ภาค ๑๓๒
การเปิดเผยที่ประทานผ่านโจเซฟ สมิธ ศาสดาพยากรณ์, ที่นอวู, รัฐอิลลินอยส์ ซึ่งบันทึกไว้เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ค.ศ. ๑๘๔๓, เกี่ยวกับพันธสัญญาใหม่และเป็นนิจ, รวมทั้งนิรันดรของพันธสัญญาการแต่งงาน, และการมีภรรยาหลายคนด้วย (History of the Church, 5:501–507). แม้ว่าการเปิดเผยนี้บันทึกไว้ในปี ๑๘๔๓, แต่ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ว่าท่านศาสดาพยากรณ์ทราบถึงหลักคำสอนและหลักธรรมที่อยู่ในการเปิดเผยนี้มาตั้งแต่ปี ๑๘๓๑.
๑–๖, ความสูงส่งได้มาโดยผ่านพันธสัญญาใหม่และเป็นนิจ; ๗–๑๔, พระองค์ทรงอธิบายถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขของพันธสัญญานั้น; ๑๕–๒๐, การแต่งงานซีเลสเชียลและความต่อเนื่องของหน่วยครอบครัวทำให้มนุษย์สามารถเป็นผู้เป็นเจ้าได้; ๒๑–๒๕, วิถีทางคับแคบและแคบนำไปสู่ชีวิตทั้งหลายอันเป็นนิรันดร์; ๒๖–๒๗, พระองค์ประทานกฎไว้เกี่ยวกับการลบหลู่พระวิญญาณบริสุทธิ์; ๒๘–๓๙, คำสัญญาต่าง ๆ ถึงการเพิ่มพูนนิรันดร์และความสูงส่งทำไว้กับบรรดาศาสดาพยากรณ์และวิสุทธิชนในทุกยุคสมัย; ๔๐–๔๗, พระองค์ประทานอำนาจแก่โจเซฟ สมิธ ในการผูกและผนึกไว้บนแผ่นดินโลกและในสวรรค์; ๔๘–๕๐, พระเจ้าทรงผนึกความสูงส่งของท่านบนท่าน; ๕๑–๕๗, เอ็มมา สมิธ ได้รับคำแนะนำให้ซื่อสัตย์และแน่วแน่; ๕๘–๖๖, อธิบายถึงกฎที่ควบคุมเรื่องการมีภรรยาหลายคน.
๑ ตามจริงแล้ว, พระเจ้าตรัสดังนี้กับเจ้า ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ, ว่าตราบเท่าที่เจ้าขอจากมือเราเพื่อรู้และเข้าใจว่าเรา, พระเจ้า, รับรองผู้รับใช้ของเรา อับราฮัม, อิสอัค, และยาโคบอย่างไร, และโมเสส, ดาวิดและซาโลมอนด้วย, ผู้รับใช้ของเรา, เกี่ยวกับหลักธรรมและหลักคำสอนเรื่องการที่พวกเขามีภรรยาและอนุภรรยาหลายคน—
๒ ดูเถิด, และดูสิ, เราคือพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า, และจะตอบเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้.
๓ ฉะนั้น, เตรียมใจของเจ้าที่จะรับและเชื่อฟังคำแนะนำซึ่งเรากำลังจะให้แก่เจ้า; เพราะคนทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้นที่มีกฎนี้เปิดเผยแก่พวกเขาจะต้องเชื่อฟังกฎนั้นนั้น.
๔ เพราะดูเถิด, เราเปิดเผยพันธสัญญาใหม่และเป็นนิจแก่เจ้า; และหากเจ้าหาปฏิบัติตามพันธสัญญานั้นไม่, เมื่อเป็นดังนี้เจ้าก็จะอัปมงคล; เพราะไม่มีใครจะปฏิเสธพันธสัญญานี้และได้รับอนุญาตให้เข้ามาในรัศมีภาพของเราได้.
๕ เพราะคนทั้งปวงที่ปรารถนารับพรจากมือเราจะปฏิบัติตามกฎซึ่งกำหนดไว้สำหรับพรนั้น, และเงื่อนไขในนั้น, ดังที่วางไว้นับแต่ก่อนการวางรากฐานของโลก.
๖ และดังที่เกี่ยวกับพันธสัญญาใหม่และเป็นนิจนั้น, สิ่งนี้สถาปนาไว้เพื่อความสมบูรณ์แห่งรัศมีภาพของเรา; และคนที่ได้รับความสมบูรณ์ของรัศมีภาพนั้นต้องปฏิบัติตามและจะปฏิบัติตามกฎ, มิฉะนั้นเขาจะอัปมงคล, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าตรัส.
๗ และตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, ว่าเงื่อนไขของกฎนี้คือสิ่งเหล่านี้ : พันธสัญญา, สัญญา, พันธะ, ข้อผูกพัน, คำมั่น, คำปฏิญาณ, การปฏิบัติ, ความเกี่ยวดอง, สัมพันธภาพ, หรือความคาดหวังทั้งปวง, ที่มิได้ทำและเข้าสู่และผนึกโดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา, โดยผู้ที่รับการเจิม, ทั้งเพื่อกาลเวลาและเพื่อชั่วนิรันดรด้วยเช่นกัน, และที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดด้วย, โดยการเปิดเผยและบัญญัติ โดยผ่านสื่อกลางอันได้แก่ผู้รับการเจิมของเรา, ผู้ที่เรากำหนดไว้บนแผ่นดินโลกให้ถืออำนาจนี้ (และเรากำหนดไว้กับผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ ให้ถืออำนาจนี้ในวันเวลาสุดท้าย, และไม่มีใครเลยเว้นแต่คนเดียวเท่านั้นบนแผ่นดินโลกในเวลาใดเวลาหนึ่งที่ได้รับการประสาทอำนาจนี้และกุญแจทั้งหลายของฐานะปุโรหิตนี้), ย่อมไม่เกิดผล, ประสิทธิผล, หรือผลบังคับในและหลังการฟื้นคืนชีวิตจากบรรดาคนตาย; เพราะสัญญาทั้งปวงที่มิได้ทำไว้เพื่อเจตจำนงนี้สิ้นสุดเมื่อมนุษย์ตาย.
๘ ดูเถิด, บ้านของเราเป็นบ้านแห่งระเบียบ, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าตรัส, และมิใช่บ้านแห่งความสับสน.
๙ เราจะยอมรับจากเครื่องถวายบูชา, ที่มิได้ถวายในนามของเราหรือ, พระเจ้าตรัส ?
๑๐ หรือจะรับจากมือเจ้าสิ่งซึ่งเรามิได้กำหนดหรือ ?
๑๑ และเราจะกำหนดแก่เจ้าหรือ, พระเจ้าตรัส, เว้นแต่จะเป็นโดยกฎ, แม้ดังที่เราและพระบิดาของเรา แต่งตั้งไว้กับเจ้า, ก่อนมีโลกขึ้นมา ?
๑๒ เราคือพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า; และเราให้บัญญัตินี้แก่เจ้า—ว่าไม่มีมนุษย์คนใดจะมาเฝ้าพระบิดานอกจากโดยเราหรือโดยคำของเรา, ซึ่งเป็นกฎของเรา, พระเจ้าตรัส.
๑๓ และทุกสิ่งที่อยู่ในโลก, ไม่ว่าแต่งตั้งจากมนุษย์, โดยบัลลังก์, หรือมณฑล, หรืออำนาจ, หรือสิ่งซึ่งมีนามเป็นที่รู้จัก, ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม, ซึ่งมิใช่โดยเราหรือโดยคำของเรา, พระเจ้าตรัส, จะถูกโค่นลง, และจะไม่หลงเหลืออยู่หลังจากมนุษย์ตาย, ไม่ทั้งในหรือหลังการฟื้นคืนชีวิต, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าตรัส.
๑๔ เพราะสิ่งใดก็ตามที่ยังอยู่เป็นเช่นนั้นโดยเรา; และสิ่งใดก็ตามที่ไม่เป็นเช่นนั้นโดยเราจะถูกทำให้สั่นสะเทือนและถูกทำลาย.
๑๕ ฉะนั้น, หากชายแต่งภรรยาให้ตนในโลก, และเขาหาได้แต่งกับนางโดยเราหรือโดยคำของเราไม่, และเขาทำพันธสัญญากับนางตราบเท่าที่เขาอยู่ในโลกและนางกับเขา, พันธสัญญาและการแต่งงานของคนทั้งสองไม่มีผลบังคับเมื่อพวกเขาตาย, และเมื่อพวกเขาไปจากโลก; ฉะนั้น, คนทั้งสองจึงไม่มีกฎใดผูกไว้เมื่อพวกเขาไปจากโลก.
๑๖ ฉะนั้น, เมื่อพวกเขาไปจากโลกพวกเขาจึงไม่แต่งงานทั้งไม่มีใครยกให้แต่งงาน; แต่ทรงกำหนดไว้เป็นเทพในสวรรค์, ซึ่งเทพนั้นเป็นผู้รับใช้ที่ปฏิบัติ, เพื่อปฏิบัติให้คนเหล่านั้นที่คู่ควรกับน้ำหนักอันเป็นนิรันดร์แห่งรัศมีภาพ, และเกินกว่า, และมากยิ่ง.
๑๗ เพราะเทพเหล่านี้มิได้ปฏิบัติตามกฎของเรา; ฉะนั้น, พวกเขาจะขยายไม่ได้, แต่คงอยู่แยกกันและอยู่ตามลำพัง, โดยปราศจากความสูงส่ง, ในสภาพที่รอดแล้วของพวกเขา, จนถึงชั่วนิรันดร; และนับแต่นั้นไปไม่เป็นผู้เป็นเจ้า, แต่เป็นเทพของพระผู้เป็นเจ้าตลอดกาลและตลอดไป.
๑๘ และอนึ่ง, ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, หากชายแต่งกับภรรยา, และทำพันธสัญญากับนางเพื่อกาลเวลาและเพื่อชั่วนิรันดร, หากพันธสัญญานั้นมิได้เป็นโดยเราหรือโดยคำของเรา, ซึ่งเป็นกฎของเรา, และมิได้ผนึกไว้โดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา, โดยผ่านเขาผู้ที่เราเจิมและกำหนดไว้สู่อำนาจนี้, เมื่อเป็นดังนี้ พันธสัญญานั้นจะไม่มีผลบังคับทั้งไม่มีผลเมื่อพวกเขาไปจากโลก, เพราะพวกเขามิได้มารวมกันโดยเรา, พระเจ้าตรัส, ทั้งไม่โดยคำของเรา; เมื่อพวกเขาไปจากโลกก็จะรับพันธสัญญาที่นั่นไม่ได้, เพราะบรรดาเทพและผู้เป็นเจ้าถูกกำหนดไว้ที่นั่น, ผู้ที่พวกเขาจะผ่านไม่ได้; ฉะนั้น, พวกเขาจะสืบทอดรัศมีภาพของเราไม่ได้; เพราะบ้านของเราเป็นบ้านแห่งระเบียบ, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าตรัส.
๑๙ และอนึ่ง, ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, หากชายแต่งกับภรรยาโดยคำของเรา, ซึ่งเป็นกฎของเรา, และโดยพันธสัญญาใหม่และเป็นนิจ, และผนึกไว้กับพวกเขาโดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา, โดยเขาผู้ที่รับการเจิม, แก่ผู้ที่เรากำหนดอำนาจนี้และกุญแจทั้งหลายของฐานะปุโรหิตนี้ให้; และจะกล่าวแก่พวกเขา—เจ้าจะออกมาในการฟื้นคืนชีวิตครั้งแรก; และหากจะเกิดขึ้นหลังการฟื้นคืนชีวิตครั้งแรก, ในการฟื้นคืนชีวิตหนต่อไป; และจะสืบทอดบัลลังก์, อาณาจักร, มลฑล, และอำนาจ, อำนาจการปกครอง, ยอดสูงสุดและห้วงลึกทั้งปวง—เมื่อนั้นจะมีเขียนไว้ในหนังสือแห่งชีวิตของพระเมษโปดก, ว่าเขาจะไม่กระทำฆาตกรรมซึ่งในการนั้นทำให้เลือดบริสุทธิ์ต้องหลั่ง, และหากเจ้าปฏิบัติตามพันธสัญญาของเรา, และไม่กระทำฆาตกรรมซึ่งโดยการนั้นทำให้เลือดบริสุทธิ์ต้องหลั่ง, มันจะบังเกิดกับพวกเขาในสิ่งทั้งปวงไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผู้รับใช้ของเราให้ไว้แก่พวกเขา, ในกาลเวลา, และตราบชั่วนิรันดร; และจะมีผลบังคับเต็มที่เมื่อพวกเขาไปจากโลก; และพวกเขาจะผ่านเหล่าเทพ, และบรรดาผู้เป็นเจ้า, ซึ่งกำหนดไว้ให้อยู่ที่นั่น, ไปสู่ความสูงส่งและรัศมีภาพของพวกเขาในสิ่งทั้งปวง, ดังที่ผนึกไว้บนศีรษะพวกเขา, ซึ่งรัศมีภาพนี้จะเป็นความสมบูรณ์และความต่อเนื่องของพงศ์พันธุ์ทั้งหลายตลอดกาลและตลอดไป.
๒๐ เมื่อนั้นพวกเขาจะเป็นผู้เป็นเจ้า, เพราะพวกเขาไม่มีที่สิ้นสุด; ฉะนั้น พวกเขาจะดำรงอยู่จากความเป็นนิจถึงความเป็นนิจ, เพราะพวกเขาดำเนินต่อเนื่องไป; เมื่อนั้นพวกเขาจะอยู่เหนือสิ่งทั้งปวง, เพราะสิ่งทั้งปวงขึ้นอยู่กับพวกเขา. เมื่อนั้นพวกเขาจะเป็นผู้เป็นเจ้า, เพราะพวกเขามีอำนาจทั้งปวง, และเหล่าเทพขึ้นอยู่กับพวกเขา.
๒๑ ตามจริงแล้ว, ตามจริงแล้ว, เรากล่าวแก่เจ้า, เว้นแต่เจ้าจะปฏิบัติตามกฎของเรา เจ้าจะบรรลุถึงรัศมีภาพนี้ไม่ได้.
๒๒ เพราะคับแคบคือประตู, และแคบคือทางที่นำไปสู่ความสูงส่งและความต่อเนื่องของบรรดาชีวิต, และมีน้อยคนที่พบ, เพราะเจ้าหารับเราไม่ในโลกทั้งเจ้าหารู้จักเราไม่.
๒๓ แต่หากเจ้ารับเราในโลก, เมื่อเป็นดังนั้นเจ้าจะรู้จักเรา, และจะได้รับความสูงส่งของเจ้า; เพื่อว่าเราอยู่ที่ไหนเจ้าก็จะอยู่ด้วย.
๒๔ นี่คือบรรดาชีวิตนิรันดร์—ที่จะรู้จักพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงปรีชาญาณและเที่ยงแท้พระองค์เดียว, และพระเยซูคริสต์, ผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา. เราคือผู้นั้น. ฉะนั้น, เจ้าจงรับกฎของเรา.
๒๕ กว้างขวางคือประตู, และกว้างคือทางที่นำไปสู่ความตายทั้งหลาย; และมีคนเป็นอันมากที่ไปทางนั้น, เพราะพวกเขาหารับเราไม่, ทั้งพวกเขามิได้ปฏิบัติตามกฎของเรา.
๒๖ ตามจริงแล้ว, ตามจริงแล้ว, เรากล่าวแก่เจ้า, หากชายแต่งกับภรรยาตามคำของเรา, และคนทั้งสองได้รับการผนึกโดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา, ตามข้อกำหนดของเรา, และเขาหรือนางจะกระทำบาปหรือการล่วงละเมิดใดแห่งพันธสัญญาใหม่และเป็นนิจไม่ว่าอะไรก็ตาม, และการลบหลู่นานัปการ, และหากคนทั้งสองไม่กระทำฆาตกรรมซึ่งโดยการนั้นพวกเขาทำให้เลือดบริสุทธิ์ต้องหลั่ง, ทว่าพวกเขาจะยังออกมาในการฟื้นคืนชีวิตครั้งแรก, และเข้าสู่ความสูงส่งของพวกเขา; แต่พวกเขาจะถูกทำลายในเนื้อหนัง, และจะถูกส่งไปรับความทุกข์ทรมานจากซาตานจนถึงวันแห่งการไถ่, พระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าตรัส.
๒๗ การลบหลู่พระวิญญาณบริสุทธิ์, ซึ่งจะไม่ได้รับการให้อภัยในโลกหรือเมื่อไปจากโลกแล้ว, คือในการที่เจ้ากระทำฆาตกรรมซึ่งในการนั้นเจ้าทำให้เลือดบริสุทธิ์ต้องหลั่ง, และเห็นชอบกับความตายของเรา, หลังจากเจ้าได้รับพันธสัญญาใหม่และเป็นนิจของเรา, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าตรัส; และคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎนี้จะไม่มีทางเข้าสู่รัศมีภาพของเราได้, แต่จะอัปมงคล, พระเจ้าตรัส.
๒๘ เราคือพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า, และจะให้กฎของฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์ของเราแก่เจ้า, ดังที่เราและพระบิดาของเราแต่งตั้งไว้ก่อนมีโลกขึ้นมา.
๒๙ อับราฮัมได้รับสิ่งทั้งปวง, ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาได้รับ, โดยการเปิดเผยและบัญญัติ, โดยคำของเรา, พระเจ้าตรัส, และเข้าสู่ความสูงส่งของเขาและนั่งบนบัลลังก์ของเขา.
๓๐ อับราฮัมได้รับสัญญาเกี่ยวกับพงศ์พันธุ์ของเขา, และเกี่ยวกับเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา—จากเอวของผู้นั้นที่เจ้าเกิดมา, กล่าวคือผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ—ซึ่งต้องดำเนินต่อไปตราบเท่าที่พวกเขาอยู่ในโลก; และดังที่เกี่ยวกับอับราฮัมและพงศ์พันธุ์ของเขา, เมื่อไปจากโลกแล้วพวกเขาจะดำเนินต่อไป; ทั้งในโลกและเมื่อไปจากโลกแล้วพวกเขาจะดำเนินต่อไปนับไม่ถ้วนดังดวงดาว; หรือ, หากเจ้าจะนับทรายบนฝั่งทะเลก็เหลือวิสัยที่เจ้าจะนับได้.
๓๑ สัญญานี้เป็นของเจ้าเช่นกัน, เพราะเจ้าเป็นของอับราฮัม, และสัญญาทำไว้กับอับราฮัม; และโดยกฎนี้จึงมีความต่อเนื่องในงานของพระบิดาแห่งเรา, ซึ่งในการนั้นพระองค์ทรงทำให้พระองค์เองจำเริญด้วยพระสิริ.
๓๒ ฉะนั้น, เจ้าจงไป, และทำงานของอับราฮัม; เจ้าจงเข้ามาในกฎของเราและเราจะช่วยเจ้าให้รอด.
๓๓ แต่หากเจ้าหาได้เข้ามาในกฎของเราไม่ เจ้าจะรับสัญญาของพระบิดาแห่งเราไม่ได้, ซึ่งพระองค์ทรงทำกับอับราฮัม.
๓๔ พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาอับราฮัม, และซาราห์มอบฮาการ์แก่อับราฮัมเป็นภรรยา. และเหตุใดนางจึงทำสิ่งนี้เล่า ? เพราะนี่เป็นกฎ; และจากฮาการ์เกิดผู้คนมากมาย. ฉะนั้น, สิ่งนี้ทำให้สัญญาเกิดสัมฤทธิผล, ท่ามกลางสิ่งอื่น ๆ.
๓๕ ฉะนั้น, อับราฮัมอยู่ภายใต้การกล่าวโทษหรือ ? ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, ไม่เลย; เพราะเรา, พระเจ้า, บัญชาเรื่องนี้ไว้.
๓๖ อับราฮัมได้รับบัญชาให้ถวายบุตรของเขา อิสอัค; กระนั้นก็ตาม, มีเขียนไว้ : เจ้าจะไม่ฆ่า. อย่างไรก็ดี, อับราฮัมมิได้ปฏิเสธ, และจึงถือเป็นความชอบธรรมแก่เขา.
๓๗ อับราฮัมรับอนุภรรยา, และพวกนางคลอดบุตรให้เขา; และเรื่องนี้ถือเป็นความชอบธรรมแก่เขา, เพราะมีพระบัญชาให้มอบคนเหล่านั้นแก่เขา, และเขาปฏิบัติตามกฎของเรา; ดังอิสอัคด้วยและยาโคบมิได้ทำสิ่งอื่นใดนอกจากสิ่งซึ่งพวกเขาได้รับบัญชา; และเพราะพวกเขามิได้ทำสิ่งอื่นใดนอกจากสิ่งซึ่งพวกเขาได้รับบัญชา, พวกเขาจึงเข้าสู่ความสูงส่งของพวกเขา, ตามคำสัญญาทั้งหลาย, และนั่งบนบัลลังก์, และมิได้เป็นเหล่าเทพแต่เป็นผู้เป็นเจ้า.
๓๘ ดาวิดรับภรรยาและอนุภรรยาหลายคนด้วย, และซาโลมอนและโมเสสผู้รับใช้ของเราด้วย, ดังผู้รับใช้คนอื่น ๆ ของเราหลายคนด้วย, นับตั้งแต่เริ่มต้นการสร้างจนถึงเวลานี้; และพวกเขามิได้ทำบาปอะไรนอกจากในสิ่งเหล่านั้นซึ่งพวกเขาหาได้รับจากเราไม่.
๓๙ เรามอบภรรยาและอนุภรรยาให้ดาวิด, โดยมือของนาธัน, ผู้รับใช้ของเรา, และคนอื่น ๆ จากบรรดาศาสดาพยากรณ์ ผู้มีกุญแจของอำนาจนี้; และไม่มีอะไรในสิ่งเหล่านี้ที่เขาได้ทำบาปต่อเรา เว้นแต่ในกรณีของอุรีอาห์และภรรยาของเขา; และ, ฉะนั้นเขาจึงตกจากความสูงส่งของเขา, และได้รับส่วนของเขา; และเขาจะไม่ได้สืบทอดคนเหล่านั้นเมื่อไปจากโลกแล้ว, เพราะเรามอบพวกเขาให้อีกคนหนึ่ง, พระเจ้าตรัส.
๔๐ เราคือพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า, และเราให้แก่เจ้า, ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ, หน้าที่รับผิดชอบ, และฟื้นฟูสิ่งทั้งปวง. ขออะไรก็ตามที่เจ้าประสงค์, และจะให้แก่เจ้าตามคำของเรา.
๔๑ และเพราะเจ้าถามเกี่ยวกับการล่วงประเวณี, ตามจริงแล้ว, ตามจริงแล้ว, เรากล่าวแก่เจ้า, หากชายได้รับภรรยาในพันธสัญญาใหม่และเป็นนิจ, และหากนางอยู่กับชายอื่น, และเรามิได้กำหนดไว้ให้นางโดยการเจิมอันศักดิ์สิทธิ์, นางก็ประพฤติล่วงประเวณีและจะถูกทำลาย.
๔๒ หากนางหาได้อยู่ในพันธสัญญาใหม่และเป็นนิจไม่, และนางอยู่กับชายอื่น, นางก็ประพฤติล่วงประเวณี.
๔๓ และหากสามีของนางอยู่กับหญิงอื่น, และเขาอยู่ภายใต้คำปฏิญาณ, เขาก็ฝ่าฝืนคำปฏิญาณของเขาและประพฤติล่วงประเวณี.
๔๔ และหากนางมิได้ประพฤติล่วงประเวณี, แต่เป็นผู้บริสุทธิ์และมิได้ฝ่าฝืนคำปฏิญาณของนาง, และนางรู้สิ่งนี้, และเราเปิดเผยแก่เจ้า, ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ, เมื่อเป็นดังนั้นเจ้าจะมีอำนาจ, โดยอำนาจของฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์ของเรา, ที่จะรับนางและมอบนางให้คนที่มิได้ประพฤติล่วงประเวณีแต่ซื่อสัตย์ตลอดมา; เพราะพระองค์จะทรงทำให้เขาเป็นผู้ปกครองเหนือหลายสิ่ง.
๔๕ เพราะเราประสาทกุญแจทั้งหลายและอำนาจของฐานะปุโรหิตไว้แก่เจ้า, ซึ่งในการนั้นเราฟื้นฟูสิ่งทั้งปวง, และทำให้สิ่งทั้งปวงเป็นที่รู้แก่เจ้าในเวลาอันสมควร.
๔๖ และตามจริงแล้ว, ตามจริงแล้ว, เรากล่าวแก่เจ้า, ว่าสิ่งใดก็ตามที่เจ้าผนึกไว้บนแผ่นดินโลกจะผนึกไว้ในสวรรค์; และสิ่งใดก็ตามที่เจ้าผูกไว้บนแผ่นดินโลก, ในนามของเราและโดยคำของเรา, พระเจ้าตรัส, สิ่งนั้นจะผูกไว้เป็นนิรันดร์ในสวรรค์; และบาปของผู้ใดก็ตามที่เจ้าปลดบนแผ่นดินโลกจะปลดเป็นนิรันดร์ในสวรรค์; และบาปของผู้ใดก็ตามที่เจ้าคงไว้บนแผ่นดินโลกจะคงไว้ในสวรรค์.
๔๗ และอนึ่ง, ตามจริงแล้วเรากล่าว, ผู้ใดก็ตามที่เจ้าให้พรเราจะให้พร, และผู้ใดก็ตามที่เจ้าสาปแช่ง เราจะสาปแช่ง, พระเจ้าตรัส; เพราะเรา, พระเจ้า, คือพระผู้เป็นเจ้าของเจ้า.
๔๘ และอนึ่ง, ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ, ว่าสิ่งใดก็ตามที่เจ้าให้บนแผ่นดินโลก, และแก่ผู้ใดก็ตามที่เจ้าให้คนหนึ่งคนใดบนแผ่นดินโลก, โดยคำของเราและตามกฎของเรา, การทำเช่นนี้จะได้รับการเยือนด้วยพรและมิใช่การสาปแช่ง, และด้วยอำนาจของเรา, พระเจ้าตรัส, และจะปราศจากการกล่าวโทษบนแผ่นดินโลกและในสวรรค์.
๔๙ เพราะเราคือพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า, และจะอยู่กับเจ้าแม้จนถึงการสิ้นสุดของโลก, และตราบชั่วนิรันดร; เพราะตามจริงแล้ว เราผนึกความสูงส่งของเจ้าไว้กับเจ้า, และเตรียมบัลลังก์ไว้ให้เจ้าในอาณาจักรของพระบิดาของเรา, พร้อมกับอับราฮัม บิดาของเจ้า.
๕๐ ดูเถิด, เราเห็นการเสียสละทั้งหลายของเจ้า, และจะให้อภัยบาปทั้งหมดของเจ้า; เราเห็นการเสียสละของเจ้าในการเชื่อฟังสิ่งซึ่งเราบอกเจ้าไว้. ฉะนั้น, จงไปเถิด, และเราเตรียมทางสำหรับการหนีของเจ้า, ดังที่เรายอมรับเครื่องถวายบูชาของอับราฮัมอันได้แก่บุตรของเขา อิสอัค.
๕๑ ตามจริงแล้ว, เรากล่าวแก่เจ้า : บัญญัติข้อหนึ่งเราให้แก่สาวใช้ของเรา, เอ็มมา สมิธ, ภรรยาของเจ้า, ผู้ที่เรามอบแก่เจ้า, ว่านางจงยับยั้งตนเองและไม่รับส่วนในสิ่งซึ่งเราบัญชาให้เจ้าเสนอแก่นาง; เพราะเราทำสิ่งนั้น, พระเจ้าตรัส, เพื่อพิสูจน์เจ้าทุกคน, ดังที่เราพิสูจน์อับราฮัม, และเพื่อเราจะได้เรียกร้องเครื่องถวายบูชาจากมือเจ้า, โดยพันธสัญญาและการเสียสละ.
๕๒ และให้สาวใช้ของเรา, เอ็มมา สมิธ, รับคนทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้นที่เรามอบให้ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ, และผู้ที่มีพรหมจรรย์และบริสุทธิ์ต่อเรา; และคนเหล่านั้นที่ไม่บริสุทธิ์, และกล่าวไว้ว่าพวกเขาบริสุทธิ์, จะถูกทำลาย, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าตรัส.
๕๓ เพราะเราคือพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า, และเจ้าพึงเชื่อฟังเสียงของเรา; และเราให้แก่ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ ว่าเราจะทำให้เขาเป็นผู้ปกครองเหนือหลายสิ่ง; เพราะเขาซื่อสัตย์มาแล้วในไม่กี่สิ่ง, และนับแต่นี้ไปเราจะเสริมความเข้มแข็งให้เขา.
๕๔ และเราบัญชาสาวใช้ของเรา, เอ็มมา สมิธ, ให้อยู่ต่อไปและแนบสนิทกับผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ, และหาใช่ใครอื่นไม่. แต่หากนางจะไม่ปฏิบัติตามคำบัญชานี้นางจะถูกทำลาย, พระเจ้าตรัส; เพราะเราคือพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า, และจะทำลายนางหากนางหาปฏิบัติตามกฎของเราไม่.
๕๕ แต่หากนางจะไม่ปฏิบัติตามคำบัญชานี้, เมื่อเป็นดังนั้นผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ พึงทำสิ่งทั้งปวงให้นาง, แม้ดังที่เขากล่าวไว้; และเราจะให้พรเขาและทำให้เขาขยายเผ่าพันธุ์และให้แก่เขาร้อยเท่าในโลกนี้, ด้วยเหล่าบิดาและมารดา, พี่น้องชายและหญิง, บ้านและที่ดิน, ภรรยาและลูก, และมงกุฎแห่งบรรดาชีวิตนิรันดร์ในบรรดาโลกนิรันดร์.
๕๖ และอนึ่ง, ตามจริงแล้วเรากล่าว, ให้สาวใช้ของเราให้อภัยผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ ในความผิดของเขา; และเมื่อเป็นดังนั้นนางจะได้รับการให้อภัยความผิดของนาง, ซึ่งในการนั้นนางทำความผิดต่อเรา; และเรา, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า, จะให้พรนาง, และทำให้นางขยายเผ่าพันธุ์, และทำให้ใจของนางชื่นชมยินดี.
๕๗ และอนึ่ง, เรากล่าว, อย่าให้ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ ปล่อยทรัพย์สินของเขาให้หลุดมือไป, เกลือกศัตรูจะมาทำลายเขา; เพราะซาตานหมายมั่นจะทำลาย; เพราะเราคือพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า, และเขาเป็นผู้รับใช้ของเรา; และดูเถิด, และดูสิ, เราอยู่กับเขา, ดังที่เราอยู่กับอับราฮัม, บิดาของเจ้า, แม้จนถึงความสูงส่งและรัศมีภาพของเขา.
๕๘ บัดนี้, เกี่ยวกับกฎของฐานะปุโรหิต, มีหลายสิ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น.
๕๙ ตามจริงแล้ว, หากชายคนหนึ่งจะได้รับเรียกจากพระบิดาของเรา, ดังที่อาโรนได้รับเรียก, โดยเสียงของเราเอง, และโดยสุรเสียงของพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา, และเราประสาทเขาด้วยกุญแจทั้งหลายของอำนาจแห่งฐานะปุโรหิตนี้, หากเขาทำสิ่งใดในนามของเรา, และตามกฎของเราและโดยคำของเรา, เขาจะไม่กระทำบาป, และเราจะรับรองเขา.
๖๐ ฉะนั้น, อย่าให้ผู้ใดว่ากล่าวผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ; เพราะเราจะรับรองเขา; เพราะเขาจะทำการเสียสละซึ่งเราเรียกร้องจากมือเขาสำหรับการล่วงละเมิดของเขา, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าตรัส.
๖๑ และอนึ่ง, ดังที่เกี่ยวกับกฎของฐานะปุโรหิต—หากชายใดครองคู่กับหญิงพรหมจารีคนหนึ่ง, และปรารถนาจะครองคู่กับอีกคนหนึ่ง, และคนแรกให้ความยินยอมของนาง, และหากเขาครองคู่กับคนที่สอง, และคนทั้งสองเป็นหญิงพรหมจารี, และมิได้ให้คำปฏิญาณแก่ชายอื่นไว้, เมื่อเป็นดังนั้นเขาทำถูกต้อง; เขาจะประพฤติล่วงประเวณีไม่ได้เพราะมอบทั้งสองนางแก่เขาแล้ว; เพราะเขาจะประพฤติล่วงประเวณีไม่ได้กับคนที่เป็นของเขาและหาได้เป็นของใครอื่นไม่.
๖๒ และหากมีหญิงพรหมจารีสิบคนมอบให้แก่เขาโดยกฎนี้, เขาจะประพฤติล่วงประเวณีไม่ได้, เพราะพวกนางเป็นของเขา, และมอบพวกนางให้เขา; ฉะนั้น เขาทำถูกต้อง.
๖๓ แต่หากคนหนึ่งหรือคนใดก็ตามในหญิงพรหมจารีสิบคน, หลังจากนางครองคู่แล้ว, จะอยู่กับชายอื่น, นางก็ประพฤติล่วงประเวณี, และจะถูกทำลาย; เพราะมอบพวกนางให้เขาแล้วเพื่อขยายเผ่าพันธุ์และเพิ่มพูนให้เต็มแผ่นดินโลก, ตามบัญญัติของเรา, และทำให้สัญญาเกิดสัมฤทธิผลซึ่งพระบิดาของเราประทานไว้ก่อนการวางรากฐานของโลก, และเพื่อความสูงส่งของพวกนางในบรรดาโลกนิรันดร์, เพื่อพวกนางจะให้กำเนิดจิตวิญญาณของมนุษย์; เพราะในการนี้งานของพระบิดาของเราดำเนินต่อไป, เพื่อพระองค์จะทรงรุ่งโรจน์.
๖๔ และอนึ่ง, ตามจริงแล้ว, ตามจริงแล้ว, เรากล่าวแก่เจ้า, หากชายใดมีภรรยา, ผู้ถือกุญแจทั้งหลายของอำนาจนี้, และเขาสอนกฎของฐานะปุโรหิตของเราแก่นาง, ดังที่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้, เมื่อเป็นดังนั้นนางพึงเชื่อและเกื้อกูลเขา, มิฉะนั้น นางจะถูกทำลาย, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าตรัส; เพราะเราจะทำลายนาง; เพราะเราจะขยายนามของเรากับคนทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้น ผู้ที่รับและปฏิบัติตามกฎของเรา.
๖๕ ฉะนั้น, สิ่งนี้จะถูกต้องตามกฎในเรา, หากนางหารับกฎนี้ไม่, ที่เขาจะรับสิ่งทั้งปวงไม่ว่าอะไรก็ตามที่เรา, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเขา, จะให้เขา, เพราะนางมิได้เชื่อและเกื้อกูลเขาตามคำของเรา; และเมื่อเป็นดังนั้นนางจึงกลายเป็นผู้ล่วงละเมิด; และเขาได้รับยกเว้นจากกฎของซาราห์, ผู้เกื้อกูลอับราฮัมตามกฎเมื่อเราบัญชาอับราฮัมให้นำเอาฮาการ์มาเป็นภรรยา.
๖๖ และบัดนี้, ดังที่เกี่ยวกับกฎนี้, ตามจริงแล้ว, ตามจริงแล้ว, เรากล่าวแก่เจ้า, เราจะเปิดเผยกับเจ้ามากขึ้น, ต่อไปในภายหลัง; ฉะนั้น, ให้สิ่งนี้เพียงพอเท่านี้สำหรับขณะนี้. ดูเถิด, เราเป็นอัลฟาและโอเมกา. เอเมน.