2010–2019
คนหนุ่มสาวรุ่นเยี่ยมยอด
เมษายน 2015


คนหนุ่มสาวรุ่นเยี่ยมยอด

สิ่งที่เราต้องการเวลานี้คือคนหนุ่มสาวรุ่นเยี่ยมยอดในประวัติศาสตร์ของศาสนจักร เราต้องการให้ท่านทำอย่างสุดจิตสุดใจ

ความพอใจอย่างมากประการหนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าเกิดปีติสุขขณะเดินทางไปทั่วโลกคือโอกาสได้พบและทักทายผู้สอนศาสนาของเรา เอ็ลเดอร์และซิสเตอร์ที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ฉายแสงสว่างของพระคริสต์ และข้าพเจ้ามักได้รับแรงบันดาลใจเสมอจากความรักที่พวกเขามีต่อพระเจ้าพระเยซูคริสต์และการทุ่มเทรับใช้พระองค์ ทุกครั้งที่จับมือทักทายพวกเขาและรู้สึกถึงวิญญาณและศรัทธาอันน่าทึ่งของพวกเขา ข้าพเจ้าจะพูดกับตนเองว่า “บุตรธิดาสุดวิเศษเหล่านี้ของเราเป็นปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง!”

ในช่วงการประชุมฐานะปุโรหิตสามัญเดือนตุลาคม 2002 ข้าพเจ้าท้าทายอธิการ บิดามารดา และผู้หวังเป็นผู้สอนศาสนาให้ “ยกมาตรฐาน” การรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลา

ข้าพเจ้ากล่าวต่อจากนั้นว่า “สิ่งที่เราต้องการ…คือผู้สอนศาสนารุ่นเยี่ยมยอดในประวัติศาสตร์ของศาสนจักร เราต้องการผู้สอนศาสนาที่มีค่าควร มีคุณสมบัติ และเข้มแข็งทางวิญญาณ …

“… เราต้องการให้ท่านทำอย่างเต็มสติกำลัง เราต้องการผู้สอนศาสนาที่มีชีวิตชีวา รู้จักคิด กระตือรือร้น ผู้รู้จักฟังและตอบรับสุรเสียงของพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์”1

โลกทุกวันนี้ท้าทายกว่า 13 ปีก่อนในหลายๆ ด้าน เยาวชนชายและเยาวชนหญิงของเรามีสิ่งที่ทำให้พวกเขาเขวกว่าเดิมมากขณะพวกเขาเตรียมทำงานเผยแผ่และมีชีวิตที่มีความสุขในอนาคต เทคโนโลยีขยายวงกว้าง และแทบทุกคนเข้าถึงอุปกรณ์มือถือที่สามารถทำให้ครอบครัวมนุษย์ของพระผู้เป็นเจ้าสนใจทั้งความดีอนันต์และความชั่วมหันต์

คืนนี้ข้าพเจ้าพูดกับผู้สอนศาสนาที่กำลังรับใช้ ผู้สอนศาสนาในอนาคต อดีตผู้สอนศาสนา และชายหนุ่มทั้งหมดในศาสนจักร ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้ท่านเข้าใจและพิจารณาสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องพูดกับท่านขณะที่ท่านเดินทางผ่านช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นและยากลำบากในชีวิตท่าน

ในศาสนจักรสมัยแรก เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่สัมภาษณ์ผู้สอนศาสนาก่อนพวกเขาเข้าสู่คณะเผยแผ่ สมัยนี้อธิการและประธานสเตคสัมภาษณ์ท่านให้รับใช้เป็นผู้สอนศาสนา และท่านส่วนใหญ่จะไม่ผ่านการสัมภาษณ์จากเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ตลอดชีวิตท่าน นี่เป็นเพียงภาพสะท้อนของความเป็นจริงในศาสนจักรที่มีสมาชิกทั่วโลกเกิน 15 ล้านคน ข้าพเจ้าพูดแทนเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เมื่อบอกท่านว่าเราอยากจะให้อยู่ในวิสัยที่ทำได้ที่จะรู้จักทุกท่านเป็นส่วนตัวและสามารถบอกท่านได้ว่าเรารักและสนับสนุนท่าน

โชคดีที่พระเจ้าทรงเตรียมทางให้เราเข้าถึงท่าน ตัวอย่างเช่น สมาชิกคนหนึ่งในโควรัมอัครสาวกสิบสองมอบหมายผู้สอนศาสนาทุกคนให้คณะเผยแผ่ ถึงแม้จะทำเช่นนี้โดยไม่มีการสัมภาษณ์ตรงหน้า แต่เทคโนโลยีและการเปิดเผยรวมกันให้ประสบการณ์ที่คุ้นเคยและเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าจะเล่าให้ฟังว่าเกิดขึ้นอย่างไร

รูปถ่ายของท่านปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมกับข้อมูลสำคัญที่อธิการและประธานสเตคให้มา เมื่อรูปของท่านปรากฏ เรามองตาท่านและทบทวนการตอบคำถามของท่านในใบเสนอชื่อผู้สอนศาสนา ช่วงเวลาสั้นๆ นั้นดูประหนึ่งท่านอยู่ที่นั่นและกำลังตอบเราโดยตรง

ขณะมองดูรูปถ่ายของท่าน เราวางใจว่าท่านได้ทำตาม “มาตรฐานที่กำหนด” ทุกๆ ด้านเพื่อจะเป็นผู้สอนศาสนาที่ซื่อสัตย์และประสบความสำเร็จ จากนั้นโดยอำนาจของพระวิญญาณของพระเจ้าและภายใต้การกำกับดูแลของประธานโธมัส เอส. มอนสัน เรามอบหมายท่านไปคณะเผยแผ่ทั่วโลก 406 แห่งของศาสนจักร

นั่นไม่เหมือนการสัมภาษณ์เป็นส่วนตัว ตรงหน้า แต่ก็ใกล้เคียง

การประชุมทางวีดิทัศน์เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราเข้าถึงผู้นำและสมาชิกศาสนจักรที่อยู่ไกลจากสำนักงานใหญ่ของศาสนจักร

ข้าพเจ้าขอให้ท่านที่กำลังเตรียมรับใช้งานเผยแผ่ คนที่กลับมาแล้ว และหนุ่มสาวทุกท่านนึกภาพเหตุการณ์นั้นและใช้เวลาสักครู่กับข้าพเจ้าประหนึ่งเรากำลังคุยกันส่วนตัวทางวีดิทัศน์ตอนนี้ โปรดจ้องมองข้าพเจ้าสักครู่ประหนึ่งท่านกับข้าพเจ้าอยู่เพียงสองคนในห้องที่ท่านอยู่คืนนี้

สำหรับตัวข้าพเจ้าจะจินตนาการว่าข้าพเจ้ากำลังมองตาท่านและตั้งใจฟังการตอบคำถามไม่กี่ข้อที่ข้าพเจ้าเชื่อว่าจะบอกท่านมากเกี่ยวกับความลึกซึ้งของประจักษ์พยานและความภักดีของท่านต่อพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าขอย้ำสิ่งที่พูดกับผู้สอนศาสนาเมื่อ 13 ปีก่อน สิ่งที่เราต้องการเวลานี้คืออนุชนคนหนุ่มสาวที่เยี่ยมยอดในประวัติศาสตร์ของศาสนจักร เราต้องการให้ท่านทำอย่างสุดจิตสุดใจ เราต้องการคนหนุ่มสาวที่มีชีวิตชีวา รู้จักคิด กระตือรือร้น ผู้รู้จักฟังและตอบรับสุรเสียงของพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ขณะเดินทางผ่านการทดลองและการล่อลวงประจำวันของการเป็นหนุ่มสาววิสุทธิชนยุคสุดท้ายในปัจจุบัน

อีกนัยหนึ่งคือ ถึงเวลายกมาตรฐานแล้วไม่เฉพาะสำหรับผู้สอนศาสนาเท่านั้นแต่สำหรับอดีตผู้สอนศาสนาและคนรุ่นท่านทั้งรุ่นด้วย ด้วยเหตุนี้โปรดไตร่ตรองคำตอบของคำถามเหล่านี้ในใจท่าน

  1. ท่านค้นคว้าพระคัมภีร์เป็นประจำหรือไม่

  2. ท่านคุกเข่าสวดอ้อนวอนเพื่อพูดคุยกับพระบิดาบนสวรรค์ของท่านทุกเช้าค่ำหรือไม่

  3. ท่านอดอาหารและบริจาคเงินอดอาหารแต่ละเดือนหรือไม่—ถึงแม้ท่านเป็นนักศึกษาที่ลำบากยากจนผู้ไม่สามารถบริจาคมากๆ ได้

  4. ท่านไตร่ตรองเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดและการพลีพระชนม์เพื่อชดใช้ให้ท่านเมื่อขอให้ท่านเตรียม ให้พร ส่งผ่าน หรือรับส่วนศีลระลึกหรือไม่

  5. ท่านเข้าร่วมการประชุมของท่านและพยายามรักษาวันสะบาโตให้ศักดิ์สิทธิ์หรือไม่

  6. ท่านซื่อสัตย์ที่บ้าน โรงเรียน โบสถ์ และที่ทำงานหรือไม่

  7. ท่านสะอาดทางวิญญาณและจิตใจหรือไม่ ท่านหลีกเลี่ยงการดูสื่อลามกหรือดูเว็บไซต์ นิตยสาร ภาพยนตร์ หรือแอ็พ รวมทั้งรูปใน Tinder และ Snapchat ที่จะทำให้ท่านอับอายถ้าพ่อแม่ ผู้นำศาสนจักร หรือพระผู้ช่วยให้รอดเห็นท่าน

  8. ท่านระวังเรื่องเวลาของท่านหรือไม่—หลีกเลี่ยงเทคโนโลยีและสื่อสังคมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงวิดีโอเกม ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกไวทางวิญญาณลดลง

  9. มีสิ่งใดในชีวิตท่านที่ต้องเริ่มเปลี่ยนและแก้ไขคืนนี้หรือไม่

ขอบคุณสำหรับการพูดคุยสั้นๆ ส่วนตัวครั้งนี้ ข้าพเจ้าหวังว่าท่านคงตอบคำถามแต่ละข้ออย่างซื่อสัตย์และถี่ถ้วน ถ้าท่านพบตนเองขาดหลักธรรมเรียบง่ายเหล่านี้ข้อใด ขอให้ท่านกล้ากลับใจและนำชีวิตกลับมาอยู่ในแนวเดียวกับมาตรฐานพระกิตติคุณของการเป็นสานุศิษย์ที่ชอบธรรม

พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าจะให้คำแนะนำเพิ่มเติมที่จะช่วยให้ท่านมีประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระกิตติคุณลึกซึ้งในใจและจิตวิญญาณของท่าน

ข้าพเจ้าขอเตือนอดีตผู้สอนศาสนาให้ระลึกว่าท่านควรเตรียมสำหรับชีวิตและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง “อาร์เอ็ม” มิได้หมายถึง “มอรมอนที่เกษียณ”! อดีตผู้สอนศาสนาควร “ทำงานอย่างทุ่มเทในอุดมการณ์ดี, และทำสิ่งสารพันด้วยเจตจำนงอิสระ, และทำให้เกิดความชอบธรรมยิ่ง”2

โปรดใช้ทักษะที่ท่านเรียนรู้ในงานเผยแผ่เป็นพรแก่ชีวิตคนรอบข้างทุกวัน อย่าเปลี่ยนจุดสนใจจากการรับใช้ผู้อื่นมาจดจ่อกับโรงเรียน งาน หรือกิจกรรมทางสังคมแต่อย่างเดียว จงทำชีวิตให้สมดุลกับประสบการณ์ทางวิญญาณที่เตือนสติและเตรียมท่านให้พร้อมปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่นอย่างต่อเนื่องทุกวัน

ช่วงทำงานเผยแผ่ท่านเรียนรู้ความสำคัญของการเยี่ยมผู้คนที่บ้านของเขา ข้าพเจ้าหวังว่าคนหนุ่มสาวทั้งหมดของเรา ไม่ว่าเคยรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลาหรือไม่ก็ตาม จะเข้าใจความสำคัญของการพบปะพูดคุยกับคนที่โดดเดี่ยว คนป่วย หรือคนที่ท้อแท้—ไม่เพียงเป็นงานมอบหมายเท่านั้นแต่เพราะความรักอย่างแท้จริงด้วยที่ท่านมีต่อพระบิดาบนสวรรค์และลูกๆ ของพระองค์ด้วย

ท่านที่เรียนมัธยมปลายและกำลังเตรียมเป็นผู้สอนศาสนา ข้าพเจ้าขอให้ท่านมีส่วนร่วมและเรียนเซมินารีให้จบ คนหนุ่มสาวควรลงทะเบียนเรียนสถาบันศาสนา3 ถ้าท่านเรียนในสถานศึกษาของศาสนจักร จงเรียนวิชาศาสนาอย่างสม่ำเสมอในแต่ละเทอม ในช่วงเวลาสำคัญนี้ของการเตรียมเป็นผู้สอนศาสนาหรือการแต่งงานนิรันดร์และชีวิตผู้ใหญ่ ท่านต้องหาทางเรียนรู้และเติบโต รับการดลใจและการนำทางผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างต่อเนื่อง การศึกษาพระกิตติคุณอย่างละเอียดร่วมกับการสวดอ้อนวอนผ่านเซมินารี สถาบัน หรือชั้นเรียนศาสนาจะช่วยท่านในเป้าหมายนั้นได้

ไม่ว่าท่านจะเรียนในสถานศึกษาของศาสนจักรหรือไม่ หรือเรียนวิทยาลัยหรือไม่ก็ตาม อย่าคิดว่าท่านยุ่งเกินกว่าจะศึกษาพระกิตติคุณ เซมินารี สถาบัน หรือชั้นเรียนศาสนาจะสร้างสมดุลให้ชีวิตท่านและเพิ่มเติมการศึกษาทางโลกของท่านโดยเปิดอีกโอกาสหนึ่งให้ท่านได้ใช้เวลาศึกษาพระคัมภีร์และคำสอนของศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก มีหลักสูตรใหม่ที่เด่นๆ สี่หลักสูตรซึ่งข้าพเจ้าขอกระตุ้นหนุ่มสาวทุกคนให้พิจารณาและเข้าเรียน4

อย่าลืมว่าชั้นเรียนและกิจกรรมที่สถาบันหรือผ่านวอร์ดหรือสเตคหนุ่มสาวโสดจะเป็นที่ซึ่งท่านได้อยู่กับเยาวชนชายหญิงคนอื่นๆ หนุนใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กันขณะเรียนรู้และเติบโตทางวิญญาณและพบปะสังสรรค์กัน พี่น้องทั้งหลาย ถ้าท่านจะวางโทรศัพท์มือถือและมองไปรอบๆ สักนิด ท่านอาจจะพบคู่ในอนาคตของท่านที่ชั้นเรียนสถาบัน

สิ่งนี้นำข้าพเจ้าให้แนะนำอีกเรื่องที่ท่านรู้ว่าข้าพเจ้าจะพูด นั่นคือ คนหนุ่มสาวต้องออกเดทและแต่งงาน โปรดอย่าประวิงเวลา! ข้าพเจ้ารู้ว่าบางท่านกลัวการสร้างครอบครัว แต่ถ้าท่านแต่งงานกับคนที่เหมาะสมในเวลาเหมาะสมและในสถานที่หมาะสม ท่านไม่ต้องกลัว จริงๆ แล้ว ปัญหามากมายที่ท่านพบเจอจะหลีกเลี่ยงได้ถ้าท่าน “ทุ่มเท” ในการออกเดทอย่างเหมาะสม การคบหา และการแต่งงาน อย่าส่งข้อความถึงเธอ! ใช้เสียงของท่านแนะนำตัวกับธิดาที่ชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าผู้อยู่รอบตัวท่าน การได้ยินเสียงมนุษย์จริงๆ จะทำให้เธอตกใจ—บางทีจนอาจตอบตกลง

พี่น้องชายทั้งหลาย ข้าพเจ้าเป็นพยานต่อท่านว่าพระเจ้าพระเยซูคริสต์ทรงสามารถช่วยเราแก้ไขสิ่งที่ต้องแก้ไขในชีวิตเราผ่านการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระองค์

ค่ำคืนนี้ ขณะที่เราเตรียมฉลองวันอาทิตย์อีสเตอร์พรุ่งนี้ โปรดหยุดพร้อมข้าพเจ้าสักครู่เพื่อระลึกถึงของประทานแห่งการชดใช้ของพระคริสต์ จำไว้ว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดของเราพระเยซูคริสต์ทรงรู้จักท่านดีที่สุดและทรงรักท่านมากที่สุด

โดยผ่านการชดใช้ พระผู้ไถ่ทรงรับเอาความทุกข์ ความเจ็บปวด และบาปของเราไว้กับพระองค์ พระผู้ช่วยให้รอดของโลกเสด็จมาเพื่อเข้าใจเราแต่ละคนโดยทรงประสบความหวังที่สูญสลาย การท้าทาย และเรื่องเศร้าสลดของเราผ่านการทนทุกข์ในเกทเสมนีและบนกางเขน5 พระองค์สิ้นพระชนม์อันเป็นการแสดงความรักครั้งสุดท้ายต่อเราและทรงถูกฝังไว้ในอุโมงค์ใหม่ในคืนที่กำหนดไว้นั้น

ตอนเช้าวันอาทิตย์ พระเยซูทรงฟื้นจากความตาย—ทรงสัญญาชีวิตใหม่กับเราแต่ละคน ต่อจากนั้นพระเจ้าผู้คืนพระชนม์ทรงมอบหมายให้เหล่าสาวกสอนทุกคนให้มีศรัทธาในพระคริสต์ กลับใจจากบาป รับบัพติศมา รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ และอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ พี่น้องทั้งหลาย เรารู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระบุตรที่รักของพระองค์ทรงปรากฏต่อศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและฟื้นฟูความสมบูรณ์ของพระกิตติคุณอันเป็นนิจของพระเยซูคริสต์ผ่านท่าน

จงเข้มแข็งพี่น้องทั้งหลาย รักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าพระเยซูคริสต์ทรงสัญญาว่าสิ่งสารพัดที่เราปรารถนาจะทำในความชอบธรรมจะเป็นของเรา ผู้นำศาสนจักรเชื่อใจท่าน เราต้องการให้คนหนุ่มสาวทุกคนเตรียมแต่งงาน รับใช้ และเป็นผู้นำในวันข้างหน้า ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนด้วยความถ่อมสำหรับสิ่งนี้ในพระนามของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ เอเมน