเฝ้ามองอย่างตื่นเต้น ลูซีรับบอลพลาด ชาร์ลีขว้างถุงมือลงพื้นด้วยความโกรธ ลูซีจึงมองไปที่เพื่อนร่วมทีม เท้าสะเอว และพูดว่า “เธอจะคาดหวังให้ฉันรับลูกบอลได้อย่างไรเมื่อฉันกำลังกังวลเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของประเทศเรา”

นี่เป็นหนึ่งในลูกบอลหลายลูกที่ลูซีรับพลาดมาตลอดหลายปี เธอมีข้อแก้ตัวใหม่ทุกครั้ง2 ถึงแม้จะเป็นเรื่องน่าขัน แต่ข้อแก้ตัวของลูซีมักจะชอบด้วยเหตุผล ซึ่งก็ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงของการรับลูกพลาด

ระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจของประธานโธมัส เอส. มอนสัน ท่านมักจะสอนว่าการตัดสินใจกำหนดจุดหมายปลายทาง3 ในบริบทดังกล่าว คำแนะนำของข้าพเจ้าในค่ำคืนนี้คือจงอยู่เหนือเหตุผลใดก็ตามที่ปิดกั้นเราจากการตัดสินใจที่ชอบธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการรับใช้พระเยซูคริสต์ ในอิสยาห์สอนเราว่าเราต้อง “ปฏิเสธความชั่วและเลือกความดี”4

ข้าพเจ้าเชื่อว่าสิ่งนี้สำคัญมากในยุคสมัยของเรา เมื่อซาตานแผ่อิทธิพลในใจมนุษย์ด้วยวิธีแปลกใหม่และแยบยลการเลือกและการตัดสินใจของเราต้องทำอย่างรอบคอบ สอดคล้องกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่เราประกาศว่าจะดำเนินชีวิตตามนั้น เราต้องมีคำมั่นสัญญาที่ชัดเจนต่อพระบัญญัติและปฏิบัติตามพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์อย่างเคร่งครัด เมื่อเราปล่อยให้เหตุผลปิดกั้นเราจากเอ็นดาวเม้นท์พระวิหาร งานเผยแผ่ที่มีค่าควร และการแต่งงานในพระวิหาร สิ่งเหล่านี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เป็นความปวดร้าวใจเมื่อเราประกาศความเชื่อในเป้าหมายเหล่านี้แต่ยังละเลยการดำเนินชีวิตที่นำไปสู่เป้าหมาย5

หนุ่มสาวบางคนประกาศเป้าหมายของตนเองว่าพวกเขาจะแต่งงานในพระวิหารแต่ไม่ออกเดทกับคนที่คู่ควรแก่การเข้าพระวิหาร พูดตามตรงก็คือ บางคนไม่ยอมแม้แต่จะออกเดท ท่านที่เป็นหนุ่มโสด ยิ่งท่านเป็นโสดนานเท่าไรหลังจากมีวัยวุฒิและวุฒิภาวะที่เหมาะสม ท่านยิ่งสบายมากขึ้นเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วท่าน จะ ยิ่ง อึดอัด มากขึ้นเท่านั้นต่างหาก ขอให้ “ทำงานอย่างทุ่มเท”6 ในกิจกรรมทางวิญญาณและทางสังคมที่ควบคู่ไปกับเป้าหมายของการแต่งงานในพระวิหาร

บางคนเลื่อนการแต่งงานไปจนจบการศึกษาและมีงานทำ ขณะเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในโลก แต่เหตุผลนี้ไม่ได้แสดงศรัทธา ไม่ได้ยอมทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ในปัจจุบัน และขัดแย้งกับหลักคำสอนที่มีความหมาย

เมื่อไม่นานมานี้ข้าพเจ้าพบกับชายวัยรุ่นคนหนึ่ง เป้าหมายของเขาคือไปรับใช้งานเผยแผ่ เรียนต่อ แต่งงานในพระวิหาร และมีครอบครัวที่มีความสุขอย่างซื่อสัตย์ ข้าพเจ้ายินดีมากกับเป้าหมายของเขา แต่ระหว่างการสนทนาต่อไป เห็นได้ชัดว่าความประพฤติและการเลือกของเขาไม่ได้สอดคล้องกับเป้าหมาย ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเขาต้องการรับใช้งานเผยแผ่อย่างจริงจังและหลีกเลี่ยงการล่วงละเมิดร้ายแรงที่จะยับยั้งงานเผยแผ่ของเขา แต่ความประพฤติในแต่ละวันไม่ได้เตรียมเขาเพื่อรับความท้าทายทางร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา และทางวิญญาณที่เขาจะเผชิญ7 เขาไม่ได้เรียนรู้ที่จะทำงานหนัก เขาไม่จริงจังกับเรื่องเรียนหรือเซมินารี เขามาโบสถ์แต่ไม่อ่านพระคัมภีร์มอรมอน เขาเล่นวิดีโอเกมและใช้สื่อสังคมครั้งละนานๆ ดูเหมือนเขาจะคิดว่าการไปอยู่ที่คณะเผยแผ่ของเขานั้นเพียงพอแล้ว เยาวชนชายทั้งหลาย โปรดให้คำมั่นสัญญาอีกครั้งว่าจะประพฤติตนอย่างมีค่าควรและเตรียมตัวอย่างจริงจังที่จะเป็นตัวแทนของพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเยซูคริสต์

ความกังวลของข้าพเจ้าไม่ได้เกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนเส้นทางชีวิตเท่านั้น แต่เป็นการตัดสินใจโดยทั่วไปเช่นกัน—การตัดสินใจทางโลกในแต่ละวันและการตัดสินใจที่ดูเหมือนธรรมดาซึ่งเรามักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ของเรา ในเรื่องเหล่านี้ เราต้องเน้นความพอดี สมดุล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญญา เป็นสิ่งสำคัญที่จะอยู่เหนือเหตุผลและเลือกให้ดีที่สุด

ตัวอย่างที่ดีมากของความต้องการให้มีความพอดี สมดุล และปัญญาคือการใช้อินเทอร์เน็ต สิ่งนี้สามารถเป็นการทำงานเผยแผ่ศาสนา ช่วยในด้านหน้าที่รับผิดชอบของฐานะปุโรหิต ค้นหาบรรพชนผู้ล้ำค่าเพื่อทำศาสนพิธีพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ และอื่นๆ อีกมากมาย มีศักยภาพที่เป็นประโยชน์มากมาย เรารู้เช่นกันว่าอินเทอร์เน็ตสามารถส่งสิ่งชั่วร้ายมาได้มากมายรวมถึงสื่อลามก การสื่อสารที่หยาบคาย8 และเรื่องหลอกหลวงจากบุคคลนิรนาม ซึ่งนำไปสู่วงจรของความโง่เขลาอย่างไม่สิ้นสุด ดังที่บราเดอร์แรนดัลล์ แอล. ริดด์ สอนไว้อย่างคมคายที่การประชุมใหญ่สามัญครั้งที่แล้วเมื่อพูดถึงอินเทอร์เน็ต “ท่านอาจตกอยู่ในวังวนอันไม่รู้จบของสิ่งไม่สำคัญที่สิ้นเปลืองเวลาและบั่นทอนศักยภาพของท่าน”9

ความเพลิดเพลินและการต่อต้านความชอบธรรมไม่ใช่แค่อินเทอร์เน็ต สิ่งเหล่านี้มีอยู่ทั่วไป ไม่เพียงมีผลต่อเยาวชนแต่มีผลต่อเราทุกคน เราอาศัยอยู่ในโลกที่โกลาหลอย่างแท้จริง10 เราถูกรายล้อมด้วย “ความสนุกสนาน” ที่ชวนให้หมกมุ่นกับชีวิตที่ไร้ศีลธรรมและผิดปกติ สื่อส่วนใหญ่นำเสนอให้เห็นจนเป็นเรื่องธรรมดา

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์เตือนสมาชิกไว้เมื่อเร็วๆ นี้ให้ใช้สื่อสังคมอย่างถูกต้อง11 ผู้นำทางความคิดที่โด่งดัง อาร์เธอร์ ซี. บรูคส์ เคยเน้นถึงประเด็นนี้ เขาสังเกตว่าเมื่อเราใช้สื่อสังคม เรามีแนวโน้มจะให้คนเห็นรายละเอียดที่สวยงามในชีวิตเราแต่ไม่ใช่ในยามยากลำบากที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน เราแสดงภาพชีวิตที่ไม่ครบถ้วน—บางครั้งทำแบบโอ้อวดหรือเสกสรรปั้นแต่ง เราวาดภาพชีวิตนี้และจากนั้นเราก็บริโภค “ชีวิตที่เสกสรรปั้นแต่ง…เกือบทั้งสิ้นของ ‘เพื่อนๆ’ ในสื่อสังคม [ของเรา]” บรูคส์ยืนยันว่า “คุณจะไม่รู้สึกแย่ได้อย่างไรที่ใช้เวลาส่วนหนึ่งเสแสร้งว่าคุณมีความสุขกว่าที่คุณเป็นและเวลาอีกส่วนหนึ่งเฝ้าดูว่าคนอื่นดูจะมีความสุขมากกว่าคุณเพียงไร”12

บางครั้งเรารู้สึกว่าเรากำลังจมอยู่ในความโง่เขลาที่ไร้สาระ เสียงที่ปราศจากความหมาย และความขัดแย้งอันต่อเนื่อง เมื่อเราลดเสียงและพินิจพิเคราะห์ถึงแก่นสาร มีเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งเหล่านี้ที่จะช่วยเราบรรลุเป้าหมายอันชอบธรรมของเราในนิรันดร บิดาคนหนึ่งตอบลูกอย่างชาญฉลาดต่อคำร้องขอนับไม่ถ้วนที่อยากมีส่วนร่วมในความเพลิดเพลินเหล่านี้ เขาเพียงแต่ถามลูกว่า “สิ่งนี้จะทำให้ลูกเป็นคนดีขึ้นหรือเปล่า”

เมื่อเราหาข้อแก้ตัวในการเลือกที่ผิด ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ซึ่งไม่สอดคล้องกับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู เราสูญเสียพรและความคุ้มครองที่เราต้องการและมักจะตกหลุมบาปหรือแค่หลงทาง

ข้าพเจ้ากังวลเป็นพิเศษเรื่องความโง่เขลา13 และการหลงใหล “สิ่งใหม่ๆ ทุกชนิด” ในศาสนจักรเราสนับสนุนและสรรเสริญความจริงตลอดจนความรู้ทุกประเภท แต่เมื่อวัฒนธรรม ความรู้และจารีตสังคมแตกแยกไปจากแผนแห่งความสุขของพระผู้เป็นเจ้าและบทบาทสำคัญของพระเยซูคริสต์ ย่อมเกิดความล่มสลายของสังคม14 ในยุคสมัยของเรา ทั้งที่มีความก้าวหน้าในหลายด้านอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิทยาศาสตร์และการสื่อสาร แต่ค่านิยมพื้นฐานที่จำเป็นถูกกัดกร่อนและความสุขกับความผาสุกโดยรวมลดลง

เมื่ออัครสาวกเปาโลได้รับเชิญให้พูดบนเนินเขามาร์สในเอเธนส์ ท่านพบบางคนที่อ้างตนว่าเฉลียวฉลาดมีความรู้และขาดปัญญาที่แท้จริงเหมือนที่ปรากฎอยู่ในปัจจุบัน15 ในกิจการของอัครทูตเราอ่านเรื่องราวนี้ “เพราะชาวเอเธนส์กับชาวต่างประเทศซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่นไม่สนใจเรื่องอะไรนอกจากจะกล่าวหรือฟังสิ่งใหม่ๆ”16 เปาโลเน้นเรื่องการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ เมื่อฝูงชนตระหนักในเนื้อหาทางศาสนาของข่าวสารดังกล่าว บางคนเยาะเย้ยท่าน บ้างก็ไม่ใส่ใจ โดยพูดว่า “เราจะคอยฟังท่านกล่าวเรื่องนี้ต่อไปอีก”17 เปาโลออกจากเอเธนส์ อย่างไม่ประสบความสำเร็จ ดีน เฟรเดริค ฟาร์ราร์เขียนถึงการไปเยือนครั้งนี้ว่า “ที่เอเธนส์ท่านไม่ได้จัดตั้งศาสนจักร ท่านไม่เขียนสาส์นถึงเอเธนส์ และในเอเธนส์ ที่ท่านมักจะเดินผ่าน ท่านไม่เคยไปเหยียบที่นั่นอีกเลย”18

ข้าพเจ้าเชื่อข่าวสารแห่งการดลใจของเอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช.โอ๊คส์ที่แยกแยะระหว่าง “ดี ดีกว่า ดีที่สุด” จะให้วิธีที่มีประสิทธิภาพในการประเมินการเลือกและลำดับความสำคัญ19 การเลือกหลายอย่างโดยเนื้อแท้แล้วไม่ได้เลวร้าย แต่ถ้ามาดึงเวลาทั้งหมดของเราไปและกีดกั้นเราจากการเลือกที่ดีที่สุด สิ่งเหล่านั้นย่อมมีอันตรายแฝงอยู่

กระทั่งกิจกรรมที่ดีงามยังต้องประเมินเพื่อจะตัดสินใจว่าสิ่งเหล่านั้นกลายเป็นการหลอกล่อเราจากเป้าหมายที่ดีที่สุดหรือไม่ สมัยเป็นวัยรุ่น ข้าพเจ้าเคยสนทนากับคุณพ่อ ซึ่งยังจำได้จนบัดนี้ ท่านไม่ค่อยเชื่อว่าคนที่อายุยังน้อยจะให้ความสำคัญหรือเตรียมตัวสำหรับเป้าหมายสำคัญระยะยาว—เช่นอาชีพและการเลี้ยงดูครอบครัว

การศึกษาที่มีความหมายและประสบการณ์การทำงานในเบื้องต้นมักจะจัดไว้เป็นลำดับความสำคัญสูงสุดตามที่บิดาข้าพเจ้าแนะนำ ท่านชื่นชมกิจกรรมนอกหลักสูตร อาทิการโต้วาทีและองค์การนักศึกษาที่อาจมีความสัมพันธ์โดยตรงกับเป้าหมายสำคัญบางอย่างของข้าพเจ้า ท่านไม่ค่อยแน่ใจกับเวลาที่ข้าพเจ้าใช้ไปอย่างมากในการเล่นฟุตบอล บาสเก็ตบอล เบสบอล หรือกรีฑา ท่านยอมรับว่ากีฬาสามารถสร้างความแข็งแรง อดทน และการทำงานเป็นหมู่คณะ แต่ก็ยืนยันว่าการให้ความสำคัญกับกีฬาอย่างเดียวโดยใช้เวลาให้น้อยลงนั้นจะดีกว่า ในทัศนะของท่าน กีฬาเป็นเรื่องดีแต่ไม่ดีที่สุด สำหรับข้าพเจ้า ท่านกังวลว่ากีฬาบางประเภทจะสร้างความโด่งดังหรือชื่อเสียงในท้องที่โดยต้องสูญเสียเป้าหมายระยะยาวที่สำคัญกว่า

จากประสบการณ์นี้ เหตุผลหนึ่งที่ข้าพเจ้าชอบเรื่องลูซีเล่นเบสบอลก็เพราะว่าในทัศนะของคุณพ่อ ข้าพเจ้าควรศึกษานโยบายต่างประเทศและไม่ต้องห่วงว่าข้าพเจ้าจะรับลูกบอลได้หรือไม่ ข้าพเจ้าควรพูดให้เข้าใจก่อนว่าคุณแม่ของข้าพเจ้าชอบกีฬา ท่านจะพลาดการแข่งขันของข้าพเจ้าสักนัดก็ต่อเมื่อท่านเข้าโรงพยาบาล

ข้าพเจ้าตัดสินใจทำตามคำแนะนำของคุณพ่อและไม่เล่นกีฬาที่ต้องแข่งขันต่างสถาบันเมื่ออยู่ในมหาวิทยาลัย ตอนนั้นโค้ชทีมอเมริกันฟุตบอลของโรงเรียนมัธยมบอกข้าพเจ้าว่าโค้ชทีมมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเชิญเมอร์ลิน โอลเซ็นกับข้าพเจ้าไปรับประทานอาหารกลางวัน ท่านที่ยังอายุน้อยอยู่อาจไม่รู้จักเมอร์ลิน เขาเป็นแท็กเกิ้ลที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศของทีมอเมริกันฟุตบอลโรงเรียนมัธยมปลายโลแกนซึ่งข้าพเจ้าเล่นเป็นควอเตอร์แบคและเซฟตี้และรับลูกคิกออฟและเตะลูกพันท์ ในโรงเรียนมัธยมปลาย เมอร์ลินได้รับการติดต่อให้ร่วมทีมจากทีมอเมริกันฟุตบอลที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศ ในมหาวิทยาลัยเขาได้รับถ้วยเอาท์แลนด์ในฐานะไลน์แมนเส้นในดีเด่นของประเทศ ในที่สุดเมอร์ลินเป็นคนที่สามที่ได้รับคัดเลือกให้เล่นในทีมลีกระดับชาติและได้เล่นในการแข่งขันโปรโบวล์ (Pro Bowls) อย่างยอดเยี่ยม 14 ครั้งติดต่อกัน เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศสำหรับนักอเมริกันฟุตบอลอาชีพในปี 198220

เรารับประทานอาหารกลางวันกับโค้ชทีมสแตนฟอร์ดที่ร้านบลูเบิร์ดในโลแกน ยูทาห์ หลังจากจับมือกันแล้ว เขาไม่เคยสบตาข้าพเจ้าแม้แต่ครั้งเดียว เขาพูดแต่กับเมอร์ลินโดยไม่สนใจข้าพเจ้า เมื่อรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ เป็นครั้งแรกที่เขาหันมาทางข้าพเจ้า แต่เขาจำชื่อข้าพเจ้าไม่ได้ จากนั้นเขาบอกเมอร์ลินว่า “ถ้าคุณเลือกไปที่สแตนฟอร์ดและอยากจะพาเพื่อนไปด้วย ถ้าเขามีเกรดดีพออาจจะจัดการให้ได้” ประสบการณ์นี้ยืนยันกับข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้าควรทำตามคำแนะนำอันชาญฉลาดของคุณพ่อ

เจตนาของข้าพเจ้าไม่ได้ต้องการห้ามเล่นกีฬาหรือห้ามใช้อินเทอร์เน็ตหรือห้ามทำกิจกรรมที่มีคุณค่าอื่นๆ ที่คนหนุ่มสาวชื่นชอบ กิจกรรมเหล่านี้ต้องใช้ความพอดี สมดุล และปัญญา เมื่อเราใช้อย่างฉลาด สิ่งเหล่านี้จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าสนับสนุนทุกคน ไม่ว่าคนหนุ่มสาวหรือสูงวัย ให้ทบทวนเป้าหมายและวัตถุประสงค์ พร้อมทั้งพยายามมีวินัยให้มากขึ้น ความประพฤติและการเลือกของเราในแต่ละวันควรสอดคล้องกับเป้าหมายของเรา เราต้องอยู่เหนือเหตุผลและความเพลิดเพลิน สิ่งนี้สำคัญเป็นพิเศษต่อการเลือกที่สอดคล้องกับพันธสัญญาของเราที่จะรับใช้พระเยซูคริสต์ด้วยความชอบธรรม21 เราต้องไม่ละสายตาจากเป้าหมายหรือทำลูกบอลตกไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม

ชีวิตนี้เป็นเวลาที่จะเตรียมตัวพบพระผู้เป็นเจ้า22 เราเป็นคนมีความสุข เบิกบานใจ เราชื่นชอบอารมณ์ขันที่ดีและเห็นคุณค่าของเวลาที่ได้อยู่กับครอบครัวและมิตรสหาย แต่เราต้องตระหนักว่ามีจุดประสงค์ที่จริงจังควบคู่มากับมาตรฐานของการดำเนินชีวิตและการเลือกทั้งหมดของเรา ความเพลิดเพลินและเหตุผลที่จำกัดความก้าวหน้านั้นเป็นอันตรายมากอยู่แล้ว แต่เมื่อสิ่งเหล่านั้นบั่นทอนศรัทธาในพระเยซูคริสต์และศาสนจักรของพระองค์ สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องสลดใจ

ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนว่าเราผู้ดำรงฐานะปุโรหิต เราจะทำให้ความประพฤติของเราสอดคล้องกับจุดประสงค์อันสูงส่งซึ่งกำหนดไว้สำหรับผู้ที่อยู่ในการรับใช้ของพระอาจารย์ ในทุกสิ่งเราควรจดจำว่าความ “องอาจในประจักษ์พยานถึงพระเยซู”23 เป็นการทดสอบเพื่อแบ่งแยกครั้งสำคัญระหว่างอาณาจักรซีเลสเชียลกับอาณาจักรเทอร์เรสเตรียล เราต้องการอยู่บนฝั่งของซีเลสเชียลในการแบ่งแยกนั้น ในฐานะอัครสาวกคนหนึ่งของพระองค์ ข้าพเจ้าแสดงประจักษ์พยานด้วยศรัทธาแรงกล้าถึงความจริงแห่งการชดใช้และความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดของเรา ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. Lee Mendelson-Bill Melendez Production TV Specials.

  2. จากพระจันทร์ของดาวเสาร์ทำให้เธอเขว จนถึงกับกังวลว่าจะมีสารพิษในถุงมือเธอ ลูซีมีเหตุผลเสมอว่าทำไมเธอจึงรับบอลไม่ได้.

  3. ดู “Decisions Determine Destiny,” บทที่ 8 ใน Pathways to Perfection:Discourses of Thomas S. Monson(1973), 57–65.

  4. อิสยาห์ 7:15

  5. “If to do were as easy as to know what were good to do, chapels had been churches, and poor men’s cottages princes’ palaces” (William Shakespeare, The Merchant of Venice, องก์ 1, ฉาก 2, บรรทัด 12–14).

  6. หลักคำสอนและพันธสัญญา 58:27.

  7. ดู การปรับตัวให้เข้ากับชีวิตผู้สอนศาสนา (คู่มือ, 2013), 23–49.

  8. ดู Stephanie Rosenbloom, “Dealing with Digital Cruelty,” New York Times, Aug. 24, 2014, SR1.

  9. แรนดัลล์ แอล. ริดด์, “คนในรุ่นที่ทรงเลือก,” เลียโฮนา, พ.ค. 2014, 56.

  10. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 45:26.

  11. ดู David A. Bednar, “To Sweep the Earth as with a Flood” (speech delivered at BYU Campus Education Week, Aug. 19, 2014); lds.org/prophets-and-apostles/unto-all-the-world/to-sweep-the-earth-as-with-a-flood.

  12. Arthur C. Brooks, “Love People, Not Pleasure,” New York Times, July 20, 2014, SR1.

  13. โชคร้ายที่ความเบี่ยงเบนอย่างหนึ่งซึ่งเพิ่มขึ้นในยุคสมัยของเราคือความโง่เขลาอย่างแท้จริง เมื่อพระผู้ช่วยให้รอดทรงแจกแจงบางสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีมลทิน พระองค์ทรงรวมถึงความโง่เขลา (ดู มาระโก 7:22).

  14. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสมัยกรีกโบราณและโรม เช่นเดียวกับอารยธรรมในพระคัมภีร์มอรมอน.

  15. ดู Frederic W. Farrar, The Life and Work of St. Paul (1989), 302. มีนักปรัชญาหลากหลายประเภท รวมถึงกลุ่มเอปิคิวรุสและกลุ่มสโตอิก, บางคนเรียกกลุ่มคู่อริทั้งสองนี้ว่าเป็นพวกฟาริสีและสะดูสีของโลกนอกศาสนา. ดู Quentin L. Cook, “Looking beyond the Mark,” Ensign, Mar. 2003, 41–44; Liahona, Mar. 2003, 21–24 ด้วย.

  16. กิจการของอัครทูต 17:21.

  17. กิจการของอัครทูต 17:32.

  18. Farrar, The Life and Work of St. Paul, 312.

  19. ดู ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “ดี ดีกว่า ดีที่สุด” เลียโฮนา, พ.ย. 2007, 104–108.

  20. เมอร์ลิน โอลเซ็นเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับการเสนอชื่อในหอเกียรติยศ นักแสดง และผู้ประกาศของ NFL ของช่อง NBC เขาได้รับรางวัล Outland Trophy ในการเล่นฟุตบอลให้มหาวิทยาลัยยูทาห์สเตท เขาเล่นฟุตบอลอาชีพสำหรับทีม Los Angeles Rams. เขาเล่นบทโจนาธาน การ์วีย์คู่กับไมเคิล แลนดอนในเรื่อง Little House on the Prairie และเคยมีรายการโทรทัศน์ของเขาเอง Father Murphy ปัจจุบันเมอร์ลินถึงแก่กรรม (11 มีนาคม 2010) และเราคิดถึงเขามาก

  21. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:5.

  22. ดู แอลมา 34:32.

  23. หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:79.