ภาค ๖๓
การเปิดเผยที่ประทานผ่านโจเซฟ สมิธ ศาสดาพยากรณ์, ที่เคิร์ทแลนด์, รัฐโอไฮโอ, ปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๘๓๑ (History of the Church, 1:206–211). ท่านศาสดาพยากรณ์, ซิดนีย์ ริกดัน, และออลิเวอร์ คาวเดอรี มาถึงเคิร์ทแลนด์วันที่ ๒๗ สิงหาคม จากการเยือนมิสซูรี. คำปรารภสำหรับบันทึกของท่านเกี่ยวกับการเปิดเผยนี้, ท่านศาสดาพยากรณ์เขียนไว้ว่า, “ในสมัยเริ่มแรกของศาสนจักร, มีความร้อนใจมากที่จะได้รับพระคำของพระเจ้าในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรอดของเราทั้งหลายไม่ว่าในด้านใดก็ตาม; และในเมื่อแผ่นดินแห่งไซอันขณะนี้เป็นเป้าหมายทางโลกอันสำคัญที่สุดซึ่งกำลังเป็นที่สนใจ, ข้าพเจ้าจึงทูลถามพระเจ้าขอพระดำรัสอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรวบรวมวิสุทธิชน, และการซื้อที่ดิน, และเรื่องอื่น ๆ” (History of the Church, 1:207).
๑–๖, วันแห่งพระพิโรธจะเกิดขึ้นกับคนชั่วร้าย; ๗–๑๒, เครื่องหมายมาโดยศรัทธา; ๑๓–๑๙, ผู้ล่วงประเวณีในใจจะปฏิเสธความเชื่อและถูกโยนไปในทะเลเพลิง; ๒๐, คนซื่อสัตย์จะได้รับมรดกบนแผ่นดินโลกที่เปลี่ยนสภาพไป; ๒๑, เรื่องราวทั้งหมดของเหตุการณ์บนภูเขาแห่งการเปลี่ยนสภาพยังไม่มีการเปิดเผย; ๒๒–๒๓, คนที่เชื่อฟังได้รับความลี้ลับแห่งอาณาจักร; ๒๔–๓๑, มรดกทั้งหลายในไซอันต้องซื้อมา; ๓๒–๓๕, พระเจ้าทรงประกาศิตสงคราม, และคนชั่วร้ายสังหารคนชั่วร้าย; ๓๖–๔๘, วิสุทธิชนต้องไปรวมกันที่ไซอันและต้องมอบเงินตราเพื่อเสริมสร้างสถานที่แห่งนั้น; ๔๙–๕๔, พระเจ้าทรงยืนยันพรแก่คนซื่อสัตย์ ณ การเสด็จมาครั้งที่สอง, ในการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์, และในระหว่างมิลเลเนียม; ๕๕–๕๘, นี่คือวันแห่งการเตือน; ๕๙–๖๖, คนเหล่านั้นที่ใช้พระนามของพระเจ้าโดยไม่มีสิทธิอำนาจออกพระนามของพระองค์อย่างไม่สมควร.
๑ จงสดับฟัง, โอ้เจ้าผู้คน, และเปิดใจของเจ้าและเงี่ยหูฟังจากแดนไกลโพ้น; และจงฟัง, เจ้าที่เรียกตนเองว่าผู้คนของพระเจ้า, และฟังพระคำของพระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์เกี่ยวกับเจ้า.
๒ แท้จริงแล้ว, ตามจริงแล้ว, เรากล่าว, จงฟังพระคำของพระองค์ซึ่งความกริ้วของพระองค์ดาลเดือดกับคนชั่วร้ายและคนกบฏ;
๓ ผู้ต้องประสงค์จะทรงเอาไปแม้คนเหล่านั้นที่พระองค์ทรงประสงค์เอาไป, และทรงปกปักรักษาให้มีชีวิตคนเหล่านั้นที่พระองค์ทรงประสงค์ปกปักรักษา;
๔ ผู้เสริมสร้างตามพระประสงค์และความพอพระทัยของพระองค์เอง; และทรงทำลายเมื่อพระองค์พอพระทัย, และทรงสามารถโยนจิตวิญญาณลงนรกได้.
๕ ดูเถิด, เรา, พระเจ้า, เอ่ยเสียงของเรา, และพึงได้รับการเชื่อฟัง.
๖ ดังนั้น, ตามจริงแล้วเรากล่าว, ให้คนชั่วร้ายจงระวังตัว, และให้คนกบฏเกรงกลัวและตัวสั่น; และให้คนที่ไม่เชื่อเม้มริมฝีปากของพวกเขาไว้, เพราะวันแห่งพระพิโรธจะเกิดขึ้นกับพวกเขาดังลมหมุน, และเนื้อหนังทั้งปวงจะรู้ว่าเราคือพระผู้เป็นเจ้า.
๗ และคนที่แสวงหาเครื่องหมายจะเห็นเครื่องหมาย, แต่มิใช่ส่งผลสู่ความรอด.
๘ ตามจริงแล้ว, เรากล่าวแก่เจ้า, มีคนเหล่านั้นในบรรดาพวกเจ้าที่แสวงหาเครื่องหมาย, และมีคนเช่นนั้นแม้จากกาลเริ่มต้น;
๙ แต่, ดูเถิด, ศรัทธามิได้มาโดยเครื่องหมาย, แต่เครื่องหมายติดตามคนเหล่านั้นที่เชื่อ.
๑๐ แท้จริงแล้ว, เครื่องหมายมาโดยศรัทธา, มิใช่โดยความประสงค์ของมนุษย์, หรือมิใช่ดังที่พวกเขาพอใจ, แต่โดยพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า.
๑๑ แท้จริงแล้ว, เครื่องหมายมาโดยศรัทธา, อันนำไปสู่งานยิ่งใหญ่, เพราะปราศจากศรัทธาก็ไม่มีมนุษย์คนใดเป็นที่พอพระทัยพระผู้เป็นเจ้า; และกับผู้ที่พระผู้เป็นเจ้ากริ้วพระองค์ย่อมไม่พอพระทัยเท่าใดนัก; ดังนั้น, พระองค์จึงไม่ทรงแสดงเครื่องหมายแก่คนเช่นนั้น, เว้นแต่ในพระพิโรธอันนำไปสู่การกล่าวโทษของพวกเขา.
๑๒ ดังนั้น, เรา, พระเจ้า, ไม่พอใจคนเหล่านั้นในบรรดาพวกเจ้าที่แสวงหาเครื่องหมายและการอันน่าพิศวงเพื่อให้ได้ศรัทธา, และมิใช่เพื่อความดีของมนุษย์อันนำไปสู่รัศมีภาพของเรา.
๑๓ กระนั้นก็ตาม, เราให้บัญญัติ, และหลายคนหันหลังให้บัญญัติของเราและไม่รักษามัน.
๑๔ ในบรรดาพวกเจ้ามีชายและหญิงที่ประพฤติล่วงประเวณี; บางคนที่หันหลังให้เจ้า, และคนอื่น ๆ คงอยู่กับเจ้าซึ่งต่อไปในภายหน้าจะถูกเปิดเผย.
๑๕ ให้คนเช่นนั้นระวังและกลับใจโดยเร็ว, เกลือกการพิพากษาจะมาถึงพวกเขาดังกับดัก, และความโง่เขลาของพวกเขาจะแสดงให้ประจักษ์, และงานของพวกเขาจะติดตามพวกเขาไปในสายตาของผู้คน.
๑๖ และตามจริงแล้ว เรากล่าวแก่เจ้า, ดังที่เรากล่าวมาก่อน, คนที่มองดูหญิงด้วยตัณหาราคะในนาง, หรือหากคนหนึ่งคนใดจะประพฤติล่วงประเวณีในใจพวกเขา, พวกเขาจะไม่มีพระวิญญาณ, แต่จะปฎิเสธความเชื่อและจะกลัว.
๑๗ ดังนั้น, เรา, พระเจ้า, กล่าวไว้ว่าคนที่กลัว, และคนที่ไม่เชื่อ, และคนกล่าวเท็จทุกคน, และผู้ใดก็ตามที่รักการกล่าวเท็จและกล่าวคำเท็จ, และผู้ผิดประเวณี, และนักวิทยาคม, จะมีส่วนของพวกเขาในทะเลนั้นซึ่งลุกไหม้ด้วยเพลิงและกำมะถัน, ซึ่งเป็นความตายครั้งที่สอง.
๑๘ ตามจริงแล้ว เรากล่าว, ว่าเขาเหล่านั้นจะไม่มีส่วนในการฟื้นคืนชีวิตครั้งแรก.
๑๙ และบัดนี้ ดูเถิด, เรา, พระเจ้า, กล่าวแก่เจ้าว่าเจ้ามิได้พ้นผิด, เพราะสิ่งเหล่านี้อยู่ในบรรดาพวกเจ้า.
๒๐ กระนั้นก็ตาม, คนที่อดทนด้วยศรัทธาและทำตามความประสงค์ของเรา, คนคนนั้นจะชนะ, และจะได้รับมรดกบนแผ่นดินโลกเมื่อวันแห่งการเปลี่ยนสภาพจะมาถึง;
๒๑ เมื่อแผ่นดินโลกจะถูกเปลี่ยนสภาพ, แม้ตามแบบซึ่งแสดงแก่อัครสาวกของเราบนภูเขา; ซึ่งความบริบูรณ์ของเรื่องนั้นเจ้ายังมิได้รับ.
๒๒ และบัดนี้, ตามจริงแล้ว เรากล่าวแก่เจ้า, ว่าดังที่เรากล่าวไว้ว่าเราจะทำให้ความประสงค์ของเราเป็นที่รู้แก่เจ้า, ดูเถิด เราจะทำให้มันเป็นที่รู้แก่เจ้า, มิใช่โดยรูปแบบของบัญญัติ, เพราะมีหลายคนที่มิได้ยึดถือที่จะรักษาบัญญัติของเรา.
๒๓ ทว่าคนที่รักษาบัญญัติของเรา เราจะให้ความลี้ลับแห่งอาณาจักรของเรา, และสิ่งนั้นนั้นจะเป็นบ่อน้ำธำรงชีวิตอยู่ในเขา, พุ่งขึ้นไปสู่ชีวิตอันเป็นนิจ.
๒๔ และบัดนี้, ดูเถิด, นี่คือพระประสงค์ของพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าเกี่ยวกับวิสุทธิชนของพระองค์, ว่าพวกเขาควรไปร่วมชุมนุมกันที่แผ่นดินแห่งไซอัน, มิใช่ในความเร่งรีบ, เกลือกจะมีความสับสนอลหม่าน, ซึ่งก่อให้เกิดโรคระบาด.
๒๕ ดูเถิด, แผ่นดินแห่งไซอัน—เรา, พระเจ้า, ถือไว้ในมือเราเอง;
๒๖ กระนั้นก็ตาม, เรา, พระเจ้า, ให้แก่ซีซาร์สิ่งซึ่งเป็นของซีซาร์.
๒๗ ดังนั้น, เราพระเจ้าประสงค์ให้เจ้าซื้อที่ดินนั้น, เพื่อเจ้าจะมีข้อได้เปรียบโลก, เพื่อเจ้าจะมีสิทธิในโลก, เพื่อพวกเขาจะไม่ถูกยั่วยุให้เกิดโทสะ.
๒๘ เพราะซาตานใส่มันไว้ในใจพวกเขาให้โกรธเจ้า, และให้เกิดการหลั่งเลือด.
๒๙ ดังนั้น, แผ่นดินแห่งไซอันจะไม่ได้มาเว้นแต่โดยการซื้อหรือโดยเลือด, มิฉะนั้นก็ไม่มีมรดกเลยสำหรับเจ้า.
๓๐ และหากโดยการซื้อ, ดูเถิด เจ้าได้รับพร;
๓๑ และหากโดยเลือด, ในเมื่อเจ้าถูกห้ามก่อการหลั่งเลือด, ดูสิ, ศัตรูเจ้าจะโจมตีเจ้า, และเจ้าจะถูกโบยตีจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง, และจากธรรมศาลาหนึ่งไปยังอีกธรรมศาลาหนึ่ง, และน้อยคนนักจะยังคงอยู่เพื่อรับมรดก.
๓๒ เรา, พระเจ้า, โกรธคนชั่วร้าย; เรากำลังรั้งพระวิญญาณของเราไว้จากผู้อยู่อาศัยของแผ่นดินโลก.
๓๓ เราให้คำมั่นในโทสะของเรา, และประกาศิตสงครามบนพื้นพิภพ, และคนชั่วร้ายจะสังหารคนชั่วร้าย, และความกลัวจะเกิดแก่มนุษย์ทุกคน;
๓๔ และวิสุทธิชนจะหนีพ้นอย่างหวุดหวิดเช่นกัน; กระนั้นก็ตาม, เรา, พระเจ้า, ยังอยู่กับพวกเขา, และจะลงมาในสวรรค์จากที่ประทับของพระบิดาแห่งเราและเผาผลาญคนชั่วร้ายด้วยไฟที่ไม่รู้ดับ.
๓๕ และดูเถิด, ยังไม่เกิดสิ่งนี้, แต่อีกไม่นาน.
๓๖ ดังนั้น, โดยเห็นว่าเรา, พระเจ้า, ประกาศิตสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้บนพื้นพิภพ, เราประสงค์ให้วิสุทธิชนของเราชุมนุมกันบนแผ่นดินแห่งไซอัน;
๓๗ และให้มนุษย์ทุกคนรับความชอบธรรมไว้ในมือเขาและความซื่อสัตย์ไว้บนเอวเขา, และเปล่งเสียงเตือนผู้อยู่อาศัยของแผ่นดินโลก; และประกาศทั้งโดยคำและโดยการหนีว่าความหายนะจะมาถึงคนชั่วร้าย.
๓๘ ดังนั้น, ให้สานุศิษย์ของเราในเคิร์ทแลนด์จัดการธุระฝ่ายโลกของพวกเขา, ผู้ที่พำนักอยู่ในบ้านไร่แห่งนี้.
๓๙ ให้ผู้รับใช้ของเรา ไททัส บิลลิงก์ส, ผู้ดูแลที่นั่น, จัดการกับที่ดิน, เพื่อเขาจะพร้อมในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงเพื่อออกเดินทางขึ้นไปแผ่นดินแห่งไซอัน, กับคนเหล่านั้นที่พำนักในผืนแผ่นดินนั้น, เว้นแต่คนเหล่านั้นที่เราจะแยกไว้สำหรับตัวเรา, ที่ไม่ต้องไปจนกว่าเราจะบัญชาพวกเขา.
๔๐ และให้ส่งเงินตราทั้งหมดซึ่งเจียดให้ได้, มันไม่สำคัญสำหรับเราว่าจะน้อยหรือมาก, ขึ้นไปยังแผ่นดินแห่งไซอัน, ไปให้คนเหล่านั้นที่เรากำหนดไว้ให้รับ.
๔๑ ดูเถิด, เรา, พระเจ้า, จะให้แก่ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ สมิธ, จูเนียร์, พลังซึ่งโดยพระวิญญาณเขาจะสามารถเล็งเห็นคนเหล่านั้นที่จะขึ้นไปยังแผ่นดินแห่งไซอัน, และคนเหล่านั้นของสานุศิษย์ของเราที่จะยังอยู่ที่นั่น.
๔๒ ให้ผู้รับใช้ของเรา นูเวล เค. วิทนีย์ เก็บร้านของเขาไว้, หรืออีกนัยหนึ่ง, ร้านนั้น, แม้เพียงชั่วระยะเวลาไม่นาน.
๔๓ กระนั้นก็ตาม, ให้เขาแบ่งเงินตราทั้งหมดที่เขาสามารถแบ่งให้ได้, เพื่อส่งขึ้นไปยังแผ่นดินแห่งไซอัน.
๔๔ ดูเถิด, สิ่งเหล่านี้อยู่ในมือเขาเอง, ให้เขาทำด้วยปัญญา.
๔๕ ตามจริงแล้วเรากล่าว, ให้เขาได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนสานุศิษย์ที่จะยังอยู่ที่นั่น, และให้เขาได้รับแต่งตั้งสู่อำนาจนี้;
๔๖ และบัดนี้จงไปเยี่ยมหน่วยต่าง ๆ ของศาสนจักรโดยเร็ว, อรรถาธิบายเรื่องเหล่านี้แก่พวกเขา, พร้อมกับผู้รับใช้ของเรา ออลิเวอร์ คาวเดอรี. ดูเถิด, นี่คือความประสงค์ของเรา, การได้เงินตราแม้ดังที่เราแนะนำ.
๔๗ คนที่ซื่อสัตย์และอดทนจะชนะโลก.
๔๘ คนที่ส่งทรัพย์สมบัติขึ้นไปยังแผ่นดินแห่งไซอันจะได้รับมรดกในโลกนี้, และงานของเขาจะติดตามเขา, และรางวัลในโลกที่จะมาถึงด้วย.
๔๙ แท้จริงแล้ว, และคนตายที่ตายในพระเจ้าย่อมเป็นสุข, นับแต่นี้ไป, เมื่อพระเจ้าจะเสด็จมา, และสิ่งที่ล้วนเก่าแก่จะสูญสิ้นไป, และสิ่งทั้งปวงกลับกลายเป็นสิ่งใหม่, พวกเขาจะลุกขึ้นจากบรรดาคนตายและจะไม่ตายหลังจากนั้น, และจะได้รับมรดกต่อพระพักตร์พระเจ้า, ในนครศักดิ์สิทธิ์.
๕๐ และคนที่มีชีวิตเมื่อพระเจ้าจะเสด็จมา, และรักษาศรัทธาไว้, เขาย่อมเป็นสุข; กระนั้นก็ตาม, กำหนดไว้ให้เขาตายในอายุมนุษย์.
๕๑ ดังนั้น, เด็กจะเติบใหญ่จนกว่าพวกเขาจะสูงวัย; คนสูงวัยจะตาย; แต่พวกเขาจะไม่หลับอยู่ในภัสมธุลี, แต่พระเจ้าจะทรงเปลี่ยนพวกเขาในพริบตา.
๕๒ ดังนั้น, เพราะเหตุนี้อัครสาวกจึงสั่งสอนการฟื้นคืนชีวิตของคนตายแก่โลก.
๕๓ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เจ้าต้องมองหา; และ, โดยพูดตามวิธีของพระเจ้า, บัดนี้มันอยู่แค่เอื้อม, และในเวลาที่จะมาถึง, แม้ในวันแห่งการเสด็จมาของบุตรแห่งพระมหาบุรุษ.
๕๔ และจนถึงโมงนั้นจะมีหญิงพรหมจารีโง่ในบรรดาผู้มีปัญญา; และในโมงนั้นเกิดการแยกโดยสิ้นเชิงระหว่างคนชอบธรรมกับคนชั่วร้าย; และในวันนั้นเราจะส่งเหล่าเทพของเรามาถอนคนชั่วร้ายออกและโยนพวกเขาเข้าไปในไฟที่ไม่รู้ดับ.
๕๕ และบัดนี้ ดูเถิด, ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, เรา, พระเจ้า, ไม่พอใจผู้รับใช้ของเรา ซิดนีย์ ริกดัน; เขายกตนในใจตน, และหารับคำแนะนำไม่, แต่ทำให้พระวิญญาณเศร้าโศก;
๕๖ ดังนั้น งานเขียนของเขาไม่เป็นที่ยอมรับต่อพระเจ้า, และเขาพึงทำอีกชิ้นหนึ่ง; และหากพระเจ้าหารับมันไม่, ดูเถิด เขาไม่ดำรงอยู่ต่อไปในตำแหน่งซึ่งเรากำหนดเขาไว้.
๕๗ และอนึ่ง, ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, คนเหล่านั้นซึ่งปรารถนาในใจพวกเขา, ในความอ่อนโยน, ที่จะเตือนคนบาปให้มาสู่การกลับใจ, ให้พวกเขาได้รับแต่งตั้งสู่อำนาจนี้.
๕๘ เพราะนี่คือวันแห่งการเตือน, และมิใช่วันแห่งถ้อยคำมากมาย. เพราะเรา, พระเจ้า, จะไม่ถูกล้อเลียนในวันเวลาสุดท้าย.
๕๙ ดูเถิด, เรามาจากเบื้องบน, และอำนาจของเราอยู่เบื้องล่าง. เราอยู่เหนือทุกสิ่ง, และในทุกสิ่ง, และทั่วทุกสิ่ง, และค้นหาสิ่งทั้งปวง, และวันนั้นมาถึงเมื่อสิ่งทั้งปวงจะขึ้นอยู่กับเรา.
๖๐ ดูเถิด, เราคืออัลฟาและโอเมกา, แม้พระเยซูคริสต์.
๖๑ ดังนั้น, ให้มนุษย์ทั้งปวงระวังว่าพวกเขาจะรับนามของเราในริมฝีปากพวกเขาอย่างไร—
๖๒ เพราะดูเถิด, ตามจริงแล้ว เรากล่าว, ว่ามีหลายคนที่อยู่ภายใต้การกล่าวโทษนี้, ที่ใช้พระนามของพระเจ้า, และใช้อย่างไม่สมควร, โดยไม่มีสิทธิอำนาจ.
๖๓ ดังนั้น, ให้ศาสนจักรกลับใจจากบาปของพวกเขา, และเรา, พระเจ้า, จะเป็นเจ้าของพวกเขา; มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกตัดขาด.
๖๔ จำไว้ว่าสิ่งซึ่งมาจากเบื้องบนย่อมศักดิ์สิทธิ์, และต้องพูดถึงด้วยความระมัดระวัง, และโดยการบีบคั้นของพระวิญญาณ; และในนี้ไม่มีการกล่าวโทษ, และเจ้าได้รับพระวิญญาณโดยผ่านการสวดอ้อนวอน; ดังนั้น, ปราศจากสิ่งนี้การกล่าวโทษยังคงอยู่.
๖๕ ให้ผู้รับใช้ของเรา, โจเซฟ สมิธ, จูเนียร์, และซิดนีย์ ริกดัน, หาบ้านให้ตนเอง, ดังที่พระวิญญาณสอนพวกเขาโดยผ่านการสวดอ้อนวอน.
๖๖ สิ่งเหล่านี้ยังคงต้องเอาชนะโดยผ่านความอดทน, เพื่อคนเช่นนั้นจะได้รับน้ำหนักแห่งรัศมีภาพอันเป็นนิรันดร์และมากยิ่งขึ้น, มิฉะนั้น, ก็การกล่าวโทษที่หนักกว่าเดิม. เอเมน.