2010–2019
งานเผยแผ่ศาสนา: แบ่งปันสิ่งที่อยู่ในใจท่าน
การประชุมใหญ่สามัญ เมษายน 2019


งานเผยแผ่ศาสนา: แบ่งปันสิ่งที่อยู่ในใจท่าน

ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดบนแผ่นดินโลก มีโอกาสมากมายในการแบ่งปันข่าวประเสริฐแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

เมื่อเดือนที่แล้วประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน ศาสดาพยากรณ์ผู้เป็นที่รักของเราเชิญอัครสาวกสิบสองให้ร่วมเดินทางกับท่านไปอุทิศพระวิหารโรม อิตาลี ขณะเดินทาง ข้าพเจ้านึกถึงอัครสาวกเปาโลและการเดินทางของท่าน ในสมัยของท่าน การเดินทางจากเยรูซาเล็มไปโรมจะใช้เวลาประมาณ 40 วัน ปัจจุบัน ในเครื่องบินที่ข้าพเจ้าโปรดปรานลำหนึ่ง ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง

นักวิชาการพระคัมภีร์ไบเบิลเชื่อว่าเปาโลอยู่ในโรมเมื่อท่านเขียนจดหมายหลายฉบับ ซึ่งเป็นกุญแจในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สมาชิกศาสนจักรในเวลานั้นเช่นเดียวกับในปัจจุบัน

เปาโลและสมาชิกคนอื่นๆ ของศาสนจักรในสมัยโบราณ วิสุทธิชนยุคแรกเริ่ม เคยชินกับการเสียสละ หลายคนถูกข่มเหงอย่างรุนแรง แม้จนถึงแก่ความตาย

ใน 200 ปีที่ผ่านมา สมาชิกศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ ประสบกับการข่มเหงในหลายรูปแบบเช่นกัน แต่ทั้งที่มีการข่มเหง (และบางครั้งเพราะการข่มเหงนั้น) ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและปัจจุบันมีอยู่ทั่วโลก

มีหลายอย่างต้องทำ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะอบเค้ก โปรยกระดาษสี และฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญของเรา เราจะทำได้ดีถ้าเราเข้าใจการเติบโตนั้นเป็นอย่างดี

มีผู้คนอยู่ประมาณเจ็ดพันห้าร้อยล้านคนในโลกนี้ เมื่อเทียบกับสมาชิกราว 16 ล้านคนของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย—นับว่าเป็นกลุ่มที่เล็กมาก1

ขณะเดียวกันจำนวนผู้เชื่อชาวคริสต์ในบางภูมิภาคของโลกลดลง2

แม้ในศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเจ้า—ขณะสมาชิกภาพโดยรวมยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ —แต่มีคนจำนวนมากที่ไม่ยอมมารับพรของการมีส่วนร่วมกับศาสนจักรเป็นประจำ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดบนแผ่นดินโลก มีโอกาสมากมายในการแบ่งปันข่าวประเสริฐ3 แห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์กับผู้คนที่ท่านพบ ศึกษาด้วยกัน อาศัยอยู่ด้วยกัน หรือทำงานและพบปะพูดคุยกัน

ระหว่างปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้ามีโอกาสอันน่าตื่นเต้นที่จะมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งกับกิจกรรมงานเผยแผ่ทั่วโลกของศาสนจักร ข้าพเจ้ามักไตร่ตรองและสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับภารกิจอันสำคัญยิ่งของพระผู้ช่วยให้รอดต่อสานุศิษย์ของพระองค์—เรา ลูกของพระองค์—ที่จะ “​ออก​ไป​และ​นำ​ชน​ทุก​ชาติ​มา​เป็น​สาวก​ของ​เรา จง​บัพ‌ติศ‌มา​พวก‍เขา​ใน​พระ‍นาม​ของ​พระ‍บิดา พระ‍บุตร และ​พระ‍วิญ‌ญาณ‍บริ‌สุทธิ์”4

ข้าพเจ้าครุ่นคิดกับคำถาม “เราในฐานะสมาชิกและสานุศิษย์ของพระคริสต์สามารถทำภารกิจอันสำคัญยิ่งให้เกิดสัมฤทธิผลได้อย่างไรในชีวิตประจำวันของเรา”

วันนี้ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านไตร่ตรองคำถามเดียวกันในความคิดและใจท่าน5

ของประทานสำหรับงานเผยแผ่ศาสนา

ผู้นำศาสนจักรเน้นการเรียกที่ชัดเจนว่า “สมาชิกทุกคนเป็นผู้สอนศาสนา!” มาหลายทศวรรษ6

สมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์—ทั้งในอดีตและในสมัยของเรา—แบ่งปันพระกิตติคุณกับเพื่อนสนิทมิตรสหายอย่างกระตือรือร้นและมีความสุข ใจพวกเขาลุกไหม้ด้วยประจักษ์พยานถึงพระเยซูคริสต์ และพวกเขาต้องการอย่างจริงใจที่จะให้ผู้อื่นประสบปีติที่พวกเขาพบในพระกิตติคุณของพระผู้ช่วยให้รอด

สมาชิกบางคนของศาสนจักรดูเหมือนจะมีของประทานสำหรับสิ่งนี้ พวกเขารักการเป็นทูตแห่งพระกิตติคุณ พวกเขากล้าหาญ ยินดีรับใช้และนำงานนี้ในฐานะสมาชิกผู้สอนศาสนา

อย่างไรก็ตาม พวกเราบางคนค่อนข้างลังเล เมื่อมีการสนทนาเรื่องงานเผยแผ่ศาสนาในการประชุมของศาสนจักร ศีรษะจะค่อยๆ ค้อมลงไปอยู่หลังม้านั่ง สายตาจับจ้องไปที่พระคัมภีร์หรือหลับตาตั้งสมาธิอย่างลึกซึ้งเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับสมาชิกคนอื่นๆ

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ บางทีเรารู้สึกผิดที่ไม่ได้แบ่งปันพระกิตติคุณให้มากกว่านี้ บางทีเรารู้สึกไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร หรือบางทีเรารู้สึกกลัวที่จะออกไปจากพื้นที่คุ้นเคยของเรา

ข้าพเจ้าเข้าใจสิ่งนี้

พึงจดจำว่า พระเจ้าไม่ได้ทรงเรียกร้องความพยายามด้านงานเผยแผ่ศาสนาอย่างผู้เชี่ยวชาญไร้ที่ติ แต่ “พระเจ้าทรงเรียกร้องใจและความคิดที่เต็มใจ”7

ถ้าท่านกำลังทำงานเผยแผ่ศาสนาอย่างมีความสุขอยู่แล้ว ขอให้ทำต่อไป และยืนเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น พระเจ้าจะทรงอวยพรท่าน

อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านลังเลเมื่อถึงคราวต้องแบ่งปันข่าวสารพระกิตติคุณ ข้าพเจ้าขอแนะนำสิ่งที่ทำให้ไม่รู้สึกผิดห้าข้อที่ใครก็ทำได้เพื่อมีส่วนร่วมในภารกิจสำคัญของพระผู้ช่วยให้รอดในการช่วยรวบรวมอิสราเอล

คำแนะนำเรียบง่ายห้าข้อ

ข้อแรก เข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้า พระบัญญัติสำคัญข้อแรกคือรักพระผู้เป็นเจ้า8 นั่นคือเหตุผลสำคัญว่าเหตุใดเราจึงอยู่บนโลกนี้ ถามตนเองว่า “ฉันเชื่อในพระบิดาบนสวรรค์จริงหรือ”

“ฉันรักและวางใจพระองค์หรือไม่”

ยิ่งท่านเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์ของเรา ความสว่างของพระองค์และปีติจะยิ่งส่องออกมาจากภายในตัวท่าน คนอื่นๆ จะสังเกตว่ามีบางสิ่งที่พิเศษไม่เหมือนใครเกี่ยวกับท่าน พวกเขาจะถามเรื่องนี้

สอง เติมใจท่านด้วยความรักที่มีต่อผู้อื่น นี่คือพระบัญญัติสำคัญข้อสอง9 พยายามมองว่าทุกคนรอบข้างท่านเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้า ปฏิบัติศาสนกิจต่อพวกเขา—ไม่ว่าชื่อของพวกเขาจะอยู่ในรายชื่อบราเดอร์หรือซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจของท่านหรือไม่

หัวเราะกับพวกเขา ชื่นชมยินดีกับพวกเขา ร้องไห้กับพวกเขา เคารพพวกเขา รักษา อุ้มชู และทำให้พวกเขาเข้มแข็ง

พยายามเลียนแบบความรักของพระคริสต์และมีความเห็นใจผู้อื่น—แม้แต่ผู้ที่ไม่เมตตาท่าน ผู้ที่เยาะเย้ยท่านและคิดร้ายต่อท่าน รักและปฏิบัติต่อพวกเขาประหนึ่งเพื่อนมนุษย์ผู้เป็นบุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์

สาม พยายามเดินบนเส้นทางแห่งการเป็นสานุศิษย์ ความรักที่ท่านมีต่อพระผู้เป็นเจ้าและบุตรธิดาของพระองค์ลึกซึ้งขึ้นฉันใด คำมั่นสัญญาที่ท่านจะติดตามพระเยซูคริสต์ก็จะลึกซึ้งขึ้นฉันนั้น

ท่านเรียนรู้วิถีของพระองค์โดยดื่มด่ำพระวจนะของพระองค์ เอาใจใส่และประยุกต์ใช้คำสอนของศาสดาพยากรณ์ตลอดจนอัครสาวกในปัจจุบัน ท่านมีความมั่นใจและกล้าหาญมากขึ้นในการทำตามวิถีของพระองค์เมื่อท่านสื่อสารกับพระบิดาบนสวรรค์ด้วยใจที่นอบน้อมถ่อมตนและสอนได้

การเดินอยู่บนเส้นทางของการเป็นสานุศิษย์นั้นต้องฝึกฝน—ทุกวัน ทีละเล็กทีละน้อย “พระคุณแทนพระคุณ,”10 “บรรทัดมาเติมบรรทัด”11 บางครั้งก้าวไปข้างหน้าได้สองก้าวและก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าว

สิ่งสำคัญคือเราต้องไม่ยอมแพ้ ต้องพยายามต่อไปจนกว่าจะทำถูก ในที่สุดท่านจะเป็นคนดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น และจริงใจมากขึ้น การพูดคุยกับคนอื่นเกี่ยวกับศรัทธาของท่านจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา อันที่จริง พระกิตติคุณจะเป็นส่วนสำคัญอันล้ำค่าในชีวิตท่านซึ่งจะรู้สึกแปลกที่จะ ไม่ พูดถึงเรื่องนี้กับผู้อื่น อาจไม่เกิดขึ้นทันที—จะเป็นควาพยายามตลอดชีวิต แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้น

สี่ แบ่งปันสิ่งที่อยู่ในใจท่าน ข้าพเจ้าไม่ได้ขอให้ท่านไปยืนถือโทรโข่งที่มุมถนนและร้องตะโกนข้อพระคัมภีร์มอรมอน สิ่งที่ข้าพเจ้าขอก็คือให้ท่านมองหาโอกาสอยู่เสมอในการพูดเรื่องศรัทธาอย่างเป็นเรื่องปกติธรรมดากับผู้คน—ทั้งเป็นการส่วนตัวและทางออนไลน์ ข้าพเจ้าขอให้ท่าน “ยืนเป็นพยาน”12 ถึงพลังอำนาจของพระกิตติคุณอยู่ตลอดเวลา—และเมื่อจำเป็นให้พูดออกมา13

เพราะ “ข่าวประเสริฐ [ของพระคริสต์] … เป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า” ท่านสามารถมั่นใจ กล้าหาญ และอ่อนน้อมถ่อมตนเมื่อท่านแบ่งปันพระกิตติคุณ14 ความมั่นใจ ความกล้าหาญ และความอ่อนน้อมถ่อมตนอาจดูเหมือนเป็นคุณลักษณะที่ขัดแย้งกัน แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงพระดำรัสเชิญของพระผู้ช่วยให้รอดไม่ให้ซ่อนคุณค่าและหลักธรรมพระกิตติคุณแต่ให้แสงสว่างของท่านส่องไป เพื่องานดีของท่านจะทำให้คนทั้งหลายสรรเสริญพระบิดาในสวรรค์15

มีวิธีปกติธรรมดามากมายที่จะทำสิ่งนี้ จากการกระทำด้วยความเมตตาทุกวันไปจนถึงประจักษ์พยานส่วนตัวบนยูทูป เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือทวิตเตอร์และการสนทนาอย่างเรียบง่ายกับผู้คนที่ท่านพบเจอ ปีนี้เรากำลังเรียนรู้จากพันธสัญญาใหม่ในบ้านและโรงเรียนวันอาทิตย์ ช่างเป็นโอกาสดีในการเชื้อเชิญมิตรสหายกับเพื่อนบ้านให้มาโบสถ์และบ้านของท่านเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดกับท่าน แบ่งปันแอปพลิเคชันคลังค้นคว้าพระกิตติคุณกับพวกเขา เพื่อให้พวกเขาพบ จงตามเรามา ถ้าท่านรู้จักคนหนุ่มสาวและครอบครัวของพวกเขาให้จุลสาร เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน แก่พวกเขาและเชื้อเชิญให้มาดูคนหนุ่มสาวของเราพยายามดำเนินชีวิตตามหลักธรรมเหล่านั้น

ถ้ามีคนถามเกี่ยวกับวันสุดสัปดาห์ของท่าน อย่ารีรอที่จะพูดถึงประสบการณ์ที่โบสถ์ เล่าถึงเด็กเล็กๆ ยืนต่อหน้าที่ประชุมและร้องเพลงอย่างกระตือรือร้นว่าพวกเขาพยายามเป็นเหมือนพระเยซู พูดถึงกลุ่มเยาวชนที่ใช้เวลาช่วยเหลือผู้สูงวัยที่บ้านพักคนชราในการรวบรวมประวัติส่วนตัว พูดถึงการเปลี่ยนแปลงตารางการประชุมวันอาทิตย์เมื่อเร็วๆ นี้และสิ่งนี้เป็นพรแก่ครอบครัวท่านอย่างไร หรืออธิบายว่าเหตุใดเราจึงเน้นว่านี่คือศาสนจักรของพระเยซูคริสต์และเราคือ วิสุทธิชน ยุคสุดท้ายเช่นเดียวกับสมาชิกของศาสนจักรในสมัยโบราณที่เรียกว่า วิสุทธิชน เช่นกัน

ไม่ว่าวิธีใดที่ดูเหมือนปกติธรรมดาสำหรับท่าน จงแบ่งปันกับผู้คนว่าเหตุใดพระเยซูคริสต์และศาสนจักรของพระองค์จึงสำคัญต่อท่าน เชื้อเชิญให้พวกเขา “มาดู”16 จากนั้นกระตุ้นให้พวกเขา มาช่วย มีโอกาสมากมายให้ผู้คนมาช่วยศาสนจักรของเรา

สวดอ้อนวอนไม่เพียงให้ผู้สอนศาสนาพบคนที่เลือกไว้ สวดอ้อนวอนอย่างสุดใจทุกวันให้ท่านพบผู้ที่จะ มาดู มาช่วย และ มาอยู่ ให้มีผู้สอนศาสนาเต็มเวลามีส่วนร่วม พวกเขาเหมือนเทพ พร้อมจะช่วยเหลือ

ขณะที่ท่านแบ่งปันข่าวประเสริฐ พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ จงทำด้วยความรักความอดทน ถ้าเราปฏิสัมพันธ์กับผู้คนโดยมีความคาดหวังเพียงอย่างเดียวว่าไม่นานพวกเขาจะสวมชุดขาวและถามหาทางไปอ่างบัพติศมาที่ใกล้ที่สุด เรากำลังทำผิด

บางคนมาดู อาจจะไม่เข้าร่วมกับศาสนจักร บางคนจะเข้าร่วมในภายหลัง นั่นคือการเลือกของพวกเขา แต่นั่นไม่เปลี่ยนแปลงความรักที่เรามีต่อพวกเขา และจะไม่เปลี่ยนความพยายามอย่างกระตือรือร้นของเราในการเชื้อเชิญผู้คนและครอบครัวให้ มาดู, มาช่วย, และ มาอยู่

ห้า วางใจพระเจ้าในการทำปาฏิหาริย์ของพระองค์ จงเข้าใจว่าไม่ใช่งานของท่านที่จะเปลี่ยนใจเลื่อมใสผู้คน นั่นคือบทบาทของพระวิญญาณบริสุทธิ์ บทบาทของท่านคือแบ่งปันสิ่งที่อยู่ในใจและดำเนินชีวิตอย่างสอดคล้องกับความเชื่อของท่าน

ดังนั้น อย่าท้อแท้ถ้ามีบางคนไม่ยอมรับข่าวสารพระกิตติคุณในทันที นั่นไม่ใช่ความล้มเหลวส่วนตัว

เป็นเรื่องระหว่างบุคคลนั้นกับพระบิดาบนสวรรค์

หน้าที่ของท่านคือรักพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนบ้านของท่าน ลูกของพระองค์

เชื่อ รัก ทำ

จงดำเนินตามเส้นทางนี้ พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำปาฏิหาริย์ผ่านท่านเพื่อเป็นพรแก่บุตรธิดาอันล้ำค่าของพระองค์

คำแนะนำห้าข้อนี้จะช่วยให้ท่านทำสิ่งที่สานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์เคยทำตั้งแต่สมัยโบราณ พระกิตติคุณและศาสนจักรของพระองค์เป็นส่วนสำคัญในชีวิตท่าน ในตัวตนที่ท่านเป็นและสิ่งที่ท่านทำ ดังนั้น จงเชื้อเชิญให้ผู้อื่น มาดู และ มาช่วย พระผู้เป็นเจ้าจะทรงงานแห่งความรอดของพระองค์ และพวกเขาจะ มาอยู่

แต่จะเป็นอย่างไรถ้ายาก

“แต่” ท่านอาจถามว่า “จะเป็นอย่างไรถ้าฉันทำทั้งหมดนี้และผู้คนไม่ตอบรับ ถ้าพวกเขาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับศาสนจักร ถ้าพวกเขาลบฉันจากการเป็นเพื่อน”

ใช่ ทั้งหมดนั้นอาจเกิดขึ้น ตั้งแต่ยุคโบราณ สานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์มักจะถูกข่มเหง17 อัครสาวกเปโตรกล่าวว่า “จงชื่นชมยินดี … ที่ท่านได้มีส่วนร่วมในความทุกข์ยากของพระคริสต์”18 วิสุทธิชนสมัยแรกชื่นชมยินดี “ที่พระเจ้าทรงนับว่าพวกเขามีค่าสมควรได้รับการหลู่เกียรติเพราะพระนามนั้น”19

พึงจดจำว่าพระเจ้าทรงทำงานด้วยวิธีลึกลับ อาจเป็นเพราะท่านตอบรับเหมือนพระคริสต์ต่อคำปฏิเสธนั้น ใจที่แข็งกระด้างจึงอ่อนโยนลงได้

ในฐานะอัครสาวกของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าอวยพรท่านด้วย ความมั่นใจ ในการเป็นประจักษ์พยานที่มีชีวิตถึงคุณค่าแห่งพระกิตติคุณ พร้อมด้วย ความกล้าหาญ ในการเป็นที่จดจำว่าเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย พร้อมด้วย ความอ่อนน้อมถ่อมตน ในการช่วยงานของพระองค์เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรักที่ท่านมีต่อพระบิดาบนสวรรค์และบุตรธิดาของพระองค์

เพื่อนรักของข้าพเจ้า ท่านจะชื่นชมยินดีที่ได้รู้ว่าท่านเป็นส่วนสำคัญในการรวบรวมอิสราเอลตามคำทำนายเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว โดยเตรียมรับการเสด็จมาของพระคริสต์ใน “อำนาจและรัศมีภาพเรืองโรจน์; พร้อมด้วยเทพผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด”20

พระบิดาบนสวรรค์ทรงรู้จักท่าน พระเจ้าทรงรักท่าน พระผู้เป็นเจ้าจะทรงอวยพรท่าน งานนี้ได้รับแต่งตั้งจากพระองค์ ท่านทำได้ เราสามารถทำทั้งหมดนี้ด้วยกัน

ข้าพเจ้าเป็นพยานในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. นีไฟศาสดาพยากรณ์ผู้ยิ่งใหญ่เห็นในนิมิตว่าถึงแม้ศาสนจักรของพระเมษโปดกของพระผู้เป็นเจ้าจะมีอยู่ “ทั่วพื้นพิภพ” เพราะความชั่วร้ายในโลกแต่ “จำนวนคนของศาสนจักร [จะ] น้อย” (1 นีไฟ 14:12; ดู ลูกา 12:32 ด้วย).

  2. ตัวอย่างเช่น การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้จากศูนย์วิจัย Pew พบว่าในสหรัฐ “เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) ผู้เรียกตนเองว่าชาวคริสต์มีจำนวนลดลงเกือบแปดเปอร์เซ็นต์ภายในระยะเวลาแค่เจ็ดปี จาก 78.4% ในปี … 2007 เหลือ 70.6% ในปี 2014. ในช่วงเวลาเดียวกัน เปอร์เซ็นของชาวอเมริกันที่ไม่เข้าร่วมกับศาสนาใด—ผู้ที่เรียกตนเองว่าผู้ไม่เชื่อพระเจ้า ไม่คิดว่าพระผู้เป็นเจ้ามีอยู่จริงหรือ ‘ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอะไรเลย’—เพิ่มขึ้นมากกว่าหกจุด จาก 16.1% เป็น 22.8%” (“America’s Changing Religious Landscape,” Pew Research Center, May 12, 2015, pewforum.org).

  3. คำว่า พระกิตติคุณ แปลว่า “ข่าวประเสริฐ” ข่าวประเสริฐคือพระเยซูคริสต์ทรงทำการชดใช้ที่สมบูรณ์แบบซึ่งจะไถ่มนุษยชาติทั้งปวงจากความตายและมอบรางวัลให้แต่ละบุคคลตามงานของเขา การชดใช้นี้เริ่มต้นจากการแต่งตั้งพระองค์ในโลกก่อนเกิด ดำเนินต่อไปในช่วงที่พระองค์ทรงเป็นมรรตัย และจบลงด้วยการฟื้นคืนพระชนม์อันทรงรัศมีภาพของพระองค์ บันทึกในพระคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับพระชนม์ชีพมรรตัย การปฏิบัติศาสนกิจ และการพลีพระชนม์ชีพของพระองค์เรียกว่าพระกิตติคุณ: มัทธิว มาระโก ลูกา และ ยอห์น

  4. มัทธิว 28:19.

  5. “ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, เพื่อนของเรา, เราฝากคำกล่าวเหล่านี้ไว้กับเจ้าให้ไตร่ตรองในใจเจ้า” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:62).

    “แต่, ดูเถิด, เรากล่าวแก่เจ้า, ว่าเจ้าต้องศึกษาไตร่ตรองในความคิดของเจ้า; จากนั้นเจ้าต้องถามเราว่ามันถูกต้องหรือไม่, และหากมันถูกต้องเราจะทำให้ทรวงอกของเจ้าเผาไหม้อยู่ภายในเจ้า; ฉะนั้น, เจ้าจะรู้สึกว่ามันถูกต้อง” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 9:8).

  6. ประธานเดวิด โอ. แมคเคย์ ส่งเสริมให้ “สมาชิกทุกคน [เป็น] ผู้สอนศาสนา” เมื่อท่านควบคุมดูแลคณะเผยแผ่ยุโรปจากปี 1922 ถึง 1924 ท่านแบ่งปันข่าวสารเดียวกันกับศาสนจักรในการประชุมใหญ่สามัญสมัยแรกราวปี 1952 (ดู “‘Every Member a Missionary’ Motto Stands Firm Today,” Church News, Feb. 20, 2015, news.ChurchofJesusChrist.org).

  7. หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:34.

  8. ดู มัทธิว 22:37—38.

  9. ดู มัทธิว 22:39.

  10. หลักคำสอนและพันธสัญญา 93:12.

  11. อิสยาห์ 28:10.

  12. โมไซยาห์ 18:9.

  13. ความคิดนี้มักจะเชื่อกันว่าเป็นของนักบุญฟรังซิส แห่ง อัสซีซี; ดู ยอห์น 10:36–38 ด้วย.

  14. โรม 1:16.

  15. ดู มัทธิว 5:15–16.

  16. ยอห์น 1:46; เน้นตัวเอน.

  17. ดู ยอห์น 15:18.

  18. 1 เปโตร 4:13, ฉบับมาตรฐานภาษาอังกฤษ; ดู ข้อ 1–19 ด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้ติดตามพระคริสต์ควรดูการทนทุกขเวทนาเพื่อพระกิตติคุณ.

  19. กิจการของอัครทูต 5:41.

  20. หลักคำสอนและพันธสัญญา 45:44.