พระคัมภีร์
หลักคำสอนและพันธสัญญา 104


ภาค ๑๐๔

การเปิดเผยที่ประทานแก่โจเซฟ สมิธ ศาสดาพยากรณ์, วันที่ ๒๓ เมษายน ค.ศ. ๑๘๓๔, เกี่ยวกับระเบียบเอกภาพ, หรือระเบียบของศาสนจักรเพื่อผลประโยชน์ของคนจน (History of the Church, 2:54–60). เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเหตุการณ์ของการประชุมสภาของฝ่ายประธานสูงสุดและมหาปุโรหิตอื่น ๆ, ซึ่งพิจารณาถึงความจำเป็นเร่งด่วนฝ่ายโลกของผู้คน. จะต้องมีการยุบระเบียบเอกภาพที่เคิร์ทแลนด์ชั่วคราวและจัดตั้งใหม่, และต้องแบ่งทรัพย์สินให้เป็นสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ในบรรดาสมาชิกของระเบียบ.

๑–๑๐, วิสุทธิชนที่ล่วงละเมิดต่อระเบียบเอกภาพจะถูกสาปแช่ง; ๑๑–๑๖, พระเจ้าทรงจัดหาให้วิสุทธิชนของพระองค์ในวิธีการของพระองค์เอง; ๑๗–๑๘, กฎพระกิตติคุณแนะนำถึงการดูแลคนยากจน; ๑๙–๔๖, มอบหมายสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์และพรต่าง ๆ แก่พี่น้องชายหลายคน; ๔๗–๕๓, ระเบียบเอกภาพในเคิร์ทแลนด์และระเบียบในไซอันต้องแยกกันทำงาน; ๕๔–๖๖, จัดตั้งคลังศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าเพื่อพิมพ์พระคัมภีร์; ๖๗–๗๗, คลังทั่วไปของระเบียบเอกภาพต้องทำงานบนพื้นฐานของความเห็นชอบร่วมกัน; ๗๘–๘๖, คนเหล่านั้นที่อยู่ในระเบียบเอกภาพต้องชำระหนี้ทั้งหมดของตน, แล้วพระเจ้าจะปลดปล่อยพวกเขาจากพันธะทางการเงิน.

ตามจริงแล้ว เรากล่าวแก่เจ้า, เพื่อนทั้งหลายของเรา, เราให้คำแนะนำแก่เจ้า, และบัญญัติข้อหนึ่ง, เกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งปวงที่เป็นของระเบียบซึ่งเราบัญชาให้จัดตั้งและสถาปนาไว้, ให้เป็นระเบียบเอกภาพ, และระเบียบอันเป็นนิจเพื่อประโยชน์ของศาสนจักรของเรา, และเพื่อความรอดของมนุษย์จนกว่าเราจะมา—

ด้วยสัญญาที่ถาวรและเปลี่ยนแปลงไม่ได้, ว่าตราบเท่าที่คนเหล่านั้นผู้ที่เราบัญชาไว้ซื่อสัตย์พวกเขาจะได้รับพรด้วยพรอเนกประการ;

แต่ตราบเท่าที่พวกเขามิได้ซื่อสัตย์ พวกเขาล่อแหลมต่อการถูกสาปแช่ง.

ฉะนั้น, ตราบเท่าที่ผู้รับใช้ของเราบางคนมิได้รักษาบัญญัติ, แต่ฝ่าฝืนพันธสัญญาโดยความโลภ, และด้วยถ้อยคำมารยา, เราจึงสาปแช่งพวกเขาด้วยการสาปแช่งที่สาหัสและรุนแรงมาก.

เพราะเรา, พระเจ้า, ประกาศิตในใจเราว่า, ตราบเท่าที่จะพบว่ามนุษย์คนหนึ่งคนใดที่เป็นของระเบียบเป็นผู้ล่วงละเมิด, หรือ, อีกนัยหนึ่ง, จะฝ่าฝืนพันธสัญญา ซึ่งด้วยพันธสัญญานั้นเจ้าถูกผูกมัด, เขาจะถูกสาปแช่งในชีวิตเขา, และจะถูกเหยียบย่ำโดยผู้ที่เราประสงค์;

เพราะเรา, พระเจ้า, ไม่พึงถูกล้อเลียนในสิ่งเหล่านี้—

และทั้งหมดนี้เพื่อคนบริสุทธิ์ในบรรดาพวกเจ้าจะไม่ถูกกล่าวโทษกับคนไม่เที่ยงธรรม; และเพื่อคนผิดในบรรดาพวกเจ้าจะหนีไม่พ้น; เพราะเรา, พระเจ้า, สัญญามงกุฎแห่งรัศมีภาพแก่เจ้าทางมือขวาของเรา.

ฉะนั้น, ตราบเท่าที่พบว่าเจ้าทั้งหลายเป็นผู้ล่วงละเมิด, เจ้าจะไม่สามารถหนีพ้นโทสะของเราในชีวิตเจ้า.

ตราบเท่าที่เจ้าถูกตัดขาดเพราะการล่วงละเมิด, เจ้าจะไม่สามารถหนีพ้นความทุกข์ทรมานจากซาตานจนถึงวันแห่งการไถ่.

๑๐ และเราให้อำนาจแก่เจ้า ณ บัดนี้นับแต่โมงนี้, ว่าหากพบคนหนึ่งคนใดของระเบียบ, ในบรรดาพวกเจ้า, เป็นผู้ล่วงละเมิดและหากลับใจจากความชั่วไม่, เพื่อเจ้าจะส่งเขาไปรับความทุกข์ทรมานจากซาตาน; และเขาจะไม่มีอำนาจนำความชั่วมาถึงเจ้า.

๑๑ เป็นปรีชาญาณในเรา; ฉะนั้น, บัญญัติข้อหนึ่งเราให้แก่เจ้า, ว่าเจ้าจะวางระเบียบตัวเจ้าและกำหนดสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ให้ทุกคน;

๑๒ เพื่อทุกคนจะรายงานเรื่องราวต่อเราถึงสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ ซึ่งกำหนดให้เขา.

๑๓ เพราะเป็นการสมควรที่เรา, พระเจ้า, จะทำให้ทุกคนมีความรับผิดชอบ, เป็นผู้พิทักษ์ดูแลพรฝ่ายแผ่นดินโลก, ซึ่งเราทำและเตรียมไว้ให้ชาวโลกของเรา.

๑๔ เรา, พระเจ้า, กางฟ้าสวรรค์ออก, และสร้างแผ่นดินโลก, ฝีมือของเราอย่างแท้จริง; และสิ่งทั้งปวงในนั้นเป็นของเรา.

๑๕ และเป็นจุดประสงค์ของเราที่จะจัดหาให้วิสุทธิชนของเรา, เพราะสิ่งทั้งปวงเป็นของเรา.

๑๖ แต่จำเป็นต้องทำในวิธีของเราเอง; และดูเถิด นี่คือวิธีที่เรา, พระเจ้า, ประกาศิตให้จัดหาไว้ให้วิสุทธิชนของเรา, เพื่อจะยกคนจนให้สูงส่ง, ในการนั้นคนรวยถูกทำให้ต่ำลง.

๑๗ เพราะแผ่นดินโลกเต็มเปี่ยม, และมีเพียงพอและเกินพอ; แท้จริงแล้ว, เราเตรียมสิ่งทั้งปวง, และให้แก่ลูกหลานมนุษย์ที่จะเป็นผู้มีสิทธิ์เสรีของตนเอง.

๑๘ ฉะนั้น, หากคนหนึ่งคนใดจะรับจากความอุดมสมบูรณ์ซึ่งเราสร้างไว้, และหาได้แบ่งปันส่วนของเขาไม่, ตามกฎแห่งกิตติคุณของเรา, แก่คนจนและคนขัดสน, เขา, พร้อมด้วยคนชั่วร้าย, จะแหงนหน้าขึ้นมาจากนรก, โดยอยู่ในความทรมาน.

๑๙ และบัดนี้, ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, เกี่ยวกับทรัพย์สินของระเบียบ

๒๐ ให้พึงกำหนดสถานที่แก่เขา ผู้รับใช้ของเรา ซิดนีย์ ริกดัน ซึ่งพักอาศัยอยู่ขณะนี้, และแปลงของโรงฟอกหนังเพื่อให้เป็นสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ของเขา, เพื่อเป็นการค้ำจุนเขาขณะที่เขาทำงานในสวนองุ่นของเรา, แม้ดังที่เราประสงค์, เมื่อเราจะบัญชาเขา.

๒๑ และให้สิ่งทั้งปวงกระทำไปตามคำแนะนำของระเบียบ, และความเห็นชอบหรือเสียงเป็นเอกฉันท์ของระเบียบ, ซึ่งพำนักในแผ่นดินแห่งเคิร์ทแลนด์.

๒๒ และสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์และพรนี้, เรา, พระเจ้า, ประสาทบนผู้รับใช้ของเรา ซิดนีย์ ริกดัน เพื่อเป็นพรแก่เขา, และพงศ์พันธุ์ของเขาต่อจากเขา;

๒๓ และเราจะทวีพรให้เขา, ตราบเท่าที่เขาจะนอบน้อมต่อหน้าเรา.

๒๔ และอนึ่ง, ให้พึงกำหนดแก่เขา ผู้รับใช้ของเรา มาร์ติน แฮร์ริส, เพื่อให้เป็นสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์, ที่ดินแปลงซึ่งผู้รับใช้ของเรา จอห์น จอห์นสัน ได้มาในการแลกเปลี่ยนมรดกของเขาแต่ก่อน, เพื่อเขาและพงศ์พันธุ์ของเขาต่อจากเขา;

๒๕ และตราบเท่าที่เขาซื่อสัตย์, เราจะทวีพรให้เขา และพงศ์พันธุ์ของเขาต่อจากเขา.

๒๖ และให้ผู้รับใช้ของเรา มาร์ติน แฮร์ริส อุทิศเงินตราของเขาเพื่อการประกาศถ้อยคำของเรา, ตามที่ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ สมิธ, จูเนียร์, จะแนะนำ.

๒๗ และอนึ่ง, ให้ผู้รับใช้ของเรา เฟรเดอริค จี. วิลเลียมส์ พึงได้ครอบครองสถานที่ซึ่งเขาพำนักอยู่ขณะนี้.

๒๘ และให้ผู้รับใช้ของเรา ออลิเวอร์ คาวเดอรี ได้ครอบครองแปลงซึ่งอยู่ถัดจากบ้าน, ซึ่งจะให้เป็นสำนักพิมพ์, ซึ่งเป็นแปลงหมายเลขหนึ่ง, และแปลงผืนที่บิดาเขาพำนักอยู่ด้วย.

๒๙ และให้ผู้รับใช้ของเรา เฟรเดอริค จี. วิลเลียมส์ และ ออลิเวอร์ คาวเดอรี ได้ครอบครองสำนักพิมพ์ และสิ่งทั้งปวงที่เกี่ยวกับมัน.

๓๐ และนี่จะเป็นสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ของพวกเขาซึ่งพึงกำหนดให้พวกเขา.

๓๑ และตราบเท่าที่พวกเขาซื่อสัตย์, ดูเถิด เราจะให้พร, และทวีพรให้พวกเขา.

๓๒ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ ซึ่งเรากำหนดพวกเขา, เพื่อพวกเขาและพงศ์พันธุ์ของพวกเขาต่อจากพวกเขา.

๓๓ และ, ตราบเท่าที่พวกเขาซื่อสัตย์, เราจะทวีพรให้พวกเขาและพงศ์พันธุ์ของพวกเขาต่อจากพวกเขา, แม้พรอเนกประการ.

๓๔ และอนึ่ง, ให้ผู้รับใช้ของเรา จอห์น จอห์นสัน ได้ครอบครองบ้านซึ่งเขาอาศัยอยู่, และมรดก, ทั้งหมดเว้นแต่พื้นดินซึ่งแยกไว้สำหรับการสร้างบ้านทั้งหลายของเรา, ซึ่งเกี่ยวกับมรดกนั้น, และแปลงเหล่านั้นซึ่งบอกไว้ว่าเป็นแปลงสำหรับผู้รับใช้ของเรา ออลิเวอร์ คาวเดอรี.

๓๕ และตราบเท่าที่เขาซื่อสัตย์, เราจะทวีพรให้เขา.

๓๖ และเป็นความประสงค์ของเราว่าเขาจะขายแปลงต่าง ๆ ที่จัดสรรไว้สำหรับการเสริมสร้างเมืองแห่งวิสุทธิชนของเรา, ตราบเท่าที่เรื่องนี้จะเป็นที่รู้แก่เขาโดยเสียงของพระวิญญาณ, และตามคำแนะนำของระเบียบ, และโดยเสียงของระเบียบ.

๓๗ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ ซึ่งเรากำหนดให้เขา, เพื่อเป็นพรให้เขาและพงศ์พันธุ์ของเขาต่อจากเขา.

๓๘ และตราบเท่าที่เขาซื่อสัตย์, เราจะทวีพรอเนกประการให้เขา.

๓๙ และอนึ่ง, ให้พึงกำหนดแก่เขา ผู้รับใช้ของเรา นูเวล เค. วิทนีย์ บ้านทั้งหลายและแปลงที่เขาอาศัยอยู่ขณะนี้, และแปลงกับตึกซึ่งบนนั้นร้านค้าตั้งอยู่, และแปลงซึ่งอยู่หัวมุมตอนใต้ของร้านค้าด้วย, และแปลงซึ่งมีโรงด่างตั้งอยู่ด้วย.

๔๐ และทั้งหมดนี้เรากำหนดให้ผู้รับใช้ของเรา นูเวล เค. วิทนีย์ เพื่อให้เป็นสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ของเขา, เพื่อเป็นพรให้เขาและพงศ์พันธุ์ของเขาต่อจากเขา, เพื่อผลประโยชน์ของร้านค้าของระเบียบเราซึ่งเราสถาปนาไว้ให้สเตคของเราในแผ่นดินแห่งเคิร์ทแลนด์.

๔๑ แท้จริงแล้ว, ตามจริงแล้ว, นี่คือสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ ซึ่งเรากำหนดให้ผู้รับใช้ของเรา เอ็น. เค. วิทนีย์, แม้ทั้งร้านค้านี้, เขาและตัวแทนของเขา, และพงศ์พันธุ์ของเขาต่อจากเขา.

๔๒ และตราบเท่าที่เขาซื่อสัตย์ในการรักษาบัญญัติของเรา, ซึ่งเราให้แก่เขา, เราจะทวีพรให้เขาและพงศ์พันธุ์ของเขาต่อจากเขา, แม้พรอเนกประการ.

๔๓ และอนึ่ง, ให้พึงกำหนดแก่เขา ผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ สมิธ, จูเนียร์, แปลงซึ่งจัดสรรไว้สำหรับการสร้างบ้านของเรา, ซึ่งยาวประมาณสองร้อยเมตรและกว้างหกสิบ, และมรดกบนที่ซึ่งบิดาเขาอาศัยอยู่ขณะนี้ด้วย;

๔๔ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ซึ่งเรากำหนดให้เขา, เพื่อเป็นพรให้เขา, และให้บิดาเขา.

๔๕ เพราะดูเถิด, เราแยกมรดกอย่างหนึ่งไว้ให้บิดาเขา, เพื่อการค้ำจุนเขา; ฉะนั้น จะนับเขาอยู่ในบ้านผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ สมิธ, จูเนียร์.

๔๖ และเราจะทวีพรให้บ้านผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ สมิธ, จูเนียร์, ตราบเท่าที่เขาซื่อสัตย์, แม้พรอเนกประการ.

๔๗ และบัดนี้, บัญญัติข้อหนึ่งเราให้แก่เจ้าเกี่ยวกับไซอัน, ว่าเจ้าจะไม่ถูกผูกมัดเป็นระเบียบเอกภาพกับพี่น้องเจ้าในไซอันอีกต่อไป, เว้นแต่โดยวิธีนี้—

๔๘ หลังจากเจ้าวางระเบียบตนเองแล้ว, จะเรียกเจ้าว่าระเบียบเอกภาพของสเตคแห่งไซอัน, เมืองแห่งเคิร์ทแลนด์. และพี่น้องเจ้า, หลังจากพวกเขาวางระเบียบตนเองแล้ว, จะเรียกว่าระเบียบเอกภาพของเมืองแห่งไซอัน.

๔๙ และพวกเขาพึงวางระเบียบตนเองในชื่อของพวกเขาเอง, และในชื่อของตนเอง; และพวกเขาพึงทำกิจธุระของตนในชื่อของตนเอง, และในชื่อของพวกเขาเอง;

๕๐ และเจ้าพึงทำกิจธุระของเจ้าในชื่อของเจ้าเอง, และในชื่อของพวกเจ้าเอง.

๕๑ และเรื่องนี้เราได้บัญชาให้ทำเพื่อความรอดของเจ้า, และเพื่อความรอดของพวกเขาด้วย, อันเป็นผลจากการที่พวกเขาถูกขับไล่และสิ่งซึ่งจะมาถึง.

๕๒ พันธสัญญาถูกฝ่าฝืนโดยผ่านการล่วงละเมิด, โดยความโลภและถ้อยคำมารยา—

๕๓ ฉะนั้น, เจ้าถูกยุบไปในฐานะเป็นระเบียบเอกภาพกับพี่น้องเจ้า, คือเจ้าไม่ถูกผูกมัดไว้กับพวกเขาเว้นแต่จนถึงโมงนี้, เว้นแต่โดยวิธีนี้, ดังที่เรากล่าว, โดยเงินกู้ดังที่ระเบียบนี้จะเห็นพ้องกันในสภา, ดังที่สภาวการณ์ของเจ้าจะอำนวยและเสียงของสภาจะแนะนำ.

๕๔ และอนึ่ง, บัญญัติข้อหนึ่งเราให้แก่เจ้าเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ของเจ้าซึ่งเรากำหนดให้เจ้า.

๕๕ ดูเถิด, ทรัพย์สินทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็นของเรา, มิฉะนั้นแล้ว ศรัทธาของเจ้าก็เปล่าประโยชน์, และจะพบว่าพวกเจ้าเป็นคนหน้าซื่อใจคด, และพันธสัญญาซึ่งเจ้าทำกับเราถูกฝ่าฝืน;

๕๖ และหากทรัพย์สินทั้งหลายเป็นของเรา, ดังนั้นเจ้าก็เป็นผู้พิทักษ์; มิฉะนั้น เจ้าก็ไม่เป็นผู้พิทักษ์.

๕๗ แต่, ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, เรากำหนดเจ้าให้เป็นผู้พิทักษ์ดูแลครัวเรือนของเรา, แม้ผู้พิทักษ์โดยแท้.

๕๘ และเพื่อจุดประสงค์ข้อนี้ เราจึงบัญชาเจ้าให้วางระเบียบตนเอง, แม้ให้พิมพ์ถ้อยคำของเรา, ความสมบูรณ์แห่งคัมภีร์ของเรา, การเปิดเผยซึ่งเราให้เจ้า, และซึ่งเราจะ, ให้เจ้าเป็นครั้งคราว, ต่อไปในภายหน้า—

๕๙ เพื่อจุดประสงค์ ในการเสริมสร้างศาสนจักรและอาณาจักรของเราบนแผ่นดินโลก, และเพื่อเตรียมผู้คนของเราไว้สำหรับเวลาที่เราจะพำนักกับพวกเขา, ซึ่งอยู่แค่เอื้อม.

๖๐ และเจ้าทั้งหลายจงเตรียมสถานที่ไว้สำหรับตนเองเพื่อเป็นคลัง, และอุทิศถวายสถานที่นั้นแด่นามของเรา.

๖๑ และเจ้าพึงกำหนดคนคนหนึ่งในบรรดาพวกเจ้าให้รักษาคลัง, และเขาพึงได้รับแต่งตั้งสู่พรนี้.

๖๒ และพึงมีตราบนคลัง, และพึงส่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงเข้าคลัง; และไม่มีใครในบรรดาพวกเจ้าพึงเรียกเป็นของตนเอง, หรือส่วนใดของสิ่งนั้น, เพราะพึงเป็นของเจ้าทุกคนด้วยกัน.

๖๓ และเราให้แก่เจ้านับแต่โมงนี้; และบัดนี้จงดู, ว่าเจ้าไปและใช้สิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ซึ่งเรากำหนดแก่เจ้าให้เป็นประโยชน์, ไม่รวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์, เพื่อจุดประสงค์ของการพิมพ์สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ดังที่เรากล่าวไว้.

๖๔ และผลประโยชน์ที่ได้มาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์พึงเก็บไว้ในคลัง, และตราพึงอยู่บนนั้น; และไม่พึงให้คนหนึ่งคนใดใช้หรือนำออกจากคลัง, ทั้งไม่พึงแกะตราซึ่งจะผนึกไว้บนนั้น, เว้นแต่โดยเสียงของระเบียบ, หรือโดยบัญญัติ.

๖๕ และเจ้าพึงปกปักรักษาผลประโยชน์ที่ได้มาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคลังไว้ดังนั้น, เพื่อจุดประสงค์ทั้งหลายที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์.

๖๖ และพึงเรียกที่นี่ว่าคลังศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า; และพึงรักษาตราไว้บนนั้นเพื่อสิ่งต่าง ๆ ในนั้นจะศักดิ์สิทธิ์และอุทิศถวายแด่พระเจ้า.

๖๗ และอนึ่ง, พึงมีอีกคลังเตรียมไว้, และกำหนดผู้รักษาคลังคนหนึ่งเพื่อรักษาคลัง, และจะผนึกตราไว้บนนั้น;

๖๘ และเงินตราทั้งหมดที่เจ้าได้รับในสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ของเจ้า, โดยทำให้ทรัพย์สินซึ่งเรากำหนดให้เจ้าเกิดผล, ในบ้าน, หรือในที่ดิน, หรือในฝูงปศุสัตว์, หรือในสิ่งทั้งปวงเว้นแต่งานเขียนที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์, ซึ่งเราแยกไว้สำหรับตัวเรา เพื่อจุดประสงค์ที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์, พึงนำเข้าคลังทันทีที่เจ้าได้รับเงินตรา, ทีละร้อย, หรือทีละห้าสิบ, หรือทีละยี่สิบ, หรือทีละสิบ, หรือทีละห้า.

๖๙ หรืออีกนัยหนึ่ง, หากคนหนึ่งคนใดในบรรดาพวกเจ้าได้มาห้าดอลลาร์ ก็ให้เขานำเข้าคลัง; หรือหากเขาได้มาสิบ, หรือยี่สิบ, หรือห้าสิบ, หรือหนึ่งร้อย, ก็ให้เขาทำอย่างเดียวกัน;

๗๐ และอย่าให้คนหนึ่งคนใดในบรรดาพวกเจ้ากล่าวว่าเป็นของเขาเอง; เพราะไม่พึงเรียกว่าเป็นของเขา, หรือส่วนใดของมันก็ไม่เรียก.

๗๑ และไม่พึงใช้ส่วนใดของมัน, หรือนำออกจากคลัง, เว้นแต่โดยเสียงและความเห็นชอบร่วมกันของระเบียบ.

๗๒ และนี่จะเป็นเสียงและความเห็นชอบร่วมกันของระเบียบ—คือคนหนึ่งคนใดในบรรดาพวกเจ้ากล่าวแก่ผู้รักษาคลังว่า : ข้าพเจ้าต้องการเท่านี้เพื่อช่วยข้าพเจ้าในสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ของข้าพเจ้า—

๗๓ หากเป็นห้าดอลลาร์, หรือหากเป็นสิบดอลลาร์, หรือยี่สิบ, หรือห้าสิบ, หรือหนึ่งร้อย, ผู้รักษาคลังจะให้แก่เขาจำนวนซึ่งเขาต้องใช้เพื่อช่วยเขาในสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ของเขา—

๗๔ จนกว่าจะพบว่าเขาเป็นผู้ล่วงละเมิด, และแสดงให้ประจักษ์ต่อสภาของระเบียบโดยชัดแจ้งว่าเขาเป็นผู้พิทักษ์ที่ไม่ซื่อสัตย์และไม่มีปัญญา.

๗๕ แต่ตราบเท่าที่เขาอยู่ในการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์, และซื่อสัตย์และมีปัญญาต่อสิ่งที่อยู่ในความพิทักษ์ของเขา, ทั้งหมดนี้จะเป็นหมายสำคัญของเขาแก่ผู้รักษาคลังว่าผู้รักษาคลังไม่พึงปฏิเสธ.

๗๖ แต่ในกรณีการล่วงละเมิด, ผู้รักษาคลังพึงขึ้นกับสภาและเสียงของระเบียบ.

๗๗ และในกรณีที่พบว่าผู้รักษาคลังเป็นผู้พิทักษ์ที่ไม่ซื่อสัตย์และไม่มีปัญญา, เขาจะขึ้นกับสภาและเสียงของระเบียบ, และพึงถูกย้ายออกจากที่ของเขา, และพึงกำหนดผู้อื่นแทนเขา.

๗๘ และอนึ่ง, ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, เกี่ยวกับหนี้ของเจ้า—ดูเถิด เป็นความประสงค์ของเราว่าเจ้าจะจ่ายหนี้ทั้งหมดของเจ้า.

๗๙ และเป็นความประสงค์ของเราที่เจ้าจะนอบน้อมถ่อมตนต่อหน้าเรา, และรับพรนี้โดยความขยันหมั่นเพียรและความนอบน้อมถ่อมตนของเจ้าและคำสวดอ้อนวอนจากศรัทธา.

๘๐ และตราบเท่าที่เจ้าขยันหมั่นเพียร และนอบน้อมถ่อมตน, และใช้คำสวดอ้อนวอนจากศรัทธา, ดูเถิด, เราจะทำให้ใจของคนเหล่านั้นที่เจ้าเป็นหนี้อยู่อ่อนลง, จนกว่าเราจะส่งปัจจัยมาให้เจ้าเพื่อการปลดปล่อยของเจ้า.

๘๑ ฉะนั้น จงเขียนโดยเร็วถึงนิวยอร์กและเขียนตามสิ่งที่พระวิญญาณของเราจะบอก; และเราจะทำให้ใจของคนเหล่านั้นที่เจ้าเป็นหนี้อยู่อ่อนลง, เพื่อจะขจัดมันออกไปจากความคิดของพวกเขาว่าจะนำความทุกข์มาให้เจ้า.

๘๒ และตราบเท่าที่เจ้านอบน้อมถ่อมตนและซื่อสัตย์และเรียกหานามของเรา, ดูเถิด, เราจะให้ชัยชนะแก่เจ้า.

๘๓ เราให้สัญญาแก่เจ้า, ว่าเจ้าจะได้รับการปลดปล่อยครั้งนี้ครั้งเดียวออกจากความเป็นทาสของเจ้า.

๘๔ ตราบเท่าที่เจ้าได้โอกาสกู้ยืมเงินตราเป็นร้อย, หรือเป็นพัน, แม้จนกว่าเจ้าจะกู้ยืมพอที่จะปลดปล่อยตนเองออกจากความเป็นทาส, นี่เป็นอภิสิทธิ์ของเจ้า.

๘๕ และพึงนำทรัพย์สินซึ่งเราให้ไว้ในมือเจ้าเป็นประกัน, ครั้งนี้ครั้งเดียว, โดยการให้ชื่อเจ้าตามความเห็นชอบร่วมกัน หรือมิฉะนั้น, ก็ดังที่เจ้าเห็นว่าดี.

๘๖ เราให้อภิสิทธิ์นี้แก่เจ้า, ครั้งนี้ครั้งเดียว; และดูเถิด, หากเจ้าเริ่มทำสิ่งซึ่งเราวางไว้ต่อหน้าเจ้า, ตามบัญญัติของเรา, สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็นของเรา, และเจ้าเป็นผู้พิทักษ์ของเรา, และนายจะไม่ยอมให้บ้านเขาถูกงัด. แม้เป็นดังนั้น. เอเมน.